ศูนย์สุขภาพเชตวัน ศาลายา นวดไทยต้นตำรับวัดโพธิ์
การนวดไทย เป็นศาสตร์โบราณที่ลือเลื่องไปทั่วโลก เพราะช่วยบรรเทาและรักษาให้ผู้มีความปวดเมื่อยทางร่างกายรู้สึกผ่อนคลายสบายตัวขึ้น ยิ่งกว่านั้นการนวดไทยยังช่วยรักษาอาการป่วยบางอย่างให้หายได้อย่างน่าอัศจรรย์ และหากจะกล่าวถึงต้นตำรับการนวดไทยซึ่งถือเป็นตำนานแท้จริง ก็คงต้องยกให้ “วัดโพธิ์” (วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ) และ “ศูนย์สุขภาพเชตวัน” อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐมศูนย์สุขภาพเชตวัน อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐม
เชตวัน ถือเป็นผู้ริเริ่มศาสตร์การนวดแผนไทยตำรับวัดโพธิ์ให้แพร่หลาย โรงเรียนเริ่มเปิดสอนวิชานวดแผนโบราณขึ้นครั้งแรกเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2505 โดย คุณปรีดา ตั้งตรงจิตร รวบรวมองค์ความรู้จากตำรา จารึกและครูนวด รวมถึงจัดระบบการเรียนการสอน จนได้ท่านวดที่เป็นแบบแผนสืบทอดต่อกันมา ปัจจุบันนี้โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ นับเป็นโรงเรียนแห่งแรกที่เปิดสอนวิชาแพทย์แผนไทยครบทั้ง 4 สาขาตามแบบฉบับดั้งเดิม
ศูนย์สุขภาพ เชตวันฯ เปิดสอนและบริการ 12 หลักสูตร ทั้งนวดแผนโบราณ หัตถบำบัด นวดทารกและเด็ก นวดสตรี นวดน้ำมันและน้ำมันหอมระเหย นวดเท้า เภสัชกรรมและเวชกรรมไทย วิชาชีพนวดไทยชั้นต้น ชั้นกลาง และนวดไทยสำหรับชาวต่างชาติ สปาเพื่อสุขภาพ และท่าบริหารร่างกาย ฤาษีดัดตน เป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ให้มรดกไทยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในระดับโลกขยายฐานการทำงานสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
วัดโพธิ์ (วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม) แหล่งรวบรวมศาสตร์การนวดไทยโบราณ และท่าฤาษีดัดตน
พระนอนวัดโพธิ์ ความวิจิตรแห่งพุทธศิลป์ของสยาม
พระพุทธรูปปางต่างๆ ในศาลารายวัดโพธิ์
การแพทย์แผนไทยและการนวดแผนโบราณ มีประวัติความเป็นมาคู่กับชาติไทยมาแต่โบราณ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา กรมแพทย์และกรมหมอนวดนั้น ถือได้ว่าเป็นกรมใหญ่ซึ่งต้องรับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (กรุงศรีอยุธยาตอนปลาย) มีการรวบรวมตำรับยาต่างๆ ขึ้นเป็นครั้งแรก เรียกว่า “ตำราพระโอสถพระนารายณ์” การแพทย์แผนไทยยังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง มีการเปิดร้านจัดยาและขายยาสมุนไพรตามใบสั่งอยู่ทั่วไป ทั้งภายในและภายนอกกำแพงพระนคร ซึ่งแม้ในขณะนั้นมิชชั่นนารีชาวฝรั่งเศสได้นำการแพทย์แผนตะวันตกเข้ามาเผย แพร่ในสยาม ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าแพทย์แผนไทย
รูปปั้นฤาษีดัดตน 80 ท่า แห่งวัดโพธิ์
ในสมัยโบราณความรู้เรื่องการแพทย์และการนวดไทยจะสั่งสอนสืบต่อกันเป็นทอดๆ โดยครูจะรับตัวศิษย์ไว้แล้วค่อยสั่งค่อยสอนให้จดจำความรู้ต่างๆ ความรู้ที่สืบทอดกันมานั้น อาจเพิ่มพูน สูญหาย หรือเพี้ยนไปบ้างตามความสามารถของครูและศิษย์เป็นสำคัญ จวบจนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) ได้โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ “วัดโพธาราม” หรือ “วัดโพธิ์” พระอารามหลวง ทรงให้รวบรวมตำรายา ฤาษีดัดตน จวบจนตำราการนวด แล้วให้จารึกไว้ตามศาลาราย เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาโดยทั่วกัน ใน พ.ศ. 2375 ครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) โปรดเกล้าฯให้ บูรณะวัดโพธิ์ใหม่ ทรงให้หล่อรูปฤษีดัดตนเป็นโลหะ และรวบรวมตำราการนวดและตำราการแพทย์จารึกในวัดโพธิ์ เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปศึกษา และนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ จนถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของสยามเลยทีเดียว ใน พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระปิยะมหาราช (รัชกาลที่ 5) ทรงโปรดเกล้าฯให้แพทย์หลวงสังคายนาและแปลตำราแพทย์จากภาษาบาลีและสันสกฤตเป็นภาษาไทย เรียกว่า “ตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ (ฉบับหลวง)” ซึ่งตำรานี้ได้แยกการนวดเป็นภาควิชาหัตถศาสตร์ เรียกว่า “ตำราแบบนวดฉบับหลวง” โดยจารึกวัดโพธิ์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก จำนวน 1,440 แผ่น
ปัจจุบัน ศูนย์สุขภาพเชตวัน ศาลายา นครปฐม มีแผนกนวดเพื่อบำบัดแก้อาการของผู้ป่วยด้วย ไม่ได้มีแต่การนวดเพื่อผ่อนคลายอย่างเดียว
คุณเสรัชย์ ตั้งตรงจิตร ทายาทรุ่นที่ 3 ผู้บริหารศูนย์สุขภาพเชตวัน ศาลายา นครปฐม ในปัจจุบัน
ห้องนวดเท้าเพื่อผ่อนคลาย ศูนย์สุขภาพเชตวัน
ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชายหญิง ศูนย์สุขภาพเชตวัน
เปลี่ยนเสื้อผาเสร็จแล้ว ก็มานั่งล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดในอ่างไม้ตามแบบโบราณ
นวดเพื่อผ่อนคลายและแก้อาการ ตามตำรับนวดไทยโบราณวัดโพธิ์ ที่ศูนย์สุขภาพเชตวัน
บรรยายให้ความรู้เรื่องศาสตร์นวดไทยเบื้องต้น กับคณะที่เข้ามาศึกษาดูงาน พร้อมสอนท่านวดตนเองเบื้องต้น ให้สามารถกลับไปใช้ได้เองในชีวิตประจำวัน
ศูนย์สุขภาพเชตวัน มีโรงเรียนในเครือจำนวน 4 แห่ง คือ โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์), โรงเรียนนวดแผนโบราณ เชตวัน แจ้งวัฒนะ, โรงเรียนนวดแผนโบราณ เชตวัน เชียงใหม่, โรงเรียนสุขภาพ เชตวัน และคลีนิกแพทย์แผนโบราณ โพธิ์ชัยศรี ศาลายา จังหวัดนครปฐม ใครสนใจเรียนเขาก็มีทั้งหลักสูตแบบระยะสั้นและระยะยาวให้เลือก นับว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพแบบไทยๆ ที่น่าสนใจและมีประโยชน์น่าศึกษาไม่น้อย
ศูนย์สุขภาพเชตวัน มีผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพมากมายให้เลือกใช้ ทั้งยาหม่อง ยาดมตามธาตุ น้ำมันนวด น้ำมันอโรมา ลูกประคบ ครีมนวดเท้า ฯลฯ รวมถึงผลิตภัณฑ์สปาอีกมากมาย
ยาดมตามธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ
นอกจากบริการนวดแผนไทยแล้ว ศูนย์สุขภาพเชตวัน ยังมีห้องพักมากกว่า 15 ห้อง สำหรับให้ผู้สนใจหรือนักเรียนที่มาเรียนนวดตามคอร์สได้เข้าพัก พร้อมอาหารบริการ
มาใช้บริการนวดแผนไทยที่ศูนย์สุขภาพเชตวันแล้ว อย่าลืมไปสัมผัสขนมและเครื่องดื่มสุขภาพที่ ร้าน Chetawan Cafe & Bistro รับแอร์เย็นฉ่ำ จิบเครื่องดื่มที่ชอบ ในบรรยากาศ relax สบายๆ ครับ
(ขอบคุณภาพ : จากคุณสุเทพ ช่วยปัญญา / www.thewaynews.com)
คุณบี (ณิชมน ตั้งตรงจิตร) คนรุ่นใหม่ไฟแรง เจ้าของ ร้าน Chetawan Cafe & Bistro ซึ่งมีแนวคิดสร้างสรรค์ขนมและเครื่องดื่มสุขภาพให้ได้ชิมกัน โดยคุณบีบินไปเรียนด้านอาหารที่ สถาบัน Le Cordon Bleu ปารีส ฝรั่งเศส นานถึง 7 เดือน
คุณบียังเป็นเจ้าของร้านอาหารวีแกนเพียงเจ้าเดียวในย่านท่าเตียน กทม. อีกด้วย นั่นคือ “ร้าน Began Vegan” (โทร. 08-0226-5770 / เปิดทุกวัน เวลา 10.30-18.00 น.) ตอนนี้มีเครื่องดื่มใหม่ล่าสุดให้ชิม “น้ำใบบัวบกผสมนมข้าวโอ๊ต” แบรนด์ณิมน ซึ่งคุณบีคิดค้นขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยความเก๋คือด้านหลังขวดมีบทกลอนบรรยายสรรพคุณอันมีประโยชน์ของน้ำใบบัวบกไว้ด้วยอย่างน่ารัก
น้ำมะพร้าวปลูกเองในสวนของศูนย์สุขภาพเชตวัน ดื่มแล้วชื่นใจมาก
นอกจากนี้ ร้าน Chetawan Cafe & Bistro ยังมีเครื่องดื่มสุขภาพอีกมากมายให้เลือกชิมได้ทุกวัน
ขนมละลานตาน่าลิ้มลองที่ ร้าน Chetawan Cafe & Bistro บรรจงรังสรรค์ขึ้นเพื่อทุกคน
(ขอบคุณภาพ : จากคุณสุเทพ ช่วยปัญญา / www.thewaynews.com)
www.watpomassage.com
จองนวด ทัวกรุ๊ปทัวร์โรงเรียน ไกด์ทัวร์นวด โทร. 08-6317-5562
รับนักเรียน เวลาทำการ 08.00-17.00 น. โทร. 0-2622-3533, 08-6368-3841 watpo.ttm@gmail.com.
บริการนวดท่าเตียน เวลาทำการ 08.00-20.00 น. โทร. 08-4206-3774
สำนักงาน เวลาทำการ 08.00-17.00 น. โทร.02-622-3551
ชกทส. จังหวัดนครปฐม ร่วมกับ สธทท. จัดกอล์ฟการกุศล ณ สนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ
ชมรมกีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ (ชกทส.) จังหวัดนครปฐม ร่วมกับ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครปฐม และสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดนครปฐม จัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการออกกำลังกายอย่างยั่งยืน เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนในจังหวัดนครปฐม และรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้ผู้ด้อยโอกาส และผู้ป่วยติดเตียง ในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม “การแข่งขันกีฬากอล์ฟ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ” ครั้งที่ 1 จะจัดขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ณ สนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ ตำบลไผ่หูช้าง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) เป็นประธานแถลงข่าว ชกทส. จังหวัดนครปฐม ร่วมกับ สธทท. จัดกอล์ฟการกุศล ณ สนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ พร้อมด้วย คุณวรินทร ทองพูน ประธานชมรมกีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ (ชกทส.) จังหวัดนครปฐม นายสมศักดิ์ ธีรภาพสกุลวงศ์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครปฐม นายประสิทธิ์ ภักดีพานิชพงศ์ ประธานกรรมการ สนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ คุณวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว (ชสท.) และสื่อมวลร่วมแถลง
นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) กล่าวว่า “การจัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ครั้งที่ 1 นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านกีฬากอล์ฟ ในจังหวัดนครปฐมให้เพิ่มมากขึ้น เพราะมีสนามกอล์ฟได้มาตราฐานระดับนานชาติมากมาย ที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ
เพิ่มความสัมพันธ์ในครอบครัว ที่สามารถทำกิจกรรมท่องเที่ยวร่วมกันได้ คุณพ่อออกรอบตีกอลฟ์ คุณแม่พาลูกเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงกับสนามกอล์ฟ เป็นการส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างยั่งยืน และกระจายรายได้สู่ชุมชนในจังหวัดนครปฐม”
คุณวรินทร ทองพูน ประธานชมรมกีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ (ชกทส.) จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า “การแข่งขันกีฬากอล์ฟ ในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก 5 องค์กรหลัก นำโดย สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครปฐม สมาคมท่องเที่ยวจังหวัดนครปฐม สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม และชมรมกีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ (ชกทส.) จังหวัดนครปฐม เปิดรับสมัครนักกอลฟ์สมัครเล่นทีมละ 5 ท่าน มาดวลวงสวิงกัน ค่าสมัครทีมละ 15,000 บาท
เพื่อหาทีมชนะเลิศชิงถ้วยรางวัลจาก พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง รองประธานคณะกรรมการ การท่องเที่ยวและกีฬาวุฒิสภา และประธานคณะอนุกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา ถ้วยรางวัลพิเศษ 1 รางวัล จากนายประสิทธิ์ ภักดีพานิชพงศ์ ประธานกรรมการ สนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ และบัตรรับประทานอาหารฟรีวันธรรมดา จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 4 ท่าน มูลค่ารวมเป็นเงิน 5,600 บาท พร้อมถ้วยรางวัลดังต่อไปนี้ ถ้วยรางวัลชนะเลิศประเภททีม 1 รางวัล ถ้วยรางวัลชนะเลิศ Groos score 3 รางวัล ถ้วยรางวัลชนะเลิศ Net score 3 รางวัล ถ้วยรางวัลบู้บี้ 1 รางวัล และของรางวัลจากผู้สนับสนุนอีกมากมาย” นายสมศักดิ์ ธีรภาพสกุลวงศ์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า “เราและสมาชิกของ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครปฐม พร้อมสนับสนุนกิจกรรม การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ วันนี้ก็นำเอาไททรงดำมาฟ้อนเปิดงานแถลงข่าวด้วย ร้านโก้เท้บางเลน สนับสนุนเป็ดพะโล้ Fish Guroo สนับสนุนปลาสลิดทอด สวนสุขภาพเชตวัน ให้สถานที่เลี้ยงอาหารกลางวันผู้มาร่วมงาน สมาชิกท่านอื่นของเราก็สนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้อีกมาย”
ประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ประธานบริหารสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ กล่าวถึงความพร้อมของสนามกอล์ฟแห่งนี้ ที่มีมาตรฐานในระดับนานาชาติ
ชกทส. จังหวัดนครปฐม ร่วมกับ สธทท. แถลงข่าวกอล์ฟการกุศล เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 ณ สนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ ตำบลไผ่หูช้าง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
AVIYANA HUA HIN อัญมณีแห่งใหม่บนชายหาดชะอำ
เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว อวิญานา หัวหิน (AVIYANA HUA HIN) รีสอร์ทติดทะเลแห่งใหม่บนชายหาดชะอำ มีพื้นที่กว้างขวางถึง 14,400 ตารางเมตร ออกแบบทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะสำหรับคนทุกเจเนอเรชัน โดยเฉพาะคู่รัก และคนที่ชอบความเงียบสงบ เสมือนสวรรค์แห่งการพักผ่อน ผสมผสานการออกแบบในสไตล์โมเดิร์นและความสวยงามของธรรมชาติหาดทรายชายทะเลอย่างลงตัว
สระว่ายน้ำวิวพาโนรามาของ AVIYANA HUA HIN
คณะผู้บริหาร AVIYANA HUA HIN
คุณสุมาลี คูรานา (กลาง) CEO, คุณณิชาภัทร ศรีสำราญ Sales Executive (ขวา), คุณชาญชัย ปรีชา General Manager (ซ้าย)
คุณสุมาลี คูรานา CEO AVIYANA HUA HIN
ตัดริบบิ้นเปิดอย่างเป็นทางการ ในบรรยากาศแห่งความสุข เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2024 โดยครอบครัวของ CEO AVIYANA HUA HIN คุณสุมาลี คูรานา
AVIYANA HUA HIN ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ผสานธรรมชาติอันงดงามของอ่าวไทย มีจำนวน 115 ห้อง
ห้อง Superior ขนาด 40 ตร.ม. จำนวน 37 ห้อง
ห้อง Deluxe Sea View ขนาด 40 ตร.ม. จำนวน 62 ห้อง
Oasis Beachfront Villa ขนาด 53 ตร.ม. จำนวน 8 ห้อง
Ambassador Suite แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 247 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต (2 ห้อง)
Ocean View Suite แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 165 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต (2 ห้อง)
ราคาเริ่มต้นเพียง 3,500 บาทต่อคืน
มองเห็นวิวทะเลชะอำสุดชิวอยู่ใกล้แค่เอื้อม
คู่รักที่กำลังมองหาบรรยากาศโรแมนติก AVIYANA HUA HIN คือคำตอบที่คุณกำลังมองหาอย่างแน่นอน
ริมทะเลยามเย็นที่ AVIYANA HUA HIN ช่างโรแมนติกสุดๆ จริงๆ
ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม AVIYANA HUA HIN รังสรรค์เมนูมากมายให้ได้ลิ้มลอง ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วย 3 ห้องอาหารและบาร์ เริ่มจาก Pomelo All-Day Dining ที่ให้บริการทั้งบุฟเฟต์อาหารเช้า มื้อกลางวันและมื้อเย็น ในรูปแบบอะลาคาร์ท ไม่ว่าจะเป็นอาหารนานาชาติ เอเชีย ไทย และอาหารท้องถิ่น
ถัดมาคือ Miss T Beach Café สุดชิลล์ดื่มด่ำบรรยายริมทะเล ชมความงามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ให้บริการมื้อกลางวันและมื้อเย็นในแบบอะลาคาร์ท มีเมนูฟิวชั่นนานาชาติให้เลือกหลากหลาย และยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยให้กลายเป็นจานหรู เช่น กะปิ สาโท และใบชะคราม นำเสนอด้วยความหรูหราแบบอาหารยุโรปได้อย่างลงตัว
เมนู Pasta Sato Crab Meat เป็นหนึ่งในจานที่สะท้อนถึงการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างอาหารทะเลและวัตถุดิบพื้นบ้าน โดยนำพาสต้าหมึกดำผัดกับเนื้อปู ใบชะคราม และสาโท เสิร์ฟคู่กับขนมปังกระเทียม สร้างมิติของรสชาติที่ซับซ้อน แตกต่างไปจากพาสต้าเดิมๆ อย่างสิ้นเชิง
จุดเด่นของเมนูนี้คือรสชาติที่ซับซ้อนจากเนื้อปูสด ผสานกับความหอมของสาโท เชฟของ AVIAYNA HUA HIN เลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นอย่างใบชะคราม ซึ่งเป็นพืชพื้นบ้านของชายฝั่งอ่าวไทย มาสร้างสรรค์ในจานอาหารยุโรปอย่างมีเอกลักษณ์ การนำสาโทและใบชะครามมาใช้ในเมนูพาสต้า ถือเป็นการเชื่อมโยงวัฒนธรรมอาหารยุโรปและไทยอย่างลงตัว ห้ามพลาดชิมเด็ดขาดเลย
นอกจากนี้ AVIYANA HUA HIN มีพื้นที่รองรับการจัดงานในโอกาสพิเศษ อย่างห้องบอลรูม AVOWS เป็นห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ สามารถรองรับแขกได้มากถึง 300 คน เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมสำคัญ เช่น พิธีหมั้น งานแต่งงานทั้งแบบไทย อินเดีย ตะวันตก รวมถึงการประชุมสัมมนา รวมถึงพื้นที่จัดงานกลางแจ้ง Siamara สำหรับจัดงานเลี้ยงส่วนตัวบนดาดฟ้า และยังมีสนามหญ้า 1,400 ตารางเมตร ที่เหมาะสำหรับกิจกรรมในบรรยากาศธรรมชาติด้วย
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ AVIYANA HUA HIN มีห้องฟิตเนสไว้ให้บริการลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการยืดกล้ามเนื้อ คาร์ดิโอ หรือบอดี้เวท และในอนาคตจะมีโซนสำหรับเด็กๆ ด้วย เช่น โซนของเล่น และมุมอ่านหนังสือ
สัมผัสการพักผ่อนอย่างมีระดับ ใกล้กรุงเทพฯ ที่อวิญานา หัวหิน (AVIYANA HUA HIN)
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 032-512-311
Instagram : @aviyanahuahin
จองห้องพักได้ที่ : booking@aviyanahuahin.com
Website : https ://aviyanahuahin.com/
Ventisi TRAPPOLINI Wine Dinner with Cafe’ Buongiorno
ในโลกของไวน์ แน่นอนว่า “อิตาลี” ย่อมเป็นดินแดนในฝัน ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปีตั้งแต่ยุคกรีกโรมัน ภูมิประเทศ ลมฟ้าอากาศ และวัฒนธรรมของประเทศริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนี้ ให้กำเนิดองุ่นท้องถิ่นกว่า 1,000 ชนิด ซึ่งไม่น้อยกว่า 300 ชนิดในจำนวนนั้น ได้รับการคัดสรรมาบ่มหมักเป็นไวน์ที่มี Character และ Unique มาก
วันนี้เราจะมาสัมผัสประสบการณ์พิเศษ กับไวน์ท้องถิ่นชั้นเลิศของอิตาลี จากไร่ TRAPPOLINI และ ARRIGONI ผู้มีประสบการณ์ยาวนานหลายชั่วอายุคน นำเข้ามาในประเทศไทยโดย Cafe’ Buongiorno บริษัทนำเข้า Boutique Wine จากทุกภาคของอิตาลี ให้เราลิ้มรสในบรรยากาศเป็นกันเอง ณ ห้องอาหาร Ventisi ชั้น 24 โรงแรม Centara Grand Central World
ไวน์และเมนูอาหารที่ paring ได้เข้ากันสุดๆ สำหรับค่ำคืนนี้
ขอต้อนรับสู่ความเลิศหรูของห้องอาหาร Ventisi ชั้น 24 โรงแรม Centara Grand Central World Bangkok
Chef Andrea Montella แห่งห้องอาหาร Ventizi กล่าวถึงอาหารอิตาเลียนสไตล์ Tuscany ที่เสิร์ฟครั้งนี้ และไวน์มาตรฐานสูงจาก TRAPPOLINI Winery นำเข้าโดย Cafe’ Buongiorno (ภาพจาก : คุณสุเทพ ช่วยปัญญา / เว็บไซต์ The Way News)
Mr.Nicolas Loreau, Director of Food & Beverage กล่าวขอบคุณแขกทุกท่าน ที่มาร่วมรับประทานอาหารอิตาเลียนสุดพิเศษ และไวน์ชั้นเลิศในค่ำคืนนี้ (ภาพจาก : คุณสุเทพ ช่วยปัญญา / เว็บไซต์ The Way News)
เมื่อความหรูหรา มาบวกกับวิวสวยๆ อาหารอร่อยๆ และบริการอันอบอุ่น “ความสุข” จึงเกิดขึ้นที่ Ventisi
(ภาพจาก : คุณสุเทพ ช่วยปัญญา / เว็บไซต์ The Way News)
พาคนพิเศษมานั่งดินเนอร์กัน ชมวิวสวยๆ ของมหานครกรุงเทพฯ มุมสูง ที่ห้องอาหาร Ventisi
Chef Andrea Montella บรรจงปรุงอาหารแบบอิตาเลียนภาคกลาง ไว้แพริ่งกับไวน์ที่มีลักษณะเฉพาะตัว
แค่เห็นเนื้อเซอร์ลอยน์ชิ้นใหญ่ๆ cook แบบ Medium Rare ก็น้ำลายสอแล้วฮะ (ภาพจาก : คุณสุเทพ ช่วยปัญญา / เว็บไซต์ The Way News)
เรียกน้ำย่อยด้วย “ขนมปังฟอคคาเซีย” (Focaccia) เนื้อนุ่มหนึบ กลิ่นหอมแป้งสาลีผสมน้ำมันมะกอก เป็นขนมปังคู่บ้านคนอิตาเลียน กินเมื่อไหร่ก็อร่อย มีเครื่องเคียงเป็นซอสถั่ว และมะเขือเทศคลุกน้ำมันมะกอก กินคู่กับ Sparkling Wine ชั้นเลิศจากภาคเหนือของอิตาลี Otello Prosecco DOC ของ ARRIGONI Vineyard ซึ่งเป็น Wine Producer เก่าแก่และมีชื่อเสียง ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1913 การจะเรียกไวน์ตัวใดว่าเป็น “โปรเซคโก้” (Prosecco) ได้ ต้องผลิตมาจากเขตโปรเซคโก้ ในแคว้นเวเนโต (Veneto) เท่านั้น Prosecco เป็นชื่อหมู่บ้านเล็กๆในแคว้นนี้ นิยมใช้องุ่นพันธุ์ เกลียร่า (Glera) มาทำครับ
โปรเซคโก้จากเมืองเทรวิโซ่ (Treviso) ตัวนี้ มีความ Balance ของรสชาติเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเสิร์ฟเย็นเจี๊ยบ 8-10 องศาเซลเซียส เนื้อไวน์ละมุนสีเหลืองฟางอ่อน (Pale Straw) แอลกอฮอล์ต่ำ 11 เปอร์เซนต์ Body นุ่มลึก มีความ Extra Dry (หวานกลางๆ) เด่นด้วยกลิ่นดอกไม้ป่า อัลมอนต์ และแอปเปิลเขียวชัดเจน จิบแล้วทิ้งความหอมหวานไว้ทั่วปาก ไวน์ Body ไม่ Waxy เกินไป พรายฟอง (Bubbles) เล็กๆ เบาๆ ซู่ซ่ากำลังดี จิบเพลิน
ARRIGONI Vineyard เป็น Wine Producer ที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่กว่า 110 ปีแล้ว ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1913 ผลิตไวน์ต่อเนื่องกันมา 4 ชั่วอายุคน โดยเริ่มในแคว้นลิกูเรีย (Liguria) และทัสคานี (Tuscany) ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกองุ่นในแคว้นเวเนโต (Veneto) ด้วย ซึ่งภูมิประเทศเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตไวน์ขาว เพราะอากาศเย็น อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำ พื้นที่เป็นภูเขา เนินเขา สลับทุ่งหญ้า กลางวันแดดเจิดจ้า กลางคืนหนาว เช้ามีหมอก
พูดคุยสรวนเสเฮฮาเป็นกันเองที่ห้องอาหาร Ventisi มื้อนี้มี Italian Wine หายาก และอาหารอร่อยเติมเต็มความสุข
เมนูแรกวันนี้ เสิร์ฟมาพร้อมกันถึง 5 อย่าง portion เล็กๆ น่ารัก กระตุ้นน้ำย่อยได้ดีเลย ประกอบด้วย
Crostini Di Fegatini Di Pollo (ขนมปังครอสทินิ ท็อปปิ้งด้วยตับเป็ด)
Pizza Bianca Con La Mortadella Stracciatella E Il Pesto Di Pistacchio (พิซซ่าจิ๋วเนื้อแป้งขาวสไตล์ Rome สลับไส้เป็นชั้นๆ กับชีสและถั่วพิสตาชิโอ้เพสโต้)
Olive Schiacciate (มะกอกอิตาเลียนใส่พริกและยี่หร่า)
Zuppetta Di Lenticchie Di Castelluccio (ซุปถั่วเลนทิล เสิร์ฟในแก้วช็อต)
Suppli Al Telefono (รีซอตโต้เนื้อวัว ผสมมอสซาเรลล่าชีส และชีสนมแกะ 100 เปอร์เซนต์)
ทั้งหมดแพร่ิงกับไวน์ขาวสุดพิเศษ CROGNETO Bianco, Orveto Classico DOC ปี 2022 จากแคว้นอุมเบรีย
CROGNETO Bianco DOC ของ TRAPPOLINI เป็นไวน์ขาวตามแบบฉบับอิตาลีภาคกลางแท้ๆ เพราะใช้องุ่นพันธุ์ท้องถิ่นมา Blended กันถึง 5 ชนิด คือ Grechetto (องุ่นขาวที่กำเนิดจากกรีซ ปลูกมากในภาคกลางของอิตาลี นิยมใช้ blend), Procanico (องุ่นขาวที่ปลูกมากในแคว้นอุมเบรีย ออวิเอโต้ ลาซิโอ้ และเขตลาทิอุม-Latium เชื่อว่ากลายพันธุ์มาจากองุ่น Trebbiano Toscano ซึ่งมีความเปรี้ยวมาก นิยมใช้ผสมในการผลิตบรั่นดีและคอนญัค), Malvasia (องุ่นขาวที่ปลูกมากในแถบเมดิเตอร์เรเนียน นิยมใช้ blend), Drupeggio (องุ่นขาวที่ปลูกในอิตาลีภาคกลาง ใช้ผลิตไวน์ระดับ DOC) และ Verdello (องุ่นขาวที่ปลูกมาในแคว้นอุมเบรีย ใช้ผลิตไวน์ระดับ DOC) ทำให้ได้ไวน์ขาวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เข้มข้น ซับซ้อน นุ่มลึก ติดขมปลายลิ้นเล็กน้อย เนื้อไวน์สีเหลืองฟางอ่อน มีกลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆ แอลกอฮอล์ 13 เปอร์เซนต์ ดื่มได้เพลินมาก Blended ยอดเยี่ยม
TRAPPOLINI Vineyard เป็นไร่ไวน์เก่าแก่ที่ผลิตไวน์ชั้นเลิศมากว่า 3 ชั่วอายุคนแล้ว ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1961 โดยมีฐานการผลิตอยู่ในภาคกลางของอิตาลี ในดินแดนที่เป็น Landlock ไม่มีทางออกทะเลของแคว้นอุมเบรีย (Umbria) ใกล้เขตรอยต่อแคว้นลาซิโอ (Lazio-ที่ตั้งกรุง Rome) ความโดดเด่นคือ พวกเขายังคงรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิมในการบ่มหมักไวน์ และใช้องุ่นพันธุ์ท้องถิ่นของอิตาลีแทบจะร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งวันนี้มีทั้งไวน์ขาวและไวน์แดงให้เราลิ้มรส
ความพิเศษอีกอย่างของ TRAPPOLINI Wine คือเป็นไวน์สไตล์ภาคกลางของอิตาลี ที่ปลูกในเขต “ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน” แท้ คือมีแดดตลอดปี ฤดูร้อนจะร้อนแบบแห้งๆ ส่วนฤดูหนาวมีฝนตก ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดปีไม่เกิน 1,000 มิลลิเมตร ซึ่งดีต่อการเติบโตขององุ่นพันธุ์ท้องถิ่นจริงๆ ครับChef Andrea Montella บรรจงเตรียมเมนูถัดไปด้วยตัวเอง
คอร์สถัดมา “Ricotta Cheese Dumpling” ปั้นเป็นก้อนกลม กินคู่กับซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิลฤดูร้อน น้ำซอสนุ่มนวล รสเค็มเล็กน้อย ความข้นมันกำลังดี ส่วนเนื้อรีคอตต้าชีสก็นุ่มละมุน ละลายในปากแบบไม่ต้องเคี้ยว กินคู่กับไวน์แดง ARCADIA CROGNETO ROSSO, Lazio IGT ปี 2020 มีความเปรี้ยวนำ แต่ smooth เสริมรสกันได้ยอดเยี่ยม
Ricotta Cheese Dumpling จริงๆ แล้วคือ “เวย์ชีส” (Whey Cheese) ซึ่งก็คือน้ำที่เหลือจากการผลิตชีส เรียกว่า “Whey” เป็นตัวเดียวกับเวย์โปรตีนที่เอาไปสกัดเป็นผงชงให้นักกีฬาหรือคนป่วยกิน คำว่า “Ricotta” แปลว่า “Recooked” โดยครั้งแรกเอาชีสไปต้มให้เหลือ Whey แล้วเอา Whey ไปต้มอีกครั้ง จนได้ตะกอนนิ่ม กลายเป็น Fresh Cheese พวกเดียวกับ Mozzarealla Cheese แต่เก็บได้นานกว่า เพราะเติมเกลือ และส่วนใหญ่เป็นโปรตีน ไม่มีครีม
Red Wine ARCADIA CROGNETO ROSSO, Lazio IGT ปี 2020 จากแคว้นลาซิโอ (Lazio) มีปริมาณแอลกอฮอล์กลางๆ 13.5 เปอร์เซนต์ blend ด้วยองุ่นชั้นเลิศ 2 สายพันธุ์ คือ “ซานโจเวเซ่” (Sangiovese) และ “มอนเตพูลชิอาโน่” (Montepulciano) ซึ่งเป็นพันธุ์องุ่นที่นิยมปลูกมากที่สุดอันดับ 1 และ 2 ในอิตาลี ทั้งคู่เป็นระดับเรือธง สำหรับองุ่น Sangiovese มีนิกเนมว่า “โลหิตแห่งพระเจ้า” ด้วยสีแดงเข้ม Full Body แบบไม่เกรงใจใคร รสชาติจัดจ้านด้วย Acidity (ความเปรี้ยว) ค่อนข้างสูง ทว่า Tannin smooth สะท้อนความเป็น Italian Wine ได้ดีสุดๆ
ส่วนองุ่น Montepulciano ชอบอากาศร้อน จึงปลูกมากในอิตาลีภาคกลางและภาคใต้ ให้น้ำไวน์ที่มีเนื้อสัมผัส กลิ่น และรสยอดเยี่ยม สีแดงราวกับผลเชอร์รี่ เนื้อใสมาก กลิ่นอบอวลด้วยผลไม้สีแดงและสีดำ ทั้ง Black Berry, Black Current, Raspberry, Dark Chocolate, วานิลลา, เชอร์รี่ และใบยาสูบ (Tobacco)
เมนูพระเอกในวันนี้คือ Tagliata Di Manzo, Flan Di Spinaci, Patate Fondenti เนื้อวัวเซอร์ลอยน์ย่าง Medium Rare ชิ้นใหญ่ สไตล์ Tuscan กินคู่กับผักโขมอบ และมันฝรั่งนุ่ม
นุ่มได้ใจละลายในปาก กับเนื้อเซอร์ลอยน์ชิ้นนี้ น้ำซอสเกรวี่ก็เข้ากันดี้ดี
โรยพริกไทยดำป่นลงไปนิด ช่วยเพิ่มรสชาติเนื้อเซอร์ลอยน์ได้วิเศษ
เนื้อเซอร์ลอยน์ชั้นเลิศ ต้องจับคู่กับ Red Wine CUCCAIA ROSSO, IGT Toscana ปี 2022 ของ TRAPPOLINI ซึ่งใช้องุ่น 2 สายพันธุ์ blended กันอย่างยอดเยี่ยม คือ ซานโจเวเซ่ (Sangiovese) 60 เปอร์เซนต์ และ แมร์โล (Merlot) 40 เปอร์เซนต์ แอลกอฮอล์กลางๆ 13 เปอร์เซนต์ แพร่ิงกับอาหารจำพวกเนื้อแดงได้ยอดเยี่ยม
ไวน์แดงตัวนี้จัดเป็น Super Tuscan Wine ที่ห้ามพลาด สีแดงทับทิมเข้มข้น กรุ่นกลิ่นหอมและรสของผลเบอร์รี่ป่า ลูกพลัม และมีกลิ่นรสเครื่องเทศชัดเจน โดยรวมถือเป็น Boutique Wine ที่ละมุน แทนนินลื่นดุจแพรไหม รักเลยครับ
ปิดท้ายด้วยขนมหวานอร่อยๆ Torta Pinolata พายสไตล์ Tuscan ไส้ถั่วและครีมทาร์ต กินเคียงกับไอศกรีมวานิลลาหวานชื่นใจมาก
ตัวจบของอาหารอิตาเลียนจริงๆ ถ้าไม่ใช่ Sweet Wine ก็คือ “Limoncello” หรือน้ำเลมอนด์เข้มข้นสไตล์อิตาเลียน ทำจากเปลือกเลมอนด์สกัด ดื่มแล้วช่วยย่อยได้ดีสุดๆ ครับ
สนใจชิมไวน์ทั้ง 20 แคว้นของอิตาลี และสั่งซื้อไวน์อิตาเลียนหายาก ติดต่อ Cafe’ Buongiorno Tel. 06-2494-1649 (คุณพิม)
Booking โต๊ะรับประทานอาหาร และชิม Italian Wine อย่างดีได้ที่ โทร. 02-100-6255
diningcgcw@chr.co.th
Pietraserena Tuscany Wine Dinner @Ventizi Centara Grand Central World
Story ชาธร โชคภัทระ / Photos สุเทพ ช่วยปัญญา
กลิ่นขนมปังหอมกรุ่นที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ ไวน์สีแดงทับทิมเข้มข้นที่ถูกรินใส่แก้วทรงสูง อาหารอิตาเลียนสไตล์ทัสคานีแสนอร่อย และผองเพื่อนสนิทที่มารวมตัว นั่งพูดคุยสรวนเสเฮฮากันอีกครั้ง คือบรรยากาศพิเศษที่ คาเฟ่ บวนจอร์โน่ (Cafe’ Buongiorno) รังสรรค์ให้เกิดขึ้น ในค่ำคืนวันที่ 20 กันยายน 2023 ณ ห้องอาหาร หรู Ventizi ชั้น 24 โรงแรม Centara Grand Central World Bangkokหลังจาก Cafe’ Buongiorno ได้ชวนเรามาลิ้มลอง Boutique Wine ชั้นเลิศจากแคว้นต่างๆ ของอิตาลีแล้วหลายครั้ง คืนนี้ก็ถือว่าพิเศษไม่แพ้ครั้งไหนๆ เพราะเรากำลังจะพาตัวและหัวใจบินลัดฟ้าสู่ แคว้นทัสคานี (Tuscany) หรือ ทอสคานา (Toscana) สวรรค์ของการผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงของโลกมาช้านาน บวกกับอาหารอิตาเลียนแท้ๆ จาก Chef Andrea Montella แห่งห้องอาหาร Ventizi ก็ยิ่งช่วยให้ความสุขอบอวลอยู่ในทุกอณู
อาหารคืนนี้แพริ่งกับ White & Red Wine ได้ยอดเยี่ยม ตั้งแต่ Otello Prosecco ที่ซู่ซ่าสดชื่นกำลังดี ตามาด้วยไวน์ขาว Vigna del Sole ซึ่งใช้องุ่นพันธุ์หายาก Vernaccia จากนั้นก็เป็นไวน์แดงรสเปรี้ยวนำอย่าง Poggio Al Vento ใช้องุ่นยอดฮิต Sangiovese และปิดท้ายด้วยพระเอกของคืนนี้ ที่ดูจะเข้มข้นสุด คือ Caulio ไวน์แดงผสมองุ่น 3 สายพันธุ์ ทั้ง Sangiovese, Malvasia Nera และ Syrah ช่วยให้อาหารอร่อยขึ้นอีกล้านเท่า
ห้องอาหาร Ventizi ชั้น 24 โรงแรม Centara Grand Central World Bangkok บรรยากาศดีวิวหลักล้าน มองเห็นพระอาทิตย์ตกของกรุงเทพฯ มุมสูง น่าประทับใจมาก
Mr.Robert F. Maurer-Loeffler, General Manager and Corporate Director of Operations โรงแรม Centara Grand Central World Bangkok พร้อมต้อนรับทุกท่าน
บรรยากาศส่วน VIP ของห้องอาหาร Ventizi หรูหราและมีความเป็นส่วนตัวดีมาก เหมาะมานั่งสังสรรค์กันเพลินๆ
ห้องอาหาร Ventizi มีหลายมุมหลายบรรยากาศให้เลือก คนที่ชอบวิวโปร่งโล่งสบายตา เลือกโต๊ะตรงมุมกระจก มองเห็นตึกระฟ้า และแสงยามเย็นของกรุงเทพฯ ได้น่าประทับใจ
โต๊ะส่วนตัวแบบโรแมนติกกันสองคนก็มี
เรียกน้ำย่อยด้วย “ขนมปังฟอคคาเซีย” (Focaccia) เนื้อนุ่มหนึบ กลิ่นหอมแป้งสาลีผสมน้ำมันมะกอก เป็นขนมปังคู่บ้านคนอิตาเลียน ที่กินเมื่อไหร่ก็อร่อย มีเครื่องเคียงเป็นซอสถั่ว และมะเขือเทศคลุกน้ำมันมะกอก กินคู่กับ Sparkling Wine ชั้นเลิศจากทางภาคเหนือของอิตาลี Otello Prosecco DOC ของ Arrigoni Vineyard การจะเรียกไวน์ตัวใดว่าเป็น “โปรเซคโก้” (Prosecco Wine) ได้อย่างแท้จริง ต้องผลิตมาจากเขตโปรเซคโก้ ที่ปลูกอยู่ในแคว้นเวเนโต (Veneto) เท่านั้น Prosecco เป็นชื่อหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในแคว้นนี้ และนิยมใช้องุ่นพันธุ์ เกลียร่า (Glera) ในการทำมากที่สุด
เริ่มต้นด้วย Sparkling Wine Otello Prosecco จากเมืองเทรวิโซ่ (Treviso) ตัวนี้ มีความ Balance ของรสชาติเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเสิร์ฟเย็นเจี๊ยบ 8-10 องศาเซลเซียส เนื้อไวน์ละมุนสีเหลืองฟางอ่อน (Pale Straw) แอลกอฮอล์ต่ำ 11% ดื่มง่าย มีความ Extra Dry (หวานกลางๆ) เด่นด้วยกลิ่นดอกไม้ป่า อัลมอนต์ และแอปเปิลเขียวชัดเจน จิบแล้วทิ้งความหอมหวานไว้ทั่วปาก และทิ้งรสขมนิดๆ ไว้ที่โคนลิ้น เหมาะกินคู่กับ Starters กุ้งหอยปูปลานานาชนิด ถือเป็นไวน์ที่ Body ไม่ Waxy พรายฟอง (Bubbles) เล็กๆ เบาๆ ซู่ซ่ากำลังดี จิบเพลิน
ไวน์ทั้งหมดที่เสิร์ฟในคืนนี้มาจาก Arrigoni Wine Producer ที่มีชื่อเสียง และเก่าแก่กว่า 110 ปีแล้ว ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1913 ผลิตไวน์ต่อเนื่องกันมา 4 ชั่วอายุคน โดยเริ่มในแคว้นลิกูเรีย (Liguria) และทัสคานี (Tuscany) ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกองุ่นในแคว้นเวเนโต (Veneto) ด้วย ภูมิประเทศเป็นภูเขา เนินเขา สลับทุ่งหญ้า กลางวันแดดเจิดจ้า กลางคืนหนาว ช่วงเช้ามีหมอก นี่คือยูโทเปียในอุดมคติของการปลูกองุ่น (Thank you for picture from https://arrigoni1913.it/)
ไวน์ขาวและไวน์แดงที่เราได้ลิ้มลองในคืนนี้เป็นไวน์มาตรฐานสูง DOC และ DOCG ผลิตขึ้นจากไร่ Pietraserena Vinyard ของตระกูล Arrigoni ไร่ตั้งอยู่ใจกลาง เมืองซาน จิมิกนาโน่ (San Gimignano) จังหวัดเซียน่า (Siena) แคว้นทัสคานี เป็นเมืองโบราณสมัยยุคกลาง เป็นมรดกโลกของ UNESCO ด้วย เพราะยังมีหอคอยหินสูงเด่น และบ้านสไตล์โบราณ ล้อมรอบด้วยเนินเขาที่มีไร่ไวน์ทอดไกลออกไป โดยเฉพาะองุ่นพันธุ์ Vernaccia ถือเป็นพันธุ์เฉพาะถิ่นหายากของที่นี่ รำ่ลือกันว่าเป็นไวน์ขาวเนื้อสัมผัสนุ่มดุจแพรไหม! (Thank you for picture from https://arrigoni1913.it/)
ไร่องุ่น Pietraserena คือพื้นที่หัวใจสำคัญของเมืองโบราณมรดกโลก San Gimignano (Thank you for picture from https://arrigoni1913.it/)
เมนูเรียกน้ำย่อยในวันนี้มีหลากหลาย ทั้งซุปมะเขือเทศช็อต, หอยแมลงภู่ดำอิตาเลียนอบชีส สไตล์ Viareggio, Tuscan Salami เกรดพรีเมียม, ขนมปังถั่วลูกไก่ ท็อปปิ้งด้วยซาลามี่หมู Colonnata, ขนมปัง Classic Brucetta เนื้อหนานุ่ม โรยหน้าด้วยมะเขือเทศซอยละเอียด คลุกเคล้าน้ำมันมะกอก กระเทียม และโหระพาอิตาเลียน
ว่ากันว่า Tuscan Salami ที่เสิร์ฟในคืนนี้ เป็นหนึ่งในซาลามี่ดีที่สุดในอิตาลีเลยก็ว่าได้ ลองชิมแล้วเนื้อมีความนุ่มละมุน กลิ่นหอมขึ้นจมูก รสไม่เค็มจัด กินคู่กับไวน์ขาว Vigna del Sole มีความสุขใจทุกจิบเลยล่ะ
ซุปมะเขือเทศในแก้วช็อต เสิร์ฟมาพร้อม หอยแมลงภู่ดำอิตาเลียนอบชีส สไตล์วิอาเร็กจิโอ้ (Viareggio) เมืองชายทะเลของแคว้นทัสคานี จิบ Vigna del Sole ตามเข้าไป เสริมรสชาติกันยอดเยี่ยม ทำให้นึกถึงน้ำทะเลสีฟ้าครามของที่นั่น
ไวน์ขาวอันโด่งดัง Vigna del Sole มาตรฐานสูงสุดระดับ DOCG ปี 2022 จากไร่ Pietraserena เมือง San Gimignano ผลิตจากองุ่นพันธุ์หายาก “เวอร์แน๊กเชีย” (Vernaccia) ซึ่งมีปลูกเฉพาะในแคว้นทัสคานีเท่านั้น เคยโด่งดังมากในช่วงศตวรรษที่ 13-14 เพราะเสิร์ฟขึ้นโต๊ะพระกระยาหารของกษัตริย์เท่านั้น กวีดังแห่งอิตาลี ดังเต้ (Dante) รวมถึงสถาปนิกชื่อก้องโลก มีเกลันเจโล (Michelangelo) ก็เคยกล่าวถึงองุ่นชนิดนี้ไว้เช่นกัน
Vigna del Sole เคยได้รับรางวัลจากการประกวดมากถึง 11 ครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994-2017 ถือเป็น Boutique Wine ระดับเหรียญทองที่มี Character เฉพาะตัวมาก น้ำไวน์สีฟางเข้ม Medium Body ให้กลิ่นขนมปัง วานิลลา และอัลมอนด์ ชัดเจน ทิ้งความหอมหวานอมเปรี้ยวเพียงเล็กน้อยไว้ในปาก ถือว่ามีความผสมผสานลงตัว เหมาะดื่มกับ Starter จำพวก seafood ต่างๆ
คอร์สที่สองพิเศษมาก “Ricotta Cheese Dumpling” ปั้นเป็นก้อนกลม กินคู่กับซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิลฤดูร้อน น้ำซอสนุ่มนวล รสเค็มเพียงเล็กน้อย ความข้นมันกำลังดี ส่วนเนื้อรีคอตต้าชีสก็นุ่มละมุน ละลายในปากแบบไม่ต้องเคี้ยวเลย เป็นอาหารเบาๆ กินคู่กับไวน์แดง Poggio Al Vento ที่มีความเปรี้ยวนำ เสริมรสชาติกันเหมือนเนื้อคู่
Poggio Al Vento เป็นไวน์แดงชั้นเลิศระดับ DOCG ปี 2020 ผลิตจากองุ่นพันธุ์ ซานโจเวเซ่ (Sangiovese) ซึ่งเป็นองุ่นที่ปลูกมากที่สุดในแคว้นทัสคานีและอิตาลี ลักษณะเด่นคือมีความเปรี้ยวนำ (High Acidity) จึงสามารถคงรสชาติ และกลบความมันของพาสต้า ชีส หรือซอสมะเขือเทศ ในอาหารอิตาเลียนได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ Poggio Al Vento ยังเป็นไวน์แดงจำพวก “เคียนติ” (Chianti Wine) ซึ่งผลิตในพื้นที่พิเศษเรียกว่า “เคียนติ” ในแคว้นทอสคานา (อยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองฟลอเรนส์และเซียน่า) โดยแบ่งออกเป็น 7 sub-zone ใช้องุ่นพันธุ์ซานโจเวเซ่ผลิตไวน์แดงเป็นหลัก แบ่งระดับมาตรฐานตามระยะเวลาการบ่มหมัก (Aging Classification) คือ 2.5 ปี, 2 ปี, 1 ปี, 9 เดือน และ 6 เดือน ตามลำดับ ไวน์ที่ได้จึงมีราคาสูงต่ำและคุณภาพต่างกัน ไล่ตั้งแต่เลิศสุด Grand Seleczione, Riserva, Classico, Superior และ Chianti ธรรมดา
Ricotta Cheese Dumpling ตัวนี้แท้จริงก็คือ “เวย์ชีส” (Whey Cheese) ซึ่งก็คือน้ำที่เหลือจากการผลิตชีส เรียกว่า “Whey” เป็นตัวเดียวกับเวย์โปรตีนที่เอาไปสกัดเป็นผงชงให้นักกีฬาหรือคนป่วยกินนั่นล่ะ คำว่า “Ricotta” แปลว่า “Recooked” โดยครั้งแรกเอาชีสไปต้มให้เหลือ Whey แล้วเอา Whey ไปต้มอีกครั้ง จนได้ตะกอนนิ่ม กลายเป็น Fresh Cheese จำพวกเเดียวกับ Mozzarealla Cheese แต่เก็บได้นานกว่า เพราะมีการเติมเกลือ และส่วนใหญ่ก็เป็นโปรตีน ไม่มีครีม
ความคึกคักของห้องอาหาร Ventizi กับ Pietraserena Tuscany Wine Dinner
มาถึง Main Course ที่กินกับไวน์แดงได้อร่อยล้ำ “สตูแก้มเนื้อวัววากิว” ตุ๋นนานถึง 24 ชั่วโมง แบบ Slow Cook ราดซอสพริกไทยดำผสมไวน์แดงเคียนติ
ไวน์แดงที่ใช้แพริ่งกับเมนูนี้ต้องยกให้ Caulio, Chianti DOCG ปี 2018 อันโด่งดัง เคยได้รับรางวัลจากการประกวดไม่ต่ำกว่า 9 ครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993-2017 Blend จากองุ่น 3 สายพันธุ์ ทั้ง Sangiovese, Malvasia Nera และ Syrah ในสัดส่วนเหมาะเจาะลงตัว น้ำไวน์จึงมีสีทับทิมเข้มข้น Full Body หนักแน่น แต่มีความ Balance เป็นเลิศ แทนนินลื่นเหมือนแพรไหม รสชาติไม่ Fruity แอลกอฮอล์ 14% นุ่มลึกดี จิบแล้วทิ้งกลิ่นวานิลลาและผลไม้ป่าไว้ในปาก กินคู่กับสตูแก้มวัววากิวเนื้อนุ่ม ไวน์ยังทิ้งรสเปรี้ยวนิดๆ ไว้ที่โคนลิ้นด้วย เพราะมีองุ่นซานโจเวเซ่ผสมอยู่นั่นเอง
ก่อนกินก็ต้องราดซอสพริกไทยดำ ผสม Chianti Red Wine ซะก่อน
ปิดท้ายค่ำคืนแห่งความสุข กับเมนูของหวานโบราณจากเมืองฟลอเรสซ์ ซึ่งยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ คือ “Zuccotto Fiorentino” เป็นเค้กเนื้อฟองน้ำนุ่มนิ่มรูปโดม ไส้ตรงกลางเป็นครีม ชีส Tiramisu หรือไอศกรีมรสชาติต่างๆ และ Ricotta ครีมช็อกโกแลต กินพร้อมผลไม้รสหวาน ว่ากันว่ารูปร่างโดมของเค้กนี้มาจากยอดโดม Florence Cathedral มหาวิหารหลักของเมืองฟลอเรนซ์ เค้กนี้กินคู่กับ Pompelmocello หรือน้ำองุ่นเปรี้ยวอมหวาน รสชาติคล้าย Limoncello ช่วยล้างความคาวออกจากปากได้หายเกลี้ยง
Mr.Nicolas Loreau, Director of Food & Beverage กล่าวขอบคุณแขกทุกท่านที่มาร่วมรับประทานอาหารและไวน์ชั้นเลิศในค่ำคืนนี้
Chef Andrea Montella แห่งห้องอาหาร Ventizi กล่าวถึงอาหารอิตาเลียนสไตล์ทัสคานีที่เสิร์ฟในคืนนี้ และไวน์มาตรฐานสูงจาก Pietraserena Vinyard ของตระกูล Arrigoni อันเก่าแก่ นับเป็นการแพริ่งสุดวิเศษ และเราจะพบกันใหม่เร็วๆ นี้แน่นอน
สนใจชิมไวน์ทั้ง 20 แคว้นของอิตาลี และสั่งซื้อไวน์อิตาเลียนหายาก ติดต่อ Cafe’ Buongiorno Tel. 06-2494-1649 (คุณพิม)
Booking โต๊ะรับประทานอาหาร และชิม Italian Wine ชั้นเลิศได้ที่ โทร. 02-100-6255
สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสิงห์บุรี จัดอบรมท่องเที่ยวโดยชุมชน พัฒนาศักยภาพพร้อมรับอนาคต
เรื่องและภาพ โดย ชาธร โชคภัทระ / สำนักข่าวท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานการท่องเที่ยวและกี
นายสานนท์ เพ็ญแสง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสิงห์บุ
นายสานนท์ เพ็ญแสง ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจั
และเราต้องการมารับรู้ความต้องก
“ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ มีการเตรียมความพร้อมอย่างไร ก่อนที่เราจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศได้จริง และเราต้องการมารับรู้ความต้องการของคนในพื้นที่ว่ามีอะไรบ้าง นอกจากนี้เราต้องการสร้างเครือข่ายให้กับชุมชนต่างๆ จะได้มีเพื่อนร่วมทางทำการท่องเที่ยวโดยชุมชนไปด้วยกัน น่าจะให้ท่องเที่ยวโดยชุมชนจะมีความชัดเจนเข้มแข็งขึ้น อย่างไรก็ตามเราต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่ให้ความร่วมมือในการสัมมนาในครั้งนี้”
นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย กล่าวว่า “การสัมมนาการพัฒนาศักยภาพ ท่องเที่ยวโดยชุมชน ในครั้งนี้ เราเต็มใจที่จะมาช่วยชุมชนในจัง
และต้องคำนึงถึงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ของคนในชุมชนด้วย ทำแล้วเงินในกระเป๋าจากแบงค์ยี่
นายธรรมนูญ วิทยานนท์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทอ
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ก็ยังไม่เข้ามาท่องเที่ยวในชุมช
นายไชยวัฒน์ สุคันธวิภัติ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ย
ที่ผ่านมาหลายหน่วยงานที่เข้ามา
การสัมมนา “การเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวโ
นายมานิตย์ บุญฉิม ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย บรรยายเรื่อง “การเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวโ
นายมานิตย์ บุญฉิม ให้ความรู้ด้าน การพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT Capability Improvement)
ผู้นำชุมชนท่องเที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี รับฟังบรรยายจากวิทยากรด้วยความสนใจ และมีการซักถามแลกเปลี่ยนตลอดเวลา
นายวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ ปรึกษาสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย
นายวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ บรรยายเรื่อง “พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2559”
คุณโสดารินท์ ธนเนืองโรจน์ ประธานฝ่ายส่งเสริมการท่องเที่
คุณโสดารินท์ ธนเนืองโรจน์ บรรยายเรื่อง “การจัดทำราคา ต้นทุน ประมาณราคา กิจกรรม อาหาร การแสดง และ Package ท่องเที่ยวโดยชุมชน”
ทกจ.สิงห์บุรี ลงพื้นที่เสริมศักยภาพคนท้องถิ่