พัทลุง เมืองน้อยน่ารักแห่งปักษ์ใต้
เขาอกทะลุ คือภูเขาที่อยู่ในตราประจำจังหวัดพัทลุง เขาลูกนี้มีความสำคัญเพราะทำหน้าที่เป็นเหมือน Landmark เด่นในเทศบาลเมือง มองจากจุดใดก็เห็นเด่นชัด เขาลูกนี้สูงประมาณ 250 เมตร มีทางเดินป่าปีนเขาขึ้นไปชมวิวเมืองพัทลุงจากด้านบนได้ ความพิเศษคือมีโพรงหินปูนเป็นช่องทะลุ รูปร่างวงกลมขนาดใหญ่เหมือนยักษ์มาเจาะรูเอาไว้ ปู่ย่าตายายเขาแต่งนิทานอธิบายว่า อดีตมีพ่อค้าชื่อนายเมือง มีเมีย 2 คน ชื่อนางสินลาลุดีเป็นเมียหลวง และนางบุปผาเป็นเมียน้อย อยู่มาวันหนึ่งสองคนนี้ทะเลาะกัน นางสินลาลุดีกำลังทอผ้าอยู่จึงใช้ฟืมทอผ้าตีหัวนางบุปผาแตก ส่วนนางบุปผากำลังตำข้าว ก็ใช้สากเสียบอกอีกฝ่าย ตายด้วยกันทั้งคู่ นางสินลาลุดีจึงกลายเป็นเขาอกทะลุ และนางบุปผากลายเป็นเขาหัวแตก ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในเมืองพัทลุงมาตราบทุกวันนี้
ทะเลน้อย ชื่อนี้น้อยแต่ชื่อ ทว่าเมื่อได้ไปชมสถานที่จริงจะต้องตะลึง! เพราะมีทะเลบัวผืนใหญ่สุด ของภาคใต้ เนื้อที่กว่า 17,500 ไร่ กินอาณาเขตจังหวัดพัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช จริงๆ แล้วทะเลน้อยคือส่วนด้านบนสุดของทะเลหลวงและทะเลสาบสงขลา แต่ทะเลน้อยมีน้ำจืดสนิทตลอดปี จึงเกิดทะเลบัวแดงนับแสนๆ ดอกเบ่งบานในช่วงฤดูหนาว-ต้นฤดูร้อน ประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ไปล่องเรือเที่ยวชมอาณาจักรแห่งสรรพชีวิตในเวิ้งน้ำทะเลสาบกว้างกันตั้งแต่เช้าตรู่ ดูนกตื่นนอน เกี้ยวพาราสี ฟักไข่ เลี้ยงลูก แถมยังได้ชมทะเลบัวเบ่นบานรับแสงตะวันอุ่นยามเช้า สูดโอโซนแสนสดชื่น พร้อมๆ กับชมนกอพยพฤดูหนาวนับร้อยชนิด อย่างนกกระสาแดง, นกกระสานวล, นกอีโก้ง, นกเป็ดผี, นกกาน้ำเล็ก รวมถึงฝูงเป็ดแดงนับหมื่นตัว ปัจจุบันทะเลน้อยได้รับอนุรักษ์เป็น “เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย” อยู่ห่างจากตัวเมืองพัทลุง 32 กิโลเมตร ไปตามถนนหมายเลข 4048 (พัทลุง-ควนขนุน) ที่นี่มีบ้านพัก และร้านอาหารด้วย โทร. 0-7468-5230, 0-7461-5722
น้ำตกไพรวัลย์ ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกสวยที่สุดของเมืองพัทลุง ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านพูด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด อำเภอกงหรา จัดว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามและใหญ่ที่สุดของพัทลุง น้ำตกนี้มีน้ำหลากไหลตลอดปี แวดล้อมด้วยป่าดิบชื้นร่มรื่นอุดมสมบูรณ์ ตัวน้ำตกลักษณะเป็นลาดผาหินใหญ่สูงนับร้อยเมตร และลาดชันไม่น้อยกว่า 45 องศา ม่านน้ำตกจึงทิ้งตัวลงมาเป็นทางยาวสีขาว ลงสู่วังน้ำและโขดหินน้อยใหญ่สลับอยู่เป็นช่วงๆ สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ระหว่างทางเดินเข้าสู่น้ำตก ยังมีสะพานข้ามห้วย และหนทางที่มีพืชพรรณนานาชนิด เหมาะจะดูนก ดูผีเสื้อ ศึกษาพรรณไม้ได้อย่างมีความสุข
ไม่น่าเชื่อเลยว่าประเทศไทยเราจะเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่ส่งออกรังนกมากที่สุดในโลก! และไม่น่าเชื่ออีกเช่นกันว่า รังนกคุณภาพดีที่สุดในโลกนั้นมาจากประเทศไทยนี่เอง! โดยเแหล่งผลิตที่ดีที่สุด อยู่ที่ “เกาะสี่ เกาะห้า” แห่งตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง เนื่องจากบริเวณนี้เป็นพื้นที่ 3 น้ำ คือน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ธรรมชาติจึงอุดม มีนกแอ่นกินรังเข้ามาทำรังหากินในถ้ำไม่น้อยกว่า 80 แห่ง บนเกาะสี่ เกาะห้า ซึ่งเป็นเกาะสัมปทานรังนกมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้ว แม้ว่าปัจจุบันจะไม่ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวถาวร แต่ถ้าขออนุญาตไปล่วงหน้า ก็นั่งเรือเข้าไปชมได้บางจุด โดยลงเรือได้ที่ท่าปากพะยูน หรือท่าเรือลำปำ บนเกาะมีอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 และผลิตภัณฑ์ของ บริษัท สยามรังนกทะเลใต้ ให้ชม ติดต่อเรือได้ที่ เขาชันรีสอร์ท เกาะหมาก โทร. 08-9812-1276, 08-9611-9372 พัทลุงเป็นเมืองเงียบเรียบง่าย กินอยู่สบาย เที่ยวสนุก อากาศก็ดีตลอดปี เพราะมีลมเย็นจากทะเลน้อย และทะเลสาบสงขลาพัดโชยมาชื่นใจ คนพัทลุงเขาน่าอิจฉามีที่เที่ยวนั่งพักผ่อนปิกนิกกันเยอะแยะ โดยเฉพาะ “หาดแสนสุขลำปำ” ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าน่าสุขใจซะเหลือเกิน จุดนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองพัทลุงไปทางตะวันออก 7 กิโลเมตร ด้วยถนนสาย 4047 (พัทลุง-ลำปำ) ตรงนี้มีสภาพเป็นสวนสาธารณะร่มรื่น และทางเดินเลียบชายฝั่งทะเลสาบสงขลา น่านั่งชิลกันทั้งวัน มองไปเบื้องหน้าเห็นวิวทะเลสาบกว้างไกล ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบายสุดๆ และเมื่อมองออกไปไกลๆ ลิบๆ ก็จะเห็นเกาะสี่ เกาะห้า ซึ่งเป็นเกาะรังนก ทอดตัวอยู่ บริเวณหาดแสนสุขลำปำมีร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม และรีสอร์ทไว้บริการด้วย ถ้าใครจะหาที่พักสงบๆ เป็นส่วนตัว ไม่ถูกรบกวนจากความวุ่นวายของโลกภายนอก มาเที่ยวที่นี่ไม่ผิดหวังจ้า
วังเก่าเจ้าเมืองพัทลุง ตั้งอยู่ใกล้กับวัดวัง ในเขตอำเภอเมืองพัทลุง เดิมใช้เป็นที่ว่าราชการ และที่อยู่อาศัยของเจ้าเมืองพัทลุง ลักษณะเป็นหมู่เรือนไทยภาคกลางสร้างด้วยไม้ผสมปูนอย่างงดงาม ส่วนที่เหลืออยู่คือวังเก่าสร้างสมัยพระยาพัทลุง (น้อย จันทโรจวงศ์) เป็นผู้ว่าราชการ ต่อมาตกทอดสู่นางประไพ มุตามะระ บุตตรีของหลวงศรีวรฉัตร ส่วนวังใหม่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2432 โดยพระยาอภัยบริรักษ์ฯ (เนตร จันทโรจวงศ์) บุตรชายของเจ้าเมืองพัทลุง ปัจจุบันทายาทตระกูลจันทโรจวงศ์ได้มอบให้กรมศิลปากร ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติและเป็นโบราณสถาน เปิดให้เข้าชมทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์-อังคาร) เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. ค่าเข้าชมคนไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท ภายในมีห้องหับต่างๆ ทั้งห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ฯลฯ พร้อมด้วยเครื่องเรือนสมัยโบราณในสภาพดีเยี่ยม น่าชมมาก
ศาสนสถานสำคัญที่ตั้งอยู่กลางเมืองพัทลุงมาตั้งแต่ยุคโบราณก็คือ “วัดถ้ำคูหาสวรรค์” (วัดสูง, วัดคูหาสวรรค์) เนื่องจากวัดตั้งอยู่เชิงเขาเป็นที่สูงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเชิงเขาคูหาสวรรค์ (เขาหัวแตก) อยู่ห่างจากสถานีรถไฟพัทลุงไปทางทิศตะวันตกเพียง 500 เมตรเท่านั้น แต่น่าเสียดายว่าไม่มีบันทึกแน่ชัด ว่าสร้างขึ้นเมื่อใด มีบันทึกคร่าวๆ ว่าในอดีตเมืองพัทลุงเคยถูกโจรสลัดบุกปล้น วัดถ้ำคูหาสวรรค์จึงถูกทิ้งร้าง เพิ่งมาได้รับการบูรณะในสมัยรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2432 เพื่อเตรียมรับเสด็จรัชกาลที่ 5 เมื่อ รศ. 108 วัดถ้ำคูหาสวรรค์จึงกลายเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกของพัทลุง จุดเด่นที่เราเข้าไปเดินชมได้ง่ายๆ คือในโถงถ้ำใหญ่ ซึ่งมีพระพุทธรูปปางสมาธิและปางไสยาสน์ประดิษฐานเรียงรายอยู่ตามผนังถ้ำหลายสิบองค์ ส่วนเพดานหินตรงปากถ้ำ ก็มีจารึกพระปรมาภิไธยย่อของพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ปรากฏอยู่ด้วย
วัดเขียนบางแก้ว เป็นวัดเก่าแก่ของพัทลุง สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อสมัยอยุธยาตอนต้น จุดเด่นที่น่าไปชมคือพระธาตุบางแก้ว ซึ่งดูให้ดีจะรู้สึกว่าคล้ายกับสร้างจำลองแบบมาจาก พระบรมธาตุนคร (นครศรีธรรมราช) ยังไงยังงั้น แต่สร้างให้มีขนาดย่อมกว่า คนที่ชอบศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์ หรือโบราณคดีต้องชอบที่นี่ เพราะเชื่อกันว่าเป็นบริเวณที่เมืองเก่าพัทลุงเคยตั้งอยู่ มีการขุดค้นพบซากปรักหักพังของศิลาแลงจำนวนมาก รวมถึงพระพุทธรูปโบราณแบบดินเผา, หม้อ ไห จาน ชาม, เครื่องเคลือบจีน, เหรียญกษาปณ์, เงินพดด้วง, สร้อยหินสีลูกปัด, ตำราโบราณ, อาวุธโบราณ และวัตถุโบราณประเมินค่ามิได้อีกนับไม่ถ้วน ส่วนหนึ่งจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์วัดเขียนบางแก้วนี่เอง
การเดินทางจากตัวเมืองพัทลุง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4081 เลยอำเภอเขาชัยสนไป 7 กิโลเมตร ในเขตบ้านบางแก้วใต้ ตรง กม.14 มีป้ายบอกทางเข้าวัดอยู่ด้านซ้ายมือ ไปอีก 2.5 กิโลเมตร โดยวัดเขียนตั้งอยู่ริมทะเลสาบสงขลา บรรยากาศร่มรื่น สงบมาก
แม้จะเป็นวัดเล็กๆ แต่ “วัดวัง” ก็คือหนึ่งในวัดสำคัญที่สุดของพัทลุง ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 บ้านลำปำ ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง วัดวังเป็นโบราณที่เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ตามพงศาวดารเมืองพัทลุงกล่าวว่า พระยาพัทลุง (ทองขาว) เป็นผู้สร้างวัดนี้ แล้วมีการฉลองเมื่อวันจันทร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 พ.ศ. 2359 ต่อมาพระยาพัทลุง (ทับ) ได้ทำการบูรณะ โดยให้หลวงยกกระบัตร (นิ่ม) ไปรื้ออิฐจากกำแพงเมืองเก่าเขาชัยบุรี มีการฉลองวัดอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 พ.ศ. 2403 ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถถือว่าเขียนโดยช่างชั้นครู ที่เป็นช่างชุดเดียวกับผู้วาดภาพจิตกรรมฝาผนังในพระอุโบสถใหญ่วัดพระแก้ว โดยนายช่างได้ใช้สีแดง น้ำเงิน ขาว และดำ เป็นหลัก โดยเฉพาะสีน้ำเงินนั้นทำมาจากต้นครามแท้ๆ แต่ยังอยู่มาได้หลายร้อยปีจนถึงทุกวันนี้!
ถ้ามาเที่ยวพัทลุง แล้วไม่ได้ชมการแสดงพื้นบ้านอันมีเอกลักษณ์อย่าง “โนรา” และ “หนังตะลุง” ก็เหมือนกับว่ามาไม่ถึง เพราะศิลปะการแสดงสองอย่างนี้ซึมซาบอยู่ในวิถีชีวิตของคนพัทลุงมานับร้อยๆ ปีแล้ว ตั้งแต่ยุคอดีตที่ไม่มีทีวีวิทยุ ยามค่ำก็ได้มหรสพเหล่านี้ปลอบประโลมใจ ดูแล้วสนุก เฮฮา ครื้นเครง ได้หัวเราะทำให้หายเหนื่อยจากการทำงาน โนราหรือมโนห์รา เป็นละครรำละครร้องเรื่องยาว คล้ายละครชาตรีของภาคกลาง แต่มีท่ารำที่เน้นการต่อตัว ดัดตัว และมีเครื่องแต่งกายสีสันฉูดฉาดด้วยลูกปัด และเทริดสวมหัว (มงกุฎทรงสูง) บทร้องมีทั้งขบขัน สองแง่สองง่าม ส่วน หนังตะลุง ก็เป็นหุ่นเงาที่ได้รับอิทธิพลมาจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย สนใจหาชมได้ที่วัดท่าแค อำเภอเมืองพัทลุง หรือสอบถาม ททท. พัทลุง ก่อนล่วงหน้า ว่าช่วงใดจะมีการแสดง
พัทลุงมีของฝากประเภท Handmade Souvenir จากธรรมชาติหลายอย่าง โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าวและเสื่อกระจูด ซึ่งเป็นวัสดุในท้องถิ่นหาได้ทั่วไป นำมาแปรรูปเป็นสินค้าน่าใช้ หลากหลาย อาทิ โคมไฟ, ทับภีตักข้าว, กระเป๋าสาน, ที่รองจาน, หมวก, รองเท้า, เสื่อ, กล่องใส่ทิชชู ฯลฯ สนใจติดต่อ กลุ่มบ้านต้นกระจูด โทร. 08-6961-7906, 08-7969-5331 หรือจะซื้ออินทรีย์อุดมคุณค่า ไปกินกันที่บ้านก็ได้ เป็นข้าวพันธุ์สังข์หยดที่มีมาแต่โบราณในถิ่นนี้ มีวิตามินสูงมาก ตอนนี้ปลูกขายแทบไม่ทัน! มาถึงทะเลน้อยทั้งที ต้องชิม “ปลาดุกร้า” อาหารจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมานับร้อยปี เป็นการถนอมอาหารไว้กินได้อร่อยโดยไม่เน่าเสีย ปลาดุกร้าคล้ายปลาเค็ม แต่มีรสชาติเฉพาะตัวที่แตกต่างคือ มีรสเค็มปนหวานและมีกลิ่นหมัก เมื่อนำไปทอดหรือย่างจะมีกลิ่นหอมชวนกิน ยิ่งบีบมะนาว กินกับเครื่องเคียงอย่างพริก หอมซอย จะยิ่งเพิ่มรสชาติ แนะนำให้ไปชิมที่ ร้านสามกั๊กทะเลน้อย โทร. 08-9653-5952 / ศรีปากประ รีสอร์ท โทร. 08-1969-3791 / ลำปำรีสอร์ท โทร. 0-7461-1486
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!