In Love with Art @ราชบุรี
“ราชบุรี” หนึ่งในจังหวัดชายแดนตะวันตกซึ่งอาบอิ่มด้วยธรรมชาติ เป็นดินแดนใกล้กรุงอันน่าเที่ยว วันนี้เขามีการพลิกฟื้นเมืองให้เต็มอิ่มสีสันด้วย “ศิลปะร่วมสมัย” เป็นแนว Trendy & Modern Art ที่ใช้ความคลาสสิกของราชบุรีเป็นฉาก ทั้ง Art Gallery การแสดง งานหัตถกรรม และ Art ในวิถีแห่งผู้คน ทริปนี้ร่วมกันเดินทางไปเปิดมุมมองใหม่ในการท่องเที่ยวราชบุรีกันเถอะ
เราเริ่มต้นทริปแบบ Art Art ในบรรยากาศแสนโรแมนติกกันที่อำเภอสวนผึ้ง ซึ่งอยู่ห่างตัวเมืองราชบุรี ไปเพียง 60 กิโลเมตร เขาบอกว่าอำเภอนี้คือผืนป่าใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด คือห่างกันเพียง 160 กิโลเมตร อากาศจึงบริสุทธิ์ เย็นสบาย วันนี้เห็นสวนผึ้งกำลังเติบโต มีรีสอร์ทเก๋ๆ เท่ๆ แต่งแต้มสีสันเมืองพักผ่อนแห่งนี้ให้มีชีวิตชีวา
“สวนศิลป์ บ้านดิน” ธรรมชาติสถานเพื่อการเรียนรู้งานศิลป์ แห่งตำบลเจ็ดเสมียน ตั้งอยู่ในพื้นที่กว่า 3 ไร่ ร่มรื่นด้วยแมกไม้ธรรมชาติ สวนสวย สระน้ำ และสวนมะม่วง ธรรมชาติและศิลปะจึงเข้าคู่กันได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยที่พักสไตล์บ้านดินอันมีเอกลักษณ์ ได้มาเยือนแล้วสบายตาสบายใจ สถานที่แห่งนี้อยู่ในความดูแลของภัทราวดีเธียเตอร์ ก่อตั้งขึ้นโดยครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน ร่วมกับครูนาย มานพ มีจำรัส ศิลปินเจ้าของรางวัลศิลปาธร สาขาศิลปะการแสดง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางพบปะของศิลปิน พร้อมด้วยเวทีการแสดงเปิดกว้างอย่างสร้างสรรค์ โดยในโครงการ In Love with Art @Ratchaburi ครูนายได้เนรมิตการแสดงชุด “เจ้าจันท์ ผมหอม” ให้ชม เป็นการแสดงร่วมสมัยที่ดันแปลงมาจากนวนิยายรางวัลซีไรท์ ของคุณมาลา คำจันทร์ เนื้อเรื่องลึกซึ้งกินใจ
“โรงงานเซรามิกก เถ้าฮงไถ่” โรงงานแรกที่คิดทำ “โอ่งมังกร” ขึ้นใช้ในราชบุรีเมื่อกว่า 80 ปีก่อน จนโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศในปัจจุบัน ประวัติเขาเล่าว่า สมัยก่อนคนราชบุรีไม่มีน้ำประปาใช้ ทุกบ้านจึงต้องมีโอ่งไว้เก็บน้ำฟ้าน้ำฝนไว้ใช้กินดื่มกัน ภายหลังเมื่อเริ่มมีน้ำประปาใช้แล้ว โอ่งจึงลดความสำคัญลง ทว่าโอ่งมังกรแห่งราชบุรีซึ่งมีลวดลายสวยงาม ไม่เหมือนใคร อีกทั้งมีคุณภาพทนทานแข็งแรงมาก ก็เร่ิมพัฒนาจากโอ่งใช้งาน กลายเป็นโอ่งประดับสวน แล้วมีการคิดค้นรูปแบบใหม่ เป็นตุ๊กตาโน่นนี่นั่น รวมทั้งกระถางบัว กระถางต้นไม้ แจกัน โต๊ะ เก้าอี้ ที่ใส่เทียนหอม อ่างบัว และตุ๊กตาไม่จำกัดรูแบบหรือขนาด ทุกวันนี้เราสามารถเข้าชมโรงงานและขั้นตอนการผลิตได้ทุกวัน แถมมีส่วนให้เราทดลองทำเองด้วย
“เมืองเก่าโพธาราม” ที่ได้รับนิยามว่า “เมืองเล็กที่จะทำให้คุณหลงรัก” เป็นชุมชนเล็กๆ ริมลำน้ำแม่กลอง ซึ่งจะว่าไปแล้วเคยยิ่งใหญ่ เพราะเป็นชุมทางค้าขายสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์เคยเสด็จฯ เยือน แล้วทรงมีพระราชหัตถเลขาว่า “ตำบลโพธารามนี้เป็นที่ตลาดอย่างสำเพ็ง ยืดยาวมาก ผู้คนหนาแน่น จำนวนคนมีถึง 40,000 มากกว่าอำเภอเมืองราชบุรีเสียอีก” เนื่องจากอดีตไม่มีถนน ผู้คนจึงใช้เรือขึ้นล่องผ่านโพธารามทั้งสิ้น ถิ่นนี้กลายเป็นเบ้าหลอมทางวัฒนธรรมของชน 4 เชื้อชาติ ทั้งไทย จีน มอญ และลาว ย่านเก่าเล่าเรื่องอดีตของโพธารามอยู่ใน “ถนนโพธาราม” ซึ่งมีเรือนไม้เก่าอายุ 100-120 ปี เรียงรายต่อกัน เริ่มต้นเที่ยวได้จากเรือนไม้สองชั้นชื่อ “บ้านแม่เลขา” เดินทอดน่องลัดเลาะตามตรอกซอกซอย ชมร้านรวงที่เริ่มมีความเป็น Art เข้าไปสร้างชีวิตชีวา และกำลังจะมีที่พักสไตล์บูกติกย้อนยุคเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ จากนั้นเดินเก็บภาพประทับใจไปยังริมน้ำ ไหว้พระวัดไทรอารีรักษ์ ชมเก๋งจีนสูงเกือบเท่าตึก 2 ชั้น สร้างอยู่ในโบสถ์ ถ้ามาในวันลอยกระทงก็จะได้ “ลอยกระทงสี” จุดประทีปรอบวัดสว่างไสว
“ตลาดเจ็ดเสมียน” ตลาดเก่า 119 ปี ที่ยังคงมีชีวิตชีวา เหมาะสำหรับคนโหยหาอดีต ได้ไปเดินเล่นชื่นชมวิถีชีวิตอันเรียบง่าย ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่หน้าสถานีรถไฟเจ็ดเสมียนพอดิบพอดี ที่ตรงนี้เป็นชุมชนชาวจีนอันเก่าแก่ ปรากฏชัดด้วยร่องรอยบ้านไม้สองชั้นปลูกเรียงรายติดกันเป็นพืด ไล่ไปจนจรดลานริมน้ำ เราสามารถหาของกินอร่อยๆ ได้เพียบ ตั้งแต่ข้าวหมากหวาน, ข้าวหลามแสนอร่อย, ห่อหมกปลา, ผัดไทยโบราณ, ขนมหวานแบบไทยๆ ไปจนถึงอาหารสไตล์จีนขึ้นชื่อ คือ “หัวไชโป้ว” ร้านแม่ตังกวย ดั้งเดิมทำเฉพาะหัวไชโป้วเค็ม ต่อมาภายหลังปรุงให้กินง่ายขึ้นเป็นหัวไชโป้วหวาน มีทั้งแบบมาเป็นหัวๆ หั่นเป็นชิ้นลูกเต๋าพอดีคำ หั่นเป็นเส้นฝอยๆ ฝานเป็นแว่น หรือแบบผสมพริกก็มี ฯลฯ
เราเดินทางตามรอยตำนานโอ่งมังกรราชบุรี เพื่อไปเยี่ยมชมผลงานของลูกหลานรุ่นที่ 3 ของเถ้าฮงไถ่ คุณวศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ซึ่งได้ก่อตั้งอาร์ตแกลลอรี่แห่งแรกขึ้นในราชบุรี เมื่อไม่นานมานี้เอง และขอบอกว่าเป็นอาร์ตแกลลอรี่เล็กๆ แต่น่ารัก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลองกลางเมืองราชบุรี ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องสะดุดตา เพราะเขาได้บูรณะเรือนไม้เก่าสองชั้นจนกลายเป็นที่จัดแสดงงานศิลป์ สวยงาม แปลกตา น่าชื่นชมจริงๆ ที่นี่ชื่อก็แปลก คือ “D Kunst Gallery” อ่านออกเสียงว่า ดี-คุ้น เป็นภาษาเยอรมัน แปลว่า “ศิลปะ” นั่นเอง แต่ชื่อเต็มๆ ของเขาออกจะยาวหน่อย คือ “พิพิธภัณฑ์หอศิลป์ร่วมสมัย เถ้าฮงไถ่ : ดี คุนส์” (D Kunst Gallery) ตั้งอยู่ที่ถนนวรเดช หน้าเขื่อนเมืองราชบุรี เป็นอาร์ตแกลลอรี่ร่วมสมัย ที่มีผลงานของศิลปินจากทั่วประเทศหมุนเวียนกันมาให้ชม ในบรรยากาศเรือนไม้เก่าสไตล์จีนแสนคลาสสิก เขาเนรมิตเขื่อนปูนริมน้ำแม่กลองให้กลายเป็น Street Art ชวนศิลปินมาเพ้นต์ภาพสีสันสดใส เป็นภาพขนาดใหญ่เรียงรายยาวเกือบ 2 กิโลเมตร สร้างสีสันนำศิลปะมาสู่วิถีชีวิตจริง ให้คนราชบุรีและนักท่องเที่ยวสัมผัสอย่างใกล้ชิด
“The Scenery Resort and Farm” ที่พักแนวบูติกรีสอร์ทธรรมชาติ ซึ่งพลิกผันตัวเองกลายมาเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะร่วมสมัยของราชบุรี ที่อีกไม่นานเขาจะเปิดเป็น Farm Stay ให้นักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพเข้าไปพักผ่อนเรียนรู้ธรรมชาติ โดยพักกันอยู่นานๆ แบบเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน ในอ้อมกอดขุนเขาและป่าไม้ของอำเภอสวนผึ้ง The Scenery เข้าร่วมโครงการ In Love with Art @Ratchaburi จัด Outdoor Concert ในฟาร์มแกะ พร้อมจุดเทียนหอมนับหมื่นดวง! ให้ฟาร์มสว่างไสวในยามราตรี เคล้าเคลียอากาศเย็นฉ่ำ ชักนำนักท่องเที่ยวที่คลั่งไคล้ไหลหลงในศิลปะ และบทเพลงแบบ Love Love เข้ามารวมตัวกัน ถือเป็นการสร้างแนวท่องเที่ยวใหม่ให้แก่ราชบุรี นอกจากจะได้เข้าไปพักผ่อนเติมเต็มพลังงานชีวิตกับธรรมชาติของสวนผึ้งแล้ว ยังจะได้ใกล้ชิดศิลปะอย่างแท้จริง
ใครมาเที่ยวสวนผึ้งต้องไปแวะที่ “บ้านหอมเทียน” อีกหนึ่งสถานที่ซึ่งมีกลิ่นอายศิลปะเข้ามาเจือปน จนสามารถดึงดูดผู้คนได้ไม่ขาดสาย ที่นี่คือแหล่งจำหน่ายเทียนหอมสไตล์โมเดิร์นหลากหลายรูปแบบ น่าใช้ น่ามอง ยิ่งเวลาจุดในห้องกลิ่นจะหอมชื่นใจ ทำให้รู้สึกสดชื่น เทียนเขาเก๋มาก มีทั้งเป็นก้อนสี่เหลี่ยม ลวดลาย สีสันสดใสน่ารัก ใช้เป็นของวางประดับบ้านก็ยิ่งดี หรือจะเป็นเป็นเทียนในถ้วยแก้ว จุดแล้วสว่างไสว หรี่ไฟที่บ้านลงนิดนึง แสงเทียนจะโดดเด่นน่ามอง ซื้อหากลับบ้านกันไปเป็นของฝากแสนน่ารัก พอช้อปเสร็จ เขายังมีมุมสวนหย่อมน่านั่ง ให้ดูดดื่มกาแฟเย็นๆ ในบรรยากาศชิลชิล อย่างนี้สิน่า ใครมาสวนผึ้งก็ต้องหลงรัก
ได้เวลากลับบ้านแล้ว ทริปนี้เราพกพาเอาความประทับใจกันมาเต็มเปี่ยม พร้อมด้วยเรื่องราวของศิลปะ ที่ศิลปินสาขาต่างๆ ได้ช่วยกันสร้างสรรค์ปั้นแต่งขึ้น ให้ราชบุรีมีมุมมองใหม่ เป็นจุดหมายใหม่ในการท่องเที่ยวเชิงศิลป์ เพื่อสืบสานศิลปะให้อยู่คู่โลกสวยใบนี้ตลอดไป
Special Thanks : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฝ่ายสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว สนับสนุนการเดินทาง
Traveler’s Guide
Best season : ท่องเที่ยวได้ตลอดปี แต่เขตอำเภอสวนผึ้งในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายม อากาศร้อนจัด
How to go : รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ มี 2 เส้นทางให้เลือก คือ ถนนสายเก่าสายเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านบางแค-อ้อมน้อย-อ้อมใหญ่-นครชัยศรี-นครปฐม-ราชบุรี และเส้นทางสายใหม่ (ทางหลวงหมายเลข 338) กรุงเทพฯ-พุทธมณฑล-นครชัยศรี เข้าถนนเพชรเกษมบริเวณอำเภอนครชัยศรี ก่อนถึงตัวเมืองนครปฐมประมาณ 16 กิโลเมตร จากนั้นใช้ถนนเพชรเกษมตรงไปตัวเมืองราชบุรี รวมระยะทาง ประมาณ 100 กิโลเมตร ส่วนการเดินทางไปอำเภอสวนผึ้ง จากตัวเมืองราชบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 3087 ที่จะไปอำเภอสวนผึ้ง-จอมบึง ระยะทาง 60 กิโลเมตร ก็ถึงแล้ว
Where to stay : สวนศิลป์บ้านดิน เจ็ดเสมียน อำเภอโพธาราม โทร. 0-3239-7668, 08-1831-7041 www.facebook.com/SuansilpBandin และ Aristo Chic Resort & Farm อำเภอสวนผึ้ง โทร. 08-5566-5533, 08-0985-5666 www.aristo-resort.com
What to eat : ก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม๋ม ถนนราษฏรยินดี อำเภอเมืองราชบุรี อยู่ข้างโรงพยาบาลพร้อมแพทย์ โทร. 08-1944-5406 เปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. ร้านนี้อร่อยทั้งของหวานของคาว คนแน่นตลอดวัน
Souvenirs : หัวไชโป้วแม่ตังกวย ตลาดเจ็ดเสมียน โทร. 0-3239-7090, 08-3546-6614
More info : ททท. สำนักงานจังหวัดราชบุรี โทร. 0-3247-1005-6 / ชมรมอย่าลืม… โพธาราม โทร. 08-6318-2391 / บ้านหอมเทียน อำเภอสวนผึ้ง โทร. 08-1841-1895, 08-5845-7379 / โรงงานเซรามิก เถ้าฮงไถ่ อำเภอเมืองราชบุรี โทร. 0-3233-7574, 08-6344-9191 www.thtceramic.com / D Kunst Gallery อำเภอเมืองราชบุรี โทร. 08-1880-3600, 0-3232-3630