บ้านคำปุน ร้อยใจสืบงานงานศิลป์ จ.อุบลราชธานี
“บ้านคำปุน” อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านการอนุรักษ์ผ้าไหมไทยโบราณ ซึ่งมีความพิเศษสุดๆ เพราะจะเปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชมเพียงปีละ 3 วันเท่านั้น ในช่วงวันเข้าพรรษา ใครที่เคยชมภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรทุกภาค ผ้าไทยที่ใช้ในการถ่ายทำล้วนสั่งทอมาจากบ้านคำปุนทั้งสิ้น
บ้านคำปุนเป็นหมู่เรือนไทยในพื้นที่กว่า 6 ไร่ สร้างขึ้นโดยคุณมีชัย แต้สุริยา อดีตสจ๊วตการบินไทย ผู้มีความรักความชอบผ้าไทยเป็นทุนเดิมมาตั้แต่เด็กๆ แล้ว มาวันนี้เขาได้สร้างอาณาจักรผ้าไทยของตัวเองขึ้นมา โดยนำชาวบ้านที่มีฝีมือทอผ้าเข้าสู่โรงทอผ้าบ้านคำปุน ผลิตผ้าทอยกเส้นเงินเส้นทองลายโบราณ ทั้งเพื่อการสะสม ใช้งานจริง และใช้ในพระราชพิธีสำคัญ ในเรือนแต่ละหลังมีกิจกรรมย้อนยุคแบบไทยๆ ให้เราได้มีส่วนร่วมหรือชื่นชม ทั้งขั้นตอนการสาวไหม การทอผ้า การร้อยพวงมาลัย การจัดพุ่มบายศรี ฯลฯ แต่ที่ดูจะได้รับความสนใจมากที่สุด คือเสียงดนตรีจากวงกันตรึม พร้อมด้วยการฟ้อนประกอบอย่างน่ามอง
ก่อนผ้าไหมจะกลายเป็นผืนสวยงามน่าสวมใส่ ก็ต้องเกิดจากจุดนี้ คือเริ่มสาวไหมออกจากรังไหม ไปม้วนไว้ในหลอดด้าย
เส้นไหมที่ได้รับการร้อยเรียงอย่างดี มีทั้งเส้นพุ่งและเส้นยืน ตัดกันไปมาจากการทออันเชี่ยวชาญของช่างที่มีประสบการณ์ ซึ่งได้มารวมตัวกันอยู่ ณ บ้านคำปุนแห่งนี้
ไหมในหลอดด้าย จากเส้นเดี่ยวๆ ค่อยๆ รวมตัวกลายเป็นผืนผ้าอันเลอค่า
หนอนไหมที่โตเต็มที่ แต่ยังกินใบหม่อนไม่หยุด เพื่อสะสมอาหารไว้ในระยะเข้าดักแด้ สร้างรังไหม แต่ละตัวตั้งหน้าตั้งตากินกันทั้งวันเลย
บ้านคำปุนมีร้านขายผลิตภัณฑ์ผ้าไหมอยู่ในตัวเมืองอุบลราชธานีด้วย มีทั้งผ้าผืน และชุดตัดสำเร็จ สำหรับท่านหญิง และท่านชาย
ในช่วงที่เปิด 3 วัน บ้านคำปุนจะนำการแสดงเด่นๆ จากหลายจังหวัดในภาคอีสานมาโชว์ให้ชมด้วย เพื่อเป็นการสืบสานงานศิลป์แขนงนี้ให้คงอยู่ต่อไป
แม้แต่การฟ้อน และเล่นลาวกระทบไม้แบบสุรินทร์ ก็มีแสดงให้ชมที่นี่ด้วย
ฟ้อนสุรินทร์ ณ บ้านคำปุน งามอ่อนช้อย น่าชม
สอบถามเพิ่มเติม ที่ ททท. สำนักงานอุบลราชธานี โทร. 0-4524-3770, 0-4525-0714
Traveler’s Guide :
บ้านคำปุน เปิดให้เข้าชมปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเทศกาลแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 3 วัน ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ถึงต้นเดือนสิงหาคม (แต่ละปีไม่แน่นอน) เวลา 09.00-17.00 น. โดยจำหน่ายบัตรเข้าชม คนละ 100 บาท เพื่อจัดหารายได้ในการบริจาค เพื่อสาธารณะกุศล สอบถามเพิ่มเติมที่ บ้านคำปุน โทร. 0-4532-3452 หรือที่ร้านคำปุน Fmi. โทร. 0-4525-4830
เที่ยวญี่ปุ่นได้ในวันเดียว! J-Park ชลบุรี
J-Park ศรีราชา เป็นช็อปปิ้งมอลล์แห่งใหม่ที่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ญี่ปุ่นมากๆ เพราะสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมต่างๆ ล้วนจำลองมาจากแดนปลาดิบแท้ๆ ตั้งแต่สไตล์ของอาคารร้านรวง ลำธารสีมรกตสายน้อย น้ำใสแจ๋ว ที่มีปลาคาร์พแหวกว่ายไปมา และที่เด็ดสุดคือร้านขายของกับร้านอาหารญี่ปุ่นนับสิบๆ ร้าน ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของคนศรีราชาไปแล้ว รวมถึงชุมชนคนญี่ปุ่นที่อาศัยหรือทำงานอยู่แถบนี้ ก็มาเดินอุดหนุนกันอุ่นหนาฝาคั่ง ทำให้ J-Park มีชีวิตชีวา โดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ คนที่ชอบถ่ายรูปยิ่งไม่ควรพลาด เพราะเขามีมุม Photo Point นับไม่ถ้วน!
ปราสาทคินคาคูจิจำลอง เหมือนที่เราเคยเห็นกันในการ์ตูนเรื่องอิ๊กคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา ถือเป็นหนึ่งใน Landmark สำคัญของ J-Park ศรีราชา ที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดล่ะ
เห็นการจัดสวยเรียบๆ โล่งๆ แบบนี้ นึกว่าอยู่ในญี่ปุ่นจริงๆ ซะอีก!
ร้านขายของสไตล์ญี่ปุ่นเปิดให้ช็อปกันทุกวัน เดินได้เพลิน โดยเฉพาะร้าน 100 เยน หรือร้าน Daiso ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี
เดินช็อปจนหอบหิ้วกันแทบไม่ไหวแล้ว ก็ได้เวลาหาอาหารญี่ปุ่นแนวสุขภาพเติมพลังสักหน่อย มื้อนี้ขอเน้นกินปลา จะได้เพิ่มโอเมก้า 3 และโปรตีนย่อยง่าย กินคู่กับสลัดผัก และมิโซะซุปสไตล์ญี่ปุ่น อิ่มแบบเบาๆ สบายท้องดีจัง
แซลมอนซาชิมิ ดูความฉ่ำสดเอาเองละกัน!
สองคำนี้ขอเลย ใครห้ามแย่ง เพราะเป็นของชอบที่สุด! ข้าวปั้นหน้าไข่แซลมอน ต้องกินทั้งคำ ค่อยๆ ให้ไข่แซลมอนแตกในปาก น้ำมันโอเมก้า 3 จะได้ค่อยๆ ไหลลงคอไปช้าๆ สุดยอด!
Traveler’s Guide
Address : J-Park ศรีราชา ตั้งอยู่ที่ ถนนอัสสัมชัญ – หนองค้อ ตำบลสุรศักดิ์ เทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20230
How to go : รถยนต์
1. จากถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) มาถึงอำเภอศรีราชา ตรงมาสังเกตด้านขวามือเป็นห้างโรบินสัน เลยไปอีกประมาณ 180 เมตรพบสี่แยก (แยกอัสสัมชัญ) เลี้ยวซ้ายเข้าถนนอัสสัมชัญ (ทางหลวงหมายเลข 3214) ไปทางโรงเรียนอัสสัมชัญ ตรงไปจนเจอแยกตัววาย (Y) ให้วิ่งเลาะด้านซ้ายมือตามกำแพงโรงเรียนไปเรื่อยๆ เข้าถนนสายศรีราชา-หนองค้อ ก่อนถึงทางหลวงพิเศษสาย 7 จะเห็น J-Park ศรีราชา อยู่ด้านขวา ดั้งนั้นต้องตรงไปขึ้นสะพานข้ามทางหลวงพิเศษสาย 7 พอลงสะพานจะเห็นทางกลับรถด้านขวามือ กลับรถเสร็จแล้ว วิ่งข้ามสะพานกลับมาอีกทีแล้วเลี้ยวซ้ายเข้า ช็อปปิ้งมอลล์ เจปาร์ค ศรีราชา
2. จากทางหลวงพิเศษสาย 7 กรุงเทพ-ชลบุรี ออกจากด่านเก็บเงินพานทอง ตรงไปประมาณ 26 กิโลเมตร ออกมาทางถนนเลียบหลวงพิเศษสาย 7 วิ่งไปจะสังเกตเห็นสะพานข้ามทางหลวงพิเศษสาย 7 ด้ายซ้ายมือมีป้าย เลี้ยวซ้ายไปห้างโรบินสันศรีราชา เลี้ยวซ้ายตามป้ายนี้ จากนั้นชิดขวากลับรถขึ้นสะพานข้ามทางหลวงพิเศษสาย 7 ลงสะพานจะเห็น J-Park ช็อปปิ้งมอลล์
More info : www.saha-jpark.com Facebook : https://www.facebook.com/jpark.nihonmura
สวนน้ำ Cartoon Network ประเทศไทยแห่งแรกของโลก!!!
เปิดตัวแล้วอย่างยิ่งใหญ่ กับสวนน้ำธีม Cartoon Network แห่งแรกของโลกในประเทศไทย ที่จังหวัดชลบุรี จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือ เป็นสวนน้ำแบบอินเทอร์ แอคทีฟ ที่ต่างจากสวนน้ำอื่นๆ ทั่วโลก มีสุดยอดเครื่องเล่นและสไลเดอร์มากถึง 30 อย่าง รวมถึงการแสดงการ์ตูนเน็ทเวิร์ค มาสคอต ซึ่งเป็นเหล่าการ์ตูนเน็ทเวิร์คฮีโร่ อาทิ Powerpuff Girls, Ben 10, Adventure Time ที่เด็กๆ และคนทั่วโลกชื่นชอบ! สวนน้ำแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางถึง 35 ไร่ ในลักษณะ Daycation (พักผ่อนวันเดียวเที่ยวสบาย) ที่มาสัมผัสกันได้ทั้งครอบครัว และในอนาคตจะมีการเปิดที่พักในบริเวณใกล้ๆ กันด้วย
ยืนรอสักพัก ถังน้ำด้านบนที่แกว่งไปแกว่งมา ก็จะมีน้ำเติมเต็มลงไปจนล้น แล้วหมุนเคว้งเทน้ำซ่าใหญ่ลงมาเบื้องล่าง!
วินาทีแห่งความสนุกที่ SURFARENA กระดานโต้คลื่นจำลองอันแสนสนุก
สาวน้อยน่ารัก กับการทรงตัวอย่างยอดเยี่ยมราวกับมืออาชีพ! บนกระดานโต้คลื่นจำลอง SURFARENA
ครูฝึกกระดานโต้คลื่นจำลอง โชว์ลีลาลอยตัวกลางอากาศ เล่นเอาคนดูอึ้งไปตามๆ กัน!!!
เห็นเครื่องเล่นของเขาแล้วบอกได้คำเดียวว่า สวนน้ำ Cartoon Network สร้างได้ยิ่งใหญ่อลังการกว่าสวนน้ำไหนๆ ที่เคยเห็นจริงๆ!
ทะเลจำลอง และคลื่นที่เหมือนกับทะเลจริงๆ มาก! สิ่งสำคัญคือต้องมีห่วงยางหรือเสื้อชูชีพติดตัวไว้ตลอด เพื่อความปลอดภัย
RIPTIDE RAPIDS เครื่องเล่นสุดมันที่พุ่งทะลุผ่านปล่องคดเคี้ยวบนหอคอยสูงนับสิบเมตร ลงสู่สายน้ำฟู่เบื้องล่าง!
Traveler’s Guide
How to go : สวนน้ำ Cartoon Network ตั้งอยู่ที่ ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองพัทยาเพียงแค่ 20 นาที และใช้เวลาเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิแค่ 90 นาที
Opening Time : เปิด 10.00-18.00 น. วันจันทร์-อาทิตย์
Contact : โทร. 0-3823-7 707 (ภาษาไทย / อังกฤษ), 09-3008-5690 (ภาษารัสเซีย) เว็บไซต์ http://cartoonnetworkamazone.com
บัตรผ่านประตู : สำหรับบัตรรายวัน ผู้ใหญ่ (คนไทย) 1,290 บาท/วัน, เด็ก (คนไทย) 890 บาท/วัน ราคานี้เล่นได้ตลอดวัน ทุกเครื่องเล่น ยกเว้นค่าอาหารที่ต้องเสียเพิ่มเอง ส่วนบัตรรายปี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ราคาเริ่มต้นที่ 6,000 บาท
ข้าวหมูแดงนายดอกไม้ ต้นตำรับเจ้าแรกชลบุรี!
ข้าวหมูแดงนายดอกไม้ สูตรจีนแต้จิ๋วแท้ๆ ขายมานานกว่า 70 ปี ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ จนมาถึงรุ่นลูกแล้ว อาเฮียเล่าว่าครั้งแรกเตี่ย (พ่อ) เป็นลูกมือเจ้าของร้านข้าวหมูแดงมาก่อน พอเจ้าของเดิมร่ำรวย ก็กลับเมืองจีน เลยให้สูตรทำข้าวหมูแดงนี้ไว้กับเตี่ย จนตกทอดมาถึงปัจจุบัน กลายเป็นต้นตำรับข้าวหมูแดงเจ้าแรกในตัวเมืองชลบุรี ที่ถามใครแถวนั้น ก็ต้องรู้จักทุกคน “ข้าวหมูแดงนายดอกไม้” ตรงข้ามศาลเจ้าอาเนี้ยว
คุณลูกสาวน่ารัก ผู้สืบทอดสูตรข้าวหมูแดงรุ่นต่อไป
ร้านนายดอกไม้ จริงๆ แล้วเป็นแค่รถเข็นเล็กๆ จอดอยู่ในซอยตรงข้ามหน้าศาลเจ้าอาเนี้ยว มีโต๊ะนั่งไม่กี่โต๊ะ แต่ลูกค้าแน่นตลอด มีทั้งมานั่งกินและเข้าคิวรอซื้อกลับบ้านทั้งวัน อาเฮียเลยสับหมูมือเป็นระวิง!
ข้าวหมูแดงนายดอกไม้อร่อยมีรสชาติเฉพาะไม่เหมือนใคร ข้าวนุ่ม หมูแดงหอมอร่อยไม่เหนียว หมูกรอบไม่มันมาก กรอบจริงๆ เคี้ยวได้หมดทั้งชิ้น ส่วนกุนเชียงก็เป็นกุนเชียงเนื้อแดง ย่างด้วยเตาถ่าน เนื้อจึงหอมอร่อย เคี้ยวแล้วได้กลิ่นถ่านไม้ สุดยอด! อันนี้เป็นวิธีการทำแบบโบราณจริงๆ หายากมากๆ ไข่ต้มก็ให้แบบจริงใจ จานละฟองเลย กินแกล้มกับแตงกวา, ผักบุ้งผัดน้ำมัน, น้ำจิ้มซีอิ๊วดำใส่พริกซอยละเอียด และที่ขาดไม่ได้คือ ซอสพริกศรีราชาคุณภาพเยี่ยม เข้ากั้นเข้ากัน!
ถ้าไม่อยากกินข้าว จะสั่งเกาเหลาหมูแดงก็ได้ (เหมือนข้าวหมูแดงทุกอย่าง แต่ไม่ใส่ข้าวมานั่นเอง) สังเกตโต๊ะไม้ที่จานวางอยู่ให้ดี จะเห็นริ้วรอยของกาลเวลา ที่ร้านนายดอกไม้เขาใช้มานานหลายสิบปี เป็นเครื่องรับประกันความอร่อยจ้า
Eating Guide
Address : ร้านข้าวหมูแดงนายดอกไม้ อยู่หน้าศาลเจ้าอาเนี้ยว ถนนวชิรปราการ (หากมาจากเซ็นทรัลชุลบุรีให้ขับมาทางถนนสุขุมวินถึงแยกให้เลี้ยวซ้ายมาใกล้ๆ ร้านจะมีธนาคารกสิกรและธนาการกรุงไทย) ในตัวเมืองชลบุรี
Contact : โทร. 08-1782-7707 เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-15.00 น. ปิดเฉพาะวันที่ศาลเจ้าอาเนี้ยวมีงาน
กลับคืนสู่ธรรมชาติที่ เขาเขียว Es Ta Te Resort & Safari จ.ชลบุรี
ไม่น่าเชื่อเลยว่า ใกล้กรุงเทพฯ แค่นิดเดียว ขับรถไม่ถึง 2 ชั่วโมงจากเมืองกรุงไปชลบุรี จะมีที่ป่าไม้และธรรมชาติเขียวๆ สดชื่น ให้ได้สัมผัสกันแล้ว ไม่ใช่อื่นไกล ก็ที่ เขาเขียว Es Ta Te Resort & Safari ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียวนั่นเอง ใครที่เคยใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวทุ่งซาฟารีในแอฟริกา ดูสัตว์ตัวเป็นๆ เดินไปเดินมาอยู่รอบๆ ที่พักแบบใกล้ๆ ชนิดหายใจรดต้นคอกันเลย ลองมาที่นี่สิครับ
มาพักที่นี่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ป่าจริงๆ เพราะมีฝูงเนื้อทราย ซึ่งเป็นกวางขนาดเล็ก น่ารักๆ ชนิดหนึ่ง เดินไปเดินมา แทะเล็มหญ้าอยู่หน้าเต็นท์ที่พักเราเลย!
เนื้อทรายตัวผู้เขางาม คุ้นคนมาก แต่ก็พยายามรักษาระยะห่าง ไว้ลายจ่าฝูงกันนิดนึง
นอกจากจะมีเนื้อทรายแล้ว ยังมีกวางดาวฝูงเล็กๆ อยู่ที่นี่ด้วย พวกมันเป็นมิตรไม่ทำร้ายใคร และเราก็ไม่ควรไปให้อาหารมันนะครับ เพราะมันหากินใบไม้ใบหญ้าได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว
ที่พักของ เขาเขียว Es Ta Te เป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ นอนได้สองคน ข้างในมีทั้งแอร์และพัดลมให้เลือก แต่เราไปลองนอนมาแล้ว ตอนกลางคืนอากาศเย็นสบายมาก ไม่จำเป็นต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศเลย แหม มาถึงป่าถึงเขาแล้ว ทำไมจะพลาดโอกาสสูดโอโซนสดชื่นๆ ล่ะ
ในเต็นท์ไม่มีเตียง แต่มีฟูกหนานุ่ม พร้อมผ้าห่มอุ่นๆ ให้ จะได้หลับสบาย
ห้องน้ำของ เขาเขียว Es Ta Te เป็นแบบ Open Air แยกหญิงชาย ต้องเดินจากเต็นท์มานิดนึง จำลองบรรยากาศการไปพักในทุ่งซาฟารีของแอฟริกามาได้อย่างเจ๋งมาก
เขาบอกว่า เนื้อทรายเป็นกวางตาหวานที่สุด! จริงอ่ะป่าว? ต้องลองดูกันเองนะ
Address / Contact : เขาเขียว Es Ta Te รีสอร์ท แอนด์ ซาฟารี เลขที่ 235 หมู่ 7 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20110 (อยู่ในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี)
โทร : 0-2353-6933, 08-2796-3262-4 เว็บไซต์ www.estateresort.com
ถึงรสปักษ์ใต้แท้อร่อยล้ำ ร้านน้องโจ๊ก จ.กระบี่
ร้านน้องโจ๊ก ฟังชื่ออาจจะดูเด็ก แต่ขอบอกว่ารสชาติไม่เด็ก เพราะปัจจุบันน้องโจ๊ก ได้เติบโตกลายเป็น “โกโจ๊ก” ที่แวดวงร้านอาหารในจังหวัดกระบี่รู้จักกันดี เพราะเขาขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติแบบปักษ์ใต้แท้ ไม่เน้นการปรุงมาก แต่เน้นที่วัตถุดิบสดใหม่ พร้อมด้วยการปรุงแบบรักษาเอกลักษณ์อาหารใต้ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งหน้าตาและรสชาติ รีบไปชิมกันเลยดีกว่า
แกงส้มปลากะพง ราวท้อง ยอดมะพร้าว คัดมาเฉพาะส่วนท้องปลาอย่างเดียว เนื้อจึงนุ่มหวานมัน หาเมนูอื่นใดมาเทียบเทียมได้ยาก ฮาฮาฮา!
แกงส้มไข่ปลาอ้อดิบ ขอบอกว่าไข่ปลาเนื้อแน่นสู้ปาก ไม่คาวสักนิด ส่วนอ้อดิบก็อวบอ้วน กรอบกรุบดีแท้
น้ำพริกกุ้งเสียบ เมนูนี้ไม่ต้องบรรยายมาก เพราะเป็น Signature ของอาหารจังหวัดกระบี่ ที่ทุก Restaurant ต้องมีประจำ จะสั่งกุ้งเสียบหรือกุ้งสดก็ “อร่อยอย่างแรง!”
กุ้งผัดสะตอกะปิ คัดมาเฉพาะสะตอเม็ดใหญ่ สด กรอบ ผัดไฟแรงแล้วนำขึ้น จึงยังคงความกรอบ รส กลิ่นปักษ์ใต้ขนานแท้ ร้านนี้เขาใช้กะปิอย่างดีมาผัด จึงหอมอร่อยมากๆ
ปลาอินทรีย์ทอดซีอิ๊ว ชิ้นใหญ่มากๆ!!! แถมรสชาติยังหวาน เค็ม กำลังดี ทอดซีอิ๊วเข้าเนื้อครับ
กรรเชียงปูนึ่ง สด หวาน อร่อย กินได้เต็มปากเต็มคำ!
หอยชักตีนลวก จิ้มน้ำจิ้ม Seafood รสแซ่บ
หอยแครงลวก เคยกินไหมหอยใหญ่เท่ามือ??? อันนี้เป็นหอยธรรมชาติครับ ไม่ใช่หอยเลี้ยงนะเจ้าข้าหมึกไข่ทอดกระเทียม เน้นกระเทียมกรอบกรุบ เข้ากันดีกับความหนุบของหมึก
ผักเหมียงผัดไข่ (หรือใบเหรียงผัดไข่) เมนูปักษ์ใต้แท้ๆ หรอยอย่างแรง!!!
ยำไข่แมงดาทะเล ยกมาทั้งตัว รสจัดจ้าน ไข่กรุบแตกในปาก!
หมึกไข่นึ่งมะนาว หมึกซดสด! รสชาติจี๊ดจ๊าดจัดจ้านถึงใจ
ปูนิ่มทอดกระเทียม อร่อยไม่แพ้ปูนิ่มระนองเลยสักนิด
อิ่มจากของคาวแล้ว ก็ต้องปิดท้ายด้วยนี่เลยครับ ไอศกรีมรสทุเรียน กลิ่นและรสหวานหอมกำลังดีนะจะบอกให้
Eating Guide
Address : ร้านอาหารน้องโจ๊ก เลขที่ 50/3 หมู่ 7 ตำบลไสไทย อำเภอเมืองฯ จังหวัดกระบี่ 81000
Opening Time : เปิดเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-21.00 น.
Contact : โทร. 0-7561-1639 แฟ็กซ์ 0-7562-0179