เที่ยวไป กินไป Style บุรีรัมย์ (ตอน 1)

logo Amazing Journey 2

คุณคิดว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการเดินทางไกลคืออะไร? คือรองเท้าดีๆ คือพาหนะสุดเจ๋งๆ หรือคือห้องสุดหรู… เหล่านี้อาจสำคัญก็จริง แต่สิ่งที่ผมคิดว่าจำเป็นที่สุดสำหรับการแรมทางผ่านหลักกิโลเมตรอันแสนยาวไกลก็คือ “เพื่อนดีๆ”

โครงการ The Amazing Journey Blogging Contest ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่โปรโมท 12 เมืองต้องห้ามพลาด กำลังจะนำผมไปพบกับการเดินทางที่สนุก ฮา และน่าประทับใจที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต แม้จะเป็นการเดินทางเพียง 6 วัน แต่สิ่งที่ยังตรึงอยู่ในใจผมมากระทั่งบัดนี้ ก็คือมิตรไมตรี รอยยิ้ม และประสบการณ์ดีๆ จากผองเพื่อน ที่ร่วมผจญภัย อดมื้อ กินสองมื้อ (ฮาฮาฮา) ไปด้วยกัน โดยหมุดหมายแห่งการเดินทางของเราอยู่ที่ “จังหวัดบุรีรัมย์” เมืองที่มีคอนเซ็ปต์ว่า “เมืองปราสาทสองยุค” เพราะนอกจากจะเป็นดินแดนอารยธรรมขอมแห่งอีสานใต้อันเก่าแก่แล้ว ทุกวันนี้บุรีรัมย์ยังเป็น “เมืองกีฬามาตรฐานโลก!!!” ประโยคนี้ผมฟังคนอื่นเขามาพูด เลยอยากเห็นกับตาว่าจะจริงแค่ไหน? งั้นรีบไปพิสูจน์กันเถอะพวกเรา…

d2

ทีแรกกะว่าจะบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปลงบุรีรัมย์เลย เพราะตอนนี้ที่อำเภอสตึก ของบุรีรัมย์ เขามีสนามบินแล้ว Nok Air ก็บินไปลงทุกวัน แต่เพราะว่าสปอนเซอร์รถของเราคือ บริษัท Thai Rent A Car มีฐานอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ทีมเราเลยต้องขึ้นเครื่อง Nok Air ไปลงที่ขอนแก่น เพื่อรับรถคันใหญ่ ขับเคลื่อนสองล้อหน้า พร้อมด้วยที่เก็บของกว้างๆ เพราะทีมเราขนสัมภาระกันไปเพียบ โดยเฉพาะอุปกรณ์กล้องที่แทบจะเปิดร้านขายกันได้เลยทีเดียว! ฮาฮาฮา ตกลงนี่จะไปเที่ยวหรือไปทำงานกันแน่??? จริงจังไปอ่ะป่าวนะนาย?

คุณพิม และแคช Blogger ชื่อดังแห่ง “ครัวบ้านพิม” ซึ่งป็นบล็อกสุดเจ๋งเกี่ยวกับการรีวิวอาหาร ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีม แคชเป็นพลขับ คุณพิมเป็นคนนำทาง ส่วนอีกคนคือ น้องพัชชี่ Blogger เจ้าของฉายา Tiny Chef ก็มาร่วมแจมร่วมสร้างสีสัน เพราะความน่ารักของน้องพัชชี่ แค่น้องเขายิ้ม ก็ทำให้โลกนี้สดใสแล้วล่ะครับ ฮาฮาฮา อย่าเข้าใจผิด อันนี้ไม่ได้จีบ แต่ชมจากใจจริงนะจ๊ะน้อง

d3 d4

การเดินทางเกือบ 3 ชั่วโมง จากขอนแก่นไปบุรีรัมย์ แม้สภาพถนนจะดีมาก แต่เราก็ทำความเร็วไม่ค่อยได้ เนื่องจากเมฆสีเทาทึบบนท้องฟ้าเดือนกรกฎาคม ได้กลั่นตัวโปรยฝนลงมาต้อนรับให้เย็นชุ่มฉ่ำกันไปตลอด แต่วันนี้เราไม่มีอะไรต้องรีบ ขับชมวิวกันไปชิลชิล ถึงบุรีรัมย์ตอนห้าโมงเย็น Check in เข้าที่พักโรงแรม Best Western เสร็จ ตอนนี้พยาธิในท้องกำลังดิ้นกันดุ๊กดิ๊ก! คงถึงเวลาที่ต้องรีบออกไปหาอาหารอร่อยในบุรีรัมย์หม่ำกันหน่อยแล้ว…

d5

จุดหมายแรกของเราอยู่ที่ “ตลาด Night ใหม่” (ชื่อเต็ม ตลาดไนท์พลาซ่า ใหม่) ที่นี่เป็นศูนย์รวมของคนช่างกินตัวจริง เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็เต็มไปด้วยอาหารและขนมละลานตา เล่นเอาน้ำลายสอ ชั่วโมงนี้เห็นอะไรก็อยากกินไปหมด! เราเลยไม่ลังเล ดิ่งเข้าไปที่ “ร้านผัดไททอม-ดี้” ร้านผัดไทยชื่อดังที่เขาประกาศตัวชัดเจนว่าเป็น ทอม-ดี้ เออ.. อันนี้ชอบ ไม่จำเป็นต้องปิดบัง เฮ้ย! ทอมหล่อ! ผมอุทาน! แต่รสชาติจะแซ่บเวอร์ขนาดไหน คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการสั่งมาชิมมีทั้งผัดไทยกุ้งสด ผัดไทยทะเล รวมถึงหอยทอดด้วย เส้นของเขาเหนียวนุ่มกำลังดี น้ำซอสมะขามที่เอามาผัดก็หอมอร่อย รสออกเปรี้ยวหวานกลมกล่อม แต่สิ่งที่ผมว่า Amazing มากคือ กุ้งตัวใหญ่ที่ใส่มาในผัดไทยนั้นสดมากเลย ไม่ใช่กุ้งแก้วตัวใสแจ๋ว! ทำให้รู้สึกว่ามาเที่ยวบุรีรัมย์ก็ยังพอมี seafood กินแบบขำๆ นะ ฮาฮาฮา

d6 d7

นั่งกินไป ดูคู่ทอม-ดี้ ช่วยกันทำผัดไทยอย่างขยันขันแข็ง มือเป็นระวิง แต่ดูเหมือนสองคนนี้จะพูดน้อย ยิ้มอย่างเดียว สงสัยจะเขินกล้องพวกเรา ยุคนี้ต้องบอกเลยว่า แค่ชื่อร้านที่แปลก ติดหูง่าย “ผัดไททอม-ดี้” ก็เรียกลูกค้าได้ไม่ยากแล้วล่ะ ดูอย่างพวกเราสิ เหินฟ้ามาชิมกันเลยนะเนี่ยะ อิอิ

d8

ขอบอกว่ายังไม่อิ่ม! เลยขับรถไปที่ “ตลาดไนท์ เก่า” ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ตลาดไนท์เก่าวันนี้ดูจะเงียบๆ เหงาๆ ไปบ้าง ผิดกับตลาดไนท์ใหม่ที่มีเนื้อที่กว้างขวางกว่าเยอะ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม วันนี้ตลาดไนท์เก่าก็ยังมีของดีซุกซ่อนอยู่ไม่น้อย ทำให้รู้สึกได้เลยว่าคนบุรีรัมย์เขาช่างกิน ไม่แพ้คนจังหวัดอื่นเลยล่ะ อย่างราดหน้ายอดผักสูตรโบราณ, ปอเปี๊ยะ-เกี๊ยวทอดแสนอร่อย ฯลฯ รวมถึง “เต้าส่วนร้านเจ้ตุ่ม” ที่มีคนมาเข้าคิวรอซื้อยาวเป็นหางว่าว! จนเจ้ตุ่มแกตักขายแทบไม่ทัน! พอเห็นเรามาถ่ายรูป เจ้ก็ยิ้ม แล้วบอกว่าไม่ต้องมาถ่ายแล้ว แค่นี้ก็ขายไม่ทันแล้ว ฮาฮาฮา

d9 d10

วันแรกของการเดินทางมาทักทาย “บุรีรัมย์” จบลงอย่างอิ่มแปล้ ท้องตึง หนังตาหย่อน จนไม่รู้ว่าผล็อยหลับไปตอนไหน รู้แต่ว่าห้องพักแอร์เย็นฉ่ำของ โรงแรม Best Western ทำให้ผมหลับเป็นตายเลยทีเดียว

d13

เช้าวันถัดมา เราไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่า ขับรถวนชมตัวเมืองที่เริ่มคึกคัก วนไปจนถึงหน้าโรงแรมแกรนด์ ซึ่งเป็นตึกสีฟ้า เหมือนโรงแรมสไตล์โบราณสร้างมานานมากแล้ว และเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนในตัวเมือง ข้างโรงแรมแกรนด์คือ “ร้านก๊วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นมิตรมงคล” ซึ่งเปิดมาหลายสิบปี รสชาติเป็นที่เลื่องลือในยุทธจักรอาหาร แต่โดยส่วนตัวผมแทบไม่กินเนื้อวัวเลย เพราะมีความรู้สึกว่าเนื้อวัวมีกลิ่นสาบ วันนี้เลยแข็งใจลองชิมดูซิ… แค่คำแรกก็อึ้ง เพราะน้ำซุปหอมหวาน เนื้อตุ๋นก็เปื่อยนุ่ม แต่ยังมี texture ให้ได้ออกแรงเคี้ยว ส่วนลูกชิ้นก็เป็นเนื้อแดง ไม่มีเอ็น เคี้ยวง่าย กินคำนึง คีบผักบุ้งใส่ปากคำนึง แล้วซดน้ำตาม โดยส่วนตัวผมว่าอร่อย น่าแปลกที่เขาสามารถลบความคิดที่ว่า เนื้อวัวเหม็นสาบ ของผมไปได้ส่วนหนึ่งเลยทีเดียวครับ

d14d15

เช้าวันนี้อากาศแจ่มใสมาก ผิดกับเมื่อวานที่ฝนตกตลอด เล่นเอาซะใจเสีย! วันนี้เราจะไปเที่ยวกันที่ “เพ ลาเพลิน บูติค รีสอร์ท แอนด์ แอทเวนเจอร์ แคมป์” ที่อยู่ห่างจากอำเภอเมืองออกไปพอสมควร ในอำเภอคูเมือง โดยวันนี้ คุณชิมิ PR สาวสวยแสนน่ารักของเพ ลาเพลิน จะเป็นคนพาเราเที่ยวชมด้วยตัวเอง ต้องสนุกแน่ๆ

d16

เพ ลาเพลิน เป็นอุทยานแห่งการเรียนรู้ ความสนุก และการผจญภัย โดยมีโซนของที่พักไว้บริการด้วย แต่ด้วยเนื้อที่อันกว้างใหญ่มาก อาจทำให้เที่ยวชมแบบละเอียดในวันเดียวไม่ทั่วจริงๆ! โซนด้านหน้าพอเข้ามาจากประตูใหญ่ ก็จะเป็นโซนจดหมายเหตุ ประวัติสำคัญๆ ของสยามในอดีต รวมถึงของโบราณ รถโบราณ นาฬิกาโบราณ ของสะสมต่างๆ ซึ่งคนรุ่นใหม่อาจจะไม่เคยเห็น โดยทุกมุมเขาเหมือนกับจะรู้ใจ จัดไว้สำหรับพวก Photomania หรือพวกชอบถ่ายภาพล่ะครับ แต่ขอบอกว่าอย่าชักภาพจนเพลิน เพราะนี่แค่น้ำจิ้ม ด้านในยังมีสิ่งน่าสนใจให้ดูอีกเพียบ!

d17

น้องพัชชี่ยิ้มหวาน แปลงร่างเป็นสาวปั่นสามล้อส่งดอกไม้ สดใสร่าเริง ขอบอกว่าชอบมากตรงกางเกงลายผ้าถุงที่น้องพัชชี่นุ่ง เพราะทำให้นึกถึงคุณยาย! เอ้ย… ไม่ใช่ ทำให้นึกถึงแคมเปญเที่ยวิถีไทย เก๋ไก๋ ไม่เหมือนใคร ๒๕๕๘ ของ ททท. ถือว่า OK เลยครับน้อง ทำการบ้านมาดี Costume (เครื่องแต่งตัว) ผ่าน อย่างนี้อนาคตรุ่งแน่ ฮาฮาฮา

d18d19

ในโซนด้านหน้านี้มี Farm House จำลองบ้านไร่แบบตะวันตก ที่มีน้องแกะ และน้องม้าเคราะ (ฝรั่งเรียกว่า Pony) เป็นพระเอกนางเอก สาวๆ และเด็กๆ ชอบ ตรงเข้าไปป้อนหญ้ามันอย่างสนุกสนาน

d20

ในโซนของสะสมโบราณ มีมุมหนึ่งจัดไว้ในเรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา เกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระองค์ท่าน เห็นแล้วต้องทึ่ง เพราะพระองค์ทรงพระราชนิพนธ์บทเพลงไพเราะให้เราฟังนับสิบๆ เพลงเลย

d21

อ้าว ใครฝันจะไปดู หิน Stonehenge ที่อังกฤษ แต่ยังไม่มีตังค์ซื้อตั๋วเครื่องบิน (ผมก็คนนึงล่ะ!) มาเที่ยวเพ ลาเพลินแก้ขัดไปก่อนนะ เพราะเขามีหิน Stonehenge จำลองให้แอ็กท่าถ่ายภาพเป็นที่ระลึก จริงๆ แล้วจุดนี้เป็นจุดสื่อความหมายที่ดี สำหรับเด็กๆ ที่เข้ามาเที่ยว เหมือนการเปิดโลกการเรียนรู้ให้เขา และสร้างแรงบันดาลใจให้ออกไปท่องโลกเมื่อโตขึ้น

d22

ได้เวลาหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน! พาตัวและหัวใจไปร้องกรี๊ดสนั่น กับฐานกิจกรรมผจญภัยสนุกๆ ของเพ ลาเพลิน มีตั้งแต่ปีนหน้าผาจำลอง, ไต่กำแพงตาข่ายเชือก, โรยตัวจากหอเอนปีซ่า, ข้ามสะพานเชือกกลางน้ำ, โรยตัวข้ามน้ำ และวิ่งข้ามน้ำสุดระทึก! ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ลองเล่นเถอะ ดูรอยยิ้มของน้องพัชชี่เป็นเครื่องการันตีได้ครับ ขอบอกว่าเสียงน้องพัชชี่กรี๊ดสนั่น จนกำแพงแทบถล่ม! (sorry แซวเวอร์ไปนิด อิอิ) ส่วนเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องห่วง ถ้าใครไม่ใส่อุปกรณ์ความปลอดภัย Safety อย่างถูกต้องครบถ้วน Staff เขาก็จะไม่อนุญาตให้เล่นแน่นอน ไว้ใจได้

d23d24d25d26

สายแล้ว แดดเร่ิมร้อนขึ้น เสร็จจากฐานกิจกรรมผจญภัย เราก็นั่งรถพ่วงวนไปชมรอบๆ บริเวณเพ ลาเพลิน ทำให้เห็นว่าเนื้อที่เขากว้างใหญ่มากจริงๆ มีโซนแปลงปลูกพืชผัก, องุ่น, โรงเรือนไม้ดอกไม้ประดับ และยังมีห้องสมุดลอยฟ้าที่ตั้งอยู่กลางทุ่งดอกกุหลาบสีแดงสด ขานรับกับวันฟ้าใส ไม่ไปเห็นกับตาคงไม่เชื่อจริงๆ ว่านี่คือเมืองไทย!

d27

หนึ่งในอาคารที่น่าเข้าไปเยี่ยมชมมากที่สุด คืออาคารแห่งความจงรักภักดี สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติในหลวง และสมเด็จพระราชินี ของเราปวงชนชาวไทยครับ ภายในจัดแสดงเรื่องราวพระราชกรณียกิจสำคัญๆ ของทั้งสองพระองค์ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และเรื่องผ้าไหมไทย ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงส่งเสริมให้ประชาชนสร้างอาชีพมีรายได้ ในอาคารนี้ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้หลากชนิด โดยเฉพาะช่วงที่เราไปเที่ยวเป็นฤดูฝน จึงมีการนำดอกกระเจียวขาว กล้วยไม้ขาว และดอกหงส์เหิน (ดอก Globba) เป็นช่อห้อยระย้ายาว มาตกแต่งอย่างงดงาม สดชื่นมาก

d28d29

 พวกเราตั้งใจฟังคุณชิมิ บรรยายเรื่องการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอย่างตั้งอกตั้งใจ

d30

เที่ยงแล้ว คุณชิมิ PR สาวสวย พาพวกเราไปพักผ่อน หม่ำอาหารที่ เพ ลาเพลิน จัดไว้ต้อนรับอย่างอบอุ่น แสนอร่อย พร้อมกับดื่มน้ำสตอว์เบอร์รี่คั้นสดบรรจุขวดทำเอง ว้าว! ดื่มแล้วหน้าใสกันทั้งทีมเลยนะครับเนี่ยะ

d31

ช่วงบ่าย เป็นการตะลุยเที่ยวชม “อุทยานไม้ดอกเพ ลาเพลิน” ซึ่งต้องขอชมเชยเป็นส่วนตัวเลยว่า Amazing มาก! เพราะเขาสร้างโรงเรือนขนาดใหญ่หลายหลัง จัดแสดงพรรณไม้ทั้งเฟิน, กล้วยไม้, ไม้กินแมลง, ต้นไม้ทะเลทราย, สับปะรดสี ฯลฯ แต่ละโรงเรือนใหญ่ไม่ใช่เล่น แถมสร้างอย่างลงทุน วัสดุที่ใช้บุหลังคาและผนัง นำเข้ามาจากประเทศอิสราเอลแท้ๆ จึงสามารถกันความร้อน รักษาความเย็นภายในโรงเรือนได้ยอดเยี่ยม แถมยังมีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำหยดและใบพัดดูดอากาศ แทนการใช้แอร์ เพื่อประหยัดไฟ ช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วย ว้าว! I LOVE YOU ชอบๆ

d32

ดอก Forget Me Not แม้ไม่ใช่ดอกไม้ไทย แต่ก็เบ่งบานได้เพราะชอบอากาศอบอุ่นเช่นกัน

d33

 ดอกกระเจียวสีชมพู เบ่งบานเฉพาะในช่วงฤดูฝนอันชุ่มชื้นฉ่ำเย็น

d34

 ทุ่งกระเจียวและบรรยากาศกังหันลมแบบเนเธอร์แลนด์ ช่างเข้ากันได้ดีจริงๆ East Meet West เลยน่ะเนี่ยะ

d35d36

 ดูกันใกล้ๆ ชัดๆ กับ ดอกหงส์เหิน หรือ Globba ดอกไม้ขนาดเล็กจุ๋มจิ๋มน่ารักในวงศ์ขิงข่า บานเฉพาะหน้าฝน

d37

โรงเรือนเฟิน (Fern) เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผมชอบมากที่สุดเลยล่ะ เพราะพอเข้าไปอยู่ข้างในจะรู้สึกสดชื่น เย็นฉ่ำ เหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง! มีทั้งเฟินต้นเล็กต้นใหญ่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น เขาบอกว่าตั้งใจจะจัดสวนให้เหมือนกับป่าดึกดำบรรพ์ในยุคจูราสสิก หรือประมาณ 65 ล้านปีก่อน ซึ่งเป็นยุคไดโนเสาร์ครองโลก! เฟินเด่นๆ ก็มีทั้งเฟินมหาสดำ (หรือเฟินต้น : Tree Fern), เฟินชายผ้าสีดา, เฟินข้าหลวงหลังลาย, เฟินอุ้งตีนหมี, เฟินก้านดำ รวมถึงปรงและปาล์มบางชนิด และอื่นๆ อีกเพียบ แต่อย่าตกใจล่ะ เดี๋ยวเดินๆ ไปอาจจะจ๊ะเอ๋! กับเจ้าไดโนเสาร์ที่แอบอยู่!

d38d39d40

ถัดมาคือ โรงเรือนกล้วยไม้ (Orchid) ที่จัดไว้ในคอนเซ็ปต์กินรี มีน้ำตกเล็กๆ ตั้งอยู่กลางโรงเรือน พร้อมด้วยระบบระบายอากาศแบบน้ำหยด และพัดลมดูดอากาศขนาดยักษ์ ทำให้เกิดการหมุนวนของลมภายใน เย็นสบาย เดินถ่ายรูปกล้วยไม้กันเพลิน เพิ่งรู้ว่าในโลกเรานี้มีกล้วยไม้หลายจำพวก ทั้งกล้วยไม้ดิน และกล้วยไม้ที่ขึ้นอิงอาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ นับเป็นพรรณไม้มหัศจรรย์ที่มีดอกสวยงามน่าหลงใหลราวกับสาวแรกแย้ม

d41

 กล้วยไม้ดินแสนน่ารัก สีชมพูหวาน ชื่อ เอื้องดินใบไผ่ (หรือหญ้าจิ้มฟันควาย ตามภาษาชาวบ้าน)

d42

ใกล้ๆ กัน คือ โรงเรือนสับปะรดสี (Bromeliad) ซึ่งเป็นพรรณไม้ญาติสนิทกับสับปะรดที่เรากินกัน มันเป็นพืชที่มีใบและดอกสีสันสดใส หลากหลายมาก ทุกวันนี้ผู้คนนิยมปลูกเลี้ยงไว้ประดับสวนดูเล่น แต่อย่าทำเป็นเล่นไป เพราะพืชวงศ์สับปะรดสี มีด้วยกันทั่วโลกกว่า 3,170 ชนิด! นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังทำให้หลายคนร่ำรวยจากการปลูกขายมาแล้ว โรงเรือนนี้เขาจัดไว้ในคอนเซ็ปต์โลกใต้สมุทร มีนางเงือกกับน้องปลาการ์ตูนนีโม่ โดยใช้สับปะรดสีสมมิว่าเป็นปะการัง

d43

 สับปะรดสี หรือ Bromeliad

d44

ดอกกระบองเพชร

d45

 ผีเสื้อตัวน้อยกำลังไต่ตอมดอกสับปะรดสี

d46

 ในโรงเรือนสับปะรดสี ยังมีไม้กินแมลงอันน่าฉงน อย่าง หม้อข้าวหม้อแกงลิง ขนาดใหญ่ให้ชมกันด้วย

d47

จากโรงเรือนที่ดูแน่นทึบชุ่มชื่นที่ผ่านมา ในที่สุด เราก็เดินทางมาถึงทวีปแอฟริกาอันร้อนแล้ง เอ้ย.. ไม่ใช่ มาถึง โรงเรือนพรรณไม้ทะเลทราย (Desert Plant) พวกกระบอกเพชร และปาล์มต่างๆ ขอชมว่าจัดได้สวย น่าเดินมากครับ เพราะเขาสร้างเป็นคอนเซ็ปต์พีระมิดกับฟาร์โรห์ มีการสร้างมหาพีระมิดแห่งกีซ่าจำลอง ให้เราเดินลอดเข้าไปจ๊ะเอ๋ กับฟาร์โรห์ตุตันคามุนด้วย! แถมยังมีการการนำกระบองเพชรรูปทรงแปลกพิสดาร สีสวยๆ มาปลูกเลี้ยงไว้เพียบ โรงเรือนนี้อาจจะร้อนอบอ้าวนิดนึง เพราะเขาต้องรักษาอุณหภูมิให้คล้ายทะเลทรายจริงๆ นะครับ

d48d49

โรงเรือนสุดท้ายที่คุณชิมิพาชมก็คือ โรงเรือนวิถีไทย ซึ่งมีการจำลองบ้านไทยอีสาน กองฟาง และน้องควายแสนน่ารัก ยืนต้อนรับผู้มาเยือน โดยเขามีการปลูกดอกหน้าวัวสีแดงไว้เป็นพระเอก แถมยังมีผ้าไทยอีสานเผ่าต่างๆ จัดไว้ให้ชมกันอย่างใกล้ชิดด้วย เห็นหุ่นน้องควายแล้วนึกถึงควายไทย เพราะของจริงมันเหลือน้อยใกล้สูญพันธุ์แล้ว ถูกคนจับไปกินเกือบหมด! ทั้งๆ ที่ควายเป็นสัตว์น่ารัก ซื่อสัตย์ และเราเคยมีข้าวกินกันก็เพราะน้องควายนี่ล่ะ

d50

ถ้ามีเวลาพอ เราก็อยากจะ Check In เข้าพักที่เพ ลาเพลิน เพราะเขามีโรงแรมแสนน่ารัก จัดเป็นคอนเซ็ปต์ต่างกันไปในแต่ละห้อง ตามชื่อประเทศ ไม่ว่าจะเป็นห้องอังกฤษ, ห้องญี่ปุ่น, ห้องเกาหลี, ห้องเวียดนาม ฯลฯ ขอฝากไว้ก่อนละกันนะไว้โอกาสหน้าจะต้องมานอนเล่นในห้องอังกฤษให้ได้เลย เผื่อจะเก่งภาษาอังกฤษกะเขามั่งนะสิ ฮาฮาฮา

d51

โบกมือ บ้ายบาย เพ ลาเพลิน กลับเข้าเมืองบุรีรัมย์ก็สี่โมงเย็นเข้าไปแล้ว! พร้อมกับหอบเอาภาพจดจำดีๆ เรื่องราวสนุกๆ กลับมาด้วยเพียบ เป็นใครก็ต้องหมดแรง เที่ยวเล่นสนุกสนานกันตั้งแต่เช้าจดเย็นซะขนาดนี้ ท้องร้องจ๊อกๆๆๆๆ เลยจอดรถที่หน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ดู เพราะได้ข่าวว่าที่นี่มีลูกชิ้นทอดอร่อยๆ ให้ชิมกันด้วยจ้า… แต่แค่เจ้าแรกก็ต้องอึ้ง เพราะนี่มัน “ลูกชิ้นนางฟ้า” ชัดๆ น้องน่ารัก ยิ้มหวานซะขนาดนี้ เหมือนใจพี่จะละลาย เคลิ้มไปเลยนะจ๊ะ อิอิ

d52

จุดนี้มีรถเข็นขายลูกชิ้นทอดเรียงรายกันอยู่เกือบ 10 ร้าน แต่ละร้านก็มีสูตรน้ำจิ้มต่างกันไป แต่โดยมากจะมีรสเผ็ดและหวานนำ ทุกร้านจะมีลูกชิ้นกับไส้กรอกทำเองให้เลือกหลายสิบแบบ! เขาจะเอามาทอดในกระทะใบใหญ่น้ำมันร้อนฉ่า! แต่ถ้าจะให้ได้อารมณ์สุดๆ ก็ต้องยืนกินที่หน้าร้านเลย เขามีหม้อน้ำจิ้ม พร้อมผักแกล้ม เป็นพวกกะหล่ำปลีกับแตงกวาให้ฟรีด้วย ราคาก็ไม่แพง แค่ไม้ละ 5 บาท เราเลยกินกันเพลิน เพราะเผลอใจให้น้องนางฟ้าร้านขายลูกชิ้น!

d53d54

 แค่ร้านแรก ก็ยืนจิ้มกินกันไปเกือบ 20 ไม้แล้ว! นี่พวกเรามันสายแข็งชัดๆ!

d55

โชคดีนะ มาถึงบุรีรัมย์ในวันศุกร์พอดี เลยได้มีโอกาสไปดูการแข่งมอเตอร์ไซค์ทางตรง Drag Bike ในช่วงหัวค่ำ ซึ่งอันนี้เป็นการแข่งแบบไม่เป็นทางการครับ โดยทุกคืนวันศุกร์เขาจะมีการเปิดลู่วิ่งพิเศษ ในถนนด้านข้างสนามฟุตบอล i-Mobile ให้สิงห์นักบิด Bike Boy Bike Girl ทั้งหลาย นำรถของตัวเองที่ปรับแต่งมาแรงแค่ไหนก็ได้ มาวิ่ง Test กันอย่างสุดมัน! บรรยากาศของผู้ชมเรือนหมื่น และมอเตอร์ไซค์ที่รอเข้าแข่งอีกไม่ต่ำกว่า 5,000 คันเป็นอย่างน้อย! ทำให้เสียงกระหึ่ม เร้าใจ ตื่นเต้นมากๆ โดยเฉพาะวินาทีปล่อยตัวรถออกจากเส้น START นั้น จะมันสุด เพราะส่วนใหญ่จะมีการยกล้อโชว์ ทำให้ผู้ชมเฮกันลั่นสนาม ถ้าไม่ได้มาเห็นกับตาผมก็ไม่เชื่อเลยว่า ทุกวันนี้คนบุรีรัมย์เขาจะคลั่งไคล้กีฬาแข่งรถกันมากถึงขนาดนี้!!!

d56d57d58

นี่แค่วันแรก เรายังตะลุยเที่ยวกันซะจดหมดแรงขนาดนี้ ขอพักให้เต็มอิ่มหน่อยเถอะ เมื่อยไปหมดแล้ว โชคดี คุณพิมหัวหน้าทีมของเรา จองโรงแรมดี้ดีมาล่วงหน้า ชื่อ “บ้านเตอร์ รีสอร์ท” อยู่ห่างจากสนามฟุตบอล i-Mobil แค่ 3-4 กิโลเมตรเอง แถมในห้องของผมยังมีปลาโลมาว่ายอยู่ในอ่างน้ำใหญ่เบ้อเริ่มด้วย! Amazing Buriram Style ฮาฮาฮา มีน้องโลมาจ้องผมทั้งคืน! เดินทางไปเที่ยวมาก็เกือบทั่วไทย ไปเที่ยวมาก็หลายประเทศ ไม่เคยมีแบบนี้เลยอ่ะจ้า! จ๊าก!

d59

http://www.gotravelphoto.com/2015/07/19/buriram-style-ttbn08-2/

http://www.gotravelphoto.com/2015/07/19/buriram-style-ttbn08-3/

http://www.gotravelphoto.com/2015/07/19/buriram-style-ttbn08-4/

http://www.gotravelphoto.com/2015/07/19/buriram-style-ttbn08-5/

http://www.gotravelphoto.com/2015/07/17/happy-buriram-ttbn08/

ขอขอบคุณ ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ของโครงการ “The Amazing Journey Blogging Contest” 2015

LOGO TATlogo Nok Airequinox-extreme-78502531 logo Thai Rent A Car

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

และ 1672 เบอร์เดียว เที่ยวทั่วไทย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ 

โทร. 0-4451-4447-8  อีเมล tatsurin@tat.or.th

#Thairentacar #Nokair #บุรีรัมย์ #TTBN #12เมืองต้องห้ามพลาด
#ปีท่องเที่ยววิถีไทย #TheAmazingJourneyBloggingContest
#TTBN08 #Buriram

Happy บุรีรัมย์ เมือง Amazing จิงกาเบล!

logo Amazing Journey 2

“บุรีรัมย์” มหานครแห่งอีสานใต้ที่อาบอิ่มด้วยความรื่นรมย์ของรอยยิ้ม ผู้คน ชีวิต ความทันสมัย และอารยธรรมขอมอันเก่าแก่ วันนี้บุรีรัมย์ได้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการสร้างความผสมกลมกลืนของอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เต็มไปด้วยความคึกคัก น่ารัก น่าเที่ยว จนกลายเป็น 1 ใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แล้ว

ทีแรกเราอาจสงสัยว่า บุรีรัมย์จะมีอะไรให้สัมผัสชื่นชมบ้างนะ? ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ถ้าไม่ได้ไปเห็นกับตา สัมผัสกับตัว ก็คงไม่เชื่อว่า ณ วันนี้บุรีรัมย์คือเมืองที่ร่ำรวยด้วยเสน่ห์และเรื่องราวให้ค้นหาไม่รู้จบ พร้อมแล้วก็รีบคว้ากระเป๋า โดดขึ้นรถ บิดกุญแจสต๊าทเครื่อง บึ่งไปเที่ยว “บุรีรัมย์” กันเลยดีกว่า ฮาฮาฮา…

#Thairentacar #Nokair #บุรีรัมย์ #TTBN #12เมืองต้องห้ามพลาด
#ปีท่องเที่ยววิถีไทย #TheAmazingJourneyBloggingContest
#TTBN08 #Buriram

1. เพ ลาเพลิน บูติค รีสอร์ท แอนด์ แอทเวนเจอร์ แคมป์ (PLAY LA PLOEN Boutique Resort & Adventure Camp) อ.คูเมือง บุรีรัมย์

เป็นอุทยานเพื่อพักผ่อนเรียนรู้ และทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกันได้ทั้งครอบครัว มาเที่ยวที่นี่แล้วรู้สึกสดชื่น เพราะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ดอกไม้พรรณไม้นานาชนิด ผลิดอกพราว ภายในเพ ลาเพลิน นอกจากจะมีที่พักสุดหรูแล้ว ยังมีสวนน้ำ กิจกรรมผจญภัยเป็นฐานๆ ทั้งปีนผาจำลอง, โรยตัว ฯลฯ แถมยังมีอุทยานพรรณไม้ในโรงเรือนขนาดยักษ์ ถ้าขี้เกียจเดิน เขาก็มีรถพ่วงไว้บริการพาชม นับว่าเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งในภาคอีสานตอนล่างเลยก็ว่าได้! ขอแอบกระซิบว่า บริเวณเขากว้างใหญ่จริงๆ เที่ยววันเดียวไม่ทั่วแน่นอน! เลยต้อง Check In เข้าไปนอนในโรงแรมสุดฮิปของเขาซะหน่อยแล้ว

CONTACT : โทร. 087-7994936, 087-7981039, 087-7976425  www.playlaploen.com

เพลาเพลิน 1 เพลาเพลิน 2 เพลาเพลิน 3 เพลาเพลิน 4 เพลาเพลิน 5 เพลาเพลิน 6 เพลาเพลิน 7 เพลาเพลิน 8 เพลาเพลิน 9 เพลาเพลิน 11

2. ถนนคนเดินเซราะกราว Walking Street อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

ใครรู้บ้างว่าเซราะกราวในภาษาเขมรแปลว่าอะไร? ใช่แล้ว แปลว่า “บ้านนอก” ฮาฮาฮา แต่ในความจริง ถนนคนเดินเส้นนี้ Inter เอามากๆ จนเรางงเลยทีเดียวเชียว

ถนนคนเดินเซราะกราวเป็นถนนคนเดินเย็นวันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. ที่ถนนรมบุรีย์ หน้าจวนผู้ว่าจังหวัดบุรีรัมย์ รับรองว่าถูกใจขาช็อปทั้งหลาย รวมถึงคนที่ชอบสรรหาของกินอร่อยๆ เขามีการนำผ้าทอเด่นๆ จากชุมชนต่างๆ ทั่วบุรีรัมย์มาวางขายกันอย่างละลานตา! แถมยังมีเสื้อยืด, สินค้าเก๋ไก๋, ของกินพื้นบ้าน, พืชผักปลอดสารพิษ ฯลฯ เดินช๊อปไปเพลินๆ พอเหนื่อยก็หาที่นั่งพัก มีร้านนวด และเวทีแสดงหมอลำขับกล่อม จุดเด่นอีกอย่างคือถนนคนเดินเซราะกราวคนไม่เบียดเสียด จึงเดินเล่นเกี่ยวก้อยกันสบายใจ บรรยากาศ Chill & Chic มากๆ เลย

ถนนคนเดินเซราะกราว 1 ถนนคนเดินเซราะกราว 2 ถนนคนเดินเซราะกราว 3 ถนนคนเดินเซราะกราว 4 ถนนคนเดินเซราะกราว 5 ถนนคนเดินเซราะกราว 6 ถนนคนเดินเซราะกราว 7 ถนนคนเดินเซราะกราว 8

3. ชวนกันไปชิม ลูกชิ้นนางฟ้าหน้าสถานีรถไฟ อ.เมือง บุรีรัมย์

เขาว่าถ้าเราได้กินอาหารตา อาหารใจ และอาหารปาก ไปด้วยพร้อมกัน ก็คงจะเป็นความสุขล้นเหลือ! ฮาฮาฮา ได้เชื่ออย่างสนิทใจในประโยคที่ว่านี้ ก็เมื่อได้มายืนกินลูกชิ้นเสียบไม้ ที่หน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ (อยู่ตรงข้ามวงเวียนหอนาฬิกา) นี่เอง จุดนี้มีรถเข็นขายลูกชิ้นทอดเรียงรายกันอยู่เกือบ 10 ร้าน แต่ละร้านก็มีสูตรน้ำจิ้มแตกต่างกันไป แต่โดยมากจะมีรสเผ็ดและหวานนำ ทุกร้านจะมีลูกชิ้นกับไส้กรอกทำเองให้เลือกหลายสิบแบบ! เขาจะเอามาทอดในกระทะใบใหญ่น้ำมันร้อนฉ่า! แต่ถ้าจะให้ได้อารมณ์สุดๆ ก็ต้องยืนกินที่หน้าร้านเลย เขามีหม้อน้ำจิ้ม พร้อมผักแกล้ม เป็นพวกกะหล่ำปลีกับแตงกวาให้ฟรีด้วย ราคาก็ไม่แพง แค่ไม้ละ 5 บาท เราเลยกินกันเพลิน เพราะเผลอใจไปกับยิ้มหวานของน้องนางฟ้าร้านขายลูกชิ้น! ฮาฮาฮา

ลืมบอกไปว่า มีขายทุกวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นเลยอ่ะจ้า

ลูกชิ้น บุรีรัมย์ 1 ลูกชิ้น บุรีรัมย์ 2

4. สนามฟุตบอล i-Mobile Stadium (สนาม Thunder Castel Stadium) อ.เมือง บุรีรัมย์

ตื่นตะลึง! กับสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่าแห่งแรกของเมืองไทย! ที่สนามฟุตบอล i-Mobile Stadium หรือที่ชาวบุรีรัมย์เรียกกันในอีกหลายชื่อ เช่น สนาม Thunder Castle Stadium และ Buriram Stadium จัดเป็นสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นสนามและผ่านมาตรฐานฟีฟ่า , เอเอฟซี และเอเอฟเอฟ โดยเป็นสนามฟุตบอลในระดับฟีฟ่าแห่งเดียวที่ใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดในโลกคือ 256 วัน!

ต้องร้องว้าว! เวลาเข้าไปอยู่ในสนาม i-Mobile จริงๆ เพราะเราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของความเป็น Inter คล้ายกับว่าอยู่ในอังกฤษเลย! ในวันที่ไม่มีการแข่งขัน เขาก็มีเปิดให้เข้าชมสนามได้เป็นรอบๆ ฟรีนะคร้าบ และด้านหน้าสนามยังมีร้านขายของที่ระลึกเพื่อแฟนบอลทีมปราสาทสายฟ้าบุรีรัมย์ ขอบอกว่าเสื้อยืดเขาสวยน่าใส่ เท่ห์ไม่หยอกเลย

สนามฟุตบอล i mobile 1 สนามฟุตบอล i mobile 2 สนามฟุตบอล i mobile 3 สนามฟุตบอล i mobile 5 สนามฟุตบอล i mobile 6

5. สนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (Chang International Circuit) อ.เมือง บุรีรัมย์

ขึ้นชื่อว่าสนามแข่งรถ รับรองว่าต้องมันสะใจสุดๆ อยู่แล้ว! ยิ่งถ้าเป็นสนามแข่งรถระดับโลกด้วยล่ะก็ ความมันคงพุ่งทะลุปรอทแน่นอน! สนามแข่งรถช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นสนามแข่งรถมารฐานโลก ที่สามารถแข่งรถสูตร 1 หรือ Formula 1 และแข่งรถ Super GT ได้สบายๆ จุดเด่นคือเป็นสนามแข่งรถเพียงสนามเดียวในโลก ที่ผู้ชมบนอัฐจรรย์สามารถมองเห็นได้ทุกโค้ง! ทำให้ไม่พลาดวินาทีแห่งความมัน ขณะกำลังเชียร์ กำลังลุ้นรถแข่งในดวงใจ

ด้านข้างสนามแข่งรถยนต์ ยังมีสนามแข่งรถมอเตอร์ไซค์แบบ Drag Bike ระยะทาง 200 เมตร ให้ Bike Boy Bike Girl ปรับแต่งรถของตัวเองมากันเต็มที่ เพื่อประลองความเร็วกันบนลู่วิ่งอย่างมีกติกา รู้แพ้รู้ชนะ

CONTACT : โทร. 089-585-0515 , 044-604-200  http://bric.co.th  เวลาเปิด จันทร์ – ศุกร์ 09.00 – 17.00 น.

สนามแข่งรถ บุรีรัมย์ 1 สนามแข่งรถ บุรีรัมย์ 2 สนามแข่งรถ บุรีรัมย์ 3 สนามแข่งรถ บุรีรัมย์ 6 สนามแข่งรถ บุรีรัมย์ 7 สนามแข่งรถ บุรีรัมย์ 9

6. หมู่บ้านหนองตาไก้ แหล่งเรียนภูมิปัญญาผ้าไหมเลอค่า อ.นางรอง บุรีรัมย์

แม้จะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ในตำบลหนองกง อำเภอนางรอง แต่ด้วยภูมิปัญญาที่สั่งสมมานานจากบรรพบุรุษ บวกกับความขยันขันแข็งของคนบ้านตาไก้ ช่วยกันสืบสานงานศิลป์บนผืนผ้าให้คงอยู่ คนหมู่บ้านนี้ใจดี น่ารัก ยิ้มง่าย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว เราสามารถนั่งรถอีแต๋นชมวิถีชีวิตอันเรียบง่ายพอเพียง แวะดูฐานการผลิตผ้าไหมได้ครบวงจร เริ่มตั้งแต่การปลูกต้นหม่อน เลี้ยงตัวไหม สาวไหม ปั่นเส้นไหม ย้อมสี และทอเป็นผืนด้วยกี่กระตุกแบบโบราณ แต่ไม่ใช่ดูอย่างเดียวนะจ๊ะ เรายังลองทำได้ด้วย นี่คือประสบการณ์ตรงที่หาได้ยาก ตอบสนองปีท่องเที่ยววิถีไทย ฮาฮาฮา แต่ถ้าจะไปเที่ยวก็ควรโทรบอกให้ชาวบ้านเตรียมตัวนิดนึงนะ เพราะถ้าเป็นหน้าฝน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะออกไปทำนา อาจจะไม่ได้เห็นครบทุกขั้นตอนการผลิตผ้าไหมจ้า

CONTACT : ประธานกลุ่มทอผ้าไหม บ้านหนองตาไก้ โทร. 08-5280-8396, 08-5490-5230

บ้านหนองตาไก้ 1 บ้านหนองตาไก้ 2 บ้านหนองตาไก้ 3 บ้านหนองตาไก้ 4

7. บ้านโคกเมือง สัมผัสวิถีชุมชนแสนน่ารัก อ.ประโคนชัย บุรีรัมย์

จากภาพของสนามฟุตบอล และสนามแข่งรถอันทันสมัยระดับโลกในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ลองพาตัวและหัวใจออกไปเปลี่ยนบรรยากาศกันที่อำเภอประโคนชัย สัมผัสชุมชนน่ารักแสนอบอุ่น ที่มีรากฐานประวัติสืบย้อนไปได้ถึงสมัยขอม เพราะพวกเขาเป็นชาวขะแมร์ที่อพยพเข้ามาอยู่บนผืนดินสยาม ณ “บ้านโคกเมือง” ผู้ยังคงสืบทอดภูมิปัญญาหลายอย่างมิให้สูญหาย โดยเฉพาะทักษะการทอเสื่อกก และการทอผ้าไหมคุณภาพเยี่ยม

บ้านโคกเมืองเป็นชุมชนน่ารักที่เปิดเป็นโฮมสเตย์เล็กๆ แบบอบอุ่น เป็นกันเอง ให้เราเข้าไปพักผ่อนนอนเล่น ได้พูดคุยตั้งวงสนทนากับชาวบ้าน ได้ชิมอาหารพื้นถิ่นอร่อยๆ และได้ออกไปปั่นจักรยานเที่ยวชมนาไร่ สวนเกษตรแบบพอเพียง สวนสมุนไพร จนกระทั่งบ้านโคกเมืองได้รับรางวัลเกี่ยวกับโฮมสเตย์ยอดเยี่ยมมาแล้วอย่างโชกโชนทีเดียว

CONTACT : ผู้นำท่องเที่ยวชุมชนบ้านโคกเมือง คุณน้อย โทร. 08-8193-8840

บ้านโคกเมือง 1 บ้านโคกเมือง 2 บ้านโคกเมือง 3 บ้านโคกเมือง 4 บ้านโคกเมือง 5

8. บ้านเจริญสุข แหล่งผลิตผ้าภูอัคนี สีสันมหัศจรรย์จากดินภูเขาไฟ! อ.เฉลิมพระเกียรติ บุรีรัมย์

เชื่อหรือไม่ว่าในครั้งอดีตกาลนานโพ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน บุรีรัมย์เคยเป็นดินแดนแห่งภูเขาไฟ! ปรากฏชัดในหลักฐานทางธรณีวิทยา คือภูเขาไฟที่ดับแล้ว 6 ลูกกระจายอยู่ทั่วจังหวัด! แต่ใครจะไปเชื่อว่า ชาวบ้านเจริญสุข แห่งอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งตั้งหมู่บ้านอยู่ใกล้กับภูเขาไฟพระอังคาร จะคิดค้นสรรค์สร้างหัตถศิลป์บนผืนผ้าอันประณีตขึ้นได้ โดยการนำดินโคลนภูเขาไฟ มาหมักสร้างสีสันอันวิเศษให้เกิดผืนผ้าที่ไม่เหมือนใคร ได้อย่างไม่น่าเชื่อ!

ก็เพราะหมู่บ้านเจริญสุข ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีดินภูเขาไฟ อันอุดมด้วยแร่ธาตุที่ปะทุขึ้นมาพร้อมลาวาในอดีต เมื่อทอผ้าไหมหรือผ้าฝ้ายเสร็จแล้ว ก็นำลงไปย้อมในดินโคลนภูเขาไฟ ทิ้งไว้ตามเวลาที่ต้องการ ในที่สุด ก็จะได้ผืนผ้าแพรพรรณอันวิเศษ เป็นเอกลักษณ์ สร้างชื่อเสียงจนกลายเป็นหมู่บ้าน OTOP Village Champion ไปแล้วล่ะจ้า

CONTACT : กลุ่มทอผ้าฝ้ายผ้าไหม (ผ้าภูอัคนี) หมู่บ้านเจริญสุข โทร. 08-9526-6071

บ้านเจริญสุข 1 บ้านเจริญสุข 2

9. ปราสาทพนมรุ้ง มหาปราสาทบนภูเขาไฟโบราณ อ.เฉลิมพระเกียรติ บุรีรัมย์

ปราสาทพนมรุ้ง คือมหาศิลานครอันสวยสดและวิจิรพิสดาร ได้รับการเนรมิตขึ้นบนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงจากพื้นดินเบื้องล่างถึง 200 เมตร จึงแลเห็นได้จากระยะไกลหลายกิโลเมตร โดยสร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะ อันเป็นเทพสูงสุด 1 ใน 3 ตามความเชื่อขอมโบราณ พนมรุ้งได้รับการสร้างให้มีผังเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพื่อแทนเขาพระสุเมรุนั่นเอง

ทว่าความมหัศจรรย์ของพนมรุ้ง มิได้อยู่ที่ตัวโครงสร้างสถาปัตย์อันใหญ่โตและประณีตในทุกรายละเอียดเพียงอย่างเดียว ทว่ายังอยู่ที่ความมหัศจรรย์ในปริศนาการคำนวณทางคณิตศาสตร์อันลึกล้ำด้วย! เพราะนายช่างขอม ได้ศึกษาธรรมชาติ จนสามารถออกแบบให้ทุกปี จะมี 2 ช่วงเวลา ที่พระอาทิตย์จะขึ้นและตก ได้ตรง 15 ช่องประตูของพนมรุ้งอย่างน่าอัศจรรย์! คือ จะแลเห็นพระอาทิตย์ขึ้นตรงทั้ง 15 ช่องประตูได้ ในช่วงเดือนกันยายน ส่วนพระอาทิตย์ตก ตรง 15 ช่องประตู อยู่ในช่วงเดือนเมษายน ผู้คนจะหลั่งไหลไปชมปรากฏการณ์อันน่าฉงนนี้นับหมื่นๆ คน!

นอกจากนี้ ในด้านทิศตะวันออกของปราสาทประธาน ยังมี “ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์” ที่เคยหายสาบสูญไปจากสยาม แต่ได้รับการคืนมาติดตั้งไว้ในที่เดิมของมันอย่างสมบูรณ์ เป็นสมบัติของชาติที่ควรหวงแหน

ปราสาทพนมรุ้ง 1 ปราสาทพนมรุ้ง 2 ปราสาทพนมรุ้ง 3 ปราสาทพนมรุ้ง 4 ปราสาทพนมรุ้ง 6

10. ปราสาทเมืองต่ำ ปราสาทหินทรายกลางทะเลจำลอง อ.ประโคนชัย บุรีรัมย์

ห่างจากปราสาทพนมรุ้งเพียง 8 กิโลเมตร บนพื้นที่ราบต่ำใกล้บาราย (หรือสระน้ำขนาดใหญ่) คือที่ตั้งของ “ปราสาทเมืองต่ำ” ปราสาทหินทรายอันแสนพิเศษ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะมีสระน้ำล้อมรอบ สี่มุมประดับด้วยนาค 5 เศียร ซึ่งเป็นนาคหัวโล้น ไม่ใช่นาคทรงเครื่องแบบที่พบในปราสาทพนมรุ้ง

แม้จะไม่ใช่ปราสาทขนาดใหญ่โตนัก แต่ด้วยรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมขอมอันประณีต มีปราสาทอิฐ 5 องค์ ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน ทำหน้าที่เป็นกลุ่มปรางค์ประธาน ถือว่าหาได้ยากยิ่ง คนที่ชอบเรื่องประวัติศาสตร์และโบราณคดี มาเที่ยวที่นี่คงจะรู้สึกเหมือนได้เดินย้อนอดีตไปในทุกย่างก้าว แถมยังมีมุมถ่ายภาพสวยๆ ให้เลือกกันเพียบ

ปราสาทเมืองต่ำ 1 ปราสาทเมืองต่ำ 2 ปราสาทเมืองต่ำ 3 ปราสาทเมืองต่ำ 4

11. ภูเขาไฟกระโดง จุดชมวิวพาโนรามา อ.เมือง บุรีรัมย์

แมกไม้เขียวครึ้มที่งอกงามขึ้นปกคลุม “ภูเขาไฟกระโดง” บ้านน้ำซับ ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ แท้จริงคือสิ่งซ่อนเร้นพรางตา ของภูเขาไฟโบราณ 1 ใน 6 ลูก ที่ดับสนิทแล้วของบุรีรัมย์ โดยทุกวันนี้เรารู้จักมันในชื่ออย่างเป็นทางการว่า “วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง”

ป่ากว้างขวาง 6 พันกว่าไร่ ในวนอุทยาทภูเขาไฟกระโดง คือแหล่งอาศัยพักพิงของสัตว์ป่าขนาดเล็ก และนกนานาชนิด จากเชิงเขาด้านหน้า ถ้าใครฟิตพอ ก็สามารถเดินขึ้นบันไดสูงลิบไปไหว้พระบนยอดเขาได้ แต่ถ้าไม่ไหว เราไม่ว่ากัน เพราะเขามีทางรถยนต์ขึ้นถึงยอดเขาได้เช่นกัน เพื่อนำเราไปสักการะรอยพระพุทธบาทจำลอง หรือจะลองไปเดินเล่นรอบปากปล่องภูเขาไฟโบราณ! เดินข้ามสะพานแขวนลาวา! ตื่นตากับต้นโยนีปีศาจ! (พรรณไม้ประหลาดแห่งเขากระโดง) แต่ถ้ารู้สึกว่าอากาศบนนี้ร้อนเกินไป ก็ลองไปซื้อน้ำเย็นๆ มาซดให้ชื่นใจ พร้อมกับชมวิวจากมุมสูง มองเห็นได้แบบพาโนรามา น่าประทับใจจริงๆ

ภูเขาไฟกระโดง 1 ภูเขาไฟกระโดง 2 ภูเขาไฟกระโดง 3 ภูเขาไฟกระโดง 4

12. ภูพระอังคาร ร่องรอยภูเขาไฟล้านปี! อ.เฉลิมพระเกียรติ บุรีรัมย์

1 ใน 6 ภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วในปัจจุบันของบุรีรัมย์ แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ “ภูพระอังคาร” ปรากฏอยู่ด้วยแน่นอน เพราะภูสูง 331 เมตร ซึ่งมีแมกไม้ป่าละเมาะขึ้นปกคลุมลูกนี้ แท้จริงคือภูเขาไฟรูปโคน (หรือรูปฝาชีคว่ำ) ที่มีอายุเก่าแก่นับล้านปี! จากการสำรวจพบว่าในปากปล่องมีเนื้อที่ถึง 4 หมื่นตารางเมตร! และเคยเป็นทะเลสาบมาก่อนด้วย! ทว่าน้ำนั้นได้ระเหยไปหมดสิ้นนานแล้ว นับเป็นความมัหศจรรย์ทางธรณีวิทยาที่น่าศึกษา น่าไปยลด้วยตาตนเองเป็นอย่างยิ่ง

การชมภูเขาไฟภูพระอังคารให้ได้เห็นเต็มตา เราต้องขับรถขึ้นไปที่ “วัดเขาอังคาร” แล้วมองไปยังภูพระอังคาร จึงเหมาะที่จะขึ้นไปเที่ยวในตอนเช้าหรือเย็น เพราะแดดจะไม่ร้อนจัด วัดเขาอังคารเป็นวัดโบราณมาก คาดว่าสร้างขึ้นสมัยเดียวกับปราสาทพนมรุ้ง มีร่องรอยของซากโบราณสถานสมัยทวาราวดี และเสมาหินแกะสลักจำนวนมากกระจายอยู่ ทุกวันนี้วัดเขาอังคารมีศิลปะผสมผสานระหว่างใหม่เก่า อันเกิดจากการบูรณะทับซ้อนกันหลายยุคเลยล่ะ

ภูพระอังคาร 1

ภูพระอังคาร 2 ภูพระอังคาร 3

13. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อาณาจักรสรรพสัตว์ในผืนป่ามรดกโลก อ.โนนดินแดง บุรีรัมย์

หลายคนคงไม่เคยรู้เลยว่า บุรีรัมย์ไม่ได้มีแต่สนามแข่งรถระดับโลก และไม่ได้มีแต่สนามฟุตบอลระดับมาตรฐานฟีฟ่า แต่ยังมีป่าใหญ่ผืนสุดท้าย อันเป็นส่วนเสี้ยวหนึ่งของผืนป่ามรดกโลก “ดงพญาเย็น-เขาใหญ่” ขององค์การ UNESCO เราเรียกที่นั่นว่า “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่” บ้านของพืชพรรณและสัตว์ป่าหายากนานาชนิด

ทว่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (Wild Life Sanctuary) มิได้ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ท่องเที่ยวเป็นหลักเหมือนกับ อุทยานแห่งชาติ (National Park) การเข้าไปท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ จึงต้องติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้ง ป่าผืนนี้มีโขลงช้าป่าอันแสนน่ารัก มีนกยูงไทยที่ใกล้สูญพันธุ์ เป็นแหล่งดูผีเสื้ออันยอดเยี่ยม แถมยังมีนกในวงศ์ไก่ป่าและไก่ฟ้าสวยงามหลายชนิด โดยเฉพาะไก่ฟ้าพญาลอ ที่ดุ่มเดิมหากินอยู่อย่างเสรีในราวไพรอันแสนพิสุทธิ์ เป็นภาพที่น่าจดจำมิรู้ลืม

CONTACT : หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ โทร. 08-7868-2500

ป่าดงใหญ่ 1 ป่าดงใหญ่ 3 ป่าดงใหญ่ 4 ป่าดงใหญ่ 5 ป่าดงใหญ่ 6 ป่าดงใหญ่ 7

14. ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ และศาลเจ้าปึงเถ่ากงม่า อ.เมือง บุรีรัมย์

ศาลหลักเมือง คือศูนย์รวมใจรวมศรัทธาของชาวบุรีรัมย์มาช้านาน ตัวอาคารเดิมมีขนาดเล็ก จึงมีการบูรณะสร้างใหม่ให้มีขนาดใหญ่โตอลังการขึ้น โดยเลียนแบบสถาปัตยกรรมของปราสาทหินพนมรุ้ง ทว่าภายในนั้นน่าแปลก เพราะมีเสาหลักเมืองอยู่ถึง 2 ต้น! โดยเสาต้นหนึ่งสูงกว่า ตั้งตรง เป็นทรง 8 เหลี่ยม โผล่พ้นจากพื้น 1.99 เมตร และยังมีเสาต้นเล็กที่เอียงอยู่ โผล่พ้นดินขึ้นมาเพียง 1.15 เมตร จุดที่ตั้งศาลหลักเมืองนี้เคยเป็นจุดที่รัชกาลที่ 1 ทรงเคยเสด็จมาพักทัพ เพราะบริเวณนี้มีทำเลเหมาะสม มีสระน้ำ มีต้นแปะขนาดใหญ่ จึงโปรดเกล้าให้ตั้งชื่อเมืองนี้ว่า “เมืองแปะ” ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น “เมืองบุรีรัมย์” ในภายหลัง

ในบริเวณเดียวกับศาลหลักเมือง ยังเป็นที่ตั้งของ “ศาลเจ้าปึงเถ่ากงม่า” เป็นศาลเจ้าจีน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2551 ภายในเป็นที่ประดิษฐานรูปเจ้าพ่อหลักเมืองและเทพเจ้าจีน คือ ปึงเถ่ากง-ปึงเถ่าม่า เทพเจ้ากวนอู และเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย หรือเทพเจ้าแห่งทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งคนจีนเคารพนับถือกันอย่างมากนั่นเอง

ศาลหลักเมือง บุรีรัมย์ 1 ศาลหลักเมือง บุรีรัมย์ 2 ศาลหลักเมือง บุรีรัมย์ 4 ศาลหลักเมือง บุรีรัมย์ 5

15. วัดกลางพระอารามหลวง อ.เมือง บุรีรัมย์

ฝั่งตรงข้ามศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ คือที่ตั้งของพระอารามหลวงแห่งแรกของเมืองบุรีรัมย์ “วัดกลางพระอารามหลวง” เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ เปี่ยมด้วยมนต์ขลังของสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้านข้างโบสถ์ เรียกว่า “สระสิงโต” เป็นจุดที่เจ้าพระยาจักรี (หรือสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในเวลาต่อมา) ทรงหยุดพักทัพ ระหว่างไปทำศึกกับเจ้าเมืองจำปาศักดิ์ โดยน้ำในสระนี้ได้รับการนำไปประกอบพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และเมื่อคราวที่มีการจัดพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 5 ธันวาคม 2530 ก็มีการอัญเชิญน้ำในสระนี้ไปทูลเกล้าถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วย

วัดกลางอารามหลวง 1 วัดกลางอารามหลวง 4

อนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 บุรีรัมย์

16. ตลาด Night เก่า Night ใหม่ แหล่งของกินหลากหลาย จุใจสุดๆ! อ.เมือง บุรีรัมย์

แหม… ตะลุยเที่ยวกันมาซะทั่วจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว ขอย้อนกลับเข้ามานอนพักผ่อนให้สบายตัว ในเมืองบุรีรัมย์ก่อนกลับบ้านสักคืน มื้อเย็นคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการออกไปตระเวนกินให้สะใจ กับหลากหลายร้อยเมนูอร่อย ที่ “ตลาด Night เก่า” และ “ตลาด Night ใหม่” ทั้งของคาว ของหวาน ของทานเล่น ทานจริง เพียบ แค่เตรียมตังค์กับเตรียมพุงไปก็พอ ฮาฮาฮา อย่างที่ตลาด Night เก่า มี เต้าส่วนเจ้ตุ่ม ที่อร่อยจัด! จนคนเข้าคิวรอซื้อกันเลย!!! ตักขายแทบไม่ทัน ส่วนที่ตลาด Night ใหม่ มี ผัดไทยทอมดี้! เฮ้ย ชื่อแปลกดี แถมรสชาติก็ไม่ธรรมดา ต้องไปลองชิมกันเองนะจ๊ะ

ตลาด Night 1 ตลาด Night 2 ตลาด Night 3 ตลาด Night 4

17. ขาหมูนางรอง ต้นตำรับความอร่อยที่ห้ามพลาด! อ.นางรอง บุรีรัมย์

ทริปเที่ยวบุรีรัมย์ของเรา คงจะจบลงอย่างสมบูรณ์แบบไม่ได้ ถ้าไม่ได้ไปลิ้มลองขาหมูแสนอร่อยแห่งอำเภอนางรองสักครั้ง ที่อร่อยๆ เลยมีอยู่ 2 ร้าน คือ ร้านจิ้งนำ และ ร้านลักษณา แนะนำว่าไม่ต้องไปสนหรอกว่าใครขายมาก่อน แต่ควรจะสนใจเรื่องรสชาติและรูปแบบมากกว่า คือของร้านลักษณาจะเป็นขาหมูตุ๋นเครื่องยาจีน น้ำขาหมูค่อนข้างใส น้ำรสออกหวานนำ ส่วนเนื้อขาหมูเหนียวนุ่ม กินคู่กับน้ำจิ้มรสเปรี้ยวกำลังดี และผักกาดดองเปรี้ยวกลมกล่อม

ส่วนของร้านจิ้งนำ (อยู่คนละฝั่งถนน ตั้งประจันหน้ากันเลย) เป็นขาหมูหมั่นโถว รสชาติจะออกหวานนวล เนื้อขาหมูนุ่มตุ๋นมาอย่างดี คากิก็ถึงเครื่อง หนังลื่นไม่ต้องเคี้ยว น้ำราดขาหมูเข้มข้นด้วยเครื่องยาจีน กินแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่เลี่ยนจ้า

CONTACT : ขาหมูร้านจิ้งนำ โทร. 0-4462-2149 / ขาหมู ร้านลักษณา โทร. 0-4463-1158, 0-4463-1774

ขาหมูนางรอง 1 ขาหมูนางรอง 2

 ขอขอบคุณ ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ของโครงการ “The Amazing Journey Blogging Contest” 2015

LOGO TATlogo Nok Airequinox-extreme-78502531logo Thai Rent A Car

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

และ 1672 เบอร์เดียว เที่ยวทั่วไทย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ 

โทร. 0-4451-4447-8  อีเมล tatsurin@tat.or.th

คู่มือนักเดินทาง

– รถยนต์ :  จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ถึงสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 24 (โชคชัย-เดชอุดม) ผ่านอำเภอหนองกี่ อำเภอนางรอง เลี้ยวซ้ายเข้าสู่จังหวัดบุรีรัมย์ ตามทางหลวงหมายเลข 218 ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 410 กิโลเมตร

– รถไฟ : มีรถไฟสายกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ-สุรินทร์ และนครราชสีมา-อุบลราชธานี ทั้งขบวนรถด่วน รถเร็ว รถธรรมดา และรถดีเซลราง ผ่านสถานีบุรีรัมย์ทุกขบวน สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1690, 0-2220-4334, 0-2220-4444

– เครื่องบิน : มีเที่ยวบินตรง จากสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ ทุกวัน จองตั๋วติดต่อ Nok Air www.nokair.com โดยสนามบินบุรีรัมย์อยู่ที่อำเภอสตึก ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ขึ้นไปทางทิศเหนือ ประมาณ 40 กิโลเมตร ต้องนั่งรถต่อเข้าเมือง มีทั้งรถบัส, รถแท็กซี่, รถยนต์เช่าขับเที่ยวเอง

SCALINI ประสบการณ์อาหารอิตาเลียนสุดพิเศษ!

เมื่อกล่าวถึงห้องอาหารอิตาเลียนระดับแนวหน้า ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงในขณะนี้ รับรองว่าต้องมีห้องอาหาร “Scalini” แห่งโรงแรม Hillton Sukhumvit Bangkok แน่นอน เพราะ Scalini มีรางวัลการันตีความอร่อยมากมาย ทั้ง Thailand Tatler Best Restaurant 2015, Top Tables 2014 by BK Magazine และ Trip Advisor Winner 2015 Certificate of Excellence ฯลฯ

s1 s2 s3

ด้วยบรรยากาศการตกแต่งห้องอาหารสไตล์นิวยอร์กยุคปี ค.ศ. 1920 ซึ่งเป็นช่วงที่คนอิตาเลียนอพยพเข้าสู่นิวยอร์กเป็นจำนวนมาก ทำให้ทุกสัมผัสใน Scalini มีความต่าง คล้ายได้ย้อนกลับไปในช่วงนั้น เชฟ Jacky แห่ง Scalini จึงนำมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์เมนูอิตาเลียนแท้ให้ชิมหลากหลาย โดยเฉพาะมื้อเที่ยงที่เสิร์ฟ Italian Quick Lunch ทั้งอร่อย สร้างสรรค์ เสริมสุขภาพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องเร่งรีบไปทำธุรกิจ

s4 s5 s6 s7 s8 s9.1

ออร์เดิร์ฟเรียกน้ำย่อยมื้อเที่ยงเป็นขนมปังต่างๆ ดิพกับซอสบีทรูทและฟักทอง จากนั้นก็มี appetizer เป็น “สลัด Burrata Cheese” ชีสรสนุ่มทานกับอาร์ติโชก, เรดิช, ไพน์นัท, ผักโครงการหลวง ราดน้ำสลัดบัลซามิกเปรี้ยวกำลังดี

s11

s9

จากนั้นก็เป็นเมนูที่หนักขึ้นคือ Roasted pork loin” เนื้อหมูไร้มันส่วนสะโพก ปรุงด้วยวิธี slow cook ใช้ความร้อนสม่ำเสมอให้เนื้อหมูสุก นุ่ม เวลาเคี้ยวจะได้กลิ่มหอมโรสแมรี่ พร้อมกับได้รสเปรี้ยวนิดๆ จากซอสส้มด้วย และถัดมาคือเมนู ปลากะพงขาวย่างราดซอสซิซิเลียนแท้” ทานคู่กับเห็ดหอมและมันฝรั่ง

s10 s12

จากนั้นก็มาถึงเมนูซุปที่ creative สุดๆ เพราะเป็นการเสิร์ฟอาหารอิตาเลียนในหน้าตาญี่ปุ่น ซึ่งคงจะหาชิมที่อื่นไม่ได้ คือ “ซุปหางวัว” (Oxtail soup Toma style) ใช้เส้นพาสต้าแทนเส้นราเม็ง คล่องคอด้วยน้ำซุปและเนื้อหางวัวตุ๋นหอม กินกับเครื่องเคียงเป็นไข่นกกระทาต้ม, หมูสไลด์ติดมันอบ, กะหล่ำปลีฝอย, ผักกวางตุ้ง, เห็ดนางรมหลวง

s13

ปิดท้ายมื้อเที่ยงอันแสนเพอร์เฟ็กต์ด้วย Main Course คือ หมูคุโรบูตะราดซอสเมเปิล ทานคู่กับสลัดและหมูแผ่น เสิร์ฟมาบนถาดหินร้อน ยอดเยี่ยมจริงๆ

s14 s15 s16 s17

EATING GUIDE

Address : Scalini Restaurant ชั้น 2 โรงแรม Hilton Sukhumvit Bangkok ซอยสุขุมวิท 24 เข้าซอยมาประมาณ 100 เมตร อยู่ซ้ายมือ

Service hour : มื้อเที่ยง 12.00-14.30 น. / มื้อค่ำ 18.00-23.00 น. / ช่วงสุดสัปดาห์ มี A La Carte Brunch ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-15.00 น.

Contact : สำรองโต๊ะ โทร. 0-2620-6666 หรือ อีเมล bkksu.info@hilton.com

รวมที่เที่ยวลั้นลา หน้าฝน #2

สายฝนฉ่ำเย็นแห่งฤดูฝนพร่างพรมอาบรดทั่วผืนดินสยาม เผยให้เห็นความงามของดอกไม้ สายหมอก สายน้ำพร่างพรู และพงไพรเขียวสดเปี่ยมชีวิตชีวา พากันไปเที่ยวลั้นลาในฤดูฝนกันเถอะ แล้วเราจะหลงรักเมืองไทย เมืองที่สวยมหัศจรรย์ที่สุดในโลก จนแม้ฝรั่งยังต้องอิจฉา ฮาๆๆๆๆ

1. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี “บ้านของนกเงือกแห่งเทือกเขาตะนาวศรี” พิสูจน์ความย่ิงใหญ่ของป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดผืนหนึ่งบนแดนสยาม เป็นป่าที่ไม่เคยผ่านการทำไม้มาก่อนเลย อีกทั้งยังมีพรมแดนติดต่อกับประเทศเมียมาร์ จึงอุดมด้วยส่ำสัตว์นับไม่ถ้วน โดยเฉพาะนกเงือก ที่จับคู่ผสมพันธุ์กันในฤดูฝน เพราะช่วงนี้อาหารในป่าหาง่ายที่สุด มาเที่ยวแก่งกระจานยังได้ชมทะเลหมอกพะเนินทุ่ง, ดูนกนับร้อยชนิด รวมถึงยังเป็นแหล่งดูผีเสื้อ ที่เซียนผีเสื้อเมืองไทยยกย่องว่า เจ๋งสุดๆ ไปเลย! ลองเข้าไปกางเต็นท์นอนที่บ้านกร่างแคมป์ซิ แล้วคุณจะหลงรักป่าผืนนี้

แก่งกระจาน 1

แก่งกระจาน 2 แก่งกระจาน 3 แก่งกระจาน 4 แก่งกระจาน 6

 2. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี “ทุ่งดอกไม้ปลายฝนต้นหนาว” ตื่นตากับภาพความอลังการของทุ่งดอกไม้บนลานหินทราย ยิ่งใหญ่สุดคือทุ่งดอกสร้อยสุวรรณาสีทอง แซมสลับกับทุ่งดอกดุสิตาสีม่วงสวยเก๋ แถมยังมีดอกไม้กินแมลงสุดพิศวงให้ชมด้วย อย่างพวกหญ้าน้ำค้าง, สาหร่ายข้าวเหนียว ฯลฯ จากนั้นชวนกันไปเล่นน้ำที่น้ำตกสร้อยสวรรค์, น้ำตกแสงจันทร์, น้ำตกห้วยพอก ฯลฯ มหัศจรรย์ Unseen Thailand ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ

ผาแต้ม 1ผาแต้ม 2ผาแต้ม 3ผาแต้ม 4ผาแต้ม 5ผาแต้ม 6ผาแต้ม 7

 3. อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จ.มุกดาหาร “อลังการดอกไม้บานรับสายฝนเย็น” อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว Unseen Thailand  ของภูผาหินทรายรูปทรงประหลาด เมื่อได้รับสายฝนเย็น จึงเนรมิตทุ่งดอกเทียนสีชมพูเบ่งบานเป็นลานกว้าง คล้ายผืนพรมธรรมชาติสีหวาน หรือสวนสวรรค์ที่นางฟ้ามาบรรจงจัดแต่งไว้

ภูผาเทิบ 1ภูผาเทิบ 2ภูผาเทิบ 3ภูผาเทิบ 6

 4. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ “มหัศจรรย์ดอกไม้บานบนลานหินประวัติศาสตร์” นอกจากภูหินร่องกล้าจะมีร่องรอยการสู้รบของฝ่ายทหารัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ในอดีตแล้ว ช่วงฤดูฝนป่าผืนนี้ยังน่าเที่ยวสุดๆ เพราะจะมีชีวิตชีวาและอิ่มเอมมากกว่าช่วงใดของปี ทั้งน้ำตกหมันแดง ที่มีดอกลิ้นมังกรสีชมพูเบ่งบานอยู่บนโขดหินด้านหน้า, น้ำตกร่วมเกล้าภราดรอันยิ่งใหญ่ รวมถึงทุ่งดอกเปราะภูสีขาวนับล้าน ส่วนใครที่ต้องการสัมผัสธรณีวิทยาพิศวง ต้องไปชมหิน Suncrack, ลานหินปุ่ม, ลานหินแตก, ผาชูธง

ภูหินร่องกล้า 1ภูหินร่องกล้า 2ภูหินร่องกล้า 3ภูหินร่องกล้า 4ภูหินร่องกล้า 6ภูหินร่องกล้า 7

 5. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก “ผจญภัยกลางสายน้ำเชี่ยว” ล่องแก่งด้วยแพยางกลางป่าอุดมสมบูรณ์สองฟากฝั่ง สัมผัสแก่งหินน้อยใหญ่ และสายน้ำเชี่ยวกรากที่กระเซ็นซัดซ่าขึ้นมาอาบรดตัวเราจนชุ่มโชก จนทำให้รู้สึกว่า เราได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติไปแล้วจริงๆ แต่ถ้าให้ดี ควรร่วมกิจกรรมล่องแก่งเก็บขยะ กับทางชมรมอนุรักษ์ลำน้ำเข็กด้วย สนใจติดต่อได้ที่ The Rain Forest Resort จ้า

ลำน้ำเข็ก 1ลำน้ำเข็ก 2ลำน้ำเข็ก 3ลำน้ำเข็ก 4Nikon logo 1

Special Thanks : บริษัท Nikon Sales (Thailand) Co.,Ltd. 

สนับสนุนอุปกรณ์ถ่ายภาพระดับมืออาชีพ โทร. 0-2633-5100 (Office) / 0-2633-5192 (Service) www.nikon.co.th

รวมที่เที่ยวลั้นลา หน้าฝน #1

สายฝนฉ่ำเย็นแห่งฤดูฝนพร่างพรมอาบรดทั่วผืนดินสยาม เผยให้เห็นความงามของดอกไม้ สายหมอก สายน้ำพร่างพรู และพงไพรเขียวสดเปี่ยมชีวิตชีวา พากันไปเที่ยวลั้นลาในฤดูฝนกันเถอะ แล้วเราจะหลงรักเมืองไทย เมืองที่สวยมหัศจรรย์ที่สุดในโลก จนแม้ฝรั่งยังต้องอิจฉา ฮาๆๆๆๆ

1. เขื่อนรัชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี “มหัศจรรย์แห่งป่าฝนเขตร้อน” ล่องเรือเข้าไปชมเทือกเขาหินปูนยิ่งใหญ่ที่สุดบนคาบสมุทรภาคใต้ เดินป่าผจญไพรค้นหา “ดอกบัวผุด” ดอกไม้ใหญ่ที่สุดในโลกขนาดกว้างกว่า 1 เมตร และ “ดอกพิศวง” พืชกินซากหายากของโลก!

BV705 เขาสก 2 เขาสก 3 เขาสก 4 เขาสก 5 เขาสก 6 เขาสก 7

 2. อุทยานแห่งชาติเขาหลวง จ.นครศรีธรรมราช “ผืนป่ามรกตแห่งแดนใต้” แหล่งรวมน้ำตกสวยนับสิบแห่ง อาทิ น้ำตกกรุงชิง, น้ำตกกะโรม, น้ำตกพรหมโลก, น้ำตกอ้ายเขียว ฯลฯ มีเส้นทางเดินป่าขึ้นยอดเขาหลวง สูง 1,835 เมตร ยอดเขาสูงที่สุดของภาคใต้ และหมู่บ้านคีรีวง ที่กินอยู่อย่างพอเพียงผูกพันกับธรรมชาติอย่างแนบแน่น

น้ำตกกรุงชิง 1น้ำตกกรุงชิง 2น้ำตกกะโรม 2น้ำตกกะโรม 3น้ำตกพรหมโลก 1น้ำตกอ้ายเขียว 1มหาสดำ

 3. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ “ผืนป่ามรดกโลก บ้านของสรรพชีวิต” จ.นครราชสีมา, ปราจีนบุรี, นครนายก, สระแก้ว เป็นแหล่งรวมความหลากหลายของพืชพรรณ สัตว์ป่า ในเนื้อที่กว่า 1.3 ล้านไร่ มรดกโลกของ UNSECO ซึ่งเปรียบเสมือนโรงเรียนธรรมชาติขนาดมหึมา ชวนกันไปดูช้าง, กระทิง, นกเงือก และผีเสื้อนับร้อยชนิดโดยเฉพาะในฤดูฝนนี่ล่ะ

เขาใหญ่ 1เขาใหญ่ 2BVP 403เขาใหญ่ 4เขาใหญ่ 6

 4. ทุ่งกระเจียวบาน ป่าหินงาม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ “ดูสายหมอกหยอกล้อทุ่งกระเจียวบาน” สวยสุดๆ เมื่อสายฝนเย็นฉ่ำพร่างพรมลงมาอาบรดเทือกเขาพังเหย (เทือกเขาแบ่งเขตภาคกลาง-ภาคอีสาน ออกจากกัน) ดอกกระเจียวหรือบัวสวรรค์ นับล้านดอกจึงบานสะพรั่งอวดความงาม สวยสุดๆ ช่วงเดือนสิงหาคม ใครชอบถ่ายภาพต้องรีบตื่นเช้า ก็จะได้ภาพธรรมชาติยิ่งใหญ่เต็มตาสมใจ

ทุ่งกระเจียว 1ทุ่งกระเจียว 2ทุ่งกระเจียว 3ทุ่งกระเจียว 4ทุ่งกระเจียว 5ทุ่งกระเจียว 6

 5. เที่ยวน้ำตกเมืองกาญจน์ “ความชุ่มฉ่ำแห่งป่าตะวันตก” จ.กาญจนบุรี ชวนกันไปสัมผัสสายน้ำฉ่ำเย็น ในน้ำตกหินปูนกลางป่าร่มรื่น สายน้ำหลากไหลอิ่มเอมท่ามกลางฤดูฝน เจ๋งสุดคือ น้ำตกเอราวัณ และน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ที่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ พวกรัสเซีย ไปเที่ยวกันเป็นวันละพันคน

น้ำตกเมืองกาญจน์ 1น้ำตกเมืองกาญจน์ 2น้ำตกเมืองกาญจน์ 3น้ำตกเมืองกาญจน์ 4น้ำตกเมืองกาญจน์ 5น้ำตกเมืองกาญจน์ 6Nikon logo 1

 Special Thanks : บริษัท Nikon Sales (Thailand) Co.,Ltd. 

สนับสนุนอุปกรณ์ถ่ายภาพระดับมืออาชีพ โทร. 0-2633-5100 (Office) / 0-2633-5192 (Service) www.nikon.co.th

I Miss You คิดถึงโคราช

เคยรู้ไหมว่าจังหวัดอะไรมีพื้นที่มากที่สุดในเมืองไทย? หลายคนคงคิดไม่ถึงว่าคำตอบจะเป็น “โคราช” หรือจังหวัดนครราชสีมา แถมยังมีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจาก กทม. อีกด้วย โคราชจึงเป็นเมืองเอกแห่งภาคอีสาน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ผู้คนก็ยิ้มแย้มแจ่มใส คงเพราะอย่างนี้เอง เราจึงรู้สึก “คิดถึงโคราช” จนต้องรีบเก็บกระเป๋าไปชิมผัดหมี่โคราชกันเถอะ

ย่าโม 1 ย่าโม 2

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มาถึงโคราชแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำ คือการไปรายงานตัวต่อ “ย่าโม” (ท้าวสุรนารี) วีรสตรีผู้กอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพเจ้าอนุวงศ์กษัตริย์เวียงจันทน์ เมื่อ พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์ยกทัพมายึดนครราชสีมาได้ คุณหญิงโมและนางสาวบุญเหลือรวมผู้คนต่อสู้ทหารลาว ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2369 กู้เมืองนครราชสีมากลับคืนมาได้ ปัจจุบันอนุสาวรีย์ย่าโมตั้งอยู่ที่หน้าประตูชุมพล กลางเมืองโคราช เป็นที่เคารพสักการะอย่างยิ่งจากคนทั่วประเทศ

verona 1 verona 2 verona 3 verona 4 verona 5 verona 6 verona 7

โครราชวันนี้เป็นเมืองยุคใหม่ Inter จริงๆ เพราะเขามีแหล่งท่องเที่ยวแบบ Man-made ที่สวยงามน่าชม เปี่ยมเสน่ห์ นั่นคือ “The Verona at Tublan” อยู่ในเขตทับลาน อำเภอวังน้ำเขียว จำลองมาจากเมืองเวโรน่า (Verona) ในแคว้นเวเนโต้ (Veneto) ประเทศอิตาลี ต้นกำเนิดนวนิยายรักบันลือโลกโรมิโอและจูเลียต มาสร้างเป็น The Verona ที่ให้ความรู้สึกโรแมนติกสุดๆ ด้วยการจำลองสะพาน Castelvecchio ทะเลสาบ Garda ลานกลางแจ้งแบบ Arena หอคอย Lamberti หอนาฬิกา หอระฆัง และจัตุรัสเออร์เบ ที่นี่ยังร้านกว่า 120 ร้าน ให้ได้ชม ชิม ช๊อป แชะ กันอย่างจุใจเชียวล่ะ

ปรสาทพิมาย 1 ปรสาทพิมาย 2 ปรสาทพิมาย 3 ปรสาทพิมาย 4

ปราสาทหินพิมาย เป็นปราสาทหินขอมขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย! ตั้งอยู่ในอำเภอพิมาย สร้างสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้เป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ สร้างด้วยรูปแบบศิลปะบาปวนผสมกับศิลปะนครวัด ทำให้ตีความได้ว่าปราสาทนี้ถูกดัดแปลงมาเป็นของพุทธ ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ปราสาทพิมายเคยเป็นศูนย์กลางเมืองพิมาย หรือวิมายปุระ ผังเมืองเป็นสี่เหลี่ยม ตัวปราสาทอลังการ มีปรางค์ประธานทรงฝักข้าวโพดซึ่งยังสมบูรณ์มาก แถมยังมีปรางค์หินแดง และปรางค์พรหมทัต ขนาบข้าง ถ่ายภาพออกมาเห็นเป็นปรางค์ใหญ่ 3 องค์ ปัจจุบันได้รับการประกาศให้เป็นอุทยทานประวัติศาสตร์พิมาย เนื้อที่ถึง 115 ไร่

ปราสาทพนมวัน 1 ปราสาทพนมวัน 2 ปราสาทพนมวัน 3 ปราสาทพนมวัน 4 ปราสาทพนมวัน 5

ปราสาทพนมวัน เป็นปราสาทหินขอมใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทย สร้างขึ้นครั้งแรกช่วงพุทธศตวรรษที่ 15 สมัยแกะแกร์-บาแค็ง เป็นปรางค์ 5 หลัง แล้วมาถูกสร้างทับในยุคใกล้เคียงกันอีก รวมเป็นอาคารอิฐ 10 หลัง ทางด้านทิศตะวันออกมี “บาราย” หรือสระน้ำใหญ่ประจำชุมชน เรียกว่า “สระเพลง” ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงใช้ประโยชน์ได้อยู่ และมีสภาพเป็นบึงบัวอันสวยงาม ปราสาทพนมวันเป็นปราสาทที่สร้างไม่เสร็จ! อาจเพราะเคยมีการพังถล่ม จึงมีการซ่อม หรืออาจเป็นไปตามเรื่องเล่าของชาวบ้านพนมวัน ว่่าฝ่ายหญิงและชายแข่งกันสร้างปราสาทหิน โดยฝ่ายชายถูกฝ่ายหญิงหลอกว่าสร้างเสร็จแล้ว ฝ่ายชายจึงทำลายปราสาทพนมวันของตนลงในที่สุด!

ปราสาทพะโค 1 ปราสาทพะโค 2 ปราสาทพะโค 3

ปราสาทพะโค แม้จะเล็ก แต่ก็แจ๋ว! เพราะเป็นเทวาลัยประจำชุมชน สร้างขึ้นเมื่อพุทธศตวรรษที่ 15-16 ด้วยศิลปะขอมยุคคลาสสิก สังเกตได้จากการแกะสลักหินบนทับหลังเป็นลวดลายอ่อนช้อย ทว่าผ่านกาลเวลามานับพันปีจึงพังทลายลง สิ่งที่น่าฉงนชวนให้ค้นหาคำตอบเกี่ยวกับปราสาทพะโคคือ การถูกทุบทำลายแทบจะราบเป็นหน้ากลองโดยไม่ทราบสาเหตุ!? สันนิษฐานว่าอาจเพราะชุมชนที่นี่นับถือพระวิษณุ (ดูจากทับหลัง) ผิดกับชุมชนขอมส่วนใหญ่ที่นับถือพระศิวะ จึงอาจเกิดความขัดแย้งขั้นรุนแรง ปราสาทพะโคตั้งอยู่ริมถนนสาย 224 ในอำเภอโชคชัย เลยบ้านดินเผาด่านเกวียนไป 30 กิโลเมตร ถ้าไม่สังเกตให้ดีอาจขับรถเลยนะจ๊ะ

ด่านเกวียน 1 ด่านเกวียน 2 ด่านเกวียน 3 ด่านเกวียน 4

เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน เป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงมานาน ทำสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน อยู่ที่บ้านด่านเกวีน อำเภอโชคชัย กระทั่งปัจจุบันได้ก้าวขึ้นเป็น OTOP ระดับแนวหน้าของโคราชเลยทีเดียว ความโดดเด่นของเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ไม่ได้อยู่ที่รูปทรงสวยงามเท่านั้น แต่ยังเจ๋งตรงเนื้อดินและสี เพราะดินที่นำมาใช้เป็นดินริมแม่น้ำมูล ง่ายต่อการขึ้นรูป และเมื่อเผาแล้วจะทนทาน เนื้อมันวาว ที่สำคัญคือได้ผลิตภัณฑ์สีน้ำตาลแดง และสีแดงเลือดปลาไหล เป็นที่นิยมมาก ในอดีตมีการทำกันเฉพาะหม้อไห แต่ทุกวันนี้เกิดไอเดียบรรเจิด พัฒนารูปแบบเป็นตุ๊กตาน่ารักมาก

สานหวาย 1 สานหวาย 2 สานหวาย 3

คนโคราชมีฝีมือในเรื่องงานหัตถกรรม โดยเฉพาะการจักสานด้วยหวายเป็นเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ เพราะในอดีตไม่มีพลาสติกใช้ ชาวบ้านจึงเข้าป่าหาหวายเหนียวๆ ดีๆ มาสานเป็นเครื่องใช้ไม่สอยในครัวเรือน ไล่ตั้งแต่ตะกร้า แจกัน เก้าอี้ โตกใส่ข้าว กระเป๋าถือ ฉากกั้นห้อง ฯลฯ ก่อนกลับบ้านลองแวะไปที่ ตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย เลือกซื้อหาผลิตภัณฑ์หวายชั้นเยี่ยมจากช่างผู้ชำนาญ ราคาไม่ได้สูงอย่างที่คิด แต่ซื้อแล้วคุ้ม เพราะเครื่องหวายแท้ใช้ทนหลายสิบปี แถมยังถือเป็นการช่วยให้งานฝีมือท้องถิ่นคงอยู่ต่อไปด้วยจ้า (ติดต่อคุณละม่อม ฉายพิมาย โทร. 0-4420-0182)

 Special Thanks: ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และโครงการต้นกล้าตากล้อง ท่องเที่ยวเที่ยวไทย โดยคุณนครพจน์ ปิ่นมิ่ง สนับสนุนการเดินทางทำสารคดีเรื่องนี้เป็นอย่างดี

โคราช Guide

How to go : นครราชสีมาอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 259 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ ไปได้หลายทาง เช่น ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) จนถึงสระบุรี กม. 107 เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ไปจนถึงนครราชสีมา เป็นเส้นทางยอดฮิต / หรือใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านมีนบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอพนมสารคาม กบินทร์บุรี วังน้ำเขียว ปักธงชัย ไปจนถึงนครราชสีมา รวม 273 กิโลเมตร

Where to stay : แนะนำ Rom Yen Garden Place โทร. 0-4426-0116-7 http://romyengardenplace.com

What to eat : มาถึงโคราชแล้วต้องชิม “ผัดหมี่โคราช” คล้ายผัดไทย แต่ต้องใช้เส้นหมี่โคราชเท่านั้น เส้นจะเหนียวนุ่ม รสชาติออกเปรี้ยว เผ็ด หวาน โดยตอนผัดเขาจะใส่พริกป่นลงไปด้วยเล็กน้อย รสแซ่ปดี

Souvenirs : ผ้าไหมชั้นเยี่ยม, เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน, เครื่องหวายตำบลรังกาใหญ่, หมูยอ กุนเชียง หมูแผ่น

More info : ททท. สำนักงานนครราชสีมา โทร. 0-4421-3030, 0-4421-3666