เที่ยวในประเทศ

ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย (ตอน 1)

อยุธยา 5ยุคนี้ใครๆ ก็พูดถึงเรื่องการรักษาสุขภาพกันทั้งนั้น เพราะปัจจุบันสภาพแวดล้อมรอบตัวเราเต็มไปด้วยมลพิษนานาชนิด การหันมาดูแลสุขภาพตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ในชีวิตเลยก็ว่าได้ ทั้งเรื่องการออกกำลังกาย การกินอาหารสุขภาพที่ปลอดสารพิษ การคิดบวกทำจิตใจให้ผ่องใสมีความสุข และอื่นๆ สรุปแล้วคือต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆ กัน

ทริปนี้เลยอยากชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวจังหวัดพระนครอยุธยาและสระบุรี ซึ่งแม้ว่าเมื่อพูดถึงสองจังหวัดนี้ เราอาจจะเห็นภาพของเมืองประวัติศาสตร์และแหล่งธรรมชาติค่อนข้างชัดเจน แต่ขอบอกเลยว่า วันนี้เรามีมุมมองใหม่มานำเสนอ เป็นทริปสุขภาพเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้งที่รับรองจะ Happy ทั้งกายใจ ในชื่อ ‘ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย’ สนับสนุนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา
อยุธยา 2ทริปสุขภาพสำหรับสาวๆ ที่รักการดูแลกายใจ เร่ิมต้นขึ้นที่เมืองสุขภาพ ‘Wellness Care’ หรือ ‘ศูนย์ธรรมชาติบำบัดเวลเนสแคร์’ โดย ‘เวลเนส ซิตี้’ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (โทร. 08-1375-1916) จัดเป็นศูนย์การดูแลสุขภาพครบวงจรระดับโลกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ก่อตั้งขึ้นโดยคุณหมอบุญชัย อิศราพิสิษฐ์ อดีตเจ้าของโรงพยาบาลราชธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ปัจจุบันศูนย์ Wellness Care เปิดให้บริการหลายโซน ทั้งโซนสุขภาพ และโซนบ้านจัดสรร โดยในครั้งแรกเปิดขึ้นเพื่อให้ผู้สูงอายุมาพักผ่อนแบบ Long Stay ก่อน เพราะมีแพทย์ พยาบาล และอุปกรณ์แพทย์คอยให้ความดูแลครบ ทว่าปัจจุบันได้เปิดคอร์สล้างพิษ ตับ-กาย-จิต, คอร์สฟื้นฟูไต และคอร์สพิชิตมะเร็ง สำหรับทุกคนที่สนใจ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ห่วงใยสุขภาพตนเอง
อยุธยา 3สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักสุขภาพทั่วไป การเยี่ยมชม Wellness Care ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะนอกจากจะได้รับฟังบรรยายเรื่องสุขภาพแล้ว ยังมี Workshop ให้ทดลองทำอาหารสุขภาพด้วยตัวคุณเอง จึงเป็นการสอดรับกับเทรนด์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness & Health Tourism) ที่เติบโตขึ้นกว่า 27-30 เปอร์เซนต์ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงรักสุขภาพ ซึ่งถือเป็นกลุ่ม Women Empower ที่มีจำนวนมากอยุธยา 4.1เมนูไข่ม้วนไส้ผักปลอดสารพิษเพื่อสุขภาพ ของ Wellness Care ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ทดลองทำและชิมฝีมือตัวเองอยุธยา 4พระเอกของเมนูสุขภาพที่ Wellness Care ก็คือ น้ำผักคลอโรฟิลด์ ที่มีส่วนผสมของผักพื้นบ้าน 6 ชนิด คือ ใบหญ้าหวาน, ใบบัวบก, ใบตำลึงหวาน, ใบหม่อน, ใบชะพลู, ใบเตยหอม (อย่างละ 50 กรัม) นำมาปั่นรวมกับน้ำต้มสุก 1 ลิตร แล้วกรองให้เหลือกากนิดๆ ดื่มก่อนอาหารเป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยในเรื่องของเลือดลม ลำไส้ ระบบการย่อย และผิวพรรณที่ผ่องใส รวมถึงป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ด้วย
อยุธยา 6.1น้ำผักคลอโรฟิลด์ สูตร Wellness Care ไม่เหม็นเขียว เพราะส่วนผสมแต่ละชนิดกลมกล่อม แถมยังมีความหวานธรรมชาติจากใบหญ้าหวาน มาเพิ่มความอร่อยให้ด้วย
อยุธยา 6ดูกันชัดๆ กับพืชสมุนไพรพื้นบ้านไทยที่นำมาปั่นเป็นน้ำคลอโรฟิลด์ได้ง่ายดาย ประโยชน์สูงประหยัดสุดจริงๆอยุธยา 7เมื่อทำ Workshop เสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเที่ยงพอดี ทว่าก่อนจะรับประทานอาหารหลัก เราควรกินพืชผักผลไม้ก่อนเพื่อให้ดูดซึมคุณค่าทางอาหารได้ดีที่สุด โดยเฉพาะผักใบเขียวและผักสีเหลืองสีแดงต่างๆ สลัดผักสุขภาพถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งจะทำให้เรารับประทานคาร์โบไฮเดรตในปริมาณลดลง ช่วยคุมน้ำหนัก ป้องกันโรคเบาหวานได้ดีอยุธยา 8ก่อนรับประทานอาหารหลักที่ Wellness Care เขาเสิร์ฟผักม้วนสุขภาพเรียกน้ำย่อยก่อนเลย จุ๋มจิ๋มน่ารัก อุดมคุณค่าทางอาหารจริงๆ นะอยุธยา 9พ้นจากเมนูเรียกน้ำย่อยแล้ว ก็ถึงอาหารหลักเป็นข้าวกล้องกับอาหารเมนูปลา โดยเฉพาะข้าวกล้อง หรือข้าวไม่ผ่านการขัดสี ทำให้วิตามินในเมล็ดข้าวยังคงอยู่เกือบครบ รับประทานคู่กับปลาต่างๆ เพราะเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย อีกทั้งปลาหลายชนิดยังมีน้ำมันปลาที่ช่วยบำรุงสมอง และป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตันได้ดีนักแล
อยุธยา 10 อยุธยา 11พออิ่มหนำสำราญกับอาหารสุขภาพกันถ้วนหน้าแล้ว ก็ได้เวลาออกไปตระเวนชมอาณาบริเวณของ Wellness City ทั้งในส่วนของแปลงปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ไว้ให้ผู้ที่มาพักผ่อนแบบ Long Stay รับประทาน, ชมแปลงปลูกต้นหม่อน เพื่อนำใบและผลมารับประทาน, ชมฟาร์มเลี้ยงแพะ และโซนบ้านจัดสรรที่ต้องบอกเลยว่า เป็นบ้านจัดสรรที่ปลอดภัยมาก เนื่องจากอยู่ใกล้คุณหมอและพยาบาล อุ่นใจได้เรื่องสุขภาพเนอะอยุธยา 12ผลหม่อน หรือลูกมัลเบอร์รี่ (Mulberry) ดกงาม นำมาทานสดอุดมด้วยวิตามินนับสิบชนิด อาทิ วิตามินเอ, ซี, อี, เค, วิตามิน บี 2, 3, 6, โซเดียม, เบต้า-แคโรทีน, ธาตุเหล็ก ฯลฯ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ คุมน้ำตาลในเลือด ลดคลอเรสเตอรอล บำรุงสมอง ป้องกันมะเร็ง เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันควมดันโลหิตสูง ช่วยล้างพิษ บำรุงสายตา และช่วยให้ขับถ่ายดี โอ้โห! สุดยอดจริงๆ!อยุธยา 13มาถึงฟาร์มเลี้ยงแพะของ Wellness City ที่มีแพะอยู่นับร้อยตัว กิจกรรมสนุกๆ ที่รอให้เราไปสัมผัสคือ การป้อนนมลูกแพะแสนน่ารัก เจ้าลูกแพะหน้าตาบ้องแบ้ว ตัวขาวสะอาดกลิ่นหอม จะกรูกันเข้ามารุมล้อมเรา ขอหม่ำนม (จากแม่แพะ) ให้ชื่นใจ มีความสุขทั้งคนป้อนนมและตัวที่มาดูดนม ฮาฮาฮา นัยว่าเป็นการใช้สัตว์บำบัด ช่วยสร้างรอยยิ้มสุขในใจได้ยอดเยี่ยม ฟาร์มแห่งนี้มีการดูแลความะอาดอย่างดี เดินเข้าชมได้สบายไร้กังวล
อยุธยา 14 อยุธยา 15.1พอป้อนนมลูกแพะจนพวกมันอิ่มแปร้แล้ว ทีนี้ก็ถึงคราวพวกเราอิ่มกันบ้างซิ ได้เวลาชิม ‘ไอศกรีมนมแพะ’ สูตร Wellness Care ที่ถือว่าเป็นไอศกรีมเพื่อสุขภาพ เนื่องจากนมแพะมีไขมันต่ำกว่านมวัว ไม่ทำให้อ้วน อีกทั้งนมแพะยังไม่ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด ช่วยพัฒนาสมองและสายตา ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ คงเพราะอย่างนี้นี่เอง ทั่วโลกถึงนิยมดื่มนมแพะกันมานานแล้วอยุธยา 15.2

อิ่มท้องแล้ว ก็ถึงคราวช้อปปิ้งหาซื้อสินค้าดีๆ เพื่อไปดูแลสุขภาพต่อที่บ้าน ขอแนะนำ ‘สบู่นมแพะ’ ที่มีส่วนผสมของนมแพะเข้มข้นกว่าแบรนด์อื่นๆ ใช้ล้างหน้า (หรือจะใช้ขัดสีฉวีวรรณทั้งตัวก็ไม่มีใครว่า) ช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง ลดสิว ลดฝ้า หน้าใสปิ๊งๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณสาวๆ ในทริปนี้จ้า
อยุธยา 15ส่วนหนึ่งของเมืองสุขภาพครบวงจร Wellness City มีโครงการบ้านจัดสรรน่ารักๆ ให้อยู่อาศัยกันในบรรยากาศแสนสงบ และอยู่ใกล้คุณหมอด้วยอยุธยา 16ห้องนอนแสนน่ารัก ใครได้พักเอนกายในห้องนี้ ถ้าไม่มีความสุขหลับฝันดี ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะอยุธยา 17ห้องรับแขกสีหวาน บรรยกาศโปร่งโล่งสบาย ช่วยเติมเต็มสุขภาพกายใจที่ Wellness Cityอยุธยา 18เมื่อดูแลสุขภาพกายกันเต็มที่จนหน้าใสกันถ้วนหน้าแล้ว เราก็เปลี่ยนบรรยากาศมาดูแลสุขภาพใจกันบ้าง กับการสัมผัสอยุธยาในมุมมองใหม่ ด้วยการล่องเรือชมวิถีชีวิตและวัดวาอารามโบราณริมน้ำ ในบริเวณ 3 เกาะ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง (ค่าเช่าเรือประมาณ 1,000 บาทต่อลำ เรือนั่งได้ไม่เกิน 7 คน) สัมผัสสายน้ำที่ยังใสบริสุทธิ์ อากาศโล่งสบาย หายใจได้เต็มปอด เหมือนการเดินทางย้อนเวลากลับเข้าสู่กรุงเก่าเล่าเรื่องอดีต
อยุธยา 19.1การล่องเรือไหว้พระ 3 วัด ของเราก็คือ วัดแคราชานุวาส (เกาะลอย) วัดช่องลม (เกาะวัดช่องลม) และวัดตองปุ (เกาะเมืองอยุธยา) ซึ่ง 3 วัดนี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก เนื่องจากเป็นวัดโบราณ (บางแห่งเคยเป็นวัดร้างด้วยซ้ำ) อยู่บนเกาะเล็กเกาะน้อยใกล้เกาะเมืองอยุธยา จัดเป็นวัดที่มีเรื่องราวให้ค้นหา โดยเฉพาะผู้ที่สนใจด้านประวัติศาสตร์ และผู้ที่ศรัทธาหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดอันโด่งดังอยุธยา 19.2ระหว่างล่องเรือ เราจะได้สัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำ ผสานกับความร่มรื่นของแมกไม้เขียวครึ้มสองฟากฝั่ง และแน่นอนว่า เรือนไทยโบราณที่บ่งบอกเอกลักษณ์ภาคกลาง ก็จะมีให้ชมตลอดทางเช่นกัน ขณะที่เรือล่องไปอย่างช้าๆ ทำให้รู้สึกว่าเข็มนาฬิกาชีวิตเดินช้าลง เหมือนได้เข้าใกล้วิถีไทยที่สงบร่มเย็น สมแล้วที่อยุธยาเป็นเมืองน้ำ เป็นเกาะที่มีแม่น้ำ 3 สายล้อมรอบ คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรีอยุธยา 19.3ล่องเรือมาไม่ถึง 15 นาที เราก็มาถึงวัดแรกบนเกาะลอย คือ ‘วัดแคราชานุวาส’ วัดสำคัญซึ่งผู้ที่เคารพศรัทธา หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สามารถมาตามรอยองค์ท่านได้ บริเวณท่าน้ำมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของหลวงปู่เป็นสัญลักษณ์ บรรยากาศเงียบสงบร่มเย็น เต็มไปด้วยแมกไม้ และวัดก็มีขนาดเล็ก ทว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ปัจจุบันมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่เพียง 4-5 รูปเท่านั้นอยุธยา 19เดินจากท่าน้ำขึ้นมานิดเดียว ก็จะถึงศาลาที่มีรูปเคารพของหลวงปู่ทวดให้สักการะกันเป็นจุดแรก เพื่อความเป็นสิริมงคลอยุธยา 20ประวัติของวัดแคราชานุวาสมีบันทึกไว้ไม่ค่อยชัดเจน ที่เล่าสืบต่อกันมาว่า สมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ กษัตริย์องค์ที่ 19 แห่งกรุงศรีอยุธยา ประเทศลังกาต้องการได้กรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองขึ้น แต่ไม่ต้องการให้เสียเลือดเนื้อ จึงออกอุบายให้มีการแปลธรรมะภายใน 7 วัน หากไม่มีผู้ใดแปลได้ก็จะเสียกรุง จนถึงคืนวันที่ 6 สมเด็จพระเอกาทศรถทรงพระสุบินว่า จะมีผู้แปลได้ จึงออกตามหาหลวงปู่ทวดที่ธุดงค์จากหัวเมืองพัทลุง ขึ้นมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแค เพื่อมาศึกษาพระธรรมวินัย จึงได้นิมนต์ไปแปลธรรมะ จนสามารถช่วยปกป้องบ้านเมืองได้สำเร็จอยุธยา 21ภายในโบสถ์หลังใหม่ของวัดแคราชานุวาส มีภาพจิตกรรมฝาผนังเรื่องราวประวัติตอนต่างๆ ของหลวงปู่ทวด กราบพระขอพรแล้ว อย่าลืมแหงนหน้ามองขึ้นไปชมล่ะ แต่ถ้าไม่เข้าใจ ก็ให้ท่านเจ้าอาวาสอธิบายให้ฟังได้อยุธยา 22.1ภายในโบสถ์หลังใหม่ของวัดแคฯ มีหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ทวดให้สักการะ ยิ่งเพ่งพินิจใกล้ๆ ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนท่านมีชีวิตจริงเลยนะ อัศจรรย์มาก!อยุธยา 22ภาพจิตรกรรมฝาผนังร่วมสมัย เกี่ยวกับประวัติของหลวงปู่ทวด พระอริยสงฆ์ชื่อดังแห่งปักษ์ใต้ ที่มาช่วยปกป้องกรุงศรีอยุธยาสมัยพระเอกาทศรถอยุธยา 23.1ด้านนอกโบสถ์หลังใหม่ มี พระพุทธรูปหินทรายศิลปะลพบุรี ประดิษ์ฐานอยู่ แม้ว่าเศียรพระองค์เดิมจะถูกลักลอบตัดไป กรมศิลปากรก็ได้สร้างทดแทนขึ้นใหม่ เป็นหนึ่งในหลักฐานยืนยันความเก่าแก่ของวัดแคฯ แห่งนี้อยุธยา 23ใกล้กับท่าน้ำวัดแคฯ มีหอระฆังและบันไดนาคคู่ที่สวยงาม เก่าแก่ ตัวหอระฆังบ่งบอกศิลปะอยุธยาชัดเจน ส่วนบันไดนาคคงสร้างขึ้นมาภายหลังด้วยศิลปะยุคปัจจุบันอยุธยา 24แม่น้ำด้านหน้าวัดแคราชานุวาส ยังใสสะอาดมีฝูงปลาแหวกว่าย และชาวบ้านยังสามารถนำน้ำนี้ไปใช้งานได้เช่นเดียวกับยุคอดีต นี่คือความสงบร่มเย็นของเมืองน้ำอยุธยาอยุธยา 25ล่องเรือชิลชิลมาอีกแค่แป๊บเดียว เราก็แวะขึ้นกราบพระในวัดที่ 2 คือ ‘วัดตองปุ’ บนเกาะเมืองอยุธยา โดยท่าหน้าวัดนั้นตั้งอยู่บริเวณใกล้กับจุดบรรจบของแม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำป่าสัก จึงเป็นอีกวัดหนึ่งที่สงบ ร่มเย็นมากอยุธยา 26วัดตองปุ เป็นวัดเก่าแก่มาก สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ประมาณ พ.ศ. 1920 ประวัติเล่าว่าในอดีตที่ดินตรงนี้มีต้นกล้วยตานีขึ้นอยู่หนาแน่น เวลาชาวบ้านทั้งไทยและมอญมาทำบุญ ต่างก็ห่ออาหารด้วยใบตอง แถมยังนำใบตองมารองนั่งอีกด้วย จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘วัดตองปุ’

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมถึงมีชาวมอญอยู่ในบริเวณนี้ด้วย ประวัติเล่าย้อนไปถึงสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หลังจากทรงกวาดต้อนเทครัวชาวมอญ ข้ามแม่น้ำสะโตงมาจากเมืองหงสาวดีแล้ว ก็ทรงบูรณะวัดตองปุให้เป็นที่จำพรรษาของพระมหาเถรคันฉ่อง รวมถึงพระมอญรูปอื่นๆ เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีที่พระยาเกียรติ พระยาราม ชาวมอญ ได้มาเตือนพระองค์มิให้ถูกลอบสังหาร ก่อนประกาศเอกราชที่เมืองแครงนั่นเองอยุธยา 27พ้นจากท่าน้ำขึ้นมานิดเดียว ก็มีศาลาไทยเปิดโล่ง ประดิษฐาน หลวงพ่อดำ อันศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดตองปุ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยอยุธยาแท้ กราบไหว้ขอพรกันได้ตามอัธยาศัยเลยจ้าอยุธยา 28ร่องรอยทางโบราณดดีที่ชัดเจนในความเก่าแก่ของวัดมอญ อย่างวัดตองปุแห่งนี้ก็คือ ‘หลวงพ่อโต’ ซึ่งแต่เดิมเคยประดิษฐานอยู่ในโบสถ์มหาอุตม์ขนาดเล็ก (โบสถ์มหาอุตม์ คือ โบสถ์ที่ไม่มีหน้าต่าง มีประตูเข้าออกได้ทางเดียว นิมยมใช้เป็นสถานาที่ปลุกเสกเครื่องรางของขลังและวัตถุมงคลต่างๆ) ทว่าปัจจุบันตัวโบสถ์มหาอุตม์เดิมได้สลายไปพร้อมกาลเวลา จึงมีการสร้างศาลาครอบหลวงพ่อโตไว้แทนอยุธยา 29หอระฆังแบบมอญ บ่งชี้ร่องรอยประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกวาดต้อนชาวมอญจากหงสาวดีอยุธยา 30โบสถ์หลังใหม่ของวัดตองปุ งดงามตามแบบศิลปะรัตนโกสินทร์
อยุธยา 31.1ไหว้พระขอพร ทำจิตใจห้องผ่องแผ้ว กายใจจะได้ผ่องใส สมกับทริป ‘ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย’อยุธยา 31นั่งเรือข้ามฝั่งจากวัดตองปุ (ที่อยู่บนเกาะเมือง) มาแค่ไม่กี่อึดใจ เราก็มาถึงวัดช่องลมเกาะลอย’ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ บนจุดบรรจบของแม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำป่าสัก มีลักษณะเป็นเพียงเกาะเล็กๆ ที่มีคนอาศัยอยู่แค่ไม่กี่คน จึงอาจพูดกันเล่นๆ ได้ว่า เป็นเกาะเล็กที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทยเลยล่ะ ฮาฮาฮาอยุธยา 32จริงๆ แล้วเกาะลอยนี้ มีมากกว่าการมากราบพระขอพร ทว่ายังมีเรื่องราวพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งทรงห่วงใย ไม่ทอดทิ้งเกาะเล็กๆ นี้ แม้เกาะลอยจะมีประชากรอยู่แค่ 15 หลังคาเรือน พระองค์ท่านก็ทรงแผ่พระบารมีเมตตามาปกปักคุ้มครอง เหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2556 เมื่อน้ำจากแม่น้ำได้กัดเซาะตลิ่งของเกาะลอยจนเข้าถึงตัวบ้านเรือนราษฎร  หนึ่งในลูกหลานของเกาะลอย คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นภาภรณ์ ศิริพิทักษ์ ได้เขียนจดหมายด้วยลายมือของตนเอง ถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จากนั้นต้นปี พ.ศ. 2557 พระองค์จึงพระราชทานเงินมาให้ถึง 18 ล้านบาท เพื่อสร้างเขื่อนตรงหัวเกาะลอย ป้องกันน้ำกัดเซาะ จนประชาชน 15 หลังคาเรือน กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติสุขอีกครั้งอยุธยา 33จากวัดช่องลมเกาะลอย มองไปเห็นวัดตองปุอยู่ใกล้นิดเดียว และยังได้ชมเขื่อนกั้นน้ำซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานให้ประชาชนบนเกาะลอยด้วยอยุธยา 34บนเกาะลอยมีวัดโบราณอยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันถือเป็นวัดร้าง เหลือหลักฐานบ่งบอกเรื่องราวประวัติศาสตร์อยู่ไม่มาก ทว่าก็ยังเป็นที่รู้จักและจดจำของชาวบ้านละแวกนั้นเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ ‘หลวงพ่อขาว’ เป็นพระประธานองค์ใหญ่สีขาว พระพักตร์อิ่มเอิบแลใจดี เชื่อหรือไม่ว่าส่วนเศียรของหลวงพ่อขาวสร้างขึ้นโดยใช้โอ่งใส่น้ำเป็นแกนภายใน เนื่องจากในสมัยโบราณชาวบ้านไม่มีวัสดุก่อสร้าง จึงต้องใช้โอ่งหรือตุ่มใส่น้ำแทนอิฐ สังเกตให้ดีจะเห็นเลยว่าเศียรหลวงพ่อขาวท่านจะค่อนข้างกลมรีจริงๆ ด้วย อยุธยา 35พระพุทธรูปสีทองด้านหน้าหลวงพ่อขาว คือ หลวงพ่อหมอ หรือพระหมอ ซึ่งชาวบ้านที่เจ็บไข้ได้ป่วย มาบนบานขอให้หายป่วย ก็จะได้ตามนั้น! อยุธยา 36ใกล้ๆ กับวิหารหลวงพ่อขาว มี ‘ศาลเจ้าพ่อดาบชัย’ สมัยกรุงศรีอยุธยาให้สักการะกันด้วยล่ะ โดยศาลนี้ตั้งอยู่ติดกับต้นโพธิ์โบราณลำต้นใหญ่หลายคนโอบ แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา ถ้ายืนนิ่งๆ ลองหลับตาจินตนาการไปในอดีต จะเห็นภาพของเกาะลอยที่มีแม่น้ำไหลผ่านด้านหน้า และทิวไม้เขียวๆ เย็นตาเย็นใจจริงๆอยุธยา 37ออกจากวัดช่องลมเกาะลอยแล้ว เราก็ได้เวลาล่องเรือกันยาวๆ เกือบ 1 ชั่วโมง เรือหันหัวเร่งเครื่องออกจากลำคลองย่อยเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาสายหลัก ผ่านวัดสำคัญๆ สองฟากฝั่ง ทั้งวัดหน้าพระเมรุ, วัดพุทไธศวรรย์, วัดไชยวัฒนาราม, เจดีย์สมเด็จพระสุริโยทัย และอีกมากมาย ถ้าเวลาเหลือ และตกลงกับนายท้ายเรือได้ ก็เพิ่มค่าเรือให้เขาหน่อย จะสามารถแวะกราบพระชำระกายใจได้เพิ่มเติม
อยุธยา 38วัดไชยวัฒนาราม หนึ่งในวัดสำคัญที่สุดและสวยงามที่สุดบนเกาะเมืองอยุธยาอยุธยา 39วัดพุทไธศวรรย์ เมื่อมองจากทางน้ำจะได้มุมมองงดงามมากอยุธยา 40วันนี้ได้สัมผัสวิถีชาวน้ำอยุธยาแบบลึกซึ้ง รู้สึกเย็นชื่นใจจากสายน้ำที่ยังใสสะอาดไหลไปไม่เคยเปลี่ยนอยุธยา 41อีกวัดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดชมและสักการะ ในระหว่าง เส้นทางผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย ของเราก็คือ ‘วัดบางนมโค’ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของหลวงพ่อปาน พระเกจิอาจารย์ผู้โด่งดังในด้านวัตรปฏิบัติอันงดงาม และมีคาถาอาคมแก่กล้า อีกทั้งได้ฉายาว่า ‘พระหมอ’ ช่วยรักษาอาการป่วยไข้ให้ชาวบ้านในยุคเมื่อหลายสิบปีก่อน ด้วยยาสมุนไพรพุทธคุณอันศักดิ์สิทธิ์อยุธยา 42ภายในบริเวณวัดบางนมโค มีพระเจดีย์ขนาดใหญ่ ศิลปะอยุธยาตอนปลาย สร้างแบบย่อมุมไม้สิบสอง และเหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่า ‘วัดบางนมโค’ เพราะอดีตแถบนี้ชาวบ้านนิยมเลี้ยงวัวควายกันมาก แม้แต่ในสมัยพม่ามาล้อมตีกรุงศรีอยุธยา ก็ยังมากวาดต้อนจับวัวควายชาวบ้านไปใช้เป็นเสบียงในกองทัพเช่นกันอยุธยา 43วิหารหลวงพ่อปานวัดบางนมโค เข้าไปสักการะกราบขอพร ปิดทองรูปเหมือนของท่านเพื่อความเป็นสิริมงคล ภายในสร้างโดยบุกระจกเงามากมาย สะท้อนแสงวิบวับ แลคล้ายวิหารที่วัดท่าซุงของหลวงพ่อฤาษีลิงดำอยุธยา 44รูปเหมือนหลวงพ่อปานวัดบางนมโค มีประชาชนศรัทธาหลั่งไหลกันมาปิดทองจนเหลืองอร่ามไปทั้งองค์อยุธยา 45หุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อปานวัดบางนมโค ชวนให้เรานึกถึงเรื่องราวประวัติของท่าน กล่าวสั้นๆ คือท่านเกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2418 ในย่านวัดบางนมโคนี่เอง โดยท่านได้รับการอุปสมบทที่วัดบางนมโค เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2438 กับหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยรู้กันดีว่าหลวงพ่อสุ่นนั้นเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก่กล้ามาก หลวงพ่อปานจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆ มาด้วย

อยุธยา 46หลวงพ่อปานมรณะภาพ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 สิริรวมอายุ 63 ปี 43 พรรษา โดยอัฐิธาตุของท่านได้รับการเก็บรักษาไว้ ณ วัดบางนมโคแห่งนี้เองอยุธยา 47ท่าน้ำหน้าวัดบางนมโค อดีตเคยใช้เป็นเส้นทางสัญจรหลัก ทุกวันนี้น้ำยังใสสะอาดดีอยุธยา 48ตระเวนเที่ยวอยุธยากันมาตลอดวัน เริ่มเหนื่อยแล้ว วันนี้ขอเลือกพักผ่อนสบายๆ ชิลๆ กลางทุ่งนา ในรีสอร์ทเล็กๆ สไตล์เก๋ไก๋น่ารัก บรรยากาศผ่อนคลายเป็นกันเอง ที่ ‘พลูธยา รีสอร์ทแอนด์สปา’ อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา (โทร. 09-8358-0118, 0-3570-7565-6)อยุธยา 49.1พาตัวและหัวใจไปค้นพบความสุขแบบเรียบง่าย กับเครื่องดื่มที่เราชอบ นั่งเหม่อมองท้องทุ่งสีเขียว เข้าถึงจิตวิญญาณของเมืองอู่ข้าวอู่น้ำอยุธยาในแบบน่ารักๆอยุธยา 49.2 อยุธยา 49ด้านข้างพลูธยา รีสอร์ท มีทุ่งนาผืนกว้างที่มองไปเห็นเจดีย์ของวัดใหญ่ชัยมงคลได้ชัดเจน ทั้งวิถีข้าวและวิถีพุทธอยู่ใกล้แค่เอื้อมนิดเดียวเอง มีความสุขเหลือเกินอยุธยา 50 อยุธยา 51แสงยามเย็นเมื่อแดดร่มลมตก อาบไล้ท้องทุ่งและพลูธยา รีสอร์ท ที่พักอุ่นสบายของเราในคืนนี้อยุธยา 52หน้าห้องพักมีคูน้ำและดอกบัวบาน เคียงคู่ทุ่งนาสีเขียวและท้องฟ้ากว้างๆ ไม่มีตึกอะไรมาบดบังเลย โปร่งโล่งสบายดีจัง แถมยังมีเสียงกบเขียดร้องเพลงกล่อมด้วย ฮาฮาฮาอยุธยา 53พลูธยา รีสอร์ท มีที่พักหลายโซน ทั้งริมนา ริมสระ และริมบึง ให้เลือกตามใจชอบเลยจ้าอยุธยา 54ความลงตัวในการผสมผสานความใหม่เก่า จนทำให้พลูธยา รีสอร์ท กลายเป็นที่พักบูติกเล็กๆ ช่วยสร้างมิติใหม่ให้อยุธยาได้มากเลยทีเดียวอยุธยา 55ห้องนอนโซนพักริมน้ำของพลูธยา รีสอร์ท ตกแต่งด้วยสไตล์จีน เน้นสีเหลืองแดงโทนสว่างน่าพักอยุธยา 56จุดเด่นอีกอย่างของพลูธยา รีสอร์ท ที่ ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย ชอบมาก คือมีบริการนวดไทยและสปา ผ่อนคลายกันสุดๆ เลยวันนี้อยุธยา 57และที่ขาดไม่ได้ ทำให้พลูธยา รีสอร์ท ครบเครื่อง คือเมนูอาหารไทยที่เสิร์ฟกันเต็มที่ในมื้อเย็น ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด แกล้มผักต่างๆ, ต้มกะทิสายบัวปลาทู, ผักทอด, แกงเขียวหวานไก่, มัสมั่นไก่ ฯลฯ เป็นกับข้าวแบบไทยๆ ที่ปู่ย่าตายายเรากินกันมานานนม

ทริป ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย ของเรายังไม่จบลงเท่านี้ ยังมี ตอน 2 ให้ติดตามกันอย่างเข้มข้นสนุกสนานด้วย อย่าพลาดนะจ๊ะLOGO TATSpecial Thanks : คุณอิสสระพงษ์ แทนศิริ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา (และดูแลพื้นที่จังหวัดสระบุรี) สนับสนุนการเดินทางเป็นอย่างดี สนใจสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-3524-6076-7

เที่ยวสุราษฎร์ฯ เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง

เขาสก 1“โอ่โอ ปักษ์ใต้บ้านเรา โอ่โอ ปักษ์ใต้บ้านเรา มีน้ำภูเขาทะเลกว้างไกล จะไปไหน ปักษ์ใต้บ้านเรา…” เสียงเพลงไพเราะแสนคลาสสิกของวงแฮมเมอร์ ยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจผม ขณะที่สองเท้ากำลังย่างก้าวเข้าสู่ดินแดนอันแสนงงดงาม ‘สุราษฎร์ธานี’ เมืองที่มีป่าผืนใหญ่ที่สุดในภาคใต้ อันเป็นต้นกำเนิดสายน้ำชุ่มฉ่ำ เป็นบ้านของสรรพชีวิต และที่สำคัญคือเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ (Eco-Tourism) ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้

ทริปนี้ เราจึงร่วมเดินทางไปกับ ททท. สำนักงานสุราษฎร์ธานี เปิดประสบการณ์ใหม่กับการสัมผัส สุราษฎร์ฯ แบบวิถีไทยสไตล์ลึกซึ้ง
เขาสก 2ความสนุกความมันในทริปนี้ เร่ิมต้นขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก แถวๆ ‘คลองศก’ อำเภอบ้านตาขุน ซึ่งเป็นถิ่นที่เต็มไปด้วยเทือกเขาหินปูนสลับซับซ้อน ห่มคลุมด้วยป่าฝนผืนใหญ่ เขียวขจีตลอดปี และมีวิถีเกษตรของชาวบ้านเติมเต็มวิถีชีวิตที่นี่ กิจกรรม ‘ล่องแพไม้ไผ่คลองศก’ ถือเป็นการผจญภัยแบบง่ายๆ ชิลๆ ที่นำเราเข้าสู่อ้อมกอดของป่าใหญ่ ได้สัมผัสสายน้ำเย็นชื่นใจ และภูมิทัศน์มหัศจรรย์ของเทือกเขาหินปูนรูปทรงแปลกตา
เขาสก 3ทว่าการล่องแพไม้ไผ่คลองศกของสุราษฎร์ฯ เขามีความเก๋ไก๋แบบวิถีไทยที่ไม่เหมือนใครนะครับ เพราะเขามีสโลแกนน่ารักๆ ว่า ‘สวมมง ลงแพ ดื่มกาแฟ แลดอกบัวผุด’ โดยคำว่า ‘สวมมง’ ก็หมายถึงการให้นักท่องเที่ยวสวมมงกุฎที่ทำจากใบปาล์ม ส่วน ‘ลงแพ’ ก็คือล่องแพไม้ไผ่ ที่ไม่ได้ตัดมาจากป่า แต่เป็นไผ่ปลูกในสวนชาวบ้าน เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติให้ท่องเที่ยวได้ยั่งยืน ‘ดื่มกาแฟ’ คือมีซุ้มกาแฟแวะชิมกันกลางป่า และคำว่า ‘แลดอกบัวผุด’ ก็คือกิจกรรมเสริมอันโดดเด่นอีกอย่าง เพราะในป่าแถบนี้มีดอกบัวผุด ซึ่งเป็นดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดชนิดหนึ่งของโลกเบ่งบานอยู่ ล่องแพเสร็จแล้วใครแรงเหลือ ก็ยังไปเดินป่าค้นหาความมหัศจรรย์ของธรรมชาติได้ด้วยเขาสก 4การล่องแพไม้ไผ่คลองศกใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ผ่านไปตามลำน้ำที่ไม่ได้ไหลเชี่ยวกรากจนน่ากลัว ทว่าไหลเอื่อยๆ สบายๆ เป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เที่ยวสนุก สองฟากฝั่งอุดมด้วยแมกไม้ร่มรื่น เป็นแนวป่าธรรมชาติบ้าง สลับกับเรือกสวนของชาวบ้านบ้าง แต่ที่ถือว่าเป็นพระเอกของเส้นทางนี้จริงๆ สำหรับผม ก็คือเทือกเขาหินปูนไงครับ เพราะลำน้ำบางช่วงบีบแคบ มีโตรกผาหรือแท่งหินปูนยืนตระหง่านอยู่ใกล้ๆ เลย ถ่ายภาพได้สวยสุดๆเขาสก 5แพไม้ไผ่ของคลองศกนั่งสบาย มีเก้าอี้ไม้เตี้ยๆ ให้ ไม่ต้องนั่งตูดเปียกบนแพ การล่องก็ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ แต่ใช้ไม้ไผ่ค้ำถ่อไปเรื่อยๆ ไม่เร่งร้อน แบบ Slow Life แถมแพบางลำยังใช้ไม้พายจ้วงเอาๆ ได้สบายบรื๋อเลย
เขาสก 6พอล่องแพมาได้ประมาณ 15 นาที ยังไม่ทันจะเหนื่อย (จะเหนื่อยได้ไง ก็เรานั่งเฉยๆ ไม่ได้ถ่อแพเอง ฮาฮาฮา) เขาก็จอดแวะริมตลิ่ง นำเราเดินขึ้นไปยัง ซุ้มกาแฟกลางป่า มีการต้มน้ำร้อนในกระบอกไม้ไผ่ มาชงกาแฟหรือชาร้อนๆ ให้เราซดเรียกความสดชื่น แถมแก้วที่ให้เรานั้น ยังเป็นแก้วที่ทำจากไม้ไผ่ทั้งหมด นำลงไปนั่งชิลดื่ม พร้อมชมวิวในแพอย่างสบายราวกับราชา แหม อะไรจะ Happy ปานนี้นะเขาสก 7 เขาสก 8.1รอยยิ้มของเจ้าบ้านและผู้มาเยือน ในซุ้มกาแฟกลางป่า จุดแวะระหว่างล่องแพไม้ไผ่คลองศกจ้าเขาสก 8ล่องแพน้ำใส ดื่มกาแฟร้อนๆ ในกระบอกไม้ไผ่ สุขใจ เติมเต็มพลังชีวิตด้วยความบริสุทธิ์ของธรรมชาติรอบข้าง นี่ล่ะของขวัญให้ชีวิตเขาสก 9จากจุดซุ้มกาแฟกลางป่า ต่อไปก็เป็นการล่องแพยาวๆ กันเลย ปล่อยให้ตัวและหัวใจของเราไหลไปพร้อมสายน้ำสีเขียวมรกตของลำคลองศก ซึ่งเกิดจากความอุดมของป่าอุทยานแห่งชาติเขาสก สีเขียวของแมกไม้น้อยใหญ่ จะทำให้หัวใจชุ่มชื่น ได้รับรู้ถึงกลิ่นอายและสรรพสำเนียงของธรรมชาติ ลองปิดมือถือ ทิ้งชีวิตวุ่นวายแบบเมืองใหญ่ไว้เบื้องหลักสักพักก็ดีนะเขาสก 10ระหว่างล่องแพ นอกจากการชมวิวและถ่ายภาพแล้ว ใครติดกล้องส่องทางไกลไปด้วย ก็จะได้มีโอกาสดูนกหลายชนิดที่เข้ามาหากินคลายร้อนใกล้น้ำครับเขาสก 11 เขาสก 12หลังจากล่องแพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใครเหนื่อยก็ Check In เข้าที่พักเอาแรง หรือใครยังฟิตปั๋ง ก็จะให้ไกด์นำทางไปเดินป่าตามหาดอกบัวผุดเขาสก ก็ได้เลย เอาที่สบายใจจ้าเขาสก 13หลังจากเพลิดเพลินกับการล่องแพคลองศกกันอย่างชุ่มฉ่ำ และพักเอาแรงเต็มที่แล้วหนึ่งคืน ผมก็ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ รีบไปกางขาตั้งกล้องรอแสงแรกของตะวันเบิกฟ้าที่ ‘จุดชมวิวผานางคอย’ เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอันมีชื่อเสียงในแถบนี้ จุดชมวิวผานางคอยตั้งอยู่ตรงจุดกึ่งกลางระหว่าง กม.109 (เดิม) และ กม.111 (เดิม) หากขับรถมาจากปากทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก มองทางซ้ายมือไว้ครับ เดี๋ยวเจอเองเขาสก 14จุดชมวิวผานางคอยในช่วงฤดูฝน และวันที่มีความชื้นสูง อากาศเย็น ตอนเช้าก็จะมีทะเลหมอกให้ชม แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะบางวันจะมีเฉพาะแสงสีทองสวยๆ ยามเช้า สาดส่องลงมาปลุกเทือกเขาหินปูนตะปุ่มตะป่ำ ให้ตื่นจากหลับใหล นี่คือสิ่งที่ทำให้นักแรมทางเข้าใจธรรมชาติ ปรับตัวเข้าหาธรรมชาติ ไม่ใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง และรู้จักท่องเที่ยวอย่างเปิดใจรับความสุขตรงหน้าให้เต็มที่เขาสก 15เราเติมความสุขของเช้าอันสดใสที่เขาสก ด้วยการไปหม่ำอาหารเช้าอร่อยๆ แนวสุขภาพ กันที่ ‘แพ 500 ไร่ Valley Retreat’ หนึ่งในสาขาของแพ 500 ไร่ ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนเชี่ยวหลาน (เขื่อนรัชชประภา) เห็น Landscape ที่ตั้งของเขาแล้วต้องบอกเลยว่า อึ้ง ทึ่ง ตกตะลึงในความงาม สามารถสร้างที่พักให้กลมกลืนกับธรรมชาติ โดยใช้วิวเบื้องหน้าประกอบเข้ามาได้ลงตัวเป๊ะ
เขาสก 16นี่หรือคือเขาสก? คำตอบคือใช่ เพราะ แพ 500 ไร่ Valley Retreat เป็นที่พักหรูที่เน้นความเงียบสงบ ให้ธรรมชาติเป็นพระเอก โดยมีสระว่ายน้ำที่ยาวกว่า 50 เมตร ให้บริการผู้เข้าพัก ถือเป็นสระว่ายน้ำยาวที่สุดในแถบนี้เลยล่ะ พอว่ายน้ำเสร็จแล้ว คงไม่มีใครว่า หากจะใช้เวลาเป็นส่วนตัวเอนกายลงนั่งชมวิวสุดสายตา Panorama เบื้องหน้า ให้เป็นรางวัลชีวิตเขาสก 17.1 แพ 500 ไร่ valley retreatว่ายน้ำกับ Mountain View หรือ Rainforest View สุดเจ๋ง จะหาได้ที่ไหนไม่มีอีกแล้ว!เขาสก 17.2 เขาชัน รีสอร์ทและวันนี้ในแถบอุทยานแห่งชาติเขาสก ก็มีที่พักเก๋ไก๋เปิดใหม่ให้บริการอีกมากมาย แต่ละแห่งล้วนดึงจุดเด่นของป่าฝนและการพักผ่อนอย่างใกล้ชิด กลมกลืนกับธรรมชาติ มาให้เราสัมผัสเขาสก 17มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ของการเดินทางทริปนี้ คือ การเดินป่าตามหาดอกบัวผุด หนึ่งในดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในเมืองไทยบริเวณป่าเขาสกนี่เอง ทำให้นักเดินป่าศึกษาธรรมชาติ นักพฤกษศาสตร์ และช่างภาพจากทั่วโลก เดินทางมาเยือนที่นี่ในยามที่ดอกบัวผุดบาน เพราะไม่ใช่ว่ามันจะบานตลอดปี แต่มักจะบานนอกฤดูฝน ราวๆ ต้นฤดูร้อน (เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน) แถมการบานของแต่ละดอกยังมีช่วงสั้นๆ แค่ 7 วันเท่านั้น การเห็นดอกบัวผุดบานกลางป่าด้วยตาตัวเองสักครั้ง จึงยากพอๆ กับการถูกหวยรางวัลที่ 1 เลยละ ฮาฮาฮาเขาสก 18โชคดีเหลือเกิน การเดินทางในครั้งนี้มีดอกบัวผุดบานพอดี ในบริเวณเส้นทางดูดอกบัวผุด กม.111 (เดิม) จุดเริ่มต้นก็อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 401 ที่ผ่านนหน้าทางเข้าอุทยทานแห่งชาติเขาสกนั่นล่ะ เลยมาอีกนิดเดียว อยู่ทางขวามือ แต่เส้นทางนี้ไม่ธรรมดา เพราะนอกจากจะผ่านป่าดิบรกทึบแล้ว หนทางยังสูงชันมาก ต้องอาศัยแรงกายกำลังใจแบบฟิตสุดๆ นอกจากนั้นยังต้องสวมรองเท้าหุ้มข้ออย่างดี และมีไม้เท้าเดินป่าช่วยผ่อนแรงขา แม้ว่าผมจะไม่ค่อยฟิตนัก แต่ก็ขอสร้างวีรกรรมไปทักทายบัวผุดสักครั้ง หลังจากไม่ได้เห็นดอกจริงๆ กับตาตัวเองมานานถึง 13 ปีแล้ว
เขาสก 19เส้นทางดูดอกบัวผุดนี้ยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ในที่สุดเราก็ได้ตื่นตะลึงกับพืชพิศวง ‘ดอกบัวผุด’ หรือที่ในทางวิชาการเรียกว่า ‘ดอกรัฟฟลีเซีย’ (Rafflesia) จริงๆ แล้วมันเป็นพืชกาฝาก ตามปกติมีลักษณะเป็นเส้นใยราอาศัยอยู่ในเนื้อไม้ย่านไก่ต้ม (หรือเถาองุ่นป่า) ซึ่งเป็นไม้เลื้อยที่หายากในป่าแถบนี้ ต่อเมื่อบัวผุดต้องการผสมพันธุ์ มันจึงผุดตาดอกคล้ายหัวกะหล่ำสีน้ำตาลแดงขึ้นที่ผิวของย่านไก่ต้ม ค่อยๆ โตขึ้นๆ ใช้เวลาถึง 9 เดือนเท่ากับการตั้งท้องของคน จนถึงเวลาเบ่งบานแค่ไม่เกิน 7 วัน โดยสีของมันจะสดที่สุด (เป็นสีน้ำตาลอมแดงเข้ม) ใน 3-4 วันแรกเท่านั้น จากนั้นก็จะเน่าเปื่อยไป โดยแต่ละดอกมีขนาด 100-120 เซนติเมตร เลยทีเดียว!เขาสก 20.1ความมหัศจรรย์ของบัวผุด มิใช่แค่มันเป็นหนึ่งในดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น ทว่ามันยังเป็นพืชที่มีดอกตัวผู้ และดอกตัวเมียแยกกัน เมื่อดอกบาน มันจะสร้างกลิ่นคล้ายเนื้อเน่าอ่อนๆ ล่อแมลง แมงมุม กบ และสัตว์ต่างๆ ให้มาช่วยผสมพันธุ์ แต่ความลี้ลับของธรรมชาติที่แท้จริง ซึ่งยังไม่มีใครหาคำตอบได้ก็คือ ยังไม่มีใครทราบว่าเมล็ดบัวผุดที่ได้รับการผสมแล้ว กลับเข้าไปในเถาย่านไก่ต้มได้อย่างไร? ยังคงเป็นปริศนาที่เราต้องช่วยกันหาคำตอบต่อไป เช่นเดียวกับเจ้ากบป่าน้อยตัวนี้ ที่เข้าไปหลบอยู่ในหม้อของดอกบัวผุด ซึ่งจริงๆ แล้วมันคงรอจับแมลงกินนั่นเอง เกิดเป็นห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศน์อันสมบูรณ์
เขาสก 20ดูกันชัดๆ ครับ สำหรับหัวตูมของดอกบัวผุดที่งอกขึ้นมาจากเถาย่านไก่ต้ม แต่ใช่ว่าทุกหัวจะรอดไปบานจนผสมพันธุ์ได้นะครับ เพราะบางหัวเน่าในจากความชื้นเกินพอดี และบางหัวก็ถูกสัตว์หรือแมลงป่าเจาะจนเน่าเขาสก 21บัวผุดพันธุ์ไทยนี้ จัดเป็นพืชหายากของโลก (Rare Species) และ เป็นพืชเฉพาะถิ่นที่พบได้ในเมืองไทยเท่านั้น (Endemic Species) เมื่อชมแล้ว ก็ต้องช่วยกันอนุรักษ์ให้คงอยู่กับป่าเขาสกตลอดไปเขาสก 22.1กลับลงมาจากภูเขาพร้อมกับความสุข ที่ได้เห็นดอกบัวผุดอีกครั้ง วันนี้เราเข้าไปเที่ยวที่ทำการของอุทยานแห่งชาติเขาสกด้วย เพราะตรงกับช่วงจัดงาน ‘เขาสก Eco-Tourism Festival 2017’ พอดี ในงานมีการออกบูทให้ความรู้เรื่องธรรมชาติ และหลายชุมชนในแถบนี้ก็มาร่วมด้วยเขาสก 22.2เขาสก 22.3การประกวดวาดภาพบัวผุด ของเด็กๆ ในงาน เขาสก Eco-Tourism Festival 2017
เขาสก 22อันที่จริงแล้วป่าเขาสกมีเนื้อที่กว้างขวางกว่า 4 แสนไร่ โดยแบ่งเป็น ภาคพื้นดิน และภาคพื้นน้ำ ในภาคพื้นดินเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ การดูนก น้ำตก และดอกบัวผุด เป็นพระเอก ส่วนเขาสกภาคพื้นน้ำก็คือ ‘เขื่อนรัชชประภา’ หรือชื่อเดิม ‘เขื่อนเชี่ยวหลาน’ ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้เปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 แม้ว่าจะสูญเสียผืนป่าไปมากมาย แต่ก็แลกมาด้วยการได้เขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงภาคใต้นั่นเอง เมื่อน้ำเอ่อท้นขึ้น ยอดเขาหินปูนที่เคยอยู่สูงลิบ จึงกลายเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยนับร้อยเกาะ รูปลักษณ์เป็นเทือกเขาหินปูนตะปุ่มตะป่ำ แปลกตาน่าชม เหมาะไปล่องเรือ หรือค้างคืน นอนชมธรรมชาติ
เขาสก 23เขื่อนเชี่ยวหลานมีเนื้อที่กว้างขวางมาก ตลอดการล่องเรือเราจะได้ประจักษ์ถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่ก่อเกิดทุกสรรพสิ่งขึ้นมา ภูมิทัศน์โดดเด่นของบริเวณนี้คือ ‘เทือกเขาหินปูน’ ซึ่งในทางวิชาการเรียกว่า Karst Topography เกิดจากการทับถมของซากอินทรีย์วัตถุใต้ทะเลเมื่อหลายล้านปีก่อน จากนั้นเมื่อเปลือกโลกยกตัวขึ้น แล้วถูกลม ฝน แดด กัดเซาะเป็นเวลานาน จึงสึกกร่อนเหลือเป็นเทือกเขาหินปูนรูปทรงแปลกตาอย่างนี้ล่ะ Landmark สำคัญจุดหนึ่งที่เรือทัวร์นิยมพาคนไปชมก็คือ ‘หินสามเกลอ’ (หินสามพี่น้อง) เป็นแท่งหินปูน 3 แท่งผุดขึ้นจากน้ำ จากจุดนี้วิ่งเรือไปอีกไม่ไกล ก็ถึงแพนางไพร เป็นแพพักของอุทยานฯ เขาสกเขาสก 24จอดเรือแวะชมธรรมชาติให้เต็มอิ่ม ที่หินสามเกลอเขาสก 25จากหินสามเกลอนั่งเรือหางยาวต่อมาแค่ไม่กี่อึดใจ ก็ถึงแพนางไพรแล้ว เป็นที่พักเรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ เล่นน้ำ พายเรือ ได้ชุ่มฉ่ำสมใจอยากเขาสก 26ฝูงปลานับร้อยแหวกว่ายในน้ำใสสีมรกตของเขื่อนเชี่ยวหลาน ที่น้ำเป็นสีเขียวมรกตแบบนี้ เป็นเพราะสารแคลเซียมคาร์บอเนตในหินปูนโดยรอบนั่นเอง
เขาสก 27การมาเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน ไม่มีแสงสี ไม่มีร้านสะดวกซื้อ ไม่มีคาราโอเกะ มีแต่ความพิสุทธิ์ของธรรมชาติยิ่งใหญ่เบื้องหน้าให้ซึมซับ นักท่องเที่ยวที่จะมาจึงเป็นกลุ่มรักธรรมชาติ นักนิยมไพร ผู้ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมือง แต่กิจกรรมเขาไม่ได้มีแค่เล่นน้ำ พายเรือเท่านั้น ยังมีการเดินป่าขึ้นจุดชมวิว, เที่ยวถ้ำน้ำทะลุ ถ้ำปะการัง, เดินป่าเข้าไปดูนกเงือกในแพทะเลใน 500 ไร่ และอื่นๆ อีกมากมายเขาสก 28เขาสกวันนี้มีมากกว่าที่คิด เมื่อเราได้เข้าไปเยี่ยมชม ‘เขาสก Elephant Hills’ ปางช้างที่ไม่ธรรมดา เพราะตั้งแต่เปิดตัวขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ปี ค.ศ.2011 ก็โด่งดังและได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย เพราะเขาไม่ได้เปิดให้เข้าชมช้างอย่างเดียว แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ เข้ามาใช้ชีวิตสัมผัสประสบการณ์แบบ Long Stay ระยะสั้น 3 วัน 2 คืน ได้ใช้ชีวิตอยู่กับช้าง อาบน้ำช้าง ฝึกคำสั่งช้าง โดยที่นี่มีช้างอยู่กว่า 50 เชือก ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และควาญชาวปกากะญอมืออาชีพสั่งตรงจากจังหวัดเชียงรายเขาสก 29ความเจ๋ง ความชิลของปางช้าง Elephant Hills คือเขาไม่ได้เลี้ยงช้างในกรงขังให้อึดอัด แต่เลี้ยงในพื้นที่เปิด เป็นธรรมชาติ ตรงกลางพื้นที่เป็นหุบเขาทุ่งหญ้าเขียว ล้อมรอบด้วยเทือกเขาหินปูนสูงตระหง่านเขาสก 30.1 เขาสก 30 เขาสก 31พี่ควาญช้างใจดีชาวปกากะญอ จากอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดเชียงราย เดินทางตรงมาดูแลพี่ช้างให้มีความสุขเขาสก 32แหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถึชีวิตชุมชน หรือ CBT (Community-Base Tourism) ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในแถบเขาสก ซึ่งผมต้องบอกว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงก็คือ ‘ชุมชนบ้านถ้ำผึ้ง’ ตำบลต้นยวน อำเภอพนม เพราะชุมชนนี้น่ารัก เปิดให้เที่ยวมาเป็นสิบปีแล้วครับ โดยเน้นวิถีชีวิตชุมชนชาวใต้ และพาเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ทั้งน้ำตก ถ้ำ บ่อน้ำดันทรายดูด และจุดชมวิว

สนใจสอบถามข้อมูลเที่ยวบ้านถ้ำผึ้ง และจองโฮมสเตย์ ติดต่อ คุณบุญทัน บุญชูตา โทร. 08-9290-9420, 0-7739-9994
เขาสก 33เดิมทีพื้นที่แถบบ้านถ้ำผึ้งเป็นป่าดงดิบรกทึบ และเป็นป่าต้นน้ำอุดมสมบูรณ์ กระทั่งปี พ.ศ.2503 ก็เริ่มมีผู้คนเข้ามาอยู่อาศัย ทำสวนผลไม้และเกษตรกรรม จนทุกวันนี้มีประชากรกว่า 1,200 คนแล้ว โดยชื่อ ‘หมู่บ้านถ้ำผึ้ง’ มาจากถ้ำใหญ่แห่งหนึ่งใกล้หมู่บ้าน ซึ่งมักจะมีผึ้งหลวงมาทำรังเป็นจำนวนมากทุกปี ขอบอกว่าตอนแวะเข้าไปกินข้าวเที่ยงที่นี่ อร่อยอย่างแรงตามประสาชาวใต้เลยครับ ทั้งแกงส้มปลากกะพงยอดมะพร้าวอ่อน, ผัดผักเหรียง, ปลากระบอกทอดกระเทียม, น้ำพริกกะปิกับผักเหนาะ ฯลฯ ครบ แถมยังมีกล้วยหอม กล้วยไข่ และกล้วยทอดฝีมือชาวบ้าน มาเสิร์ฟพร้อมรอยยิ้ม
เขาสก 34แกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าวอ่อนเขาสก 35น้ำพริกกะปิ (คนใต้เรียก น้ำชุบ) กินกับผักเหนาะนานาชนิดตามฤดูกาล ทั้งอร่อยและเปี่ยมคุณค่าอาหารเขาสก 36ผักต้มกะทิ เอาไว้ซดน้ำคล่องคอสไตล์ปักษ์ใต้บ้านเราเขาสก 37ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของสุราษฎร์ธานียังไม่จบสิ้น และเกินความคาดหมายของเราเสมอ! คราวนี้ได้เปิดหูเปิดตามาชมแหล่งใหม่ที่ ‘หินพัด’ บ้านยวนสาว ตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม โดยหินพัดนี้เพิ่งเปิดตัวให้ชมกันเต็มรูปแบบได้ไม่นาน การขึ้นไปชมต้องใช้บริการรถเช่าของชุมชนท่องเที่ยวบ้านยวนสาวขึ้นไป จากนั้นเดินต่ออีกราวๆ 200 เมตร จนถึงยอดเขาที่มีลักษณะเป็นผาหินสีดำโล่งเตียน และที่ปลายสุดของผาหินนี้เอง คือที่ตั้งของ ‘หินพัด’ ที่ชวนให้นึกถึงพระธาตุอินทร์แขวนในเมียนมา!เขาสก 38.1จากเชิงเขาต้องนั่งรถกระบะขึ้นไปก่อน ตอนไปเที่ยวโชคดีป่ายางรอบๆ กำลังผลัดใบช่วงต้นฤดูร้อน ทำให้ผืนป่าแถวนี้กลายเป็นสีเหลืองสีแดง คล้ายป่าผลัดใบในต่างประเทศเลย ฮาฮาฮา นี่ก็ Unseen สุราษฎร์ฯ อีกอย่างที่คนต่างถิ่นไม่ค่อยได้เห็น หรือให้ความสำคัญ แต่สำหรับคนรักธรรมชาติกับคนชองถ่ายรูปอย่างเรา วิวอย่างนี้มัน Amazing เหลือหลาย!เขาสก 38.2ป่ายางผลัดใบระหว่างทางขึ้นไปชมหินพัดบ้านยวนสาวเขาสก 38ถึงแล้ว ‘หินพัด’ มหัศจรรย์แห่งหินผาที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางลานหินโล่ง ราวกับมีคนไปจับวางไว้อย่างน่าอัศจรรย์! แม้ว่าส่วนฐานที่มันสัมผัสกันอยู่นั้นจะกว้างแค่ราวๆ 1 เมตร แต่ก็ทำให้หินพัดสูง 8 เมตร ยืนอยู่ได้อย่างสมดุลย์อย่างเหลือเชื่อ! นับเป็นประติมากรรมธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง ประวัติเล่าว่าในอดีตผู้คนแถบบ้านยวนสาวเล่าขานกันมานานแล้ว ว่าบนภูเขาลูกนี้มีหินประหลาดตั้งอยู่ได้โดยไม่ล้ม กระทั่ง คุณวิชิต จิตรสม ได้ดั้นด้นเดินป่าขึ้นมาค้นพบด้วยตนเองเมื่อสิบกว่าปีก่อน แล้วปลุกปล้ำประชาสัมพันธ์จนหินพัดเป็นที่รู้จักเขาสก 39หินพัด ในมุมมองต่างๆ มีรูปร่างผิดแผกกันไป บางมุมเหมือนหน้าคน บางมุมเหมือนพัด บางมุมคล้ายรูปหัวใจ สุดแล้วแต่จินตนาการของแต่ละคน เขาสก 40จากจุดที่หินพัดตั้งอยู่ มองออกไปเบื้องหน้าจะเห็นวิวภูเขา ป่ายางผลัดใบ ได้กว้างไกลสุดสายตา แหม… วันนี้น้องสาวคนสวย ขอกอดหินพัดให้มีความสุขสักครั้งเขาสก 41จากแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่เราเข้าไปสัมผัสกันแบบลึกซึ้งถึงพริกถึงขิงเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวเปลี่ยนบรรยากาศ ไปกราบพระขอพร ตื่นตากับสถาปัตยกรรมพุทธศิลป์ที่ไม่เหมือนใครกันบ้าง ณ ‘อุทยานธรรมเขานาในหลวง’ หมู่ 8 บ้านเขานาใน ตำบลต้นยวน อำเภอพนม มหัศจรรย์แห่งศรัทธาในพระพุทธศาสนา ที่เนรมิตให้เกิดมหาเจดีย์ลอยฟ้ายิ่งใหญ่บนยอดเขาหินปูนสูงลิบได้อย่างเหลือเชื่อ!เขาสก 42 เขาสก 43ท่านเจ้าอาวาสแห่งอุทยานธรรมเขานาในหลวง ได้เล่าให้ฟังว่าสำนักสงฆ์แห่งนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน เมื่อสมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อน ได้พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดียมาให้ จำนวน 9 องค์ ท่านจึงมีความตั้งใจว่าจะสร้างมหาเจดีย์ขึ้นบนยอดเขาในบริเวณนี้ 9 ยอด เพื่อใช้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าว จึงร่วมแรงร่วมใจกับชาวบ้านช่วยกันสร้างแล้วเสร็จในปัจจุบัน 2 องค์ (องค์ที่ 3 กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเสร็จก่อนเดือนตุลาคมปี 2560) โดยไม่ได้ใช้เงินจากราชการเลยแม้แต่บาทเดียว อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ได้มีพระจากวัดอื่นมาขอพระบรมสารีริกธาตุไปแล้ว 2 องค์ ทำให้โครงการสร้างเจดีย์ลอยฟ้า จาก 9 ยอด จึงเหลือเพียง 7 ยอดเท่านั้น
เขาสก 44วันที่ผมไปเที่ยว เวลาค่อนข้างน้อย จึงเลือกเดินขึ้นไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุบนเจดีย์ลอยฟ้าองค์ที่ 2 เท่านั้น โดยทางขึ้นแม้จะดูชัน แต่ก็มีการสร้างเป็นบันไดคอนกรีตพร้อมราวเหล็กให้จับกันตกอย่างดี มีจุดพักเป็นช่วงๆ ไม่น่าหวาดเสียว แต่ด้วยทางเดินที่แคบ จึงต้องหลบกันเป็นช่วงๆ ยิ่งเดินสูงขึ้นวิวก็ย่ิงตระการตา เผยภูมิทัศน์ที่แท้จริงของอุทยานธรรมเขานาในหลวงให้เห็น คือเป็นหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยยอดเขาหินปูนมากมายเขาสก 45ใช้เวลาแค่ 15-20 นาที เหงื่อยังไม่ทันชุ่มหลัง ผมก็ลุขึ้นถึงยอดเขาอันเป็นที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์ลอยฟ้าองค์ที่ 2 นามว่า พุทธศิลาวดี จากยอดเขานี้มองออกไปโดยรอบ เห็นสวนยางพาราและบ้านเรือนตั้งกระจายอยู่ทั่วไป พร้อมด้วยภูเขาหินปูนลูกย่อมๆ ที่ผลุบโผล่ขึ้นมาจากที่ราบอันสวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจดี

ชาวบ้านเล่าว่า เหตุที่แถบนี้ได้ชื่อว่า เขานาใน เพราะในอดีตด้านหลังเขาลูกนี้ เคยมีนาของชาวบ้านอยู่ด้วย ทว่าปัจจุบันเปลี่ยนเป็นป่ายางพาราไปหมดแล้ว น่าเสียดายเนอะเขาสก 46พระมหาเจดีย์ลอยฟ้าองค์ที่ 1 เมื่อมองจากยอดเขาพระมหาดเจดีย์องค์ที่ 2เขาสก 47พระมหาเจีดย์ลอยฟ้าพุทธศิลาวดี สร้างขึ้นจากศิลาแลงอย่างดีที่นำมาจากจังหวัดกำแพงเพชรโดยตรง ด้านหน้ามีบ่อน้ำเล็กๆ พร้อมดอกบัวเบ่งบาน คล้ายปริศนาธรรมบัว 4 เหล่า นอกจากจะได้ขึ้นมากราบสักการะให้เป็นสิริมงคลกับชีวิตแล้ว ยังเหมาะจะชมวิวจากมุมสูงด้วย คุ้มค่ากับการปีนเขาครั้งนี้จริงๆ ครับ
เขาสก 48ภายในพระมหาเจดีย์พุทธศิลาวดี เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดีย (องค์กลางใหญ่สุด) รายล้อมด้วยอัฐิธาตุของพระสงฆ์สำคัญๆ หลายองค์เขาสก 49 เขาสก 50ก่อนกลับบ้านในทริปนี้ เราเก็บความทรงจำดีๆ ของป่าเขาสก และสถานที่น่าสนใจอีกหลายแหล่งแห่งที่ไว้ในใจ จากนั้นก็เดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี แน่นอนว่า ‘ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี’ คือสถานที่สำคัญ ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนี้ ที่เราต้องไม่พลาด โดยภายนอกสร้างด้วยศิลปะศรีวิชัย ให้แลคล้ายพระบรมธาตุไชยาเขาสก 51เสาหลักเมืองสุราษฎร์ธานี สร้างด้วยไม้ชัยพฤกษ์ สูง 108 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 20 นิ้ว ล้อมรอบ 4 ทิศด้วยเสาสี่ต้น หัวเสาจำหลักเป็นรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หันพระพักตร์ไป 4 ทิศ ช่วยปกปักรักษาคุ้มครองบ้านเมืองให้สงบสุข ร่มเย็น สร้างขึ้นเพื่อถวายพระเกียรติ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อ พ.ศ. 2539
เขาสก 52อีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางศาสนา ซึ่ง ททท. สำนักงานสุราฎษร์ธานีเคยชวนมาเที่ยว ในโครงการ 5 ศาลเจ้า 9 วัด และยังคงอยู่ในความสนใจของผู้ศรัทธาอย่างไม่เสื่อมคลายก็คือ ‘พระโพธิสัตว์กวนอิมหินแกรนิตขาว’ สูง 12 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นรูปสลักหินเจ้าแม่กวนอิมจากหินแรกนิตขาวองค์สูงที่สุดในเมืองไทย จัดสร้างแล้วส่งตรงเข้ามาจากเมืองจีน ประดิษฐานอยู่ที่ มูลนิธิมุทิตาจิตธรรมสถาน ถนนหน้าเมือง เยื้องห้างโคลีเซียม (โทร. 0-7727-2556)
เขาสก 53ความงามของพระโพธิสัตว์กวนอิมหินแกรนิตขาว อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี
เขาสก 54ปิดท้ายทริปเที่ยวสุราษฎร์ฯ เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง กับของกินอร่อยๆ ขึ้นชื่อมานาน นั่นคือ ‘กุ้งแม่น้ำสุราษฎร์ฯ’ ที่ทั้งสด ทั้งตัวใหญ่ เนื้อหวานเจี๊ยบแน่นสู้ปาก เขาสก 55ไปชิมกุ้งแม่น้ำกันที่ ร้านบางปึก ตำบลพุนพิน อำเภอพุนพิน (โทร. 0-7744-1537) เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-21.00 น. แต่ขอโทษนะ ถ้าไม่โทรไปจองกุ้งไว้ก็อาจไม่ได้กินครับ เพราะร้านนี้ลูกค้าประจำเยอะมาก นั่งหม่ำกุ้งไป ชมวิวแม่น้ำไปด้วยเพลินๆ เพราะร้านนี้ตั้งอยู่ติดแม่น้ำตาปีเลยจ้า ลมพัดเย็นสบายจริงๆ

เขาสก 56เมนูขึ้นชื่ออีกอย่างของร้านบางปึก คือ ไก่ต้มน้ำปลาเขาสก 57เมื่ออิ่มจากของคาวแล้ว ก็ล้างปากด้วย ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ แสนอร่อย หอมหวานชื่นใจเขาสก 58ปิดท้ายทริปกับ ‘ข้าวหลามบ้านน้ำรอบ’ อำเภอพุนพิน ข้าวหลามพื้นบ้านของชาวสุราษฎร์ฯ ที่ขึ้นชื่อลือชาในรสชาติมานับสิบปี มีขายกันหลายเจ้าริมถนน จุดเด่นคือเป็นข้าวหลามที่ยังเผาด้วยกรรมวิธีพื้นบ้าน จึงให้รสชาตินวล กลิ่นหอมของเนื้อไม้ไผ่และฟืน มีทั้งข้าวเหนียวขาวและดำให้เลือก ใครจะไปเดินป่าเขาสกซื้อติดไว้กินได้หลายวัน อิ่มท้องให้แรงดีเลยจ้า ฮาฮาฮาเขาสก 59ทริปเที่ยวสุราษฎร์ฯ เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง จบลงอย่างน่าประทับใจ พร้อมกับประสบการณ์และมุมมองใหม่มากมาย เพราะเมืองไทยเราช่างกว้างใหญ่ มีอะไรให้สนุก ให้สัมผัส ให้เรียนรู้ อย่างไม่รู้จบ ขอเพียงเราเปิดใจ พาตัวและหัวใจเข้าสู่ชุมชน เข้าสู่ธรรมชาติ แล้วเราจะพบว่า เมืองไทยเรานี้ช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกิน!LOGO TATSpecial Thanks : คุณจินตนา สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-7728-8817-9 E-mail : tatsurat@tat.or.th

ตามรอยพระบาทเขื่อนภูมิพล ตาก ฟังเพลงพระราชนิพนธ์เหนือสันเขื่อน

ตาก 217 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 วันดังกล่าวคือวันสำคัญวันหนึ่ง ซึ่งคนไทยทั้งประเทศควรจดจำ เพราะเป็นวันที่พ่อหลวงของเรา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปเป็นองค์ประทาน ในการเปิด ‘เขื่อนภูมิพล’ หรือ ‘เขื่อนยันฮี’ อย่างเป็นทางการ ถือเป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของเมืองไทย กั้นลำน้ำปิงที่บริเวณเขาแก้ว อำเภอสามเงา จังหวัดตาก เป็นทั้งเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า เขื่อนเพื่อการชลประทาน เพื่อการเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด และปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับต้นๆ ของ ‘เมืองตาก’ ไปแล้ว
ตาก 3ด้วยพระอัจฉริยภาพและสายพระเนตรอันยาวไกล ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เขื่อนภูมิพลแห่งนี้จึงถือกำเนิดขึ้น เป็นเขื่อนที่กักเก็บน้ำได้มากถึง 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร ผลิตกระแสไฟฟ้าให้คนไทยได้กว่า 779.2 เมกกะวัตต์ ถือเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย  และเอเชียอาคเนย์ และใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก เลยทีเดียวตาก 4 ตาก 5ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อเป็นการถวายพระอาลัย และรำลึกถึงพระองค์ท่าน จังหวัดตาก โดย ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนภูมิพล (ท่านผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงร่วมกันจัดงานยิ่งใหญ่ ‘รวมใจภักดิ์ รักพ่อ สานต่อ ปณิธาน’ ระหว่างวันที่ 28-30 มกราคม 2560 อันเป็นช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย
ตาก 6ในยามค่ำของวันที่ 28 มกราคม 2560 มีพิธีแสดงความรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ด้วยการจุดเทียนชัย และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญถวายพระองค์ท่าน พระผู้เป็นที่รักของปวงชนชาวไทย และจะทรงสถิตอยู่ในใจเราตลอดไป
ตาก 7บรรยากาศการจุดเทียนชัย ในงาน ‘รวมใจภักดิ์ รักพ่อ สานต่อ ปณิธาน’ เหนือสันเขื่อนภูมิพล เป็นไปด้วยความซาบซึ้งตรึงใจ บางท่านถึงขนาดน้ำตาคลอด้วยความปลาบปลื้มตาก 8 ตาก 9 ตาก 10ไฮไลท์ของงานนี้ คือการร่วกันรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์ อันแสนไพเราะและซาบซึ้ง จากวงดุริยางค์ทหารเรือ ซึ่งยกทัพนักดนตรีกันมานับร้อยชีวิตตาก 11 ตาก 12ขอบรรเลงเพลงนี้ เพื่อถวายพระองค์ท่าน พระผู้ทรงสถิตอยู่บนสวรรคาลัย
ตาก 13 ตาก 14 ตาก 15นอกจากนี้ ในงานยังมีการแสดงหลายชุด ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันให้ชม ตั้งแต่วันที่ 28-30 มกราคม 2560 ทุกชุดล้วนน่าตื่นตาตื่นใจ และบ่งบอกถึงความรักที่ชาวจังหวัดตาก มีต่อพ่อหลวง และพร้อมสานต่อคำสอนของพระองค์ท่าน ด้วยการทำดีต่อไปไม่สิ้นสุดตาก 16 ตาก 17 ตาก 18เมื่อรับชมดนตรีไพเราะในยามค่ำกันอย่างซาบซึ้งแล้ว ในรุ่งเช้าของวันถัดไป หากใครมีเวลาเหลือ สิ่งที่ห้ามพลาดเด็ดขาดคือ การเดินเที่ยวชมวิวสวยๆ พร้อมกับสูดอากาศสดชื่นเย็นสบายบนสันเขื่อนภูมิพลในยามเช้า มองออกไปจะเห็นทะเลสาบสีฟ้าครามกว้างไกลสุดสายตาเหนือสันเขื่อน พร้อมด้วยเกาะต่างๆ มีเรือและแพนักท่องเที่ยวที่แล่นออกไปหาความสำราญกันได้ทั้ง 365 วันตาก 19บริเวณท่าเรือของเขื่อนภูมิพล มีจุดลงแพและเรือหางยาว เพื่อการล่องเข้าไปเที่ยวชมทัศนียภาพได้ ทั้งแบบสองสามชั่วโมง เป็น One Day Trip หรือจะไปค้างคืนในแพกลางเขื่อนเลยก็ได้ หรือถ้าใครมีเวลามากหน่อย แพสามารถแล่นไปได้จนถึงบริเวณทะเลสาบดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ เลยล่ะตาก 20 ตาก 21 ตาก 22การล่องแพค้างคืนในเขื่อนภูมิพล เป็นกิจกรรมยอดฮิตอย่างหนึ่ง เพราะด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ มองเห็นเทือกเขาโดยรอบ อีกทั้งอากาศเย็นสบายจากผืนน้ำสร้างความชุ่มฉ่ำให้กับจิตใจ เป็นการท่องเที่ยวแบบ Slow Life ที่น่าไปสัมผัสอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่ฟ้าแจ่มใส หรือในฤดูร้อนก็จะผ่อนคลายกายใจได้ดีเยี่ยมตาก 23สำหรับการล่องเรือหางยาวเที่ยว ระยะเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่า การไปเที่ยวที่ ‘เขาหน่อ’ หรือเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนบนสุดเป็นยอดเขาหินปูนตะปุ่มตะป่ำรูปทรงแปลกตา แถมยังมีวัดเขาหน่ออยู่ด้านบนด้วย เห็นแล้ว Amazing ไม่น้อยเลยตาก 24บนเขาหน่อมีพระเจดีย์ขนาดใหญ่อยู่ 3 กลุ่ม พร้อมด้วยรอยพระพุทธบาทจำลองให้ผู้ศรัทธาได้กราบไหว้ตาก 25เดิมบริเวณเขาหน่อตรงนี้ คือจุดที่แม่น้ำปิงสายเดิมเคยไหลผ่าน ก่อนที่จะมีการกั้นลำน้ำเพื่อสร้างเขื่อนภูมิพลจนน้ำเอ่อท้นท่วมขึ้นมาตาก 26เมื่อจอดเรือหางยาวแล้ว ก็ต้องออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อขา เดินขึ้นบันไดชิลชิลแค่ 300 ขั้น ขึ้นสู่ยอดเขาหน่อ ขอบอกว่าไม่ต้องรีบ เพราะเรือหางยาวเขารอแน่นอน ไม่ทิ้งเราไปไหน ค่อยๆ เดิน ค่อยๆ หยุดถ่ายภาพชมวิวไปเป็นระยะๆ และขอแนะนำให้พกน้ำขวดเล็กๆ ขึ้นไปด้วย เพราะบนยอดเขาไม่มีน้ำขายนะจ๊ะตาก 27ถึงแล้ว ยอดเขาหน่อ โชคดีมาเที่ยวในฤดูหนาว จึงมองเห็นต้นไม้ต่างๆ เริ่มผลัดใบสีสันสดใส เพื่อเตรียมพักตัวเข้าฤดูแล้ง จากบนยอดเขานี้สามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำ ผืนป่า ทิวเขา และองค์พระเจดีย์ เรียงรายอยู่ในตำแหน่งสวยงามลงตัว ถ้าไม่เดินขึ้นมาคงเสียดายแย่!ตาก 28จากยอดเขาหน่อ มองลงไปในทะเลสาบเหนือเขื่อนภูมิพล แลเห็นแสงแดดอุ่นๆ ของยามเช้าสะท้อนผิวน้ำเต้นเป็นประกายระยิบ สลับกับริ้วลายคลื่นน้ำไล่โทนสีไปมา ราวกับภาพศิลปะชั้นเลิศตาก 29ความงามของวิวทะเลสาบเขื่อนภูมิพล มองจากยอดเขาหน่อไปทางทิศตะวันตกตาก 30บนยอดเขาหน่อมีทางเดินลาดปูนอย่างดี เชื่อมต่อองค์พระเจดีย์ทั้ง 3 กลุ่ม เข้าด้วยกันตาก 31ตาก 32เสาอโศกบนยอดเขาหน่อ บ่งบอกถึงพระพุทธศาสนาที่ตั้งมั่นอยู่ในดินแดนนี้ และสร้างสิริมงคลแด่เขื่อนภูมิพลตลอดไปตาก 33รอยพระพุทธบาทจำลองบนยอดเขาหน่อ แม้มีขนาดไม่ใหญ่โตนัก แต่ก็งดงาม และสะท้อนถึงความศรัทธาของผู้คนได้เป็นอย่างดีตาก 34หลังจากฟังเพลงพระราชนิพนธ์อันสุดแสนจะไพเราะ และล่องเรือเที่ยวเขื่อนภูมิพลกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางออกเที่ยวชมความมหัศจรรย์อันหลากหลาย ของจังหวัดตากไปที่ ‘อุทยานแห่งชาติไม้กลายเป็นหิน’ อำเภอบ้านตาก อุทยานแห่งชาติใหม่เอี่ยมถอดด้ามของไทย ที่เพิ่งได้รับการยกฐานจะ ‘วนอุทยาน’ มาเป็น ‘อุทยานแห่งชาติ’ เมื่อ 1 ปีที่แล้วนี้เอง โดยความเจ๋งของที่นี่ คือมีการขุดพบซากฟอสซิลต้นไม้กลายเป็นหิน ขนาดยาวที่สุดในเมืองไทยและในโลก! คือซากฟอสซิลคล้ายต้นทองบึ้ง ที่ยาวถึง 72.22 เมตรตาก 35ก่อนไปชมไม้กลายเป็นหินของจริง ก็ควรเข้าไปที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Visitor Center) ก่อน เพื่อศึกษาว่าต้นไม้กลายเป็นหินได้อย่างไร อธิบายง่ายๆ คือ ในบริเวณนี้เมื่อ 800,000 ปีก่อน เคยเป็นป่าดงดิบ แต่เกิดอุทกภัยใหญ่ ต้นไม้เหล่านี้จึงล้มลง แล้วถูกโคลนตะกอนทับถมทันที มันจึงไม่เน่าเปื่อยสลายไป ประกอบกับบริเวณนี้มีมีสารซิลิก้าเข้มข้นอยู่ในดิน สารนี้จึงค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในเนื้อไม้ คือเมื่อซิลิก้าเข้าแทนที่เซลลูโลสหรือเนื้อไม้ ในที่สุดจึงเกิดไม้กลายเป็นหินขึ้น บางต้นอยู่ลึกสภาพจึงสมบูรณ์ ผิดกับบางต้นที่อยู่ใกล้ผิวดิน ก็จะแตกสลายมากกว่าตาก 36หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไม้กลายเป็นหิน นำคณะนักท่องเที่ยวและผู้ศึกษาดูงาน เข้าชมจุดที่ขุดค้นพบซากฟอสซิลไม้กลายเป็นหิน ซึ่งปัจจุบันกรมทรัพยากรธรณีได้เข้ามามีส่วนร่วมบูรณะ จัดภูมิทัศน์ และรักษาสภาพไม้กลายเป็นหินไม่ให้ถูกแดดลมจนเสื่อมสภาพไป ในอนาคตเราหวังว่า อุทยานแห่งชาติไม้กลายเป็นหิน คงจะได้รับการประกาศให้เป็น ‘อุทยานธรณี’ หรือ Geo Park โดยองค์การ UNESCOตาก 37ปัจจุบันนี้มีการขุดค้นและเปิดให้ชมไม้กลายเป็นหินได้แล้ว 7 ต้น เป็นต้นไม้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ ต้นทองบึ้ง และ ต้นมะค่าโมง ในยุคปัจจุบัน โดยทั้งหมดนั้น มีอายุกว่า 800,000 ปี!
ตาก 38ไม้กลายเป็นหินถือเป็นฟอสซิล หรือซากโบราณคดีทางธรณีวิทยาบรรพกาลที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง นับเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติ ที่เราต้องช่วยกันปกปักรักษา และทำให้จุดนี้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาระดับโลกตาก 39ซากฟอสซิลไม้กลายเป็นหิน ต้นนี้คือต้นทองบึ้ง ที่ยาวกว่า 70 เมตรตาก 40จุดชมต้นไม้กลายเป็นหินทั้ง 7 ต้น ที่เปิดให้ชมแล้ว มีการสร้าง Walk Board หรือสะพานไม้ยกระดับเตี้ยๆ เชื่อมต่อถึงกันในต้นที่ 1-4 ผ่านป่าเต็งรังอุดมสมบูรณ์ ได้ศึกษาพรรณมไม้ นก และผีเสื้อสวยๆ หลายชนิด ส่วนไม้กลายเป็นหินต้นที่ 5-7 ต้องนั่งรถยนต์ไปชม เพราะตั้งอยู่ห่างออกไปจากจุดนี้ตาก 41พรรณไม้ในป่าเต็งรังเร่ิมผลัดใบสีสันสดใสในปลายฤดูแล้งตาก 42จากความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ เราลองมาสัมผัสเรื่องราวของประวัติศาสตร์และศาสนากันบ้าง จุดแรกที่แนะนำคือ ‘ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน’ ในอำเภอเมืองตาก ตั้งอยู่ไม่ห่างจากสำนักงาน ททท. สำนักงานตาก มากนัก ศาลแห่งนี้ประชาชนชาวเมืองตากช่วยกันสร้างขึ้นอย่างสมพระเกียรติ ถวายแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระมหากษัตริย์นักรบไทยในสมัยกรุงธนบุรี ผู้ทรงกอบกู้เอกราชไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ให้แก่พม่า ตัวศาลสร้างเป็นทรงไทยยุครัตนโกสินทร์ ภายนอกโดยรอบมีการนำรูปปั้นช้าง ม้า และไก่ จำนวนนับพันๆ ตัว มาถวายสักการะแด่พระองค์ท่านตาก 43ภายในศาล มีรูปหล่อพระบรมรูปของพระองค์ท่านในพระอิริยาบถประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา ที่ฐานพระบรมรูปมีคำจารึกว่า ‘พระเจ้าตากสินกรุงธนบุรี ทรงพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2277 สวรรคต พ.ศ. 2325 รวม 48 พรรษา’ตาก 44ส่วนบนเพดานและผนังภายในศาล มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม แสดงเหตุการณ์สำคัญๆ ในรัชสมัยของพระองค์ท่าน เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณตาก 45สถานที่ต่อไปที่น่าไปเยือนก็คือ ‘วัดชลประทานรังสรรค์’ อำเภอสามเงา เหตุที่ชื่อวัดเป็นอย่างนี้ ก็เพราะสร้างขึ้นโดยกรมชลประทาน คือหลังจากมีการเริ่มสร้างเขื่อนยันฮี (เขื่อนภูมิพล) เมื่อ พ.ศ. 2501 น้ำก็เริ่มเอ่อท่วมบริเวณหมู่บ้านและวัดที่เคยมีชาวบ้านอาศัยอยู่ กรมชลประทานจึงช่วยอพยพชาวบ้านขึ้นมาอยู่ ณ ตำแหน่งปัจจุบัน พร้อมกับสร้างวัดชลประทานรังสรรค์ขึ้น โดยเป็นการรวมเอาวัดที่ถูกน้ำท่วม 8 วัด เข้ามาในวัดเดียวกัน คือ วัดดอนแก้ว, วัดศรีแท่น, วัดหลวง, วัดบ้านท่าเดื่อ, วัดท่าโปร่ง, วัดบ้านห้วย, วัดอมวาบ และวัดพระบรมธาตุลอยตาก 46พระบรมธาตุลอย คือจุดเด่นอย่างหนึ่งของวัดชลประทานรังสรรค์ เพราะเป็นพระเจดีย์สีทองอร่าม น่าเลื่อมใส โดยเป็นพระเจดีย์องค์ใหม่ที่สร้างทับองค์เก่าในแบบล้านนา ให้มีความคล้ายคลึงองค์เก่ามากที่สุด พระเจดีย์องค์นี้ส่วนยอดฉัตรหุ้มทองคำหนักถึง 39 บาท สูง 27.50 เมตร ใช้อิฐในการก่อสร้างทั้งหมด 1,273,400 ก้อน พร้อมกับหุ้มแผ่นทองจังโกไว้อย่างงดงาม นับเป็นอัญมณีชิ้นเอกทางพุทธศาสนาแห่งเมืองตากตาก 47ภายในโบสถ์ของวัดชลประทานรังสรรค์ ประดิษฐาน ‘พระเจ้าทันใจ 3 พี่น้อง’ อันหาได้ยากยิ่งบนแผ่นดินสยาม โดยเฉพาะในด้านความศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อกันกว่าเมื่อไปกราบไหว้ขอสิ่งใดจากท่าน ก็จะได้สิ่งนั้นสมปรารถนาอย่างรวดเร็วดังใจหวัง (แต่ก็ต้องเป็นสิ่งที่ไม่เกินจริงนะ ฮาฮาฮา)ตาก 48พระเจ้าทันใจทั้ง 3 องค์นี้ มีมาตั้งแต่ก่อนสร้างเขื่อนภูมิพลแล้ว หล่อด้วยทองลงหินปางมารวิชัย องค์ใหญ่หน้าตักกว้าง 19 นิ้ว สูง 32 นิ้ว, องค์กลาง หน้าตักกว้าง 16 นิ้ว สูง 31 นิ้ว และองค์เล็กสุด หน้าตักกว้าง 9 นิ้ว สูง 13 นิ้ว ทั้ง 3 องค์เป็นศิลปะแบบเชียงแสนตาก 49จากวัดชลประทานรังสรรค์ เราสามารถนั่งรถต่อไปสู่ ‘วัดพระบรมธาตุ’ ในอำเภอบ้านตากได้อย่างสบาย เพราะถนนหนทางของจังหวัดตากทุกวันนี้เขาดีมากๆ เมื่อได้เห็นความงดงามอลังการของวัดพระบรมธาตุ ถึงกับทำให้ตกตะลึงไปชั่วขณะ ด้วยศิลปกรรมอันงดงามอลังการ จำลองย่อส่วนพระมหาเจดีย์ชเวดากองในพม่ามาไว้บนแผ่นดินสยามได้อย่างสมศักดิ์ศรี ตาก 50

เดิมวัดพระบรมธาตุเป็นเมืองตากเก่า ก่อนที่จะมีการย้ายตัวเมืองไปอยู่ที่ตำบลระแหง (ตัวเมืองตากปัจจุบัน) ซึ่งห่างออกไปทางทิศใต้ราวๆ 30 กิโลเมตร อันมีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีล่องเรือเสด็จไปเมืองลำพูน ทรงหยุดพักบริเวณแห่งนี้ พบว่าเป็นเมืองร้าง ทรงรับสั่งให้ฟื้นฟูบูรณะเมืองนี้ใหม่จนกลายเป็นชุมชนเมืองตาก นอกจากนี้ในบริเวณวัดพระบรมธาตุบ้านตาก ยังมีการขุดพบศิลาจารึพ่อขุนรามคำแหง ที่ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะศึกเจ้าเมืองฉอดบนเนินเขาใกล้กับพระบรมธาตุ ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร ด้วย

ตาก 51เจดีย์ยุทธหัตถีทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ศิลปะสุโขทัยปลายพุทธศตวรรษที่ 19-21
ตาก 52สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงเสด็จมาที่พระเจดีย์แห่งนี้ แล้วทรงมีพระราชวินิจฉัยเบื้องต้นว่า น่าจะเป็นพระเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในการที่พ่อขุนรามคำแหงทรงชนช้างชนะพ่อขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด ตามที่มีเรื่องราวจารึกไว้ในศิลาจารึกสุโขทัย หลักที่ 1
ตาก 53ตระเวนเที่ยวตากกันมาก็หลายที่ ตอนนี้ท้องชักจะเร่ิมหิว ได้เวลาขับรถชิลชิลข้ามแม่น้ำปิงกลับเข้าตัวเมือง พอดีในช่วงปลายฤดูหนาว เมื่อลำน้ำปิงลดระดับลง ก็จะเกิดเกาะกลางน้ำที่เกิดจากตะกอนอันอุดมสมบูรณ์ทับถม แต่ชาวตากเขาทำเก๋ ไม่ปล่อยให้ที่ดินสูญเปล่า ชวนกันเพิ่มคุณค่าด้วยการปลูกดอกไม้สวยๆ บนเกาะกลางน้ำ จนกลายเป็น Landmark น่ารักๆ และ Photo Point มุมมองใหม่เมืองตากวันนี้ตาก 54เกาะดอกไม้กลางน้ำแห่งจังหวัดตาก น่ารักเหลือเกิน!ตาก 55ร้านแรกที่เราจะพาไปชิม ขอบอกว่าต้องถูกใจวันรุ่น GEN Y อย่างแน่นอน ชื่อร้าน ‘เถียงนา’ Coffee and Bakery Farm อยู่ในอำเภอเมืองตาก (โทร. 08-4328-3883, 08-6778-0130)ตาก 56ร้านเถียงนา coffee and Bakery Farm เป็นการผสมผสานความน่ารักเก๋ไก๋ของนาข้าวแบบวิถีไทย, แปลงผักปลอดสารพิษ และความโมเดิร์นของร้านเบเกอร์รี่น่ารักๆ ได้ลงตัวอย่างที่สุดตาก 57ร้านนี้ไม่ได้มีแต่เบเกอร์รี่สไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ ให้ชิมเท่านั้น แต่ยังมีอาหารหลักอร่อยๆ รสชาติไม่ธรรมดาให้ชิมด้วย มีทั้งโซน Outdoor รับลมธรรมชาติ และโซน Indoor ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ ให้นั่งชิลได้นานๆตาก 58ลองชิมครัวซองเนยสด กับครัวซองส้ม ที่เนื้อนุ่มกำลังดี หอมมาก ทานคู่กับช็อกโกแลตร้อนหรือเย็น ส่วนคนที่รักสุขภาพอาจสั่งน้ำแครอทหรือน้ำผักเย็นๆ มาด้วย เข้ากั้นเข้ากัน
ตาก 59เมนูหลักอย่างหนึ่งที่ถือเป็น Signature ของร้านนี้ คือ ข้าวกล้องปลาแซลมอนทอดกระเทียม ราดน้ำยำแบบไทยๆ เป็นเมนู East Meet West ที่อร่อยได้เรื่องเลยล่ะ ฮาฮาฮาตาก 60แต่ถ้าใครอยากอุดหนุนอาหารพื้นบ้านของตาก ก็ต้องไม่พลาดชิมเมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวหมูแดงร้านแม่บางหัวเดียด (โทร. 08-6928-5876) และ ร้านป้ามะลิ (โทร. 08-6737-8157) ตรงถนนเส้นเลียบแม่น้ำปิง ในอำเภอเมืองตาก โดยทั้งสองร้านนี้เป็นร้านเก่าร้านดัง ลักษณะเป็นก๋วยเตี๋ยวโบราณ ที่ใส่เครื่องเยอะ โดยเฉพาะหมูสับ กากหมู ถั่วงอก ถั่วฝักยาว และหมูแดง ส่วนเส้นก็มีครบทุกแบบให้ชิม ถ้าใครสั่งต้มยำจะได้ชิมความเข้มข้นของน้ำที่ซดคล่องคอ นั่งชิมไปมองสายน้ำปิงไหลเอื่อยๆ แหม มีความสุขเกินร้อยจริงๆ ครับ มาเที่ยวตากทริปนี้LOGO TATSpecial Thanks : ขอขอบคุณ คุณธมลวรรณ เรืองขจร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตาก สนับสนุนการเดินทางไปจัดทำสารคดีเรื่องนี้อย่างดียิ่ง สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานตาก โทร. 0-5551-4341 -3

มหกรรมเปิดโลกธรณีวิทยาเพื่อการท่องเที่ยว ครั้งที่ 1

_IND7830

เชิญทุกท่านร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการท่องเที่ยววิถีไทย ในงานมหกรรมการท่องเที่ยวที่ บูรณาการแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาเข้ากับเทคโนโลยีสุดล้า ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๒๕ – ๒๙ มกราคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๔.๐๐ – ๒๒.๐๐ น.

โดยวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๗.๐๐ น. นายทศพร นุชอนงค์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดงานเที่ยวท่ัวไทยประจาปี ๒๕๖๐ ในโซน ‘งานมหกรรมเปิดโลกธรณีวิทยาเพื่อการท่องเที่ยว คร้ังที่ ๑’ ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมฟรี ผู้เข้าร่วมงานสามารถเดินทาง ด้วยรถประจาทาง รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสีลม รถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง

_IND7837

ทางกรมทรัพยากรธรณีในฐานะผู้จัดงาน มีวัตถุประสงค์ในการจัดงาน “มหกรรมเปิดโลกธรณีวิทยา เพื่ออการท่องเที่ยว ครั้งที่ ๑ กรุงเทพมหานคร ณ สวนลุมพินี” ภายใต้คอนเซป “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” ของงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ๒๕๖๐ เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงวิชาการภายในพื้นที่ศักยภาพ อุทยานธรณี รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมให้เป็นท่ีรู้จักโดยท่ัวไปผ่านการจัดนิทรรศการในระดับประเทศ ซึ่ จะทำให้แหล่งธรณีวิทยาดังกล่าวที่อยู่ในพื้นที่ศักยภาพอุทยานธรณีกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของประเทศ นำไปสู่วงรอบของการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพท่ีสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่น

_IND7851

มหกรรมเปิดโลกธรณีวิทยาเพื่อการท่องเที่ยวในปีนี้จัดขึ้นเป็นคร้ังแรก ภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมสุดพิเศษมากมายทั้งชม ช๊อป สินค้าของที่ระลึกทางธรณีวิทยา, ร่วมสนุกไปกับโซนระบายสีไดโนเสาร์ ผ่าน เทคโนโลยี Interactive Painting, เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่จะเชื่อมต่อความรู้สึกของท่านกับ สถานที่จริง “อุทยานธรณี (Geopark)” แบบ ๓๖๐ องศา ผ่านเทคโนโลยี Visual Reality, ร่วมเรียนรู้ไปกับโซน พิพิธภัณฑ์ธรณีประเทศไทย ที่จะแนะนาแหล่งท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ธรณีทั้ง 7 แห่งในประเทศไทย, ตื่นตาตื่นใจไปกับรถไฟ ทะลุมิติข้ามจักวาลแห่งกาลเวลาไปชมป่าดึกดาบรรพ์ในยุคอดีตกาล พร้อมกันนั้นยังขอเชิญท่านสนุกสนานไปกับการ ขุดหาฟอสซิลรูปแบบใหม่ท่ีจะทาให้ผู้เข้าชมตื่นตาตื่นใจ ในกระบะทรายสุดล้ำผ่านเทคโนโลยี Interactive Sandbox รวมไปถึงโซนเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทางกรมทรัพยากรธรณีจึงอยากขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานครั้งนี้

IMG_6473 _IND7859 _IND7863ภายในงานนี้ เราจะได้สัมผัสกับไดโนเสาร์ไทย ที่มีการสำรวจพบชนิดใหม่สกุลใหม่ถึง 9 สายพันธุ์ อาทิเช่นIMG_6465 IMG_6466 IMG_6467 IMG_6468 IMG_6469 IMG_6470 IMG_6471 IMG_6472สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กรมทรัพยากรธรณี โทร. : ๐-๒๖๒๑-๙๖๐๑ ต่อ ๐๕  เว็บไซต์ www.dmr.go.th

_IND7869

มหาลาภ ลาบยโสธรแท้ แซ่บนัวเด้อ!

_IND7774 _IND7784ปีนี้งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2560 ที่สวนลุมพินี ระหว่างวันที่ 25-29 มกราคม 2560 คึกคักกว่าทุกปี โดยเฉพาะในโซนอาหารแซ่บนัวของภาคอีสาน เพราะมีอาหารอร่อยๆ ให้ชิมเพียบ

หนึ่งในนั้นคือลาบจากจังหวัดยโสธรแท้ๆ รสชาติดั้งเดิม ‘ร้านแม่อ้อมลาบเป็ด’ หรือ ‘ร้านมหาลาภ’ ในบูธที่ NEF 16 ณ ลานแซ่บนัว (โทร. 08-3734-2658, 08-1318-3561)
ยโสธร บ้านกว้าง ท่าเยี่ยม 48ลองมาชิม ลาบยโสธรแท้ๆ ที่ต้องใช้คำว่า ‘นัว’ เพราะรสชาติกลมกล่อม ไม่มีรสใดโดดขึ้นมากว่ารสอื่น อีกทั้งเนื้อเป็ดที่ใช้ยังเป็นเป็ดบ้านที่เหนียวนุ่ม เลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติ

พลาดไม่ได้ต้องชิม ‘เมนูมหาลาภ’ ประกอบด้วยลาบ 5 อย่าง คือ ลาบเป็ด, ลาบหมู, ลาบปลา, ลาบเห็ด และลาบไข่ ซึ่งลาบไข่เป็นเมนูพิเศษที่เพิ่งคิดค้นขึ้นใหม่ ให้ลองชิมกันในงานนี้เลย ชิมแล้วนอกจากอร่อย ยังได้ความมงคลจากชื่อมหาลาภด้วยนะจ๊ะยโสธร บ้านกว้าง ท่าเยี่ยม 49 ยโสธร บ้านกว้าง ท่าเยี่ยม 50_IND3946_IND7777สำหรับราคาขายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2560 มหาลาภลดพิเศษเหลือเมนูละ 60 บาทเท่านั้น ส่วนคนที่พลาดชิม ก็ไม่เป็นไร ตามไปกินได้ที่ร้านแม่อ้อมลาบเป็ด ในราคาย่อมเยาเพียง เมนูละ 70 บาทเท่านั้นจ้า_IND7792 _IND7804ลูกค้าเข้าร้านตลอดวัน เพราะอยากชิมว่าลาบยโสธรแท้ๆ รสชาติจะเป็นอย่างไรนะ_IND7822แม้แต่พี่ฝรั่ง ก็ยังชื่นชอบลาบยโสธรเลยจ้า_IND7826รีบมาเลย ที่ลานแซ่บนัวภาคอีสาน งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2560 จ้า_IND7782 _PPL8937ส่วนใครที่ยังติดใจในรสชาติ ‘มหาลาภ’ ก็ต้องตามไปกินให้ถึงที่ บ้านกว้าง-ท่าเยี่ยม อำเภอเมือง จ.ยโสธร ‘ร้านแม่อ้อมลาบเป็ด’ เป็นที่รู้จัก ขึ้นชื่อลือชาในรสชาติมานานแล้ว

แถมยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้เชิงวิถีชุมชนน่ารักๆ ที่โดดเด่นทั้งในแง่วิถีข้าว และการทำบั้งไฟยโสธร บ้านกว้าง ท่าเยี่ยม 4ไปร่วมแห่บังไฟที่วัดบ้านกว้าง ท่าเยี่ยม จ.ยโสธร กับชาวบ้านน่ารักๆ เปี่ยมน้ำใจไมตรียโสธร บ้านกว้าง ท่าเยี่ยม 13บั้งไฟบ้านกว้างท่าเยี่ยมยโสธร บ้านกว้าง ท่าเยี่ยม 15ในช่วงฤดูทำนา จะมีพิธีทำขวัญข้าว บูชาพระแม่โพสพ ให้ชมด้วยยโสธร บ้านกว้าง ท่าเยี่ยม 23ความสงบงาม แบบ Slow Life ของผืนนาเขียวขจี ที่บ้านกว้าง ท่าเยี่ยม จ.ยโสธรยโสธร บ้านกว้าง ท่าเยี่ยม 45วิถีชาวบ้านอีสาน ณ บ้านกว้าง ท่าเยี่ยม ยังยึดถือฮีต 12 คอง 14 อย่างเหนียวแน่น น่าชื่นชม_IND7781อย่าลืม! ‘ร้านแม่อ้อมลาบเป็ด’ หรือ ‘ร้านมหาลาภ’ จ.ยโสธร โทร. 08-3734-2658, 08-1318-3561_IND7786

ร่วมยินดี สมาคม TEATA ได้นายกสมาคมท่านใหม่

TEATA 1เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2560 สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) หรือ The Ecotourism & Adventure Travel Association หรือ TEATA ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2559 ณ ห้องประชุมชั้น 5 โรงแรมใบหยกสวีท ประตูน้ำ โดยเป็นการรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา รวมทั้งเพื่อเลือกตั้งนายกสมาคม และคณะทำงานชุดใหม่ ตามที่ชุดเก่าได้หมดวาระลง

เว็บไซต์ Shutter Explorer ขอแสดงความยินดีกับ คุณนีรชา วงศ์มาศา นายกสมาคม TEATA ท่านใหม่ ซึ่งได้รับเลือกและเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 18 มกราคม 2560TEATA 3สมาคม TEATA เป็นสมาคมที่ทำงานโดยไม่หวังผลกำไร ถือเป็นหนึ่งในสมาคมที่ทำงานด้านการท่องเที่ยว ซึ่งมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ ทั้งในแง่วิชาการ การอนุรักษ์ การผจญภัย และการทำงานกับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันสมาคมมีอายุครบ 20 ปีแล้ว ได้ร่วมงานกับหน่วยงานใหญ่ๆ ระดับประเทศหลายองค์กร อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ อพท. ฯลฯ ก่อให้เกิดเครือข่ายคนทำงานด้านการท่องเที่ยวแบบสร้างสรรค์ ไม่จำกัดอยู่เฉพาะในเมืองไทย ทว่า TEATA ได้ก้าวออกสู่เวทีโลกในหลายประเทศ เพื่อสร้างเครือข่าย และนำองค์ความรู้ใหม่ๆ มาพัฒนาการท่องเที่ยวไทยด้วยTEATA 4 ผลการเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคม TEATA ชุดใหม่ ปี 2560-2562 มีดังนี้คือ

1. คุณนีรชา วงศ์มาศา นายกสมาคม

2. คุณศรีพิจิตต์ เติมชัยเจริญศักดิ์ อุปนายก 1 (องค์กรสัมพันธ์)

3. คุณวันชัย สุวัฒน์ศิริพล อุปนายก 2 (วิชาการ)

4. คุณวสุมน เนตรกิจเจริญ อุปนายก 3 (ตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศ)

5. คุณชัชวาล ศูรางกูล อุปนายก 4 (ตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ)

6. คุณปาริชาต สุนทรารักษ์ (เลขาธิการสมาคม)

7. คุณสุวิมล งามศรีวิโรจน์ (เหรัญญิก)

8. คุณสราวุทธ์ เกวียกกุทัณฑ์ (นายทะเบียน)

9. คุณกฤติกา ผิวเกลี้ยง (ปฏิคม)

10. คุณบูรณาการ จตุพรไพศาล (ประชาสัมพันธ์)

11. คุณชฎาทิพย์ สุวัฒน์ศิริผล (กรรมการกลาง)

12. คุณกิติชัย ศรีประภานุรัตน์ (กรรมการกลาง)

13. คุณเผ่าพิพัธ เจริญพักตร์ (กรรมการกลาง)

14. คุณฐาปณี ณ พัทลุง (กรรมการกลาง)

15. คุณณัฐวัฒน์ วัฒนาประสิทธิ์ (กรรมการกลาง)

TEATA 5

สำหรับที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ของสมาคม TEATA ได้แก่

  1. คุณดวงกมล จันสุริยวงศ์
  2. คุณสุมิตรา มัทธุรนนท์
  3. คุณสุภาภรณ์ ปราชญ์อำไพ
  4. คุณอุดม ชิดนายี
  5. คุณอรนุช ผการัตน์
  6. คุณสุภาวดี ฤตวิรุฬห์TEATA 6 TEATA 7ในการประชุมครั้งนี้ ดร.วีรศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธาน สสปน. (สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ) ได้ให้เกียรติมาบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘เทรนด์การท่องเที่ยวโลก และการท่องเที่ยวในประเทศไทย’TEATA 8ดร.วีรศักดิ์ โควสุรัตน์ ได้บรรยายให้ความรู้และแนวคิดที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ทั้งในด้านนักท่องเที่ยว (Demand Side) และผู้ประกอบการ (Supply Side) เช่น ในอนาคตการท่องเที่ยวไทยต้องเน้นสินค้าและบริการคุณภาพ, ต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบ Serious Bussiness Traveller มากขึ้น เพราะคนกลุ่มนี้แม้จะเดินทางเข้ามาประชุม สัมมนา แต่ก็มีช่วงเวลาที่ท่องเที่ยวด้วย, การท่องเที่ยวจะต้องนำไปสู่ การเข้าถึงเชิงประสบการณ์กับชุมชน เพราะชุมชนคือชีวิต หรือ Community is Life, แนวโน้มการท่องเที่ยวต่อจากนี้ จะกลายเป็นแบบ Exotic Traveller มากขึ้น หมายถึง นักท่องเที่ยวจะค้นหาจุดหมายปลายทางแปลกใหม่ ซึ่งไม่ใครมีเคยเห็น หรือไปถึงมาก่อน เป็นต้น แต่ทั้งหมดนี้ ประเทศไทยต้องมีความพร้อมในการต้อนรับ และจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยความยั่งยืนนั้น แท้จริงแล้วคือ ‘ชุมชนยั่งยืน’ นั่นเอง

นอกจากนี้ ในอนาคตประเทศไทยสามารถสร้างสินค้าทางการตลาดท่องเที่ยวที่ยั่งยืน มีเอกลักษณ์ สร้างรายได้ และสร้างความภาคภูมิใจในตัวเองให้กับคนท้องถิ่นได้ ด้วยหลัก 5F คือ Food (อาหารท้องถิ่นไทย), Fruit (ผลไม้เมืองร้อนของไทย), Film (ภาพยนตร์และเพลงไทย), Fighting (มวยไทย) และ Festival (เทศกาลงานประเพณีไทย)TEATA 9คุณนีรชา วงศ์มาศา นายกสมาคม TEATA ท่านใหม่ มอบของที่ระลึกให้กับ ดร.วีรศักดิ์ โควสุรัตน์ หลังจากบรรยายเสร็จเรียบร้อยแล้วTEATA 10 TEATA 11คุณยุวดี นิรัตน์ตระกูล จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เกียรติมาบรรยายพิเศษ หัวข้อ ‘อนาคตการตลาดท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์’ โดยคุณยุวดีได้ให้แนวคิดที่น่าสนใจมากมาย อาทิ นับแต่นี้ต่อไป ผู้ประกอบการการท่องเที่ยว หรือฝั่ง Supply Side จำเป็นที่จะต้องปรับทัศนคติของตนเองในการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคน GEN Y (คนอายุ 18-35 ปี) เช่น การใช้คำโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางการท่องเที่ยว จะมีคำว่า Culture (วัฒนธรรม), Responsible (ความรับผิดชอบ), Local Community (ชุมชนท้องถิ่น), Eco Friendly (เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม), Volunteer (อาสาสมัคร หรือจิตอาสา), Experience & Learning (ประสบการณ์ และการเรียนรู้), Ordinary (ความเป็นธรรมดาสามัญ), Minimal (ความต้องการปริมาณต่ำ), Bleasure (การเดินทางมาพักผ่อน และทำธุรกิจไปพร้อมๆ กัน) ฯลฯ โดยคำทั้งหมดนี้ สะท้อนถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปนั่นเอง

คุณยุวดียังได้ให้ความรู้อีกว่า ในปี ค.ศ.2020 ประเทศไทยจะมีปริมาณนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 40-70 ล้านคน โดยในปัจจุบันไทยเราได้รายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มากเป็นอันดับ 6 ของโลก ทว่าในขณะเดียวกันเรากลับมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวเป็นอันดับ 35 ของโลก! ทั้งหมดนี้คือโจทย์ใหญ่ ที่เราต้องตั้งคำถามตัวเองว่า ประเทศไทยจะจัดวางตำแหน่งของตนเองไว้ ณ จุดใด จะเน้นการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ กับ Mass Tourism หรือจะเน้นไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจเฉพาะด้าน หรือ Niche Market มากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น เทรนด์การท่องเที่ยวของโลกกำลังมุ่งไปสู่ ‘การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ’ ทั้งสิ้นTEATA 12ในส่วนของ นายกสมาคม TEATA คนใหม่ คุณนีรชา วงศ์มาศา ได้แถลง วิสันทัศน์ (Vision)ในการดำเนินงานของสมาคมต่อจากนี้ คือ “พัฒนาต่อยอดจุดแข็งด้านวิชาการ ด้วยการตลาดเชิงรุก ให้ทันยุคสมัย มุ่งสู่การสร้างประโยชน์ต่อสมาชิก”

มุมมองและทิศทางของสมาคม คือ

  1. ก้าวสู่ระดับนานาชาติ
  2. ผู้นำด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
  3. สร้างเครือข่ายภายในและต่างประเทศ

ภารกิจ (Mission) หลักการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย คือ

  1. ผลักดันสมาชิกให้มีบทบาท ร่วมทำงาน ร่วมรับประโยชน์  (Win-Win)
  2. เผยแพร่ผลงานทางวิชาการให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับทั้งในและต่างประเทศ
  3. ส่งเสริมกิจกรรมและผลงานของสมาชิกสู่ตลาดในและต่างประเทศ ด้วยการตลาดเชิงรุก

TEATA 13 ท่านที่สนใจกิจกรรมด้านต่างๆ ของ สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) หรือ TEATA สามารถไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.teata.or.th
Logo TEATA

เที่ยวชิลสุขใจไป สุราษฎร์ธานี

BV712(1) อุทยานแห่งชาติเขาสก และล่องทะเลสาบเขื่อนเชี่ยวหลาน (เขื่อนรัชชประภา) มหัศจรรย์แห่งสุดยอดเทือกเขาหินปูนแดนใต้ ฉายา ‘กุ้ยหลินเมืองไทย’

BV701,702

BV705

_ONG4887 _ONG4896 _ONG4906 _ONG4917 ถ้ำน้ำทะลุ 1

BV706

_ONG4980 _ONG5025 บัวผุด เขาสก 2บัวผุด เขาสก 1 จักจั่นงวง 1

IslBG

(2) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ล่องเรือเที่ยวหมู่เกาะสวรรค์แห่งอ่าวไทย ชื่นชมทะเลใน ลากูนสีมรกตอันซ่อนเร้นกลางเกาะหินปูน

หมู่เกาะอ่างทอง 04 หมู่เกาะอ่างทอง 05หมู่เกาะอ่างทอง 06 หมู่เกาะอ่างทอง 02 หมู่เกาะอ่างทอง 07 อ่าวบ้านดอน 6(3) สินมานะ ฟาร์มสเตย์ โฮมสเตย์กลางทะเลอ่าวบ้านดอน  ล่องเรือไปนอนกลางฟาร์มหอยนางรมกลางทะเล ชิมหอยนางรมใหญ่เท่าฝ่ามือ สด รสอร่อยสุดยอด
อ่าวบ้านดอน 4_FUC5957 farm stay 20_FUC5976 _ONG4526 farm stay 5 farm stay 6 farm stay 9 สุดยอดหิ่งห้อย

(4) ล่องเรือยามค่ำแม่น้ำตาปี ตื่นตาอาณาจักรหิ่งห้อยแสนตัว เหมือนแสงดาวพร่างพราวกะพริบตลอดสองฝั่งน้ำ_FUC6103_ONG4772 _ONG4780 _ONG4809_ONG4442

(5) วิทยาลัยฝึกลิงสุราษฎร์ธานี ชมความน่ารักของลิงเก็บมะพร้าว ภูมิปัญญาและความผูกพันของคนกับสัตว์แสนรู้
_ONG4375 _ONG4407 _ONG4463_FUC5820

(6) วัดพระบรมธาตุไชยา ศูนย์รวมศรัทธาชาวสุาราษฎร์ธานี กราบขอพรพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ในอดีตดินแดนศูนย์กลางอาณาจักรศรีวิชัย_FUC5828 _ONG4070 _ONG4082 _ONG4100_ONG4146

(7) วัดสวนโมกขพลาราม ของท่านพุทธทาส หาเวลาไปเจริญสมาธิภาวนา ปฏิบัติธรรมให้จิตใจผ่องใส ภายในวัดป่าร่มรื่น เพื่อนำแก่นหลักธรรมมานำชีวิตลานหินโค้ง โบสถ์ของสวนโมก _ONG4159 _ONG4214 _ONG4241 ดวงตาเห็นธรรม ท่านพุทธทาส พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร โรงมหรสพทางวิญญาณ

พัทลุง เมืองน้อยน่ารักแห่งปักษ์ใต้

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b8-1เขาอกทะลุ คือภูเขาที่อยู่ในตราประจำจังหวัดพัทลุง เขาลูกนี้มีความสำคัญเพราะทำหน้าที่เป็นเหมือน Landmark เด่นในเทศบาลเมือง มองจากจุดใดก็เห็นเด่นชัด เขาลูกนี้สูงประมาณ 250 เมตร มีทางเดินป่าปีนเขาขึ้นไปชมวิวเมืองพัทลุงจากด้านบนได้ ความพิเศษคือมีโพรงหินปูนเป็นช่องทะลุ รูปร่างวงกลมขนาดใหญ่เหมือนยักษ์มาเจาะรูเอาไว้ ปู่ย่าตายายเขาแต่งนิทานอธิบายว่า อดีตมีพ่อค้าชื่อนายเมือง มีเมีย 2 คน ชื่อนางสินลาลุดีเป็นเมียหลวง และนางบุปผาเป็นเมียน้อย อยู่มาวันหนึ่งสองคนนี้ทะเลาะกัน นางสินลาลุดีกำลังทอผ้าอยู่จึงใช้ฟืมทอผ้าตีหัวนางบุปผาแตก ส่วนนางบุปผากำลังตำข้าว ก็ใช้สากเสียบอกอีกฝ่าย ตายด้วยกันทั้งคู่ นางสินลาลุดีจึงกลายเป็นเขาอกทะลุ และนางบุปผากลายเป็นเขาหัวแตก ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในเมืองพัทลุงมาตราบทุกวันนี้%e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2-1

ทะเลน้อย ชื่อนี้น้อยแต่ชื่อ ทว่าเมื่อได้ไปชมสถานที่จริงจะต้องตะลึง! เพราะมีทะเลบัวผืนใหญ่สุด ของภาคใต้ เนื้อที่กว่า 17,500 ไร่ กินอาณาเขตจังหวัดพัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช จริงๆ แล้วทะเลน้อยคือส่วนด้านบนสุดของทะเลหลวงและทะเลสาบสงขลา แต่ทะเลน้อยมีน้ำจืดสนิทตลอดปี จึงเกิดทะเลบัวแดงนับแสนๆ ดอกเบ่งบานในช่วงฤดูหนาว-ต้นฤดูร้อน ประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ไปล่องเรือเที่ยวชมอาณาจักรแห่งสรรพชีวิตในเวิ้งน้ำทะเลสาบกว้างกันตั้งแต่เช้าตรู่ ดูนกตื่นนอน เกี้ยวพาราสี ฟักไข่ เลี้ยงลูก แถมยังได้ชมทะเลบัวเบ่นบานรับแสงตะวันอุ่นยามเช้า สูดโอโซนแสนสดชื่น พร้อมๆ กับชมนกอพยพฤดูหนาวนับร้อยชนิด อย่างนกกระสาแดง, นกกระสานวล, นกอีโก้ง, นกเป็ดผี, นกกาน้ำเล็ก รวมถึงฝูงเป็ดแดงนับหมื่นตัว ปัจจุบันทะเลน้อยได้รับอนุรักษ์เป็น เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อยู่ห่างจากตัวเมืองพัทลุง 32 กิโลเมตร ไปตามถนนหมายเลข 4048 (พัทลุง-ควนขนุน) ที่นี่มีบ้านพัก และร้านอาหารด้วย โทร. 0-7468-5230, 0-7461-5722

%e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2-2 %e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2-3 %e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2-4 %e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2-5%e0%b8%9b%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0-%e0%b8%a2%e0%b8%81%e0%b8%a2%e0%b8%ad %e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-%e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2-17 %e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-%e0%b8%a2%e0%b8%ad-1 %e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2-6%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%95%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%a5%e0%b8%a2%e0%b9%8c-3

น้ำตกไพรวัลย์ ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกสวยที่สุดของเมืองพัทลุง ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านพูด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด อำเภอกงหรา จัดว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามและใหญ่ที่สุดของพัทลุง น้ำตกนี้มีน้ำหลากไหลตลอดปี แวดล้อมด้วยป่าดิบชื้นร่มรื่นอุดมสมบูรณ์ ตัวน้ำตกลักษณะเป็นลาดผาหินใหญ่สูงนับร้อยเมตร และลาดชันไม่น้อยกว่า 45 องศา ม่านน้ำตกจึงทิ้งตัวลงมาเป็นทางยาวสีขาว ลงสู่วังน้ำและโขดหินน้อยใหญ่สลับอยู่เป็นช่วงๆ สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ระหว่างทางเดินเข้าสู่น้ำตก ยังมีสะพานข้ามห้วย และหนทางที่มีพืชพรรณนานาชนิด เหมาะจะดูนก ดูผีเสื้อ ศึกษาพรรณไม้ได้อย่างมีความสุข

%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%95%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%a5%e0%b8%a2%e0%b9%8c-1 %e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%95%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%a5%e0%b8%a2%e0%b9%8c-2%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-1ไม่น่าเชื่อเลยว่าประเทศไทยเราจะเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่ส่งออกรังนกมากที่สุดในโลก! และไม่น่าเชื่ออีกเช่นกันว่า รังนกคุณภาพดีที่สุดในโลกนั้นมาจากประเทศไทยนี่เอง! โดยเแหล่งผลิตที่ดีที่สุด อยู่ที่ “เกาะสี่ เกาะห้า แห่งตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง เนื่องจากบริเวณนี้เป็นพื้นที่ 3 น้ำ คือน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ธรรมชาติจึงอุดม มีนกแอ่นกินรังเข้ามาทำรังหากินในถ้ำไม่น้อยกว่า 80 แห่ง บนเกาะสี่ เกาะห้า ซึ่งเป็นเกาะสัมปทานรังนกมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้ว แม้ว่าปัจจุบันจะไม่ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวถาวร แต่ถ้าขออนุญาตไปล่วงหน้า ก็นั่งเรือเข้าไปชมได้บางจุด โดยลงเรือได้ที่ท่าปากพะยูน หรือท่าเรือลำปำ บนเกาะมีอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 และผลิตภัณฑ์ของ บริษัท สยามรังนกทะเลใต้ ให้ชม ติดต่อเรือได้ที่ เขาชันรีสอร์ท เกาะหมาก โทร. 08-9812-1276, 08-9611-9372 %e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-2 %e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-3 %e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-4 %e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-5 %e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-6 %e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-7 %e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-8 %e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-9%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%94%e0%b9%81%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82%e0%b8%a5%e0%b8%b3%e0%b8%9b%e0%b8%b3-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-1พัทลุงเป็นเมืองเงียบเรียบง่าย กินอยู่สบาย เที่ยวสนุก อากาศก็ดีตลอดปี เพราะมีลมเย็นจากทะเลน้อย และทะเลสาบสงขลาพัดโชยมาชื่นใจ คนพัทลุงเขาน่าอิจฉามีที่เที่ยวนั่งพักผ่อนปิกนิกกันเยอะแยะ โดยเฉพาะ “หาดแสนสุขลำปำ” ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าน่าสุขใจซะเหลือเกิน จุดนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองพัทลุงไปทางตะวันออก 7 กิโลเมตร ด้วยถนนสาย 4047 (พัทลุง-ลำปำ) ตรงนี้มีสภาพเป็นสวนสาธารณะร่มรื่น และทางเดินเลียบชายฝั่งทะเลสาบสงขลา น่านั่งชิลกันทั้งวัน มองไปเบื้องหน้าเห็นวิวทะเลสาบกว้างไกล ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบายสุดๆ และเมื่อมองออกไปไกลๆ ลิบๆ ก็จะเห็นเกาะสี่ เกาะห้า ซึ่งเป็นเกาะรังนก ทอดตัวอยู่ บริเวณหาดแสนสุขลำปำมีร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม และรีสอร์ทไว้บริการด้วย ถ้าใครจะหาที่พักสงบๆ เป็นส่วนตัว ไม่ถูกรบกวนจากความวุ่นวายของโลกภายนอก มาเที่ยวที่นี่ไม่ผิดหวังจ้า %e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%94%e0%b9%81%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82%e0%b8%a5%e0%b8%b3%e0%b8%9b%e0%b8%b3-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-2 %e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%94%e0%b9%81%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82%e0%b8%a5%e0%b8%b3%e0%b8%9b%e0%b8%b3-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-3 %e0%b8%88%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-1

วังเก่าเจ้าเมืองพัทลุง ตั้งอยู่ใกล้กับวัดวัง ในเขตอำเภอเมืองพัทลุง เดิมใช้เป็นที่ว่าราชการ และที่อยู่อาศัยของเจ้าเมืองพัทลุง ลักษณะเป็นหมู่เรือนไทยภาคกลางสร้างด้วยไม้ผสมปูนอย่างงดงาม ส่วนที่เหลืออยู่คือวังเก่าสร้างสมัยพระยาพัทลุง (น้อย จันทโรจวงศ์) เป็นผู้ว่าราชการ ต่อมาตกทอดสู่นางประไพ มุตามะระ บุตตรีของหลวงศรีวรฉัตร ส่วนวังใหม่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2432 โดยพระยาอภัยบริรักษ์ฯ (เนตร จันทโรจวงศ์) บุตรชายของเจ้าเมืองพัทลุง ปัจจุบันทายาทตระกูลจันทโรจวงศ์ได้มอบให้กรมศิลปากร ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติและเป็นโบราณสถาน เปิดให้เข้าชมทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์-อังคาร) เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. ค่าเข้าชมคนไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท ภายในมีห้องหับต่างๆ ทั้งห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ฯลฯ พร้อมด้วยเครื่องเรือนสมัยโบราณในสภาพดีเยี่ยม น่าชมมาก

%e0%b8%88%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-2 %e0%b8%88%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-3 %e0%b8%96%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%b9%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%8c-1ศาสนสถานสำคัญที่ตั้งอยู่กลางเมืองพัทลุงมาตั้งแต่ยุคโบราณก็คือ “วัดถ้ำคูหาสวรรค์” (วัดสูง, วัดคูหาสวรรค์) เนื่องจากวัดตั้งอยู่เชิงเขาเป็นที่สูงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเชิงเขาคูหาสวรรค์ (เขาหัวแตก) อยู่ห่างจากสถานีรถไฟพัทลุงไปทางทิศตะวันตกเพียง 500 เมตรเท่านั้น แต่น่าเสียดายว่าไม่มีบันทึกแน่ชัด ว่าสร้างขึ้นเมื่อใด มีบันทึกคร่าวๆ ว่าในอดีตเมืองพัทลุงเคยถูกโจรสลัดบุกปล้น วัดถ้ำคูหาสวรรค์จึงถูกทิ้งร้าง เพิ่งมาได้รับการบูรณะในสมัยรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2432 เพื่อเตรียมรับเสด็จรัชกาลที่ 5 เมื่อ รศ. 108 วัดถ้ำคูหาสวรรค์จึงกลายเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกของพัทลุง จุดเด่นที่เราเข้าไปเดินชมได้ง่ายๆ คือในโถงถ้ำใหญ่ ซึ่งมีพระพุทธรูปปางสมาธิและปางไสยาสน์ประดิษฐานเรียงรายอยู่ตามผนังถ้ำหลายสิบองค์ ส่วนเพดานหินตรงปากถ้ำ ก็มีจารึกพระปรมาภิไธยย่อของพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ปรากฏอยู่ด้วย %e0%b8%96%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%b9%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%8c-2 %e0%b8%96%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%b9%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%8c-3%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%a7-1

วัดเขียนบางแก้ว เป็นวัดเก่าแก่ของพัทลุง สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อสมัยอยุธยาตอนต้น จุดเด่นที่น่าไปชมคือพระธาตุบางแก้ว ซึ่งดูให้ดีจะรู้สึกว่าคล้ายกับสร้างจำลองแบบมาจาก พระบรมธาตุนคร (นครศรีธรรมราช) ยังไงยังงั้น แต่สร้างให้มีขนาดย่อมกว่า คนที่ชอบศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์ หรือโบราณคดีต้องชอบที่นี่ เพราะเชื่อกันว่าเป็นบริเวณที่เมืองเก่าพัทลุงเคยตั้งอยู่ มีการขุดค้นพบซากปรักหักพังของศิลาแลงจำนวนมาก รวมถึงพระพุทธรูปโบราณแบบดินเผา, หม้อ ไห จาน ชาม, เครื่องเคลือบจีน, เหรียญกษาปณ์, เงินพดด้วง, สร้อยหินสีลูกปัด, ตำราโบราณ, อาวุธโบราณ และวัตถุโบราณประเมินค่ามิได้อีกนับไม่ถ้วน ส่วนหนึ่งจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์วัดเขียนบางแก้วนี่เอง

การเดินทางจากตัวเมืองพัทลุง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4081 เลยอำเภอเขาชัยสนไป 7 กิโลเมตร ในเขตบ้านบางแก้วใต้ ตรง กม.14 มีป้ายบอกทางเข้าวัดอยู่ด้านซ้ายมือ ไปอีก 2.5 กิโลเมตร โดยวัดเขียนตั้งอยู่ริมทะเลสาบสงขลา บรรยากาศร่มรื่น สงบมาก

%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%a7-2 %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%a7-3 %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%87-1แม้จะเป็นวัดเล็กๆ แต่ “วัดวัง ก็คือหนึ่งในวัดสำคัญที่สุดของพัทลุง ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 บ้านลำปำ ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง วัดวังเป็นโบราณที่เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ตามพงศาวดารเมืองพัทลุงกล่าวว่า พระยาพัทลุง (ทองขาว) เป็นผู้สร้างวัดนี้ แล้วมีการฉลองเมื่อวันจันทร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 พ.ศ. 2359 ต่อมาพระยาพัทลุง (ทับ) ได้ทำการบูรณะ โดยให้หลวงยกกระบัตร (นิ่ม) ไปรื้ออิฐจากกำแพงเมืองเก่าเขาชัยบุรี มีการฉลองวัดอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 พ.ศ. 2403 ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถถือว่าเขียนโดยช่างชั้นครู ที่เป็นช่างชุดเดียวกับผู้วาดภาพจิตกรรมฝาผนังในพระอุโบสถใหญ่วัดพระแก้ว โดยนายช่างได้ใช้สีแดง น้ำเงิน ขาว และดำ เป็นหลัก โดยเฉพาะสีน้ำเงินนั้นทำมาจากต้นครามแท้ๆ แต่ยังอยู่มาได้หลายร้อยปีจนถึงทุกวันนี้! %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%87-2 %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%87-3 %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%87-4 %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%87-5%e0%b9%82%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%b2-1

ถ้ามาเที่ยวพัทลุง แล้วไม่ได้ชมการแสดงพื้นบ้านอันมีเอกลักษณ์อย่าง “โนรา และ “หนังตะลุง ก็เหมือนกับว่ามาไม่ถึง เพราะศิลปะการแสดงสองอย่างนี้ซึมซาบอยู่ในวิถีชีวิตของคนพัทลุงมานับร้อยๆ ปีแล้ว ตั้งแต่ยุคอดีตที่ไม่มีทีวีวิทยุ ยามค่ำก็ได้มหรสพเหล่านี้ปลอบประโลมใจ ดูแล้วสนุก เฮฮา ครื้นเครง ได้หัวเราะทำให้หายเหนื่อยจากการทำงาน โนราหรือมโนห์รา เป็นละครรำละครร้องเรื่องยาว คล้ายละครชาตรีของภาคกลาง แต่มีท่ารำที่เน้นการต่อตัว ดัดตัว และมีเครื่องแต่งกายสีสันฉูดฉาดด้วยลูกปัด และเทริดสวมหัว (มงกุฎทรงสูง) บทร้องมีทั้งขบขัน สองแง่สองง่าม ส่วน หนังตะลุง ก็เป็นหุ่นเงาที่ได้รับอิทธิพลมาจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย สนใจหาชมได้ที่วัดท่าแค อำเภอเมืองพัทลุง หรือสอบถาม ททท. พัทลุง ก่อนล่วงหน้า ว่าช่วงใดจะมีการแสดง

%e0%b9%82%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%b2-2 %e0%b9%82%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%b2-3%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-1 %e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-2 %e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-3%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%88%e0%b8%b9%e0%b8%94-1พัทลุงมีของฝากประเภท Handmade Souvenir จากธรรมชาติหลายอย่าง โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าวและเสื่อกระจูด ซึ่งเป็นวัสดุในท้องถิ่นหาได้ทั่วไป นำมาแปรรูปเป็นสินค้าน่าใช้ หลากหลาย อาทิ โคมไฟ, ทับภีตักข้าว, กระเป๋าสาน, ที่รองจาน, หมวก, รองเท้า, เสื่อ, กล่องใส่ทิชชู ฯลฯ สนใจติดต่อ กลุ่มบ้านต้นกระจูด โทร. 08-6961-7906, 08-7969-5331 หรือจะซื้ออินทรีย์อุดมคุณค่า ไปกินกันที่บ้านก็ได้ เป็นข้าวพันธุ์สังข์หยดที่มีมาแต่โบราณในถิ่นนี้ มีวิตามินสูงมาก ตอนนี้ปลูกขายแทบไม่ทัน! %e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%88%e0%b8%b9%e0%b8%94-2 %e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%88%e0%b8%b9%e0%b8%94-3%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%a0%e0%b8%b1%e0%b8%93%e0%b8%91%e0%b9%8c%e0%b8%81%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7-1 %e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%a0%e0%b8%b1%e0%b8%93%e0%b8%91%e0%b9%8c%e0%b8%81%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7-2%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b8%94-1%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b8%94-30 %e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b8%94-2%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%94%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87มาถึงทะเลน้อยทั้งที ต้องชิม “ปลาดุกร้า” อาหารจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมานับร้อยปี เป็นการถนอมอาหารไว้กินได้อร่อยโดยไม่เน่าเสีย ปลาดุกร้าคล้ายปลาเค็ม แต่มีรสชาติเฉพาะตัวที่แตกต่างคือ มีรสเค็มปนหวานและมีกลิ่นหมัก เมื่อนำไปทอดหรือย่างจะมีกลิ่นหอมชวนกิน ยิ่งบีบมะนาว กินกับเครื่องเคียงอย่างพริก หอมซอย จะยิ่งเพิ่มรสชาติ แนะนำให้ไปชิมที่ ร้านสามกั๊กทะเลน้อย โทร. 08-9653-5952 / ศรีปากประ รีสอร์ท โทร. 08-1969-3791 / ลำปำรีสอร์ท โทร. 0-7461-1486

เที่ยววิถีข้าววิถีไทย อิ่มทั้งใจ อิ่มทั้งท้อง

tigerland-farm-%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2-1(1) Tigerland Farm จ.เชียงราย
tigerland-farm-%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2-2 tigerland-farm-%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2-3 tigerland-farm-%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2-4%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2-%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b8%a2%e0%b9%8c-1

(2) ไร่รื่นรมย์ จ.เชียงราย%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2-%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b8%a2%e0%b9%8c-2 %e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2-%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b8%a2%e0%b9%8c-3 %e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2-%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b8%a2%e0%b9%8c-4 %e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88-%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7-green-valley-1

(3) พร้าว Green Valley อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88-%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7-green-valley-2 %e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88-%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7-green-valley-3 %e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88-%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7-green-valley-4 %e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88-%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7-green-valley-5 %e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88-%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7-green-valley-6%e0%b8%a2%e0%b9%82%e0%b8%aa%e0%b8%98%e0%b8%a3-%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87-%e0%b8%97%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2

(4) บ้านกว้าง ท่าเยี่ยม อ.เมือง จ.ยโสธร
%e0%b8%a2%e0%b9%82%e0%b8%aa%e0%b8%98%e0%b8%a3-%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87-%e0%b8%97%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2 %e0%b8%a2%e0%b9%82%e0%b8%aa%e0%b8%98%e0%b8%a3-%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87-%e0%b8%97%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2 %e0%b8%a2%e0%b9%82%e0%b8%aa%e0%b8%98%e0%b8%a3-%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87-%e0%b8%97%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2 %e0%b8%a2%e0%b9%82%e0%b8%aa%e0%b8%98%e0%b8%a3-%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87-%e0%b8%97%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2 %e0%b8%a2%e0%b9%82%e0%b8%aa%e0%b8%98%e0%b8%a3-%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87-%e0%b8%97%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%ac%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c-%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%87-dr-jame-1

(5) ข้าวเขาวง จ.กาฬสินธุ์
%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%ac%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c-%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%87-dr-jame-2 %e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%ac%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c-%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%87-dr-jame-3 %e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%ac%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c-%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%87-dr-jame-4 %e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%ac%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c-%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%87-dr-jame-5 %e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%ac%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c-%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%87-dr-jame-6 %e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%ac%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c-%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%87-dr-jame-7 %e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%ac%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c-%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%87-dr-jame-8%e0%b8%ad%e0%b8%b3%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%8d-%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%b2

(6) บ้านนาหมอม้า จ.อำนาจเจริญ
%e0%b8%ad%e0%b8%b3%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%8d-%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%b2 %e0%b8%ad%e0%b8%b3%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%8d-%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%b2 %e0%b8%ad%e0%b8%b3%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%8d-%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%b2 %e0%b8%ad%e0%b8%b3%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%8d-%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%97-%e0%b8%9a%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%b2-1

(7) บ้านบ่าวปรีดา จ.ชัยนาท%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%97-%e0%b8%9a%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%b2-2 %e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%97-%e0%b8%9a%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%b2-3 %e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%97-%e0%b8%9a%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%b2-4%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%b5-buffalo-farm-1

(8) Buffalo Farm จ.ปราจีนบุรี%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%b5-buffalo-farm-2 %e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%b5-buffalo-farm-3 %e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%b5-buffalo-farm-4%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%a7-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b9%8c-1

(9) โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ จ.สระแก้ว%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%a7-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b9%8c-2 %e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%a7-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b9%8c-3 %e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%a7-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b9%8c-4%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b8%94-1

(10) ข้าวสังข์หยด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b8%94-2 %e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b8%94-3 %e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b8%94-4 %e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b8%94-5 %e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b8%94-6 %e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%87-%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b8%94-7%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%87%e0%b8%b2-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2-1

(11) เกาะยาวน้อย จ.พังงา%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%87%e0%b8%b2-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2-2 %e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%87%e0%b8%b2-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2-3 %e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%87%e0%b8%b2-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2-4

เที่ยวพะเยา Gate Way สู่ล้านนา

%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%8a%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b2-1

เดินทางสู่ จังหวัดพะเยา และอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง กล่าวคำทักทาย Gate Way ประตูสู่ล้านนา จุดเชื่อมโยงภาคกลางตอนบนเข้าสู่ภาคเหนือตอนล่าง ดินแดนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเต็มไปด้วยสีเขียวของแมกไม้ร่มรื่น วันนี้พะเยาและเถินยังเป็นเมืองน้อยน่ารักที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก จึงมีหลากหลายแง่มุมอันสงบน่าพัก น่าเที่ยว ไม่แพ้เมืองอื่นๆ ของล้านนาเลยสักนิด

%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%8a%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b2-2กว๊านพะเยา เป็นทะเลสาบน้ำจืดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของไทย ถือเป็นโอเอซิสกลางเมืองพะเยาเลยล่ะ  เพราะระบบนิเวศน์ยังคงความอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยปลาน้ำจืด ทะเลบัวแดง และนกนานาชนิด โดยรอบมีสวนสาธารณะให้ผู้คนมาพักผ่อนหย่อนใจ ทุกเช้าบริเวณท่าเรือริมกว๊านฯ จะมีการตักบาตรข้าวเหนียว   พอตกสายหน่อยบรรดาร้านค้าโดยรอบก็เริ่มทยอยเปิด ขายอาหารรสเลิศไปจนถึงค่ำ %e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%8a%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b2-3ในกว๊านพะเยามีการค้นพบซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ สมัยพระเจ้าติโลกราช คือ “วัดติโลกอาราม” ซึ่งปัจจุบันเหลือแต่ยอดพระธาตุโผล่พ้นน้ำขึ้นมา และยังมีการค้นพบพระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย อายุหลายร้อยปีด้วย ทุกวันนี้เราสามารถนั่งเรือรับจ้างของชาวบ้านขึ้นไปสักการะองค์พระได้ โดยในวันมาฆบูชา วิสาขบูชา และอาสาฬหบูชา จะมีการเวียนเทียนกลางน้ำแห่งเดียวในโลก! ตื่นตาน่าชมมาก %e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%8a%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b2-4 %e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%8a%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b2-5 %e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%8a%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b2-6การตักบาตรยามเช้าให้จิตใจผ่องใส ที่ริมกว๊านพะเยา%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%95%e0%b8%81%e0%b8%a0%e0%b8%b9%e0%b8%8b%e0%b8%b2%e0%b8%87-1

น้ำตกภูซาง เป็นน้ำตกอุ่นแห่งเดียวในเมืองไทย! คือน้ำมีอุณหภูมิประมาณ 33 องศาเซลเซียส ลงแช่ตัวได้สบาย ช่วยผ่อนคลายหายปวดเมื่อย เพราะในน้ำมีแร่ธาตุอุดมคุณค่าจากใต้ดินเจือปนอยู่ด้วยนั่นเอง ยิ่งกว่านั้นน้ำยังใสแจ๋วจนมองเห็นปลาที่แหวกว่ายไปมา แถมน้ำยังไม่มีกลิ่นฉุนของกำมะถันเหมือนน้ำพุร้อน หรือน้ำตกร้อนทางภาคใต้ น้ำตกภูซางจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่พิเศษสุดแบบ Unseen เลยก็ว่าได้

น้ำตกภูซางเป็นน้ำตกขนาดเล็ก สูงเพียง 25 เมตร และเที่ยวง่าย เพราะตั้งอยู่ริมถนนในอุทยานแห่งชาติภูซาง ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับลาว ป่าผืนนี้สมบูรณ์มากจึงมีสัตว์ชนิดพิเศษแสนหายาก น่ารักมากๆ ให้ชม คือ เต่าปูลู เป็นเต่าบกที่ปีนต้นไม้ได้ ตัวเล็กน่ารัก หางยาว และมีเล็บแหลมทั้งสี่ตีน เพื่อเอาไว้ปีนต้นไม้หนีภัยหรือไฟป่า (อุทยานแห่งชาติภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา โทร. 0-5440-1099)

%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%aa%e0%b8%94%e0%b8%87%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad-1

ไทลื้อ คือกลุ่มชนที่เคยอยู่อาศัยในแคว้นสิบสองปันนาของจีน (รวมถึงบางส่วนของลาวเหนือ) และได้อพยพเข้าสู่ภาคเหนือของไทยเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว โดยในจังหวัดพะเยามีอยู่จำนวนมาก พวกเขามีเอกลักษณ์การแต่งกายของตนเอง และมีผ้าทอไทลื้อเป็นหัตถกรรมโดดเด่น

%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%aa%e0%b8%94%e0%b8%87%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad-2 %e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%aa%e0%b8%94%e0%b8%87%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad-3ชวนกันไปเที่ยว บ้านป้าแสงดา ที่บ้านธาตุสบแวน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นบ้านไทลื้อสมบูรณ์ที่สุดหลังสุดท้าย ในจังหวัดพะเยาปัจจุบัน! บ้านป้าแสงดาเปิดรับนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้มทุกวัน ลักษณะเป็นบ้านไม้โบราณ บรรยากาศร่มรื่น หลังคามุงด้วยไม้แป้นเกล็ดซ้อนๆ กัน พอถอดรองเท้าขึ้นชมบนบ้านก็ต้องตะลึง เพราะจะได้เห็นห้องนอนและห้องครัวแบบโบราณของแท้ ของจริง โดยมีคุณป้าแสงดานำชมอย่างเป็นมิตร ที่ใต้ถุนบ้านมีกี่ทอผ้า และแคร่ไม้ไผ่เอาไว้ให้นั่งเล่นพูดคุยกันด้วย เพื่อเรียนรู้เรื่องเก่าๆ จากคุณป้าแสงดา %e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%aa%e0%b8%94%e0%b8%87%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad-4รอยยิ้มของป้าแสงดา ช่างน่าประทับใจและอบอุ่นจริงๆ
%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%93%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a5%e0%b8%ad-1

พะเยาเป็นเมืองโบราณแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญ อย่างเช่นที่ วัดศรีปิงเมือง วัดเก่าแก่ในเขตเมืองโบราณเวียงลอ เมืองเก่าสมัยศตวรรษ 17 ซึ่งแต่เดิมภายในบริเวณนี้มีวัดร้างอยู่กว่า 50 แห่ง โดยตามวัดร้างจะขุดพบพระพุทธรูปหินทรายและพระพุทธรูปทองสำริดจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ได้ถูกทำลายหรือสูญหายไปเกือบหมดแล้ว จะเหลือสภาพสมบูรณ์ก็คือที่ พระธาตุศรีปิงเมือง อายุกว่า 900 ปี

%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%93%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a5%e0%b8%ad-2ภายในวัดนี้มีพิพิธภัณฑ์ที่ได้รวบรวมเอาชิ้นส่วนพระพุทธรูป และโบราณวัตถุล้ำค่าต่างๆ ที่ขุดพบภายในเมืองโบราณเวียงลอให้ชม อาทิ ถ้วยชามเครื่องปั้นดินเผา, อาวุธโบราณ, เงินโบราณ, หินลูกปัด ฯลฯ วัดศรีปิงเมืองอยู่ที่บ้านเวียงลอ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา พิพิธภัณฑ์ไม่ได้เปิดตลอดเวลา ต้องไปแจ้งทางวัดจึงจะเปิดให้ เพื่อป้องกันความปลอดภัยของวัตถุโบราณ โทร. 08-1783-7294 %e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%93%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a5%e0%b8%ad-3วัตถุโบราณที่ขุดพบภายในเมืองโบราณเวียงลอ%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%93%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a5%e0%b8%ad-4 %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99-1วัดพระเจ้านั่งดิน เป็นวัดสำคัญศูนย์รวมศรัทธาของผู้คนในตำบลเวียง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ความโดดเด่นที่ควรไปชมคือ พระประธานในโบสถ์ไม่มีฐานชุกชีรองรับเหมือนกับพระประธานในวัดอื่นทั่วๆ ไป ชาวบ้านเคยลองอัญเชิญพระประธานองค์นี้ขึ้นประดิษฐานบนฐานชุกชีที่สร้างขึ้น แต่ปรากฏว่าพยายามยกเท่าไรก็ยกไม่ขึ้น! จึงเรียกสืบต่อกันมาว่า พระเจ้านั่งดิน %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99-2สันนิษฐานกันว่า พระเจ้านั่งดิน น่าจะมีอายุกว่า 2,500 ปี อ้างอิงจากตำนานที่เล่าว่าพระพุทธรูปนี้สร้างตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ โดยใช้เวลาในการสร้างพระพุทธรูป 1 เดือน กับอีก 7 วัน จึงเสร็จ เมื่อสร้างเสร็จได้ประดิษฐานไว้บนพื้นราบ ไม่มีฐานชุกชีอย่างพระพุทธรูปทั่วไป เวลาเราเข้าไปสักการะจึงควรแต่งกายให้สุภาพ และนั่งลงให้เรียบร้อย %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-1

วัดเวียง แห่งบ้านเวียง ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เป็นวัดเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ที่มีศิลปะคู่แฝดกับวัดพระธาตุลำปางหลวง โดยในอดีตวัดเวียงถือเป็นศูนย์กลางของชุมชนชาวเถิน มีการค้นพบศิลปะวัตถุสมัยเชียงแสน และแนวกำแพงล้อมรอบวัดเวียงออกไปหลายชั้น บ่งบอกถึงความสำคัญ ยิ่งกว่านั้นด้านหลังวัดยังมีต้นขนุนของพระนางจามเทวีปลูกอยู่ด้วย ถือเป็นต้นขนุนศักดิ์สิทธิ์ที่พระนางปลูกไว้ 3 ต้น (อยู่ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่, วัดพระธาตุลำปางหลวง ลำปาง, วัดเวียง ลำปาง) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าพระนางจามเทวีเคยเสด็จผ่านมาทางนี้ โดยปัจจุบันต้นขนุนนี้ยังมีชีวิตออกลูกออกหลาน %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-2ในพิพิธภัณฑ์ของวัดเวียงมีโบราณวัตถุสูงค่าเก็บรักษาไว้มากมาย โดยเฉพาะตู้พระธรรมใบลานพุทธศิลป์งามล้ำ (สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณปัญญา หลำน้อย โทร. 08-5035-1388 เว็บไซต์ www.thoentoday.com) %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-3

พระอุโบสถใหม่ของวัดเวียง%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-4

ต้นขนุนที่พระนางจามเทวีปลูกไว้ ในวัดเวียง อำเภอเถิน%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-5 %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-1วัดอุมลอง ตั้งอยู่ที่บ้านอุมลอง ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เป็นวัดโบราณอายุกว่า 2,000 ปี! โดยมีจุดเด่นอยู่ที่พระธาตุอุมลองอันศักดิ์สิทธิ์ องค์พระธาตุสร้างเป็นทรงเหลี่ยมย่อมุม ยอดหุ้มทอง ภายในบรรจุกระดูกท่อนแขนใต้ข้อศอกของพระพุทธเจ้าเอาไว้ ส่วนในวิหารวัดอุมลองที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2463 ก็งามอลังการด้วยศิลปะล้านนาแท้ ประดับกระจกแก้วสีตามเสาและฝาผนังสะท้อนแสงมลังเมลือง องค์พระประธานก็มีพระพักตร์สงบเปี่ยมเมตตา %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-2 %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-3พระอุโบสถหลังเก่าของวัดอุมลอง%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-4พระอุโบสถ์ใหม่ของวัดอุมลอง%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-5แต่จุดที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการมาเยือนวัดอุมลองก็คือการได้ชม หอจำศีล (หอสวดมนต์) สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2465 โดยใช้เป็นหอสวดมนต์ นั่งสมาธิในวันพระของอุบาสกป้อง มั่นคง หอสวดมนต์นี้เองถูกโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ลอกเลียนแบบไป จนเป็นที่วิพากวิจารณ์กันว่า เหมาะสมหรือไม่ที่นำสิ่งก่อสร้างทางศาสนาไปใช้ในเชิงธุรกิจเช่นนั้น!? %e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-6

ลายจำหลักไม้อันประณีตงดงาม ที่วัดอุมลอง%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-7

ความงามของพุทธศิลป์ถิ่นล้านนา ที่วัดอุมลอง%e0%b8%94%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%81%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2-%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%a7-1“สวัสดีกว๊านพะเยา สบายดีหลวงพระบาง” คือสโลแกนแสนน่ารักของประตูสู่หลวงพระบาง “จุดผ่อนปรนบ้านฮวก (กิ่วหก)” หมู่ 12 ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ซึ่งเราสามารถเข้าไปเที่ยว ในแขวงไชยะบุรีของลาวได้ โดยฝั่งลาวเรียกว่าด่านบ้านปางมอญ เมืองคอบ ด่านนี้กำลังเปลี่ยนจากจุดผ่อนปรนชั่วคราวเป็นด่านถาวรต้อนรับ AEC มีการลาดยางถนนให้รถวิ่งเที่ยวสะดวก บนเส้นทางบ้านฮวก-เมืองคอบ (42 กิโลเมตร)-ปากทา-ปากคอบ-เชียงฮ่อน (ลาว) รวม 180 กิโลเมตร %e0%b8%94%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%81%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2-%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%a7-2

บ้านฮวกเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP Village Champion ขึ้นชื่อเรื่องผ้าทอไทลื้อ โดยมีตลาดนัดสินค้าไทย-ลาวทุกวันที่ 10, 20 และ 30 ของเดือน แถมทุกปีใหม่ยังมีประเพณี ตักบาตรสองแผ่นดิน ที่พระจากลาวจะเดินเข้ามาบิณฑบาตรถึงบ้านฮวกด้วย ปัจจุบันด่านบ้านฮวกเปิดเวลา 06.00-18.00 น.ทุกวัน ไม่หยุดพักเที่ยง (สอบถาม ที่ว่าการอำเภอภูซาง โทร. 0-5446-5054 ในเวลาราชการ)

%e0%b8%94%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%81%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2-%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%a7-3 %e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-park-resort-1แนะนำที่พักแสนสะดวกสบาย มีสไตล์ กว้างขวาง ร่มรื่น ที่ Thoen Park 2454 Resort ตำบลแม่ปะ อำเภอเถิน จุดเด่นคือเรือนพักแบบเรือนล้านนาประยุกต์ หลังคามุงกระเบื้องดินขอโบราณแท้ๆ บรรยากาศเงียบสงบมาก โทร. 08-9759-1786 เฟสบุ๊ค www.facebook.com/Thoenpark.2454 %e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-park-resort-2เรือนไทยลื้อแบบเก่า ภายในเถิน ปาร์ค รีสอร์ท%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%99-park-resort-3%e0%b8%ab%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%96%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a1-%e0%b8%9e%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b2-1

ส่วนของฝากจากพะเยา แนะนำ ผลิตภัณฑ์ผักตบชะวาแปรรูป ทำเป็นหมวกและกระเป๋าเก๋ไก๋ รูปลักษณ์สวยงามทันสมัยน่าใช้ ติดต่อ กลุ่มหัตถกรรมจักสานผักตบชวา บ้านสันป่าม่วง โทร. 0-5445-8633, 08-1602-7771

%e0%b8%ab%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%96%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a1-%e0%b8%9e%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b2-2 %e0%b8%ab%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%96%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a1-%e0%b8%9e%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b2-3ของฝากสุดเจ๋งจากอำเภอเถินคือ แก้วโป่งข่าม ทำเป็นเครื่องประดับ ใส่แล้วนำโชคเสริมดวงชะตา โทร. 08-6194-6655