Half Sized Blog Element (Single Author Style)
Half Sized Blog Element (Multi Author Style)
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แถลงความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยไตรมาส 1 ปี 2561
27 มีนาคม 2561 ณ ห้องประชุมอโนมา 1 ชั้น 3 โรงแรมอโนมา แ […]
Explore Mie, Miracle of Kansai (Episode 4)
วันสุดท้ายของการเดินทางท่องเที่ยวใน จังหวัดมิเอะ (Mie) […]
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แถลงความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยไตรมาส 1 ปี 2561
27 มีนาคม 2561 ณ ห้องประชุมอโนมา 1 ชั้น 3 โรงแรมอโนมา แ […]
Explore Mie, Miracle of Kansai (Episode 4)
วันสุดท้ายของการเดินทางท่องเที่ยวใน จังหวัดมิเอะ (Mie) […]











วันสุดท้ายของการเดินทางท่องเที่ยวใน 
วันนี้เรามาเที่ยวชม 
แม้วิถีทางของนินจาจะดูไร้เกียรติและทำงานสกปรกในสายตาใครบางคน แต่ชื่อ 
การปีนป่ายขึ้นที่สูงด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ อย่างเชือกและตะขอ รวมถึงการปีนด้วยตัวเปล่า (คล้ายวิชาตัวเบาในหนังจีน) คือสิ่งที่นินจาทุกคนต้องฝึกจนชำนาญ
ในการรบของนินจา อาวุธทำลายล้างแรงสูงชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กัน คือ
โชว์การต่อสู้ของนินจา ต้องอาศัยความทักษะ ความว่องไว และความกล้าอย่างมาก เพราะใช้อาวุธจริงกันเลยนิ
แค่มีเชือกเส้นเดียวก็สามารถแย่งดาบจากศัตรูมาได้ และท้ายที่สุดสามารถสังหารศัตรูได้ด้วยดาบของศัตรูเอง นี่คือสุดยอดนินจาอิงะ
โชว์น่าตื่นเต้นอีกอย่างคือ
เมื่อชมโชว์นินจาจบแล้ว ก็ได้เวลาเข้าชมบ้านของนินจา ซึ่งต่างจากบ้านคนธรรมดานะจะบอกให้ เพราะในบ้านมีค่ายกล ห้องลับ และที่หลบซ่อน ทางหนีมากมาย จนศัตรูที่บุกเข้ามางงงวย นินจาจึงหนีออกไปได้ หรือสามารถย้อนกลับมาจัดการกับผู้บุกรุกได้สบายๆ
แม้แต่พื้นบ้านของนินจาก็ใช้แอบซ่อนดาบสั้น ดาวกระจาย เงิน และตะปูเรือใบ เพื่อใช้ในการต่อสู้หรือหลบหนีแบบฉุกเฉิน ถ้าคุณคิดจะบุกเข้าไปฆ่านินจาในบ้านของพวกเขาด้วยดาบคาตานะอย่างยาวล่ะก็ อย่าหวัง เพราะบ้านนี้มีเพดานเตี้ยมาก และมีคานเพดานถี่ การใช้ดาบยาวในบ้านจึงไม่คล่องตัว ต้องใช้ดาบสั้นแทนนะจ๊ะ
ออกจากหมู่บ้านนินจาอิงะ เรานั่งรถยิงยาวขึ้นไปทางเหนือของมิเอะ จนถึง
เอาท์เล็ทแห่งนี้เปรียบเสมือนเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง ที่เราสามารถเดินช้อปปิ้งกันได้ทั้งวัน เพราะมีสินค้าทั้งของเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้หญิง ผู้ชาย ให้เลือกกันนับร้อยๆ แบรนด์
ใช้เวลาอยู่ที่นี่อย่างต่ำต้อง 3-4 ชั่วโมง หรือต้องจัดให้ครึ่งวันไปเลย จะได้สะใจ ไม่ต้องรีบร้อน
เย็นมากแล้ว เรามุ่งหน้าไปอำลามิเอะกันที่แหล่งท่องเที่ยวสุดอลังการงานสร้าง ซึ่งมีการประดับประดาไฟในฤดูหนาวอย่างยิ่งใหญ่ ถือว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลย คือ
แต่ก่อนฟ้าจะมืดและไฟจะเปิดโชว์เต็มที่ ก็ได้เวลา Dinner ปิ้งย่างส่งท้ายทริปกันซะก่อน
ร้านอาหารของ Nabana No Sato บรรยากาศดีเยี่ยม
ยกมาเสิร์ฟแล้ว กับสารพัดเมนูปิ้งย่าง ที่เติมได้ตลอด


เดินเที่ยวชมภายในสวนอันกว้างใหญ่ ทุกแห่งหนล้วนประดับไฟสว่างไสวเรืองรอง
แม้แต่สวนดอกไม้ก็ยังเที่ยวชมได้ในยามราตรี เมื่อมีแสงไฟมาช่วยเติมแต่งให้สว่างไสวขึ้น
ภาพนี้บอกไม่ถูกเลย ว่าคนหรือดอกไม้ ใครสวยกว่ากัน
อีกจุดที่มีชื่อเสียงโด่งดังของ
จะเดินถ่ายภาพให้จุใจ หรือนั่งเฉยๆ ปล่อยอารมณ์ไปกับดอกบีโกเนียรอบตัว ก็เอาที่สบายใจเลย
สวยจริง สวยจัง ทั้งดอกไม้ทั้งคน
นอกจากดอกบีโกเนียแล้ว ในโรงเรือนอื่นๆ ก็ยังมีดอกไม้นานาชนิดให้ชื่นชม โดยเฉพาะดอกทิวลิปหลากสี
มุมน่ารักๆ เก๋ๆ มีให้เดินเก็บภาพนับไม่ถ้วน
สุดท้ายคือโรงเรือนพรรณไม้เขตร้อน

ภาพแห่งความประทับใจของเราสองคนเนอะ
นอกจากอุโมงค์ไฟ สวนไฟ และโรงเรือนดอกไม้นับร้อยๆ ชนิดแล้ว การเดินชมแสงไฟที่ประดับอยู่ทั่วสวนและสระน้ำในยามราตรี ก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่หาชมไม่ได้ในบ้านเรา

