Scuba Diving Lover’s Point! ตะลุยทริปดำน้ำที่เกาะช้างกับที่พักสุดฟิน
Scuba Diving Lover’s Point! ตะลุยทริปดำน้ำที่เกาะช้างกับที่พักสุดฟิน

ทริปนี้เราขอเอาใจคนที่รักการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจหรือมีใจอยากลองดำน้ำดูสักครั้ง! Destination ของเราในครั้งนี้จึงขอมุ่งหน้าไปที่ภาคตะวันออกของประเทศไทยอย่าง เกาะช้าง จ.ตราด แน่นอนว่ากิจกรรมเด็ดของเกาะนี้ นอกจากนอนอาบแดดให้ผิวแทนแบบเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, เล่นน้ำทะเลใสๆ, ทานซีฟู้ดให้จุใจ อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ก็คือ ดำน้ำ! ความสวยงามใต้ท้องทะเลของเกาะช้าง ถือสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่รักการดำน้ำเป็นที่สุด และวันนี้จะหยิบเอาจุดน้ำดำดีๆ ของเกาะช้างแห่งนี้มาฝากเพื่อนๆ รับรองเลยว่าไม่มีผิดหวัง


จุดดำน้ำยอดฮิตของเกาะช้าง ที่มีความสวยงามระดับตัวท็อปเรียกแม่จะอยู่ที่ 5 จุดใหญ่ๆ ได้แก่ เกาะยักษ์ใหญ่ เป็นสมาชิกของหมู่เกาะรังที่มีปะการังเขากวางสวยๆ ให้เราได้ชม เกาะยักษ์เล็ก เป็นอีกหนึ่งเกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องดอกไม้ทะเลมากๆ แถมปะการังที่ของที่นี่ยังมีสีสันสดใสถูกใจวัยรุ่นแน่นอน จุดต่อมาคือเกาะมะปริง เกาะเล็กๆ แต่ปะการังสวยมาก แต่ความสวยของที่นี่มาพร้อมกับความอันตรายที่แฝงตัวมาด้วยนิดหน่อย สำหรับใครที่อยากไปลองดำน้ำที่เกาะมะปริงต้องระวังให้ดี เพราะพิกัดของเกาะนี้เป็นช่วงทะเลเปิด อาจถูกน้ำทะเลพัดออกไปไกลจากเกาะได้ง่ายๆ ขยับออกมาจากตัวเกาะช้างเล็กน้อยก็จะเป็นเกาะคลุ้ม เป็นอีกจุดที่ปะการังสวยสวรรค์สร้างจริงๆ ปิดท้ายด้วยเกาะรัง เกาะเล็กๆ ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เกาะเงียบๆ ที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ บรรยากาศสุดธรรมชาติ หาดทรายขาว น้ำใสจนเห็นแนวปะการังและโขดหินใต้น้ำ เป็นสีสันของท้องทะเลที่แท้จริง
หลังจากรู้พิกัดจุดดำน้ำกันเรียบร้อยก็ถึงเวลาหาหนทางให้ได้ไปพิชิตความสวยงามใต้ท้องทะเล การไปดำน้ำที่เกาะช้างนั้น ไม่ใช่ว่ามีเรือก็จะไปกันง่ายๆ นะ เรื่องของท้องทะเลเป็นเรื่องไม่น่าไว้ใจ ทางที่ดีแนะนำว่าให้ซื้อแพ็กเกจทัวร์ราคาไม่แพงที่สามารถหาได้ทั่วไปค่ะ หรือให้ดูเป็นส่วนตัวหน่อยก็ต้องเช่าแล้วหาคนขับเรือไปให้น่าจะดีที่สุด ดังนั้นก็หาที่พักเกาะช้างใกล้กับท่าเรือ หรือบริษัทขายทัวร์จะเป็นหนทางที่ง่ายต่อการเดินทางจะช่วยตอบโจทย์ทริปดำน้ำที่เกาะช้างของเราที่สุดแล้ว! และครั้งนี้เราได้ผู้เชี่ยวชาญพิเศษในการหาที่พักในเกาะช้างอย่าง Traveloka มาช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น ในการหาที่พักเกาะช้าง ให้ถูกใจ ราคาสบายกระเป๋า แถมยังจองง่าย จ่ายง่ายไม่วุ่นวายปวดหัว จองที่พักเกาะช้างกับ Traveloka กันได้เลย หรือจะลองมาดู 5 ที่พักเกาะช้างเหล่านี้ที่สวยและดีจนอยากบอกต่อ!
1. ซีวิว รีสอร์ท แอนด์ สปา (Sea View Resort & Spa)

ซีวิว รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะช้าง บนไหล่เขาพร้อมชายหาดส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวชอุ่ม ล้อมรอบด้วยต้นมะพร้าวและดอกไม้สวยๆ ตอบโจทย์บรรยากาศทะเล๊ทะเลได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าได้ชมวิวจากห้องพักจะเห็นท้องทะเลคราม พร้อมหาดทรายขาวละเอียดดีต่อใจสุดๆ จนต้องร้องว้าว! ส่วนเรื่องความสะดวกสบายของที่นี่บอกเลยว่า หายห่วง เพราะอุปกรณ์ เครื่องใช้อำนวยความสะดวกครบครัน แถมมีกิจกรรมให้เราได้เล่นอีกเยอะแยะมากมาย และด้วยพิกัดของ ซีวิว รีสอร์ท แอนด์ สปา แห่งนี้ตั้งอยู่บนหาดไก่แบ้ ซึ่งเป็นพิกัดที่มีบริษัททัวร์ดำน้ำมากมายให้เราได้เลือกสรร รับรองว่าช่วยแบ่งเบาภาระในการหาทัวร์ได้ง่ายทีเดียว
- ราคาเริ่มต้นที่ 2,XXX บาท
- ปักหมุด Google Map
- จองที่พัก ซีวิว รีสอร์ท แอนด์ สปา กับ Traveloka คลิกที่นี่
2. บ้านปู เกาะช้าง (Banpu Koh Chang)

รีสอร์ทแนวธรรมชาติบนหาดทรายขาวที่จะมอบความรู้สึกส่วนตั๊วส่วนตัวให้กับทุกคน ภายใต้ความสวยงามของธรรมชาติและมุมสวยๆ ของหาดทรายขาวแห่งนี้ ตัวห้องพักถูกออกแบบตกแต่งจากความประณีตของช่างฝีมือดีที่มิกซ์แอนด์แมชต์ความพื้นเมืองและความทันสมัยให้เข้ากันได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกแบบฟูลออฟชั่นที่จะช่วยปลดปล่อยความเครียดให้หายไปกับสายลมทะเล และเกลียวคลื่นสีคราม และแน่นอนว่าเพื่อให้ตอบโจทย์ทริปดำน้ำครั้งนี้ บ้านปู เกาะช้างจึงสามารถเดินทางไปบริษัททัวร์ดำน้ำได้ง่ายๆ ไม่ไกลนักและมีหลายบริษัทให้เราได้เลือกตามสบาย
- ราคาเริ่มต้นที่ 2,XXX บาท
- ปักหมุด Google Map
- จองที่พัก บ้านปู เกาะช้าง กับ Traveloka คลิกที่นี่
3. เซ็นทาราเกาะช้างทรอปิคานารีสอร์ท (Cantara Koh Chang Tropicana Resort)

ทำเลดีสมกับเป็นเซ็นทาราจริงๆ เซ็นทาราเกาะช้างทรอปิคานารีสอร์ทบนหาดคลองพร้าว ใจกลางเกาะช้างฝั่งตะวันตกห้อมล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเกาะช้าง ให้ความเงียบสงบเป็นส่วนตัวพร้อมกิจกรรมสนุกๆ ทั้งกีฬาทางน้ำ สปา สระว่ายน้ำริมทะเล และใกล้สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น เส้นทางเดินป่า น้ำตก หมู่บ้านชาวประมง แคมป์ช้าง รวมถึงท่าเรือและบริษัททัวร์ดำน้ำที่จะพาเราออกไปเที่ยวชมโลกใต้ท้องทะเลในเกาะอื่นๆ ด้วย
- ราคาเริ่มต้นที่ 3,XXX บาท
- ปักหมุด Google Map
- จองที่พัก เซ็นทาราเกาะช้างทรอนิคานารีสอร์ท กับ Traveloka คลิกที่นี่
4. Resolution Resort

ที่พักส่วนตัวที่เราขอยกให้เป็น One-stop Service เลยก็ว่าได้ เพราะที่ Resolution Resort แห่งนี้สามารถอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้ครบจริงๆ ทั้งติดทะเลเพียงแค่ใช้เวลาเดิน 1 นาที มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง อุปกรณ์กีฬาทางน้ำประเภทต่างๆ บริการห้องพักริมชายหาดที่ถูกตกแต่งแบบไทยสมัยใหม่ พร้อมระเบียงอาบแดด เสิร์ฟอาหารท้องถิ่น อาหารนานาชาติและบาร์เครื่องดื่ม พร้อมฟรีเรือรับส่งไปยังท่าเรืออ่าวบางเบ้าที่อยู่ห่างแค่ 2 กิโลเมตร แถมยังมีบริการจัดทริปเที่ยวให้เราแบบไปเช้าเย็นกลับได้สบายๆ และใกล้แหล่งทัวร์ดำน้ำด้วย พักที่ Resolution Resort แห่งนี้นอกจากจะได้ชมสวยๆ ของอ่าวไทยแล้วยังได้ความสะดวกสบายไปในตัวด้วย คุ้มเว่อร์!
- ราคาเริ่มต้นที่ 2,XXX บาท
- ปักหมุด Google Map
- จองที่พัก Resolution Resort กับ Traveloka คลิกที่นี่
5. Amber Sands Beach Resort

สำหรับใครที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายทั้งปวง เราขอแนะนำ Amber Sands Beach Resort ทางฝั่งตะวันออกของเกาะช้าง รีสอร์ทเล็กๆ ที่มีห้องพักอยู่เพียงแค่ 8 ห้องเท่านั้น เติมเต็มความทรงจำวันหยุดสบายๆ ด้วยสวนสวยๆ สระว่ายน้ำกลางแจ้ง การต้อนรับที่อบอุ่น ความเงียบสงบบนชายหาดส่วนตัว วิวทะเลสวยจากระเบียงห้องพัก กิจกรรมทางน้ำ ปั่นจักรยาน และสามารถดำน้ำลึก ดำน้ำตื้นกับทางรีสอร์ทได้แบบไม่ต้องไปไหนไกล นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากท่าเรืออ่าวสับปะรด เพียงแค่ 3-4 กิโลเมตรเท่านั้นพร้อมบริการรับส่งฟรี สะดวกต่อการเดินทางและการดำน้ำสุดๆ
- ราคาเริ่มต้นที่ 3,XXX บาท
- ปักหมุด Google Map
- จองที่พัก Amber Sands Beach Resort กับ Traveloka คลิกที่นี่
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วถ้าไม่ไปเที่ยว ดำน้ำที่เกาะช้างก็คงไม่ได้แล้ว! แต่ถ้าใครยังคิดไม่ตก สถานที่ดำน้ำสวยๆ ก็ไม่มีให้เลือกแค่เกาะช้างหรอกนะ ประเทศไทยยังมี Destination ดีๆ ให้เราได้ไปเยือน ไปเหยียบ ไปดำน้ำกันอีกหลายเกาะ แต่ไม่ว่าจะไปเกาะไหนก็อย่าลืมใช้บริการจองที่พัก จองตั๋วเครื่องบินดีกับ Traveloka ล่ะ ส่วนใครที่ตัดสินใจจะไปเกาะช้างแน่ๆ ก็คลิกเข้าไปหาที่พักเกาะช้างกับ Traveloka ได้เลย รับรองถูกชัวร์!



















ความเดิมจากตอนที่แล้ว
จากตลาดเหล่าตั๊กลัก ถ้าเรานั้่งรถสองแถวของชาวบ้านลัดเลาะเข้าไปตามถนนสายเล็กๆ อันร่มรื่น ได้เห็นบรรยากาศสวนแบบดั้งเดิมของชาวคลองดำเนินสะดวก ที่ยังมีท้องร่อง ลำราง ลำประโดง เชื่อมโยงผันน้ำเข้ามาหล่อเลี้ยงสวนมะพร้าว สวนผลไม้ มาจนถึงทุกวันนี้




ไม้กวาดทางมะพร้าวฝีมือคุณยายที่




นอกจากการเดินเลาะริมน้ำดำเนินสะดวก ตลาดเหล่าตั๊กลัก และนั่งรถสองแถวเที่ยวชมวิถีชาวสวนแล้ว 



ทางเล็กๆ ปั่นซ๊อกแซ๊กเข้าสวน
ไม่ต้องรีบ หยุดพักเหนื่อยแอ๊กท่าถ่ายภาพกันสักนิด (ท่าจะยังมีแรงเหลือ ฮาฮาฮา)
ดื่มน้ำมะพร้าวเติมพลัง จะได้มีแรงปั่นเที่ยวสวนต่อ
วันนี้โชคดี ได้มีโอกาสเห็นวิธีนำมะพร้าวออกมาจากสวนคราวละมากๆ พร้อมกันเป็นร้อยๆ ลูก ด้วยการผูกติดลากออกมาตามท้องร่องสวน แปลก ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
บางช่วงก็ชวนกันเข้าไปปั่นในสวนบ้าง วิวแบบนี้ในเมืองใหญ่ไม่มีแน่นอน ฮาฮาฮา
ปั่นยังไงก็ไม่เหนื่อย เพราะไม่ได้ปั่นเร็ว แดดก็ไม่ร้อน ร่มรื่นด้วยสวนสูงสวนเตี้ย
ความสนุกจากการปั่นจักรยานชมสวนในวันนี้ จะประทับใจเราไปอีกนาน




เหนื่อยจากการปั่นจักรยานมา 15 กิโลเมตรแล้ว ขากลับไปตลาดเหล่าตั๊กลัก เราเลยใช้วิธีล่องเรือหางยาวชมคลองดำเนินสะดวก ให้เรือแล่นไปช้าๆ รับลมเย็นๆ ตามแบบ
บ้านเรือนริมคลองดำเนินสะดวก
เรือนไทยริมคลองดำเนินสะดวก
บรรยากาศคลองดำเนินสะดวกในปัจจุบัน
เที่ยวกันมาทั้งวันแล้ว ถ้าใครไม่รีบกลับบ้าน และอยากใช้เวลาค้างคืนต่อที่ดำเนินสะดวก เขาก็มีที่พักหลายรูปแบบไว้ให้เลือกนะจ๊ะ อย่างเช่น 
ห้องนอนรวมแบบ Hostel ในราคาแสนประหยัด ที่
หรือถ้าชอบความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และต้องการนอนริมน้ำจริงๆ ก็มี 


เสน่ห์สายน้ำเงียบสงบยามเช้า สืบสานวิถีพุทธกับการตักบาตรทางน้ำ
วิถีชีวิตแบบนี้ยังมีให้เห็นแถบดำเนินสะดวก อัมพวา บางน้อย บางคนที บนรอยต่อจังหวัดราชบุรีและสมุทรสงคราม
โบกมือลาสายน้ำ ขอฝากหัวใจไว้ที่นี่ แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่แน่นอน


เรือแจวน้อยลำนั้นค่อยๆ เคลื่อนผ่านไปพร้อมสายน้ำที่ยังคงไม่หยุดไหลแม้สักวินาที จะมีใครรู้บ้างว่า ที่นี่คือ

แม้ภาพวิถีเก่าๆ ที่น้ำท่วมทุกปีในช่วงเดือนสิบเอ็ดเดือนสิบสองน้ำนองเต็มตลิ่ง จะไม่มีให้เห็นอีกแล้ว (เพราะมีการสร้างเขื่อนเจ้าพระยา) ทว่าวิถีชาวน้ำแห่งเหล่าตั๊กลักก็ยังคงมีลมหายใจตราบทุกวันนี้
ทุกวันนี้เร่ิมมีการฟื้นฟู
ในขณะที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวกในปัจจุบันเนืองแน่นแออัดไปด้วยนักท่องเที่ยววันละเป็นหมื่นคน (โดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์) เพียงเดินข้ามสะพานข้ามคลองดำเนินสะดวกมาอีกฝั่งที่ 

สินค้าหลายอย่างชวนให้นึกถึงวัยเด็กเนอะ
งานฝีมือน่ารักๆ ที่สะท้อนความผูกพันระหว่างคนและสายน้ำคลองดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
แม้จะไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่คุณป้าก็เปิดหน้าบ้านที่หันออกริมน้ำ ขายหมวกขายพัดเล็กๆ น้อยๆ ให้นักท่องเที่ยวที่เดินมาเยือนเหล่าตั๊กลัก
ด้วยความน่ารัก มีคุณค่าเรื่องราวเรื่องเล่าย้อยไปได้กว่า
นอกจากจะเป็นการประชุมสัญจรของสมาคม
ผู้นำชุมชนตลาดเหล่าตั๊กลัก บรรยายสรุปประวัติความเป็นมาและความสำคัญ ของตลาดน้ำแห่งแรกในเมืองไทยให้สมาชิก
สภาพคลองดำเนินสะดวกในปัจจุบัน ยังคงมีบ้านเรือนปลูกชิดริมน้ำ และเรือประเภทต่างๆ ทั้งเรือของชาวบ้านและเรือท่องเที่ยว แล่นไปมาเติมจังหวะสีสันอยู่ทุกวัน
ไม่ได้มีแต่เรือหางยาวติดเครื่องยนต์นะจ๊ะ เรือพายขายผลไม้ก็ยังมีให้เห็นเหมือนกัน
ภาพชีวิตเนิบช้าและเงียบสงบ บริเวณคลองดำเนินสะดวก ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก ในปัจจุบัน
ใช้ชีวิตผูกพันอยู่กับสายน้ำทุกเช้าค่ำ ณ ตลาดเก่าเหล่าตั๊กลัก
คลองดำเนินสะดวกบริเวณตลาดเหล่าตั๊กลัก แม้เรือพายขายของจะย้ายไปอยู่ที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวกกันหมด แต่ ณ จุดนี้เอง
เรือติดเครื่องยนต์คำรามแล่นตัดผิวน้ำคลองดำเนินสะดวก พานักท่องเที่ยวกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าไปยังตลาดน้ำดำเนินสะดวกอันคลาคล่ำ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีเรือพายที่อนุรักษ์วิถีเนิบช้าเอาไว้
เรือบางลำอาจจะแล่นเร็วและเสียงเครื่องยนต์ดังไปบ้าง ในอนาคตคงต้องมีมาตรการควบคุม ให้เที่ยวกันได้อย่างยั่งยืนตลอดไปนะจ๊ะ
ยามเช้าที่ตลาดเหล่าตั๊กลัก มีเรือพายขายของแบบ
กล้วยน้ำว้าน่าทานจากสวนใกล้ๆ ตลาดเหล่าตั๊กลัก อัดแน่นมาเต็มลำเรือแจวของคุณป้า
แม่ลูกคู่นี้จะไปไหนกันจ๊ะ? น่าอิจฉาจังมีเรือส่วนตัวด้วย ชวนให้นึกถึงเมืองเวนิสที่อิตาลีเลยนะเนี่ยะ ฮาฮาฮา
เรือพายขายไอศกรีมมะพร้าวผ่านหน้าตลาดเหล่าตั๊กลักทุกวัน
กิจกรรมน่าสนุกสำหรับการมาเยือนตลาดแห่งนี้ คือ
ใครที่ต้องการหามุมสงบๆ ไม่แออัดวุ่นวาย ตลาดเหล่าตั๊กลักอาจคือคำตอบสุดท้ายของคุณ
ศิลปินหลายคนที่มีสายเลือดเหล่าตั๊กลักแท้ๆ พากันมาฝังตัวสร้างสรรค์งานศิลป์ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิต ความทรงจำ และความผูกพันกับบ้านเกิด
แถบนี้มีสวนมะพร้าวเยอะ ศิลปินแห่งตลาดเก่าเหล่าตั๊กลักจึงนำกะลามะพร้าวมาเนรมิตเป็น
บรรยากาศย้อนยุคที่ยังมีการใช้งานอยู่อาศัยจริง ของตลาดเหล่าตั๊กลัก
รถเด็กเล่นปั่นได้จริง เก่าเก็บ แต่ทรงคุณค่าทางจิตใจสำหรับใครหลายๆ คน
คุณแต่งแห่งเหล่าตั๊กลัก สาธิตการวาดภาพจากยางต้นกล้วยให้เราชม
อาหารขึ้นชื่อของตลาดเหล่าตั๊กลักมีหลายอย่าง ที่โด่งดัง เช่น 


แม้หน้าตาจะธรรมดา แต่ส้มตำของเรือนแม่สุภาพ รสชาติไม่เป็นรองใครเลยจริงๆ
ข้าวเกรียบปากหม้อ ของเรือนแม่สุภา
ขนมกล้วยแบบจีนแท้ๆ ที่เรือนแม่สุภา
เส้นทางเดินเที่ยวเลาะริมคลองดำเนินสะดวก สวยงาม มีสีสันทั้งจากดอกไม้และวิถีชีวิตผู้คน
เดินเล่นเย็นใจในแบบ
น้ำยังสะอาดขนาดโดดเล่นได้อย่างไม่ต้องกังวล
ว่างๆ ก็ลงไปแช่น้ำคลายร้อนซะเลย ฮาฮาฮา
ถ้าน้ำไม่สะอาดจริง ปลาเสือตอตัวใหญ่อวบอ้วนขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเรา คงจะอยู่ไม่ได้แน่นอน
เมื่อคนดูแลสายน้ำ สายน้ำก็เอื้ออาทรต่อผู้คน
หน้าบ้านน่ามอง ณ ริมน้ำคลองดำเนินสะดวก
เส้นทางเดินเที่ยว 
หลังจากเดินเที่ยวริมคลองดำเนินสะดวกกันจนชุ่มปอดแล้ว เราก็เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งรถสองแถวท้องถิ่นเที่ยวชมวิถีบนบกกันบ้าง
จุดแรกที่ห้ามพลาดชมด้วยประการทั้งปวง คือ


วันนี้ตรงกับเทศกาลกินเจ ของไหว้ในโรงเจจึงมีมากเป็นพิเศษ

สถาปัตยกรรมจีนอันละเอียดอ่อนและเปี่ยมสีสันของ
บรรยากาศในช่วงเทศกาลกินเจที่
พลังศรัทธาหลั่งไหลสู่ 

การเดินทางอันยาวนานกว่า 10 วัน ด้วยการเที่ยวเชื่อมโยงจากตอนเหนือของญี่ปุ่น
ในหนึ่งวันที่นิกโก้ เหมาะจะชวนกันไป





เมื่อเดินเที่ยวศาลเจ้ามรดกโลกที่ยิ่งใหญ่งดงามในเมืองนิกโกกันมาตลอดวันแล้ว ก็ต้องไปเติมพลังเติมความสดชื่นกันที่ 
ในวันถัดมา เราจัดให้เป็นคิวของการเที่ยวธรรมชาติ เข้าไปชื่นชมความงามของแมกไม้สายธารในอุทยานแห่งชาตินิกโก 

อีกหนึ่งน้ำตกแสนสวยสุดซึ้งในเมืองนิกโก คือ 

ภายในพิพิธภัณฑ์บ้านทูตอังกฤษ มองออกไปเห็นวิวทะเลสาบซูเซนจิ
นั่งเหม่อมองวิวทะเลสาบซูเซนจิในวันครึ้มๆ ก็สวยไปอีกแบบเนอะ
โบกมือลาเมืองนิกโก มุ่งหน้าสู่ 



จากมหาวิทยาลัยขงจื้อ เราใช้เวลาช่วงสุดท้ายของวันก่อนแสงอาทิตย์จะลาลับไปกันที่สวนดอกไม้ 



จังหวัดสุดท้ายในภาคกลางของญี่ปุ่น ที่เราได้ไปเยี่ยมเยือนในทริปนี้คือ
ได้ข่าวว่า
นั่งรถจาก Deneplaza ไปไม่ไกล ก็ถึงหมุดหมายที่เราตั้งใจมาในวันนี้ คือ 

อีกหนึ่งสถานที่ในเมืองนูมาตะซึ่งไม่ควรพลาดชมอย่างเด็ดขาด คือ 
จากเมืองนูมาตะ เราบึ่งรถไปนอนพักค้างคืนกันใน
ในย่านดาวทาวน์ของเมืองอิคาโฮะ มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญซึ่งนักท่องเที่ยวไม่พลาดชมและเก็บภาพ คือ 
จากเมืองอิคาโฮะ นั่งรถไปแค่ชั่วโมงเดียว สู่
ทางเดินไปศาลเจ้าฮารุนะ สงบเงียบ เป็นธรรมชาติสุดๆ แค่นี้กายใจก็สงบแล้ว
ระหว่างทางเดินไปศาลเจ้า ริมสองข้างทางเราจะพบ
ระหว่างทางเดินไปศาลเจ้าฮารุนะ มีหอคอยโบราณลักษณะคล้ายเก๋งจีน และรูปปันเซียน (เทพ) ที่คนญี่ปุ่นเคารพนับถือ





กิจกรรมสุดท้ายในทริปนี้ ที่ถือว่าสร้างความสนุกและประทับใจ ได้ของฝากฝีมือตัวเองติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วยก็คือ 
ได้เวลากลับบ้านแล้ว การเดินทางอันยาวนาน 10 วันจากฮอกไกโดลงมาถึงอิบารากิในทริปนี้ มอบประสบการณ์แปลกใหม่สุดพิเศษให้เรามากมาย มันมีแต่ช่วงเวลาน่าจดจำ กับเรื่องราวดีๆ ที่ผมอยากนำมาบอกเล่าต่อ

ทริปล่องเรือเที่ยวเชื่อมโยงภาคเหนือของญี่ปุ่นลงมาสู่ภาคกลาง ตั้งแต่ 



จากโอเอไร นั่งรถยนต์ต่อไปอีกพักเดียว ก็ถึงที่เที่ยวสุดฮิตซึ่งทั้งคนญี่ปุ่นและคนไทยรู้จักกันดี โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนต้องไม่พลาด นั่นคือ 


ถัดจากนั้น สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดชมด้วยประการทั้งปวง คือ 

ไม่ห่างจากสวนไคราคุเอน เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตเหล้าสาเกชั้นเยี่ยมของเมืองมิโตะ จังหวัดอิบารากิ ชื่อ 

จากเมืองมิโตะเรานั่งรถไกลนิดนึงจนไปถึง 
จากศาลเจ้าเดินขึ้นเขาต่อไปอีกแค่ราวๆ 10 นาที ก็ถึงจุดขึ้นรถเคเบิลคาร์ (จริงๆ มี Ropeway ให้เลือกด้วย) โดยรถขาขึ้นจะเป็นสีเขียว และรถขาลงจะเป็นสีแดง เพื่อสื่อถึงฤดูกาลที่ต่างกันบนภูเขานี้



จากจุดชมวิวยอดเขาสึคุบะ ถ้าเดินเข้าไปในแนวป่าเพียงไม่ถึง 50 เมตร เราก็จะพบกับ
เปลี่ยนบรรยากาศจากการเที่ยวป่าเที่ยวเขา มาไหว้พระกันบ้าง แต่ขอบอกว่าไม่ใช่พระธรรมดา แต่เป็นพระพุทธรูปปางยืนสูงอันดับ 3 ของโลก คือ 


นั่งรถจากจังหวัดอิบารากิไปทางตะวันตกไม่ไกล ในที่สุดเราก็ล่วงเข้าเขตจังหวัดน่าเที่ยวอีกแห่ง คือ 








จากไทยเราบินตรงไปลงที่สนามบิน New Chitose International Airport บนเกาะฮอกไกโด เกาะที่อยู่ตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น เกาะที่มีรูปร่างคล้ายกระเบนราหูกำลังเริงร่าว่ายน้ำกางครีบอย่างสง่างาม ช่วงที่เราไปถึง เป็นต้นฤดูใบไม้ร่วงพอดี อากาศจึงเริ่มเย็นสบาย และใบไม้บางส่วนเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว โดยสถานที่แรกในการลั้นลาพาเที่ยวครั้งนี้คือ 



รีดนมวัวกันเสร็จแล้ว ก็ไปพายเรือแคนนูระยะทางชิลๆ 2.1 กิโลเมตร ใน 
ที่ฮอกไกโด เราต้องนอนค้างคืนที่
ใครชอบช้อปปิ้ง เมืองโทมาโกะไม มีห้างใหญ่คือ
แนะนำว่า ที่โทมาโกะไม ให้ตื่นเช้าๆ ไปที่ท่าเรือ 

จากร้าน Marutoma Cafeterai เดินข้ามถนนมานิดเดียว ก็ถึง Seafood Market ที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก เพราะมีท่าเรืออยู่ใกล้ๆ นี่เอง จึงมีของทะเลสดๆ ให้ชิมกันทุกวัน ตลาดนี้ชื่อ 
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจในเมืองโทมาโกะไมก็คือ 
ด้านข้างจุดชมวิว
นอกจากการเที่ยวชมธรรมชาติแล้ว ในเมืองโทมาโกะไมยังมีพิพิธภัณฑ์น่าสนใจ (แบบที่หาไม่ได้ในเมืองไทย) ให้ชมกันอีกหลายแห่ง อาทิ 




สำหรับคนที่ต้องการมาเที่ยวแบบชิลๆ พักผ่อนสบายๆ ไม่ต้องการมีกิจกรรมหนักๆ อะไรมากมายในเมืองโทมาโกะไม ขอแนะนำให้ไปที่ 










และแล้ว เมื่อตระเวนเที่ยวเมือง Chitose กับ Tomakomai บนเกาะฮอกไกโดกันมาจนอิ่มหนำสำราญใจแล้ว ในเวลาเย็นย่ำ เราก็รีบบึ่งรถมาที่ท่าเรือ Tomakomai เพื่อลงเรือสำราญ
ก่อนขึ้นเรือก็ต้องมีการ Scan บัตรโดยสารกันก่อนตามระเบียบ
ภายในเรือ
ห้องอาหารบนเรือ
ห้องนอนอันแสนสุขสบายและกว้างขวางบนเรือ 
กิจกรรมสุดฮิตอย่างหนึ่งบนเรือ
เมื่อใกล้เมืองโอเอไรเข้าไป ก็จะเริ่มเห็นนกนางนวลตัวใหญ่บินฉวัดเฉวียนเล่นลมเข้ามาใกล้เรือเฟอร์รี่ของเรา
ถามว่าอยู่บนเรือ
































เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา 
รอยยิ้มหวานๆ กับ Welcome Drink น้ำอัญชัญธรรมชาติ สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกไปถึงชุมชน
ช่วงเช้าๆ อากาศแจ่มใส เราจูงมือกันเดินชมผลหมากรากไม้นานาชนิดในสวนของชาวบ้าน โดยมีผู้นำชุมชนเดินอธิบายให้ความรู้อย่างใกล้ชิด ทำให้รู้ซึ้งว่า ชาวบ้านหนองปลาไหลมี Supermarket ธรรมชาติอยู่ข้างบ้าน เก็บกินได้สบาย แถมยังปลอดจากยาฆ่าแมลงด้วย
กอไผ่สีสุกขนาดใหญ่ในสวนของชาวบ้าน สร้างร่มเงาแถมยังใช้ประโยชน์ได้นานาประการ
เดินศึกษาพืชพรรณต่างๆ ในสวนของชาวบ้านกันอย่างเพลิดเพลิน
ลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็นพืชสมุนไพรที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัยชะลอความแก่ แถมยังช่วยย่อยอาหารดีมากด้วย
พืชผักรอบบ้านเป็นทั้งอาหารและยาสมุนไพร ใครมีองค์ความรู้ก็เก็บไปกินเก็บไปใช้ได้ไม่รู้จักหมดล่ะครับ
เดินชมสวนเสร็จแล้ว ก็ได้เวลามาช่วยกันทำอาหารพื้นบ้านสไตล์หนองปลาไหลแท้ ในเชิงกิจกรรมการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ผ่านวัฒนธรรมอาหารพื้นบ้าน วันนี้ป้าแหลมเจ้าบ้านใจดีมาสาธิตทำ
รอยยิ้มเปื้อนหน้า กับกิจกรรมที่ทุกคนได้มีส่วนร่วมและแบ่งปันความสุขกัน
ปลาอินทรีย์สด กะทิสด เครื่องแกง และเครื่องปรุงต่างๆ ถูกนำมาคลุกเคล้าให้เข้ากันอย่างช้าๆ ตามแบบฉบับ Slow Food ชาวหนองปลาไหล
เมื่อกวนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันจนเหนียวข้นได้ที่ดีแล้ว ก็นำมาหยอดใส่ใบตอง ห่อเป็นกระทงเล็กๆ น่ารัก แล้วนำไปนึ่งให้สุกหอมฉุย
เสร็จแล้วจ้า ห่อหมกปลาอินทรีย์สดบ้านหนองปลาไหล กลิ่นหอมหวน รสชาตินี่มนวล เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี กินกับข้าวสวยร้อนๆ ต้อขอเบิ้ลคนละหลายๆ กระทงเชียว
วันแห่งการสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ ร่วมกัน
นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้เรียนทำห่อหมกจากป้าแหลมแล้ว นักเรียนบ้านหนองปลาไหลยังมาร่วมเรียนรู้ภูมิปัญญาจากคนรุ่นปู่ย่าของตนด้วย
เที่ยงพอดี กับข้าวทุกอย่างพร้อมเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ ได้เวลามานั่งกินข้าวร่วมกันในบรรยากาศสบายๆ ใต้ต้นไม้ร่มรื่น
อาหารเด่นวันนี้ มีทั้งห่อหมกปลาอินทรีย์สด, แกงกล้วยรอไก่, ต้มหมูใบชะมวง, ไข่เจียวร้อนๆ และตบท้ายด้วยขนมกล้วยสูตรบ้านหนองปลาไหล ที่ทุกคนช่วยกันทำเอง
ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก กับความประทับใจในครึ่งวันเช้า
อิ่มหนำกับอาหารเที่ยงแล้ว ช่วงบ่ายได้เวลาไปทำกิจกรรมสนุกๆ 
ซ้อมยิงหนังสติ๊ก ใครยิงโดนกระป๋องพลาสติกที่แขวนไว้บนราวไม้ไผ่ก่อน คนนั้นชนะ!
ได้เวลาแข่งขันโดยแบ่งเป็นคู่ๆ ระหว่างนักท่องเที่ยวกับเด็กนักเรียน ยิงกระสุนปุ๋ยอินทรีย์กันคนละ 5 เม็ด ใครเข้าเป้ามากกว่า คนนั้นรับของรางวัลไปเลย
ความน่ารักของกิจกรรม
รับรางวัลกันไปคนละชิ้นสองชิ้นอย่างชื่นมื่น
จากนั้นเราเดินทางสู่
นักท่องเที่ยว, สมาชิกสมาคม TEATA และเจ้าหน้าที่จาก อพท. ช่วยกันจัดเตรียมข้าวของ ทำกิจกรรม CSR กับเด็กๆ ในช่วงบ่าย
เยาวชนนักสื่อความหมายท้องถิ่นบ้านหนองปลาไหล กล่าวเปิดงานและเล่าประวัติชุมชนให้นักท่องเที่ยวฟัง
เด็กน้อยน่ารักจากโรงเรียนอนุบาลบ้านหนองปลาไหล เตรียมตัวมารับของแจกที่เราเตรียมมาด้วยใจในวันนี้
การแบ่งปันความสุขกับเด็กๆ ด้วยการให้ นับเป็นเรื่องไม่ยากที่เราทุกคนทำได้ด้วยสองมือและหนึ่งใจ
ก่อนกลับบ้านวันนั้น คณะของเราเดินทางไปเยี่ยมชม
ภายในวิหารเซียน คือที่ประทับของรูปปั้น รูปหล่อโลหะสำริด และสมบัติมีค่าจากแดนมังกร นับหมื่นๆ องค์
ห้องประทับของในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ครั้งเสด็จมาเปิดวิหารเซียน เมื่อ พ.ศ.2536
ความยิ่งใหญ่อลังการของวิหารเซียน โด่งดังไม่เฉพาะกับชาวไทย แต่ยังรู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวจีนด้วย จึงมีคนมาเยี่ยมชมไม่ขาดสายตลอดปี
ภาพวาดที่ใช้สีพิเศษ คือใช้อัญมณีมีค่าต่างๆ มาบดผสมสี วาดเป็นเหล่านางฟ้าเทวดา ประดับอยู่บนฝาผนังภายในวิหารเซียน
แดดร่มลมตกแล้ว ก่อนกลับบ้าน เราแวะเข้าไปที่ 
ยิ้มหวานของลูกหลานบ้านชากแง้ว
ทริปเดินทางสั้นๆ เพียงวันเดีวของเราจบลงแล้ว ทว่าสิ่งที่ได้จากวันนี้มีมากยิ่งกว่าความประทับใจ เพราะเราได้ทำกิจกรรม 
