ภาคกลาง ภาคตะวันตก

ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย (ตอน 2)

สระบุรี 2 เที่ยวกันต่อในตอนที่ 2 กับแคมเปญเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง ‘ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย’ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ซึ่งดูแลมาถึงพื้นที่จังหวัดสระบุรีด้วย

หลังจากเราได้ไปดูแลสุขภาพกายกันที่ Wellness Care และดูแลสุขภาพใจ กับการล่องเรือไหว้พระในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว ก็ถึงคิวเปลี่ยนบรรยากาศมายังสระบุรี เมืองแห่งขุนเขาและธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกสดชื่นสุดๆสระบุรี 3มาเติมความสุขให้ชีวิตกันที่ ‘สวนบิ๊กเต้’ อำเภอมวกเหล็ก ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสวนดอกเบญจมาศที่มีพื้นที่กว้างขวางที่สุดในเมืองไทยเลยทีเดียว เนื่องจากในพื้นที่ 100 ไร่ ของเขา จะมีดอกเบญจมาศผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเบ่งบานให้ชมตลอดปี โดยในครั้งแรกนั้นสวนแห่งนี้ไม่ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทว่าปลูกเพื่อตัดดอกส่งขายในตลาดทั่วประเทศ โดยเฉพาะตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ปากคลองตลาด ฯลฯ กระทั่งเริ่มหันมาทำท่องเที่ยว เชื้อเชิญผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมความสวยงาม ได้ถ่ายภาพกับดอกไม้อันแสนสวยหลากสีหลายสายพันธุ์ สระบุรี 4น่าตื่นตาตื่นใจกับความละลานตาของดอกเบญจมาศหลายสิบชนิด ทั้งสีเหลือง ขาว ส้ม ชมพู และสีไล่โทน ดอกเล็กบ้างใหญ่บ้าง สร้างความสดชื่นเหมือนสวนสวรรค์ ค่าเข้าชมก็ถูกแสนถูก เพียงคนละ 20 บาทเท่านั้นสระบุรี 5เดินชมแปลงดอกเบญจมาศไปเพลินๆ ถ้าอยากเก็บความงามนี้ไปชื่นชมที่บ้านก็ไม่มีปัญหา เพียงเรียกคนดูแลสวนมาช่วยตัดจัดเข้าช่อให้ ต้นละ 20 บาทสระบุรี 6ยิ้มสดใสในวันสดชื่น ท่ามกลางความงามของมวลพฤกษชาติที่สวนบิ๊กเต้ (บอกไม่ถูกเลยว่า คนกับดอกไม้ใครงามกว่ากัน ฮาฮาฮา)สระบุรี 7ชมกันใกล้ๆ กับดอกเบญจมาศสีชมพูสดในสไตล์ Shocking Pink เหมาะนำไปทำเป็นไม้ประดับ ปักแจกันเพิ่มชีวิตชีวาให้บ้าน หรือจะมอบเป็นของขวัญให้กันก็สุขทั้งผู้ให้และผู้รับสระบุรี 8.1สวนเบญจมาศบิ๊กเต้ เกิดจากกลุ่มคนที่ต้องการหลีกหนีวิถีเมือง หันกลับมาทำวิถีเกษตรพอเพียงตามที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยตรัสไว้ว่า เมืองไทยเป็นเมืองเกษตร ไม่ใช่เมืองอุตสาหกรรม การหวนคืนสู่วิถีเกษตรจึงเป็นทางเลือกอันยั่งยืนให้ชีวิตบนแผ่นดินทองนี้สระบุรี 8.2นอกจากการเดินชมแปลงดอกเบญจมาศแสนงามแล้ว คนที่รักการออกกำลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์ ยังสามารถเข้ามาปั่นจักรยานชมธรรมชาติได้ด้วยสระบุรี 8ดอกเบญจมาศขนาดใหญ่กว่าครึ่งฟุต กลีบซ้อนกันหลายชั้นอย่างวิจิตรสระบุรี 9 สระบุรี 10เบญจมาศดอกเล็กสีชมพูหวานซึ้ง หนึ่งในสายพันธุ์ที่ปลูกมากในสวนบิ๊กเต้สระบุรี 11สระบุรี 12 สระบุรี 13โมงยามแห่งความสุข กับการถ่ายภาพเซลฟี่กลางแปลงดอกเบญจมาศ สวนบิ๊กเต้ เอาไปอวดเพื่อนๆสระบุรี 14 สระบุรี 15เดินทางเก็บเกี่ยวความสุขทางใจกันต่อ เรายังคงอยู่ในอำเภอมวกเหล็ก ที่ ‘สวนองุ่นสิริวัฒน์’ สวนองุ่นที่มีชื่อเสียงของคุณสุรชัย ธมะสุข ทนายความที่ผันชีวิตมาทำวิถีเกษตรพอเพียงตามคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ 9 จนประสบความสำเร็จมีชื่อเสียง ภายในที่ดิน 20 ไร่ มีการปลูกไม้ผลผสมกันหลายชนิด ทั้งองุ่นพันธุ์ต่างๆ มะม่วง มะละกอ ส้มโอ ส้มจี๊ด ฯลฯ จนวันนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ใครๆ ก็รู้จักสระบุรี 16ที่ถือว่าโดดเด่นทำชื่อเสียงให้สวนสิริวัฒน์มากที่สุดคือ องุ่น ไงล่ะจ๊ะ ไม่ว่าจะเป็นองุ่นกินผลสด หรือองุ่นที่นำไปทำไวน์ได้ อย่าง พันธุ์แบล็ก โอปอล (Black Opal) หรือองุ่นไร้เมล็ดที่นิยมรับประทานสด, พันธุ์แบล็กควีน (Black Queen) ราชินีดำ และ พันธุ์ชีราส (Syrah หรือ Shiraz) ซึ่งนำไปทำไวน์โดยเฉพาะ เป็นต้น

สระบุรี 17เดินเที่ยวชมสวนองุ่นอย่างมีความสุข (แต่เก็บกินจากต้นไม่ได้นะจ๊ะ) ถ่ายภาพและชื่นชมพวงองุ่นสีสดใส สลับสีเข้มเมื่อแก่จัดพร้อมเก็บสระบุรี 18องุ่นพันธุ์ Black Opal หรือองุ่นไร้เมล็ด กำลังสุกได้ที่ พร้อมเก็บไปให้ชิมกันแล้วล่ะสระบุรี 19พวงองุ่นสีสวย น่ากินจังเลยเนอะสระบุรี 20นอกจากมีผลองุ่นสดให้ชิมแล้ว สวนองุ่นสิริวัฒน์ยังมีแปลงพืชผลนานาชนิดให้ศึกษาวิถีเกษตรพอเพียง และมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลไม้อุดมคุณค่าให้ซื้อหากลับไปเป็นของฝากด้วย ทั้งแยมมัลเบอร์รี่ (ลูกหม่อน) แยมมะม่วง และแยมเสาวรส ฯลฯสระบุรี 21ยิ่งเดินทางไปบนเส้นทางนี้ เรื่องราวก็ยิ่งเข้มข้นปนความสนุก เมื่อได้มาเยือน ‘องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.)’ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี หรือที่คนทั่วไปเรียกกันติดปากว่า ‘ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก’ นั่นเอง ผมยังจำได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมาก็เห็นนมยี่ห้อนี้แล้ว ยังไม่เคยลืมกับโลโก้แม่วัวลูกวัวสีแดงที่ข้างกล่องนม ซึ่งแม่ให้ผมดื่มตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนทุกวัน
สระบุรี 22วันนี้ได้มาเยือนถึงฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก ต้นตำรับของแท้ รู้สึกตื่นเต้นมากๆสระบุรี 23ก่อนเข้าไปชมกิจกรรมภายใน อสค. ด้านหน้าติดถนนใหญ่เขามีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมชนิดต่างๆ ทั้งนมกล่องและนมขวด โดยเฉพาะ นม Organic Good Morning ที่ดีต่อสุขภาพสระบุรี 24วันฟ้าสวยแดดใส ได้เวลาชวนกันขึ้นรถพ่วงเข้าชมกิจกรรมของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก แล้ว โดยมีพี่แตน วิทยากรใจดีซึ่งทำงานอยู่ที่นี่มากว่า 30 ปี เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้อย่างหมดเปลือกสระบุรี 25ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย ตะลุยฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก อำเภอมวกเหล็ก สระบุรีสระบุรี 26รถพ่วงแล่นมาจอด ณ ฐานเรียนรู้จุดแรก เป็นการตรวจนม เอ้ย… ตรวจคุณภาพนมวัวที่เกษตรกรนำมาส่งให้ อสค. เราเห็นรูปปั้นวัวแม่ลูกสีแดงยืนอยู่บนสนามหญ้า ก็เลยสงสัย พี่วิทยากรใจดีจึงอธิบายให้ฟังว่า สัญลักษณ์ขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ที่ต้องเป็นวัวนมแม่ลูกสีแดง เพราะวัวสายพันธุ์แรกที่ประเทศเดนมาร์กมอบให้เรามาก็คือ วัวพันธุ์เรดเดน (Red Dane) หรือ Danish Red หรือ Red Danish แล้วแต่จะเรียก โดยวัวนมพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดในประเทศเดนมาร์ก มีขนสีน้ำตาลแดงตลอดตัว และใช้เป็นวัวนมสายพันธุ์หลักของเดนมาร์กมาตลอด
สระบุรี 27ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระราชทานกิจการโคนมแห่งชาตินี้ ไว้ให้ปวงชนชาวไทย เมื่อปี พ.ศ. 2505 ด้วยทรงตั้งพระประสงค์ให้ชาวไทยมีน้ำนมบริโภคโดยทั่วกัน เพื่อสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์สระบุรี 28ณ ฐานตรวจคุณภาพนมโค วิทยากรผู้เชี่ยวชาญได้สาธิตวิธีการ ขั้นตอนต่างๆ ให้เราดูอย่างละเอียดสระบุรี 29แนวคิดทฤษฎีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ คือสิ่งที่ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก นำมาประยุกต์ใช้จนถึงปัจจุบัน ดังที่ปรากฏชัดเจนบนกระดานดำในฐานเรียนรู้นี้สระบุรี 30รถพ่วงของเราแล่นต่อมาจนถึงส่วนที่เป็นหัวใจของ อสค. คือ โรงเรือนเลี้ยงโคนม ทั้งพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์หลายร้อยตัว อาคารโรงเรือนเลี้ยงโคนมที่เห็นหลังคาสีแดงนี้คือโรงเรือนดั้งเดิมแท้ๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เสด็จมาเป็นองค์ประทานเปิด เราจึงรู้สึกปลื้มมากๆ ที่ได้ก้าวตามรอยพ่อมาในวันนี้สระบุรี 31ด้านหน้าโรงเรือนเลี้ยงวัวนม มีแผ่นศิลาจารึกข้อตกลงความร่วมมือในกิจการโคนม ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระเจ้าเฟรดเดอริคที่ 9 กษัตริย์แห่งเดนมาร์ก เมื่อปี พ.ศ. 2505 ที่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้เกี่ยวกับกิจการโคนมให้ชาวไทยสระบุรี 32 สระบุรี 33 สระบุรี 34หากจะย้อนอดีตกลับไปเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2503 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา ได้ทรงเสด็จไปยังประเทศเดนมาร์ก ทรงสนพระทัยกิจการเลี้ยงโคนมของชาวเดนมาร์กเป็นอย่างมาก และกลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ด้านการเลี้ยงโคนมระหว่างไทยและเดนมาร์ก กระทั่งวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2505 ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์กแห่งนี้ จึงเปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ นับเป็นฟาร์มโคนมทันสมัยแห่งแรกของเมืองไทย

สระบุรี 35คอกเลี้ยงพ่อพันธุ์วัวนมตัวใหญ่เบ้อเริ่ม!สระบุรี 36 สระบุรี 37.1แม่โคนมพันธุ์ดีที่พร้อมอยู่ในคอกรีดนมแล้วจ้า นักท่องเที่ยวคนไหนพร้อมก็เตรียมตัวมารีดนมสดๆ อุ่นๆ จากเต้ากันได้เลยสระบุรี 37ป้อนนมลูกวัวน่ารักๆ เป็นกิจกรรมสนุกๆ ที่ห้ามพลาดของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก พวกมันจะได้โตวันโตคืนสระบุรี 38ป้าแตนวิทยากรคนเก่ง กับผู้เชี่ยวชาญด้านการรีดนมวัวของ อสค. กำลังสาธิตวิธีการที่ถูกต้อง ก่อนนักท่องเที่ยวจะลงมือทดลองกันสระบุรี 39น้ำนมอุ่นๆ จากเต้าแม่โคพันธุ์ดี พุ่งเป็นจังหวะปรี๊ดออกมาตามการบีบเค้นอย่างมืออาชีพสระบุรี 40.1 สระบุรี 40ถัดจากจุดรีดนมและป้อนนมวัว รถพ่วงก็นำเรามาถึงเวทีแสดงการขี่ม้าตามวิธีโคบาลตะวันตก ฮาฮาฮา สาวสวยของเราขึ้นขี่ควบม้าท้าทายพี่คาวบอย ให้เพื่อนๆ ถ่ายภาพแชร์กันอย่างสนุกสนานสระบุรี 41จุดนี้เขามีโชว์หลากหลายให้ชม ทั้งการควบม้าสไตล์คาวบอยตะวันตก, การควงเชือกบ่วงบาศ, การควงมีด ควงปืน และการเต้นรำกับม้าที่ไม่มีใครเหมือนสระบุรี 42.1โพนี่ (Pony) หรือม้าแคระ เป็นม้าพันธุ์จิ๋ว ซึ่งเมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดไม่สูงใหญ่เท่าม้าพันธุ์อื่น จึงน่ารักน่าชังเหมือนม้าการ์ตูน แต่ก็ต้องระวังเข้าให้ถูกทาง อย่าไปเข้าหาม้าด้านหลัง อาจถูกม้าดีดได้!สระบุรี 42มาดสุดเท่ห์ของพี่โคบาลประจำ อสค.สระบุรี 43โชว์ขี่ม้าสไตล์คาวบอย ควบกันมันสุดเหวี่ยงจนฝุ่นตลบไปหมด!สระบุรี 44โชว์ควงแส้คาวบอย เป็นแส้ที่เมื่อเหวี่ยงไปในอากาศจะทำให้เกิดเสียงดังน่าตกใจ! เพื่อใช้ไล่ต้อนฝูงวัวให้ไปในทิศทางที่ต้องการ
สระบุรี 45ปิดท้ายกิจกรรมสนุกที่ อสค. กับการลอดบ่วงบาศเข้าไปถ่ายภาพคู่กับพี่คาวบอยสุดเท่ห์ เก๋อย่าบอกใครเชียวสระบุรี 46แหล่งท่องเที่ยวสุดท้ายในแคมเปญ ‘ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย’ ในครั้งนี้ คือ ‘วัดพระพุทธฉาย’ อำเภอเมืองสระบุรี ซึ่งมีความเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อยตามความเชื่อของคนท้องถิ่น การเที่ยวให้สุขสนุก แนะนำว่าควรไปในช่วงเช้าหรือบ่ายแก่ๆ ที่แดดไม่ร้อน เพราะบนภูเขานี้ค่อนข้างโล่ง อีกทั้งเป็นหิน เมื่อแดดจัดจ้าจะร้อนมาก การเที่ยวทำได้ 2 วิธี คือจอดรถด้านล่างวัด แล้วเดินขึ้นไปกราบเงาพระพุทธฉาย หรือวิธีที่สอง คือ ขับรถขึ้นเขา เพื่อเดินไปสักการะรอยพระพุทธบาทก่อน จากนั้นค่อยเดินลงลงไปนมัสการเงาพระพุทธฉายที่เชิงเขาสระบุรี 47เราใช้วิธีที่สอง คือให้รถขึ้นไปปล่อยตัวบนเขา แล้วค่อยๆ เดินไล่ตามจุดลงมายังเชิงเขา จุดแรกที่พบคือพระมณฑปสีขาวสะอาด ซึ่งภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทอันเก่าแก่ รายล้อมด้วยต้นลั่นทม (ลีลาวดี) ดอกสีขาว มองเผินๆ วิวคล้ายที่พระนครคีรี หรือเขาวัง จังหวัดเพชรบุรีเหมือนกันเนอะ
สระบุรี 48ทัศนียภาพบนยอดเขาวัดพระพุทธฉาย มองออกไปชมวิวได้กว้างไกลสุดสายตาสระบุรี 49บนยอดเขาอันเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท ด้านนอกมณฑปมีหินรูปแผนที่ประเทศไทยให้ชมด้วย จุดนี้ช่วงกลางวันจะร้อนมาก ต้องรีบขอตัวหลบเข้าไปนมัสการรอยพระพุทธบาทโดยเร็ว!สระบุรี 50รอยพระพุทธบาทวัดพระพุทธฉาย อันสีทองที่เห็นนี้คือที่สร้างขึ้นใหม่ ส่วนของเดิมคืออันเล็กที่ปัจจุบันมีการนำแผ่นกระจกมาครอบไว้แล้ว รอยพระพุทธบาทนี้สันนิษฐานกันว่าค้นพบสมัยพระเจ้าทรงธรรม แห่งกรุงศรีอยุธยา ที่ทรงได้รับข้อความจากภิกษุชาวลังกาว่า ในแผ่นดินสุวรรณภูมิมีรอยพระพุทธบาทอยู่บนยอดเขาหลายแห่ง จึงทรงรับสั่งให้มีการค้นหาจนพบรอยพระพุทธบาทบนเขาสุวรรณบรรพตที่สระบุรีก่อน จากนั้นจึงค้นพบรอยพระพุทธบาท ณ วัดพระพุทธฉาย ในภายหลังสระบุรี 51.1เดินลงมาจากยอดเขาเพียงเล็กน้อย ก็ถึงหอพระ ซึ่งภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ไว้มากมายสระบุรี 51ด้านหลังหอพระ งามเด่นด้วยพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขนาดใหญ่ และพุทธศิลป์ที่ประดับตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามสระบุรี 52บรรยากาศภายในหอพระ บนเขาวัดพระพุทธฉาย สระบุรีสระบุรี 53จากหอพระเดินลงเขามาเรื่อยๆ ไม่เมื่อยขา เพราะเป็นขาลง ฮาฮาฮา ไม่เกิน 10 นาที ก็จะได้สักการะเงาพระพุทธฉายกันแล้วสระบุรี 54เงาพระพุทธฉายอันศักดิ์สิทธิ์ มีลักษณะเป็นแถบสีส้มอมแดงคล้ายพระพุทธเจ้าทรงประทับยืน เหมือนเงาขององค์ท่านทาบประทับอยู่บนหน้าผาหิน ตำนานเล่าว่าในกาลก่อนพระพุทธองค์ทรงเสด็จมา เพื่อโปรดพรานฆาฏกะ จนได้บวชเรียนสำเร็จมรรคผลในร่มบวรพุทธศาสนา ก่อนเสด็จกลับไปชมพูทวีป นายพรานได้ทูลขอสิ่งที่ระลึก พุทธองค์จึงประทานเงาพระพุทธฉาย และรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาไว้ให้บนยอดเขานี้

ถ้าไปชมของจริง แล้วเพ่งมองดีๆ เราจะเห็นว่าเงาพระพุทธฉายมีครบทั้งส่วนเศรียรและพระวรกาย โดยในส่วนยอดสุดของพระโมลีที่เป็นเปลวรัศมี ยังมีแผ่นทองคำเปลวที่พระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ทรงติดไว้เป็นพุทธบูชา ครั้งเสด็จมานมัสการเงาพระพุทธฉายด้วยพระองค์เอง

สระบุรี 55ถัดจากเงาพระพุทธฉายไปนิดเดียว ภายใต้เพิงผาหินเดียวกัน เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ ยาวหลายสิบเมตร ซึ่งสร้างขึ้นภายหลัง แต่ตรงจุดนี้ต้องระวัง เพราะมีฝูงลิงกังมาป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่เพียบ ใครที่สะพายข้าวของขึ้นไปด้วยจึงต้องระวังให้ดีสระบุรี 56ใกล้กับเงาพระพุทธฉาย มีจารึกพระนามาภิไธยย่อของพระมหากษัตริย์ไทย และพระบรมวงศานุวงศ์จำนวนมากที่สุดในเมืองไทยให้ชม ที่เห็นในภาพ บนสุดคือพระนามาภิไธยของในหลวงรัชกาลที่ 9 เคียงคู่อยู่กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถสระบุรี 57รอยจำหลักหินพระนามาภิไธยย่อของพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 บนเพิงผาหินใกล้ๆ กับเงาพระพุทธฉายสระบุรี 58เดินลงจากเขากลับไปที่ลานจอดรถด้านล่าง ระหว่างทางอย่าลืมแวะทักทาย ถ่ายภาพความน่ารักของครอบครัวเจ้าจ๋อลิงกัง แต่อย่าเข้าใกล้ล่ะ เพราะมันหวงลูกมากทีเดียว!สระบุรี 59วันอันแสนสุขและสนุกกับหลากเรื่องราวของสระบุรี จบลงที่รีสอร์ทแสนสวย ‘มีลา การ์เด็น รีทรีท ค็อทเทจ’ (Mela Garden Retreat Cottage) อำเภอมวกเหล็ก (โทร. 09-0428-0176) ที่พักสุดหรูแสนสะดวกสบายในสไตล์อิตาลีตะวันตก บรรยากาศแสนโรแมนติก เงียบสงบเป็นส่วนตัว และเป็นธรรมชาติสุดๆ โดยคำว่า ‘Mela’ ในภาษาอิตาลี แปลว่า ‘แอปเปิล’ นั่นเอง ภายในรีสอร์ทแห่งนี้จึงมีต้นแอปเปิลปลูกอยู่ด้วย
สระบุรี 60ห้องพักของมีลา การ์เด็น กว้างขวางใหญ่โต เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนกันเป็นครอบครัวสระบุรี 61ห้องอาหารของมีลา การ์เด็น หรูเรียบ เด่นด้วยดีไซน์ของไม้และการจัดแสงโทนอุ่น จึงน่านั่งชิลจิบไวน์กันนานๆสระบุรี 62อาหารเช้าที่มีลา การ์เด็น คือสลัดผักแสนอร่อย รับประทานคู่กับน้ำสลัดครีม ตามมาด้วยซุปผักโขม ขนมปังโฮมเมต และเครื่องดื่มร้อนๆ ต้อนรับวันใหม่อันสดใสสระบุรี 63ทริป ‘ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย’ ของเรา ปิดฉากลงอย่างชื่นมื่น พร้อมกับรอยยิ้มของทุกคน ที่ได้ใช้เวลามาดูแลกายใจ ดูแลสุขภาพ ทำจิตใจให้มีความสุข หัดเป็นคนคิดบวก เมื่อทำได้แบบนี้แน่นอนว่าร่างกายเราจะปรับตัวสร้างภูมิคุ้มกันโรคร้ายและโชคร้ายได้เอง

เราหวังว่า เรื่องราวดีๆ จากเส้นทางแห่งสุขภาวะอยุธยา-สระบุรี จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครบางคนที่กำลังค้นหาคำตอบให้กับตัวเองในแง่สุขภาพ ได้เดินทางตามรอย คุณอาจจะค้นพบมิติใหม่ในการดูแลสุขภาพ ไม่ใช่เพื่อตัวคุณเองเท่านั้น ทว่าเพื่อคนรอบข้างที่คุณรักด้วยLOGO TATSpecial Thanks : คุณอิสสระพงษ์ แทนศิริ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา (และดูแลพื้นที่สระบุรี) สนับสนุนการเดินทางเป็นอย่างดี สนใจสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-3524-6076-7

ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย (ตอน 1)

อยุธยา 5ยุคนี้ใครๆ ก็พูดถึงเรื่องการรักษาสุขภาพกันทั้งนั้น เพราะปัจจุบันสภาพแวดล้อมรอบตัวเราเต็มไปด้วยมลพิษนานาชนิด การหันมาดูแลสุขภาพตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ในชีวิตเลยก็ว่าได้ ทั้งเรื่องการออกกำลังกาย การกินอาหารสุขภาพที่ปลอดสารพิษ การคิดบวกทำจิตใจให้ผ่องใสมีความสุข และอื่นๆ สรุปแล้วคือต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆ กัน

ทริปนี้เลยอยากชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวจังหวัดพระนครอยุธยาและสระบุรี ซึ่งแม้ว่าเมื่อพูดถึงสองจังหวัดนี้ เราอาจจะเห็นภาพของเมืองประวัติศาสตร์และแหล่งธรรมชาติค่อนข้างชัดเจน แต่ขอบอกเลยว่า วันนี้เรามีมุมมองใหม่มานำเสนอ เป็นทริปสุขภาพเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้งที่รับรองจะ Happy ทั้งกายใจ ในชื่อ ‘ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย’ สนับสนุนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา
อยุธยา 2ทริปสุขภาพสำหรับสาวๆ ที่รักการดูแลกายใจ เร่ิมต้นขึ้นที่เมืองสุขภาพ ‘Wellness Care’ หรือ ‘ศูนย์ธรรมชาติบำบัดเวลเนสแคร์’ โดย ‘เวลเนส ซิตี้’ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (โทร. 08-1375-1916) จัดเป็นศูนย์การดูแลสุขภาพครบวงจรระดับโลกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ก่อตั้งขึ้นโดยคุณหมอบุญชัย อิศราพิสิษฐ์ อดีตเจ้าของโรงพยาบาลราชธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ปัจจุบันศูนย์ Wellness Care เปิดให้บริการหลายโซน ทั้งโซนสุขภาพ และโซนบ้านจัดสรร โดยในครั้งแรกเปิดขึ้นเพื่อให้ผู้สูงอายุมาพักผ่อนแบบ Long Stay ก่อน เพราะมีแพทย์ พยาบาล และอุปกรณ์แพทย์คอยให้ความดูแลครบ ทว่าปัจจุบันได้เปิดคอร์สล้างพิษ ตับ-กาย-จิต, คอร์สฟื้นฟูไต และคอร์สพิชิตมะเร็ง สำหรับทุกคนที่สนใจ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ห่วงใยสุขภาพตนเอง
อยุธยา 3สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักสุขภาพทั่วไป การเยี่ยมชม Wellness Care ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะนอกจากจะได้รับฟังบรรยายเรื่องสุขภาพแล้ว ยังมี Workshop ให้ทดลองทำอาหารสุขภาพด้วยตัวคุณเอง จึงเป็นการสอดรับกับเทรนด์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness & Health Tourism) ที่เติบโตขึ้นกว่า 27-30 เปอร์เซนต์ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงรักสุขภาพ ซึ่งถือเป็นกลุ่ม Women Empower ที่มีจำนวนมากอยุธยา 4.1เมนูไข่ม้วนไส้ผักปลอดสารพิษเพื่อสุขภาพ ของ Wellness Care ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ทดลองทำและชิมฝีมือตัวเองอยุธยา 4พระเอกของเมนูสุขภาพที่ Wellness Care ก็คือ น้ำผักคลอโรฟิลด์ ที่มีส่วนผสมของผักพื้นบ้าน 6 ชนิด คือ ใบหญ้าหวาน, ใบบัวบก, ใบตำลึงหวาน, ใบหม่อน, ใบชะพลู, ใบเตยหอม (อย่างละ 50 กรัม) นำมาปั่นรวมกับน้ำต้มสุก 1 ลิตร แล้วกรองให้เหลือกากนิดๆ ดื่มก่อนอาหารเป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยในเรื่องของเลือดลม ลำไส้ ระบบการย่อย และผิวพรรณที่ผ่องใส รวมถึงป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ด้วย
อยุธยา 6.1น้ำผักคลอโรฟิลด์ สูตร Wellness Care ไม่เหม็นเขียว เพราะส่วนผสมแต่ละชนิดกลมกล่อม แถมยังมีความหวานธรรมชาติจากใบหญ้าหวาน มาเพิ่มความอร่อยให้ด้วย
อยุธยา 6ดูกันชัดๆ กับพืชสมุนไพรพื้นบ้านไทยที่นำมาปั่นเป็นน้ำคลอโรฟิลด์ได้ง่ายดาย ประโยชน์สูงประหยัดสุดจริงๆอยุธยา 7เมื่อทำ Workshop เสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเที่ยงพอดี ทว่าก่อนจะรับประทานอาหารหลัก เราควรกินพืชผักผลไม้ก่อนเพื่อให้ดูดซึมคุณค่าทางอาหารได้ดีที่สุด โดยเฉพาะผักใบเขียวและผักสีเหลืองสีแดงต่างๆ สลัดผักสุขภาพถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งจะทำให้เรารับประทานคาร์โบไฮเดรตในปริมาณลดลง ช่วยคุมน้ำหนัก ป้องกันโรคเบาหวานได้ดีอยุธยา 8ก่อนรับประทานอาหารหลักที่ Wellness Care เขาเสิร์ฟผักม้วนสุขภาพเรียกน้ำย่อยก่อนเลย จุ๋มจิ๋มน่ารัก อุดมคุณค่าทางอาหารจริงๆ นะอยุธยา 9พ้นจากเมนูเรียกน้ำย่อยแล้ว ก็ถึงอาหารหลักเป็นข้าวกล้องกับอาหารเมนูปลา โดยเฉพาะข้าวกล้อง หรือข้าวไม่ผ่านการขัดสี ทำให้วิตามินในเมล็ดข้าวยังคงอยู่เกือบครบ รับประทานคู่กับปลาต่างๆ เพราะเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย อีกทั้งปลาหลายชนิดยังมีน้ำมันปลาที่ช่วยบำรุงสมอง และป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตันได้ดีนักแล
อยุธยา 10 อยุธยา 11พออิ่มหนำสำราญกับอาหารสุขภาพกันถ้วนหน้าแล้ว ก็ได้เวลาออกไปตระเวนชมอาณาบริเวณของ Wellness City ทั้งในส่วนของแปลงปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ไว้ให้ผู้ที่มาพักผ่อนแบบ Long Stay รับประทาน, ชมแปลงปลูกต้นหม่อน เพื่อนำใบและผลมารับประทาน, ชมฟาร์มเลี้ยงแพะ และโซนบ้านจัดสรรที่ต้องบอกเลยว่า เป็นบ้านจัดสรรที่ปลอดภัยมาก เนื่องจากอยู่ใกล้คุณหมอและพยาบาล อุ่นใจได้เรื่องสุขภาพเนอะอยุธยา 12ผลหม่อน หรือลูกมัลเบอร์รี่ (Mulberry) ดกงาม นำมาทานสดอุดมด้วยวิตามินนับสิบชนิด อาทิ วิตามินเอ, ซี, อี, เค, วิตามิน บี 2, 3, 6, โซเดียม, เบต้า-แคโรทีน, ธาตุเหล็ก ฯลฯ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ คุมน้ำตาลในเลือด ลดคลอเรสเตอรอล บำรุงสมอง ป้องกันมะเร็ง เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันควมดันโลหิตสูง ช่วยล้างพิษ บำรุงสายตา และช่วยให้ขับถ่ายดี โอ้โห! สุดยอดจริงๆ!อยุธยา 13มาถึงฟาร์มเลี้ยงแพะของ Wellness City ที่มีแพะอยู่นับร้อยตัว กิจกรรมสนุกๆ ที่รอให้เราไปสัมผัสคือ การป้อนนมลูกแพะแสนน่ารัก เจ้าลูกแพะหน้าตาบ้องแบ้ว ตัวขาวสะอาดกลิ่นหอม จะกรูกันเข้ามารุมล้อมเรา ขอหม่ำนม (จากแม่แพะ) ให้ชื่นใจ มีความสุขทั้งคนป้อนนมและตัวที่มาดูดนม ฮาฮาฮา นัยว่าเป็นการใช้สัตว์บำบัด ช่วยสร้างรอยยิ้มสุขในใจได้ยอดเยี่ยม ฟาร์มแห่งนี้มีการดูแลความะอาดอย่างดี เดินเข้าชมได้สบายไร้กังวล
อยุธยา 14 อยุธยา 15.1พอป้อนนมลูกแพะจนพวกมันอิ่มแปร้แล้ว ทีนี้ก็ถึงคราวพวกเราอิ่มกันบ้างซิ ได้เวลาชิม ‘ไอศกรีมนมแพะ’ สูตร Wellness Care ที่ถือว่าเป็นไอศกรีมเพื่อสุขภาพ เนื่องจากนมแพะมีไขมันต่ำกว่านมวัว ไม่ทำให้อ้วน อีกทั้งนมแพะยังไม่ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด ช่วยพัฒนาสมองและสายตา ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ คงเพราะอย่างนี้นี่เอง ทั่วโลกถึงนิยมดื่มนมแพะกันมานานแล้วอยุธยา 15.2

อิ่มท้องแล้ว ก็ถึงคราวช้อปปิ้งหาซื้อสินค้าดีๆ เพื่อไปดูแลสุขภาพต่อที่บ้าน ขอแนะนำ ‘สบู่นมแพะ’ ที่มีส่วนผสมของนมแพะเข้มข้นกว่าแบรนด์อื่นๆ ใช้ล้างหน้า (หรือจะใช้ขัดสีฉวีวรรณทั้งตัวก็ไม่มีใครว่า) ช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง ลดสิว ลดฝ้า หน้าใสปิ๊งๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณสาวๆ ในทริปนี้จ้า
อยุธยา 15ส่วนหนึ่งของเมืองสุขภาพครบวงจร Wellness City มีโครงการบ้านจัดสรรน่ารักๆ ให้อยู่อาศัยกันในบรรยากาศแสนสงบ และอยู่ใกล้คุณหมอด้วยอยุธยา 16ห้องนอนแสนน่ารัก ใครได้พักเอนกายในห้องนี้ ถ้าไม่มีความสุขหลับฝันดี ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะอยุธยา 17ห้องรับแขกสีหวาน บรรยกาศโปร่งโล่งสบาย ช่วยเติมเต็มสุขภาพกายใจที่ Wellness Cityอยุธยา 18เมื่อดูแลสุขภาพกายกันเต็มที่จนหน้าใสกันถ้วนหน้าแล้ว เราก็เปลี่ยนบรรยากาศมาดูแลสุขภาพใจกันบ้าง กับการสัมผัสอยุธยาในมุมมองใหม่ ด้วยการล่องเรือชมวิถีชีวิตและวัดวาอารามโบราณริมน้ำ ในบริเวณ 3 เกาะ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง (ค่าเช่าเรือประมาณ 1,000 บาทต่อลำ เรือนั่งได้ไม่เกิน 7 คน) สัมผัสสายน้ำที่ยังใสบริสุทธิ์ อากาศโล่งสบาย หายใจได้เต็มปอด เหมือนการเดินทางย้อนเวลากลับเข้าสู่กรุงเก่าเล่าเรื่องอดีต
อยุธยา 19.1การล่องเรือไหว้พระ 3 วัด ของเราก็คือ วัดแคราชานุวาส (เกาะลอย) วัดช่องลม (เกาะวัดช่องลม) และวัดตองปุ (เกาะเมืองอยุธยา) ซึ่ง 3 วัดนี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก เนื่องจากเป็นวัดโบราณ (บางแห่งเคยเป็นวัดร้างด้วยซ้ำ) อยู่บนเกาะเล็กเกาะน้อยใกล้เกาะเมืองอยุธยา จัดเป็นวัดที่มีเรื่องราวให้ค้นหา โดยเฉพาะผู้ที่สนใจด้านประวัติศาสตร์ และผู้ที่ศรัทธาหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดอันโด่งดังอยุธยา 19.2ระหว่างล่องเรือ เราจะได้สัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำ ผสานกับความร่มรื่นของแมกไม้เขียวครึ้มสองฟากฝั่ง และแน่นอนว่า เรือนไทยโบราณที่บ่งบอกเอกลักษณ์ภาคกลาง ก็จะมีให้ชมตลอดทางเช่นกัน ขณะที่เรือล่องไปอย่างช้าๆ ทำให้รู้สึกว่าเข็มนาฬิกาชีวิตเดินช้าลง เหมือนได้เข้าใกล้วิถีไทยที่สงบร่มเย็น สมแล้วที่อยุธยาเป็นเมืองน้ำ เป็นเกาะที่มีแม่น้ำ 3 สายล้อมรอบ คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรีอยุธยา 19.3ล่องเรือมาไม่ถึง 15 นาที เราก็มาถึงวัดแรกบนเกาะลอย คือ ‘วัดแคราชานุวาส’ วัดสำคัญซึ่งผู้ที่เคารพศรัทธา หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สามารถมาตามรอยองค์ท่านได้ บริเวณท่าน้ำมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของหลวงปู่เป็นสัญลักษณ์ บรรยากาศเงียบสงบร่มเย็น เต็มไปด้วยแมกไม้ และวัดก็มีขนาดเล็ก ทว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ปัจจุบันมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่เพียง 4-5 รูปเท่านั้นอยุธยา 19เดินจากท่าน้ำขึ้นมานิดเดียว ก็จะถึงศาลาที่มีรูปเคารพของหลวงปู่ทวดให้สักการะกันเป็นจุดแรก เพื่อความเป็นสิริมงคลอยุธยา 20ประวัติของวัดแคราชานุวาสมีบันทึกไว้ไม่ค่อยชัดเจน ที่เล่าสืบต่อกันมาว่า สมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ กษัตริย์องค์ที่ 19 แห่งกรุงศรีอยุธยา ประเทศลังกาต้องการได้กรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองขึ้น แต่ไม่ต้องการให้เสียเลือดเนื้อ จึงออกอุบายให้มีการแปลธรรมะภายใน 7 วัน หากไม่มีผู้ใดแปลได้ก็จะเสียกรุง จนถึงคืนวันที่ 6 สมเด็จพระเอกาทศรถทรงพระสุบินว่า จะมีผู้แปลได้ จึงออกตามหาหลวงปู่ทวดที่ธุดงค์จากหัวเมืองพัทลุง ขึ้นมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแค เพื่อมาศึกษาพระธรรมวินัย จึงได้นิมนต์ไปแปลธรรมะ จนสามารถช่วยปกป้องบ้านเมืองได้สำเร็จอยุธยา 21ภายในโบสถ์หลังใหม่ของวัดแคราชานุวาส มีภาพจิตกรรมฝาผนังเรื่องราวประวัติตอนต่างๆ ของหลวงปู่ทวด กราบพระขอพรแล้ว อย่าลืมแหงนหน้ามองขึ้นไปชมล่ะ แต่ถ้าไม่เข้าใจ ก็ให้ท่านเจ้าอาวาสอธิบายให้ฟังได้อยุธยา 22.1ภายในโบสถ์หลังใหม่ของวัดแคฯ มีหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ทวดให้สักการะ ยิ่งเพ่งพินิจใกล้ๆ ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนท่านมีชีวิตจริงเลยนะ อัศจรรย์มาก!อยุธยา 22ภาพจิตรกรรมฝาผนังร่วมสมัย เกี่ยวกับประวัติของหลวงปู่ทวด พระอริยสงฆ์ชื่อดังแห่งปักษ์ใต้ ที่มาช่วยปกป้องกรุงศรีอยุธยาสมัยพระเอกาทศรถอยุธยา 23.1ด้านนอกโบสถ์หลังใหม่ มี พระพุทธรูปหินทรายศิลปะลพบุรี ประดิษ์ฐานอยู่ แม้ว่าเศียรพระองค์เดิมจะถูกลักลอบตัดไป กรมศิลปากรก็ได้สร้างทดแทนขึ้นใหม่ เป็นหนึ่งในหลักฐานยืนยันความเก่าแก่ของวัดแคฯ แห่งนี้อยุธยา 23ใกล้กับท่าน้ำวัดแคฯ มีหอระฆังและบันไดนาคคู่ที่สวยงาม เก่าแก่ ตัวหอระฆังบ่งบอกศิลปะอยุธยาชัดเจน ส่วนบันไดนาคคงสร้างขึ้นมาภายหลังด้วยศิลปะยุคปัจจุบันอยุธยา 24แม่น้ำด้านหน้าวัดแคราชานุวาส ยังใสสะอาดมีฝูงปลาแหวกว่าย และชาวบ้านยังสามารถนำน้ำนี้ไปใช้งานได้เช่นเดียวกับยุคอดีต นี่คือความสงบร่มเย็นของเมืองน้ำอยุธยาอยุธยา 25ล่องเรือชิลชิลมาอีกแค่แป๊บเดียว เราก็แวะขึ้นกราบพระในวัดที่ 2 คือ ‘วัดตองปุ’ บนเกาะเมืองอยุธยา โดยท่าหน้าวัดนั้นตั้งอยู่บริเวณใกล้กับจุดบรรจบของแม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำป่าสัก จึงเป็นอีกวัดหนึ่งที่สงบ ร่มเย็นมากอยุธยา 26วัดตองปุ เป็นวัดเก่าแก่มาก สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ประมาณ พ.ศ. 1920 ประวัติเล่าว่าในอดีตที่ดินตรงนี้มีต้นกล้วยตานีขึ้นอยู่หนาแน่น เวลาชาวบ้านทั้งไทยและมอญมาทำบุญ ต่างก็ห่ออาหารด้วยใบตอง แถมยังนำใบตองมารองนั่งอีกด้วย จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘วัดตองปุ’

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมถึงมีชาวมอญอยู่ในบริเวณนี้ด้วย ประวัติเล่าย้อนไปถึงสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หลังจากทรงกวาดต้อนเทครัวชาวมอญ ข้ามแม่น้ำสะโตงมาจากเมืองหงสาวดีแล้ว ก็ทรงบูรณะวัดตองปุให้เป็นที่จำพรรษาของพระมหาเถรคันฉ่อง รวมถึงพระมอญรูปอื่นๆ เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีที่พระยาเกียรติ พระยาราม ชาวมอญ ได้มาเตือนพระองค์มิให้ถูกลอบสังหาร ก่อนประกาศเอกราชที่เมืองแครงนั่นเองอยุธยา 27พ้นจากท่าน้ำขึ้นมานิดเดียว ก็มีศาลาไทยเปิดโล่ง ประดิษฐาน หลวงพ่อดำ อันศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดตองปุ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยอยุธยาแท้ กราบไหว้ขอพรกันได้ตามอัธยาศัยเลยจ้าอยุธยา 28ร่องรอยทางโบราณดดีที่ชัดเจนในความเก่าแก่ของวัดมอญ อย่างวัดตองปุแห่งนี้ก็คือ ‘หลวงพ่อโต’ ซึ่งแต่เดิมเคยประดิษฐานอยู่ในโบสถ์มหาอุตม์ขนาดเล็ก (โบสถ์มหาอุตม์ คือ โบสถ์ที่ไม่มีหน้าต่าง มีประตูเข้าออกได้ทางเดียว นิมยมใช้เป็นสถานาที่ปลุกเสกเครื่องรางของขลังและวัตถุมงคลต่างๆ) ทว่าปัจจุบันตัวโบสถ์มหาอุตม์เดิมได้สลายไปพร้อมกาลเวลา จึงมีการสร้างศาลาครอบหลวงพ่อโตไว้แทนอยุธยา 29หอระฆังแบบมอญ บ่งชี้ร่องรอยประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกวาดต้อนชาวมอญจากหงสาวดีอยุธยา 30โบสถ์หลังใหม่ของวัดตองปุ งดงามตามแบบศิลปะรัตนโกสินทร์
อยุธยา 31.1ไหว้พระขอพร ทำจิตใจห้องผ่องแผ้ว กายใจจะได้ผ่องใส สมกับทริป ‘ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย’อยุธยา 31นั่งเรือข้ามฝั่งจากวัดตองปุ (ที่อยู่บนเกาะเมือง) มาแค่ไม่กี่อึดใจ เราก็มาถึงวัดช่องลมเกาะลอย’ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ บนจุดบรรจบของแม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำป่าสัก มีลักษณะเป็นเพียงเกาะเล็กๆ ที่มีคนอาศัยอยู่แค่ไม่กี่คน จึงอาจพูดกันเล่นๆ ได้ว่า เป็นเกาะเล็กที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทยเลยล่ะ ฮาฮาฮาอยุธยา 32จริงๆ แล้วเกาะลอยนี้ มีมากกว่าการมากราบพระขอพร ทว่ายังมีเรื่องราวพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งทรงห่วงใย ไม่ทอดทิ้งเกาะเล็กๆ นี้ แม้เกาะลอยจะมีประชากรอยู่แค่ 15 หลังคาเรือน พระองค์ท่านก็ทรงแผ่พระบารมีเมตตามาปกปักคุ้มครอง เหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2556 เมื่อน้ำจากแม่น้ำได้กัดเซาะตลิ่งของเกาะลอยจนเข้าถึงตัวบ้านเรือนราษฎร  หนึ่งในลูกหลานของเกาะลอย คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นภาภรณ์ ศิริพิทักษ์ ได้เขียนจดหมายด้วยลายมือของตนเอง ถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จากนั้นต้นปี พ.ศ. 2557 พระองค์จึงพระราชทานเงินมาให้ถึง 18 ล้านบาท เพื่อสร้างเขื่อนตรงหัวเกาะลอย ป้องกันน้ำกัดเซาะ จนประชาชน 15 หลังคาเรือน กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติสุขอีกครั้งอยุธยา 33จากวัดช่องลมเกาะลอย มองไปเห็นวัดตองปุอยู่ใกล้นิดเดียว และยังได้ชมเขื่อนกั้นน้ำซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานให้ประชาชนบนเกาะลอยด้วยอยุธยา 34บนเกาะลอยมีวัดโบราณอยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันถือเป็นวัดร้าง เหลือหลักฐานบ่งบอกเรื่องราวประวัติศาสตร์อยู่ไม่มาก ทว่าก็ยังเป็นที่รู้จักและจดจำของชาวบ้านละแวกนั้นเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ ‘หลวงพ่อขาว’ เป็นพระประธานองค์ใหญ่สีขาว พระพักตร์อิ่มเอิบแลใจดี เชื่อหรือไม่ว่าส่วนเศียรของหลวงพ่อขาวสร้างขึ้นโดยใช้โอ่งใส่น้ำเป็นแกนภายใน เนื่องจากในสมัยโบราณชาวบ้านไม่มีวัสดุก่อสร้าง จึงต้องใช้โอ่งหรือตุ่มใส่น้ำแทนอิฐ สังเกตให้ดีจะเห็นเลยว่าเศียรหลวงพ่อขาวท่านจะค่อนข้างกลมรีจริงๆ ด้วย อยุธยา 35พระพุทธรูปสีทองด้านหน้าหลวงพ่อขาว คือ หลวงพ่อหมอ หรือพระหมอ ซึ่งชาวบ้านที่เจ็บไข้ได้ป่วย มาบนบานขอให้หายป่วย ก็จะได้ตามนั้น! อยุธยา 36ใกล้ๆ กับวิหารหลวงพ่อขาว มี ‘ศาลเจ้าพ่อดาบชัย’ สมัยกรุงศรีอยุธยาให้สักการะกันด้วยล่ะ โดยศาลนี้ตั้งอยู่ติดกับต้นโพธิ์โบราณลำต้นใหญ่หลายคนโอบ แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา ถ้ายืนนิ่งๆ ลองหลับตาจินตนาการไปในอดีต จะเห็นภาพของเกาะลอยที่มีแม่น้ำไหลผ่านด้านหน้า และทิวไม้เขียวๆ เย็นตาเย็นใจจริงๆอยุธยา 37ออกจากวัดช่องลมเกาะลอยแล้ว เราก็ได้เวลาล่องเรือกันยาวๆ เกือบ 1 ชั่วโมง เรือหันหัวเร่งเครื่องออกจากลำคลองย่อยเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาสายหลัก ผ่านวัดสำคัญๆ สองฟากฝั่ง ทั้งวัดหน้าพระเมรุ, วัดพุทไธศวรรย์, วัดไชยวัฒนาราม, เจดีย์สมเด็จพระสุริโยทัย และอีกมากมาย ถ้าเวลาเหลือ และตกลงกับนายท้ายเรือได้ ก็เพิ่มค่าเรือให้เขาหน่อย จะสามารถแวะกราบพระชำระกายใจได้เพิ่มเติม
อยุธยา 38วัดไชยวัฒนาราม หนึ่งในวัดสำคัญที่สุดและสวยงามที่สุดบนเกาะเมืองอยุธยาอยุธยา 39วัดพุทไธศวรรย์ เมื่อมองจากทางน้ำจะได้มุมมองงดงามมากอยุธยา 40วันนี้ได้สัมผัสวิถีชาวน้ำอยุธยาแบบลึกซึ้ง รู้สึกเย็นชื่นใจจากสายน้ำที่ยังใสสะอาดไหลไปไม่เคยเปลี่ยนอยุธยา 41อีกวัดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดชมและสักการะ ในระหว่าง เส้นทางผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย ของเราก็คือ ‘วัดบางนมโค’ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของหลวงพ่อปาน พระเกจิอาจารย์ผู้โด่งดังในด้านวัตรปฏิบัติอันงดงาม และมีคาถาอาคมแก่กล้า อีกทั้งได้ฉายาว่า ‘พระหมอ’ ช่วยรักษาอาการป่วยไข้ให้ชาวบ้านในยุคเมื่อหลายสิบปีก่อน ด้วยยาสมุนไพรพุทธคุณอันศักดิ์สิทธิ์อยุธยา 42ภายในบริเวณวัดบางนมโค มีพระเจดีย์ขนาดใหญ่ ศิลปะอยุธยาตอนปลาย สร้างแบบย่อมุมไม้สิบสอง และเหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่า ‘วัดบางนมโค’ เพราะอดีตแถบนี้ชาวบ้านนิยมเลี้ยงวัวควายกันมาก แม้แต่ในสมัยพม่ามาล้อมตีกรุงศรีอยุธยา ก็ยังมากวาดต้อนจับวัวควายชาวบ้านไปใช้เป็นเสบียงในกองทัพเช่นกันอยุธยา 43วิหารหลวงพ่อปานวัดบางนมโค เข้าไปสักการะกราบขอพร ปิดทองรูปเหมือนของท่านเพื่อความเป็นสิริมงคล ภายในสร้างโดยบุกระจกเงามากมาย สะท้อนแสงวิบวับ แลคล้ายวิหารที่วัดท่าซุงของหลวงพ่อฤาษีลิงดำอยุธยา 44รูปเหมือนหลวงพ่อปานวัดบางนมโค มีประชาชนศรัทธาหลั่งไหลกันมาปิดทองจนเหลืองอร่ามไปทั้งองค์อยุธยา 45หุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อปานวัดบางนมโค ชวนให้เรานึกถึงเรื่องราวประวัติของท่าน กล่าวสั้นๆ คือท่านเกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2418 ในย่านวัดบางนมโคนี่เอง โดยท่านได้รับการอุปสมบทที่วัดบางนมโค เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2438 กับหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยรู้กันดีว่าหลวงพ่อสุ่นนั้นเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก่กล้ามาก หลวงพ่อปานจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆ มาด้วย

อยุธยา 46หลวงพ่อปานมรณะภาพ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 สิริรวมอายุ 63 ปี 43 พรรษา โดยอัฐิธาตุของท่านได้รับการเก็บรักษาไว้ ณ วัดบางนมโคแห่งนี้เองอยุธยา 47ท่าน้ำหน้าวัดบางนมโค อดีตเคยใช้เป็นเส้นทางสัญจรหลัก ทุกวันนี้น้ำยังใสสะอาดดีอยุธยา 48ตระเวนเที่ยวอยุธยากันมาตลอดวัน เริ่มเหนื่อยแล้ว วันนี้ขอเลือกพักผ่อนสบายๆ ชิลๆ กลางทุ่งนา ในรีสอร์ทเล็กๆ สไตล์เก๋ไก๋น่ารัก บรรยากาศผ่อนคลายเป็นกันเอง ที่ ‘พลูธยา รีสอร์ทแอนด์สปา’ อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา (โทร. 09-8358-0118, 0-3570-7565-6)อยุธยา 49.1พาตัวและหัวใจไปค้นพบความสุขแบบเรียบง่าย กับเครื่องดื่มที่เราชอบ นั่งเหม่อมองท้องทุ่งสีเขียว เข้าถึงจิตวิญญาณของเมืองอู่ข้าวอู่น้ำอยุธยาในแบบน่ารักๆอยุธยา 49.2 อยุธยา 49ด้านข้างพลูธยา รีสอร์ท มีทุ่งนาผืนกว้างที่มองไปเห็นเจดีย์ของวัดใหญ่ชัยมงคลได้ชัดเจน ทั้งวิถีข้าวและวิถีพุทธอยู่ใกล้แค่เอื้อมนิดเดียวเอง มีความสุขเหลือเกินอยุธยา 50 อยุธยา 51แสงยามเย็นเมื่อแดดร่มลมตก อาบไล้ท้องทุ่งและพลูธยา รีสอร์ท ที่พักอุ่นสบายของเราในคืนนี้อยุธยา 52หน้าห้องพักมีคูน้ำและดอกบัวบาน เคียงคู่ทุ่งนาสีเขียวและท้องฟ้ากว้างๆ ไม่มีตึกอะไรมาบดบังเลย โปร่งโล่งสบายดีจัง แถมยังมีเสียงกบเขียดร้องเพลงกล่อมด้วย ฮาฮาฮาอยุธยา 53พลูธยา รีสอร์ท มีที่พักหลายโซน ทั้งริมนา ริมสระ และริมบึง ให้เลือกตามใจชอบเลยจ้าอยุธยา 54ความลงตัวในการผสมผสานความใหม่เก่า จนทำให้พลูธยา รีสอร์ท กลายเป็นที่พักบูติกเล็กๆ ช่วยสร้างมิติใหม่ให้อยุธยาได้มากเลยทีเดียวอยุธยา 55ห้องนอนโซนพักริมน้ำของพลูธยา รีสอร์ท ตกแต่งด้วยสไตล์จีน เน้นสีเหลืองแดงโทนสว่างน่าพักอยุธยา 56จุดเด่นอีกอย่างของพลูธยา รีสอร์ท ที่ ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย ชอบมาก คือมีบริการนวดไทยและสปา ผ่อนคลายกันสุดๆ เลยวันนี้อยุธยา 57และที่ขาดไม่ได้ ทำให้พลูธยา รีสอร์ท ครบเครื่อง คือเมนูอาหารไทยที่เสิร์ฟกันเต็มที่ในมื้อเย็น ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด แกล้มผักต่างๆ, ต้มกะทิสายบัวปลาทู, ผักทอด, แกงเขียวหวานไก่, มัสมั่นไก่ ฯลฯ เป็นกับข้าวแบบไทยๆ ที่ปู่ย่าตายายเรากินกันมานานนม

ทริป ผู้หญิงเที่ยว…อย่าหยุดสวย ของเรายังไม่จบลงเท่านี้ ยังมี ตอน 2 ให้ติดตามกันอย่างเข้มข้นสนุกสนานด้วย อย่าพลาดนะจ๊ะLOGO TATSpecial Thanks : คุณอิสสระพงษ์ แทนศิริ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา (และดูแลพื้นที่จังหวัดสระบุรี) สนับสนุนการเดินทางเป็นอย่างดี สนใจสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-3524-6076-7

ตามรอยพระบาทเขื่อนภูมิพล ตาก ฟังเพลงพระราชนิพนธ์เหนือสันเขื่อน

ตาก 217 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 วันดังกล่าวคือวันสำคัญวันหนึ่ง ซึ่งคนไทยทั้งประเทศควรจดจำ เพราะเป็นวันที่พ่อหลวงของเรา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปเป็นองค์ประทาน ในการเปิด ‘เขื่อนภูมิพล’ หรือ ‘เขื่อนยันฮี’ อย่างเป็นทางการ ถือเป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของเมืองไทย กั้นลำน้ำปิงที่บริเวณเขาแก้ว อำเภอสามเงา จังหวัดตาก เป็นทั้งเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า เขื่อนเพื่อการชลประทาน เพื่อการเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด และปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับต้นๆ ของ ‘เมืองตาก’ ไปแล้ว
ตาก 3ด้วยพระอัจฉริยภาพและสายพระเนตรอันยาวไกล ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เขื่อนภูมิพลแห่งนี้จึงถือกำเนิดขึ้น เป็นเขื่อนที่กักเก็บน้ำได้มากถึง 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร ผลิตกระแสไฟฟ้าให้คนไทยได้กว่า 779.2 เมกกะวัตต์ ถือเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย  และเอเชียอาคเนย์ และใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก เลยทีเดียวตาก 4 ตาก 5ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อเป็นการถวายพระอาลัย และรำลึกถึงพระองค์ท่าน จังหวัดตาก โดย ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนภูมิพล (ท่านผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงร่วมกันจัดงานยิ่งใหญ่ ‘รวมใจภักดิ์ รักพ่อ สานต่อ ปณิธาน’ ระหว่างวันที่ 28-30 มกราคม 2560 อันเป็นช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย
ตาก 6ในยามค่ำของวันที่ 28 มกราคม 2560 มีพิธีแสดงความรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ด้วยการจุดเทียนชัย และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญถวายพระองค์ท่าน พระผู้เป็นที่รักของปวงชนชาวไทย และจะทรงสถิตอยู่ในใจเราตลอดไป
ตาก 7บรรยากาศการจุดเทียนชัย ในงาน ‘รวมใจภักดิ์ รักพ่อ สานต่อ ปณิธาน’ เหนือสันเขื่อนภูมิพล เป็นไปด้วยความซาบซึ้งตรึงใจ บางท่านถึงขนาดน้ำตาคลอด้วยความปลาบปลื้มตาก 8 ตาก 9 ตาก 10ไฮไลท์ของงานนี้ คือการร่วกันรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์ อันแสนไพเราะและซาบซึ้ง จากวงดุริยางค์ทหารเรือ ซึ่งยกทัพนักดนตรีกันมานับร้อยชีวิตตาก 11 ตาก 12ขอบรรเลงเพลงนี้ เพื่อถวายพระองค์ท่าน พระผู้ทรงสถิตอยู่บนสวรรคาลัย
ตาก 13 ตาก 14 ตาก 15นอกจากนี้ ในงานยังมีการแสดงหลายชุด ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันให้ชม ตั้งแต่วันที่ 28-30 มกราคม 2560 ทุกชุดล้วนน่าตื่นตาตื่นใจ และบ่งบอกถึงความรักที่ชาวจังหวัดตาก มีต่อพ่อหลวง และพร้อมสานต่อคำสอนของพระองค์ท่าน ด้วยการทำดีต่อไปไม่สิ้นสุดตาก 16 ตาก 17 ตาก 18เมื่อรับชมดนตรีไพเราะในยามค่ำกันอย่างซาบซึ้งแล้ว ในรุ่งเช้าของวันถัดไป หากใครมีเวลาเหลือ สิ่งที่ห้ามพลาดเด็ดขาดคือ การเดินเที่ยวชมวิวสวยๆ พร้อมกับสูดอากาศสดชื่นเย็นสบายบนสันเขื่อนภูมิพลในยามเช้า มองออกไปจะเห็นทะเลสาบสีฟ้าครามกว้างไกลสุดสายตาเหนือสันเขื่อน พร้อมด้วยเกาะต่างๆ มีเรือและแพนักท่องเที่ยวที่แล่นออกไปหาความสำราญกันได้ทั้ง 365 วันตาก 19บริเวณท่าเรือของเขื่อนภูมิพล มีจุดลงแพและเรือหางยาว เพื่อการล่องเข้าไปเที่ยวชมทัศนียภาพได้ ทั้งแบบสองสามชั่วโมง เป็น One Day Trip หรือจะไปค้างคืนในแพกลางเขื่อนเลยก็ได้ หรือถ้าใครมีเวลามากหน่อย แพสามารถแล่นไปได้จนถึงบริเวณทะเลสาบดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ เลยล่ะตาก 20 ตาก 21 ตาก 22การล่องแพค้างคืนในเขื่อนภูมิพล เป็นกิจกรรมยอดฮิตอย่างหนึ่ง เพราะด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ มองเห็นเทือกเขาโดยรอบ อีกทั้งอากาศเย็นสบายจากผืนน้ำสร้างความชุ่มฉ่ำให้กับจิตใจ เป็นการท่องเที่ยวแบบ Slow Life ที่น่าไปสัมผัสอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่ฟ้าแจ่มใส หรือในฤดูร้อนก็จะผ่อนคลายกายใจได้ดีเยี่ยมตาก 23สำหรับการล่องเรือหางยาวเที่ยว ระยะเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่า การไปเที่ยวที่ ‘เขาหน่อ’ หรือเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนบนสุดเป็นยอดเขาหินปูนตะปุ่มตะป่ำรูปทรงแปลกตา แถมยังมีวัดเขาหน่ออยู่ด้านบนด้วย เห็นแล้ว Amazing ไม่น้อยเลยตาก 24บนเขาหน่อมีพระเจดีย์ขนาดใหญ่อยู่ 3 กลุ่ม พร้อมด้วยรอยพระพุทธบาทจำลองให้ผู้ศรัทธาได้กราบไหว้ตาก 25เดิมบริเวณเขาหน่อตรงนี้ คือจุดที่แม่น้ำปิงสายเดิมเคยไหลผ่าน ก่อนที่จะมีการกั้นลำน้ำเพื่อสร้างเขื่อนภูมิพลจนน้ำเอ่อท้นท่วมขึ้นมาตาก 26เมื่อจอดเรือหางยาวแล้ว ก็ต้องออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อขา เดินขึ้นบันไดชิลชิลแค่ 300 ขั้น ขึ้นสู่ยอดเขาหน่อ ขอบอกว่าไม่ต้องรีบ เพราะเรือหางยาวเขารอแน่นอน ไม่ทิ้งเราไปไหน ค่อยๆ เดิน ค่อยๆ หยุดถ่ายภาพชมวิวไปเป็นระยะๆ และขอแนะนำให้พกน้ำขวดเล็กๆ ขึ้นไปด้วย เพราะบนยอดเขาไม่มีน้ำขายนะจ๊ะตาก 27ถึงแล้ว ยอดเขาหน่อ โชคดีมาเที่ยวในฤดูหนาว จึงมองเห็นต้นไม้ต่างๆ เริ่มผลัดใบสีสันสดใส เพื่อเตรียมพักตัวเข้าฤดูแล้ง จากบนยอดเขานี้สามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำ ผืนป่า ทิวเขา และองค์พระเจดีย์ เรียงรายอยู่ในตำแหน่งสวยงามลงตัว ถ้าไม่เดินขึ้นมาคงเสียดายแย่!ตาก 28จากยอดเขาหน่อ มองลงไปในทะเลสาบเหนือเขื่อนภูมิพล แลเห็นแสงแดดอุ่นๆ ของยามเช้าสะท้อนผิวน้ำเต้นเป็นประกายระยิบ สลับกับริ้วลายคลื่นน้ำไล่โทนสีไปมา ราวกับภาพศิลปะชั้นเลิศตาก 29ความงามของวิวทะเลสาบเขื่อนภูมิพล มองจากยอดเขาหน่อไปทางทิศตะวันตกตาก 30บนยอดเขาหน่อมีทางเดินลาดปูนอย่างดี เชื่อมต่อองค์พระเจดีย์ทั้ง 3 กลุ่ม เข้าด้วยกันตาก 31ตาก 32เสาอโศกบนยอดเขาหน่อ บ่งบอกถึงพระพุทธศาสนาที่ตั้งมั่นอยู่ในดินแดนนี้ และสร้างสิริมงคลแด่เขื่อนภูมิพลตลอดไปตาก 33รอยพระพุทธบาทจำลองบนยอดเขาหน่อ แม้มีขนาดไม่ใหญ่โตนัก แต่ก็งดงาม และสะท้อนถึงความศรัทธาของผู้คนได้เป็นอย่างดีตาก 34หลังจากฟังเพลงพระราชนิพนธ์อันสุดแสนจะไพเราะ และล่องเรือเที่ยวเขื่อนภูมิพลกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางออกเที่ยวชมความมหัศจรรย์อันหลากหลาย ของจังหวัดตากไปที่ ‘อุทยานแห่งชาติไม้กลายเป็นหิน’ อำเภอบ้านตาก อุทยานแห่งชาติใหม่เอี่ยมถอดด้ามของไทย ที่เพิ่งได้รับการยกฐานจะ ‘วนอุทยาน’ มาเป็น ‘อุทยานแห่งชาติ’ เมื่อ 1 ปีที่แล้วนี้เอง โดยความเจ๋งของที่นี่ คือมีการขุดพบซากฟอสซิลต้นไม้กลายเป็นหิน ขนาดยาวที่สุดในเมืองไทยและในโลก! คือซากฟอสซิลคล้ายต้นทองบึ้ง ที่ยาวถึง 72.22 เมตรตาก 35ก่อนไปชมไม้กลายเป็นหินของจริง ก็ควรเข้าไปที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Visitor Center) ก่อน เพื่อศึกษาว่าต้นไม้กลายเป็นหินได้อย่างไร อธิบายง่ายๆ คือ ในบริเวณนี้เมื่อ 800,000 ปีก่อน เคยเป็นป่าดงดิบ แต่เกิดอุทกภัยใหญ่ ต้นไม้เหล่านี้จึงล้มลง แล้วถูกโคลนตะกอนทับถมทันที มันจึงไม่เน่าเปื่อยสลายไป ประกอบกับบริเวณนี้มีมีสารซิลิก้าเข้มข้นอยู่ในดิน สารนี้จึงค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในเนื้อไม้ คือเมื่อซิลิก้าเข้าแทนที่เซลลูโลสหรือเนื้อไม้ ในที่สุดจึงเกิดไม้กลายเป็นหินขึ้น บางต้นอยู่ลึกสภาพจึงสมบูรณ์ ผิดกับบางต้นที่อยู่ใกล้ผิวดิน ก็จะแตกสลายมากกว่าตาก 36หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไม้กลายเป็นหิน นำคณะนักท่องเที่ยวและผู้ศึกษาดูงาน เข้าชมจุดที่ขุดค้นพบซากฟอสซิลไม้กลายเป็นหิน ซึ่งปัจจุบันกรมทรัพยากรธรณีได้เข้ามามีส่วนร่วมบูรณะ จัดภูมิทัศน์ และรักษาสภาพไม้กลายเป็นหินไม่ให้ถูกแดดลมจนเสื่อมสภาพไป ในอนาคตเราหวังว่า อุทยานแห่งชาติไม้กลายเป็นหิน คงจะได้รับการประกาศให้เป็น ‘อุทยานธรณี’ หรือ Geo Park โดยองค์การ UNESCOตาก 37ปัจจุบันนี้มีการขุดค้นและเปิดให้ชมไม้กลายเป็นหินได้แล้ว 7 ต้น เป็นต้นไม้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ ต้นทองบึ้ง และ ต้นมะค่าโมง ในยุคปัจจุบัน โดยทั้งหมดนั้น มีอายุกว่า 800,000 ปี!
ตาก 38ไม้กลายเป็นหินถือเป็นฟอสซิล หรือซากโบราณคดีทางธรณีวิทยาบรรพกาลที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง นับเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติ ที่เราต้องช่วยกันปกปักรักษา และทำให้จุดนี้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาระดับโลกตาก 39ซากฟอสซิลไม้กลายเป็นหิน ต้นนี้คือต้นทองบึ้ง ที่ยาวกว่า 70 เมตรตาก 40จุดชมต้นไม้กลายเป็นหินทั้ง 7 ต้น ที่เปิดให้ชมแล้ว มีการสร้าง Walk Board หรือสะพานไม้ยกระดับเตี้ยๆ เชื่อมต่อถึงกันในต้นที่ 1-4 ผ่านป่าเต็งรังอุดมสมบูรณ์ ได้ศึกษาพรรณมไม้ นก และผีเสื้อสวยๆ หลายชนิด ส่วนไม้กลายเป็นหินต้นที่ 5-7 ต้องนั่งรถยนต์ไปชม เพราะตั้งอยู่ห่างออกไปจากจุดนี้ตาก 41พรรณไม้ในป่าเต็งรังเร่ิมผลัดใบสีสันสดใสในปลายฤดูแล้งตาก 42จากความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ เราลองมาสัมผัสเรื่องราวของประวัติศาสตร์และศาสนากันบ้าง จุดแรกที่แนะนำคือ ‘ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน’ ในอำเภอเมืองตาก ตั้งอยู่ไม่ห่างจากสำนักงาน ททท. สำนักงานตาก มากนัก ศาลแห่งนี้ประชาชนชาวเมืองตากช่วยกันสร้างขึ้นอย่างสมพระเกียรติ ถวายแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระมหากษัตริย์นักรบไทยในสมัยกรุงธนบุรี ผู้ทรงกอบกู้เอกราชไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ให้แก่พม่า ตัวศาลสร้างเป็นทรงไทยยุครัตนโกสินทร์ ภายนอกโดยรอบมีการนำรูปปั้นช้าง ม้า และไก่ จำนวนนับพันๆ ตัว มาถวายสักการะแด่พระองค์ท่านตาก 43ภายในศาล มีรูปหล่อพระบรมรูปของพระองค์ท่านในพระอิริยาบถประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา ที่ฐานพระบรมรูปมีคำจารึกว่า ‘พระเจ้าตากสินกรุงธนบุรี ทรงพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2277 สวรรคต พ.ศ. 2325 รวม 48 พรรษา’ตาก 44ส่วนบนเพดานและผนังภายในศาล มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม แสดงเหตุการณ์สำคัญๆ ในรัชสมัยของพระองค์ท่าน เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณตาก 45สถานที่ต่อไปที่น่าไปเยือนก็คือ ‘วัดชลประทานรังสรรค์’ อำเภอสามเงา เหตุที่ชื่อวัดเป็นอย่างนี้ ก็เพราะสร้างขึ้นโดยกรมชลประทาน คือหลังจากมีการเริ่มสร้างเขื่อนยันฮี (เขื่อนภูมิพล) เมื่อ พ.ศ. 2501 น้ำก็เริ่มเอ่อท่วมบริเวณหมู่บ้านและวัดที่เคยมีชาวบ้านอาศัยอยู่ กรมชลประทานจึงช่วยอพยพชาวบ้านขึ้นมาอยู่ ณ ตำแหน่งปัจจุบัน พร้อมกับสร้างวัดชลประทานรังสรรค์ขึ้น โดยเป็นการรวมเอาวัดที่ถูกน้ำท่วม 8 วัด เข้ามาในวัดเดียวกัน คือ วัดดอนแก้ว, วัดศรีแท่น, วัดหลวง, วัดบ้านท่าเดื่อ, วัดท่าโปร่ง, วัดบ้านห้วย, วัดอมวาบ และวัดพระบรมธาตุลอยตาก 46พระบรมธาตุลอย คือจุดเด่นอย่างหนึ่งของวัดชลประทานรังสรรค์ เพราะเป็นพระเจดีย์สีทองอร่าม น่าเลื่อมใส โดยเป็นพระเจดีย์องค์ใหม่ที่สร้างทับองค์เก่าในแบบล้านนา ให้มีความคล้ายคลึงองค์เก่ามากที่สุด พระเจดีย์องค์นี้ส่วนยอดฉัตรหุ้มทองคำหนักถึง 39 บาท สูง 27.50 เมตร ใช้อิฐในการก่อสร้างทั้งหมด 1,273,400 ก้อน พร้อมกับหุ้มแผ่นทองจังโกไว้อย่างงดงาม นับเป็นอัญมณีชิ้นเอกทางพุทธศาสนาแห่งเมืองตากตาก 47ภายในโบสถ์ของวัดชลประทานรังสรรค์ ประดิษฐาน ‘พระเจ้าทันใจ 3 พี่น้อง’ อันหาได้ยากยิ่งบนแผ่นดินสยาม โดยเฉพาะในด้านความศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อกันกว่าเมื่อไปกราบไหว้ขอสิ่งใดจากท่าน ก็จะได้สิ่งนั้นสมปรารถนาอย่างรวดเร็วดังใจหวัง (แต่ก็ต้องเป็นสิ่งที่ไม่เกินจริงนะ ฮาฮาฮา)ตาก 48พระเจ้าทันใจทั้ง 3 องค์นี้ มีมาตั้งแต่ก่อนสร้างเขื่อนภูมิพลแล้ว หล่อด้วยทองลงหินปางมารวิชัย องค์ใหญ่หน้าตักกว้าง 19 นิ้ว สูง 32 นิ้ว, องค์กลาง หน้าตักกว้าง 16 นิ้ว สูง 31 นิ้ว และองค์เล็กสุด หน้าตักกว้าง 9 นิ้ว สูง 13 นิ้ว ทั้ง 3 องค์เป็นศิลปะแบบเชียงแสนตาก 49จากวัดชลประทานรังสรรค์ เราสามารถนั่งรถต่อไปสู่ ‘วัดพระบรมธาตุ’ ในอำเภอบ้านตากได้อย่างสบาย เพราะถนนหนทางของจังหวัดตากทุกวันนี้เขาดีมากๆ เมื่อได้เห็นความงดงามอลังการของวัดพระบรมธาตุ ถึงกับทำให้ตกตะลึงไปชั่วขณะ ด้วยศิลปกรรมอันงดงามอลังการ จำลองย่อส่วนพระมหาเจดีย์ชเวดากองในพม่ามาไว้บนแผ่นดินสยามได้อย่างสมศักดิ์ศรี ตาก 50

เดิมวัดพระบรมธาตุเป็นเมืองตากเก่า ก่อนที่จะมีการย้ายตัวเมืองไปอยู่ที่ตำบลระแหง (ตัวเมืองตากปัจจุบัน) ซึ่งห่างออกไปทางทิศใต้ราวๆ 30 กิโลเมตร อันมีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีล่องเรือเสด็จไปเมืองลำพูน ทรงหยุดพักบริเวณแห่งนี้ พบว่าเป็นเมืองร้าง ทรงรับสั่งให้ฟื้นฟูบูรณะเมืองนี้ใหม่จนกลายเป็นชุมชนเมืองตาก นอกจากนี้ในบริเวณวัดพระบรมธาตุบ้านตาก ยังมีการขุดพบศิลาจารึพ่อขุนรามคำแหง ที่ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะศึกเจ้าเมืองฉอดบนเนินเขาใกล้กับพระบรมธาตุ ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร ด้วย

ตาก 51เจดีย์ยุทธหัตถีทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ศิลปะสุโขทัยปลายพุทธศตวรรษที่ 19-21
ตาก 52สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงเสด็จมาที่พระเจดีย์แห่งนี้ แล้วทรงมีพระราชวินิจฉัยเบื้องต้นว่า น่าจะเป็นพระเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในการที่พ่อขุนรามคำแหงทรงชนช้างชนะพ่อขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด ตามที่มีเรื่องราวจารึกไว้ในศิลาจารึกสุโขทัย หลักที่ 1
ตาก 53ตระเวนเที่ยวตากกันมาก็หลายที่ ตอนนี้ท้องชักจะเร่ิมหิว ได้เวลาขับรถชิลชิลข้ามแม่น้ำปิงกลับเข้าตัวเมือง พอดีในช่วงปลายฤดูหนาว เมื่อลำน้ำปิงลดระดับลง ก็จะเกิดเกาะกลางน้ำที่เกิดจากตะกอนอันอุดมสมบูรณ์ทับถม แต่ชาวตากเขาทำเก๋ ไม่ปล่อยให้ที่ดินสูญเปล่า ชวนกันเพิ่มคุณค่าด้วยการปลูกดอกไม้สวยๆ บนเกาะกลางน้ำ จนกลายเป็น Landmark น่ารักๆ และ Photo Point มุมมองใหม่เมืองตากวันนี้ตาก 54เกาะดอกไม้กลางน้ำแห่งจังหวัดตาก น่ารักเหลือเกิน!ตาก 55ร้านแรกที่เราจะพาไปชิม ขอบอกว่าต้องถูกใจวันรุ่น GEN Y อย่างแน่นอน ชื่อร้าน ‘เถียงนา’ Coffee and Bakery Farm อยู่ในอำเภอเมืองตาก (โทร. 08-4328-3883, 08-6778-0130)ตาก 56ร้านเถียงนา coffee and Bakery Farm เป็นการผสมผสานความน่ารักเก๋ไก๋ของนาข้าวแบบวิถีไทย, แปลงผักปลอดสารพิษ และความโมเดิร์นของร้านเบเกอร์รี่น่ารักๆ ได้ลงตัวอย่างที่สุดตาก 57ร้านนี้ไม่ได้มีแต่เบเกอร์รี่สไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ ให้ชิมเท่านั้น แต่ยังมีอาหารหลักอร่อยๆ รสชาติไม่ธรรมดาให้ชิมด้วย มีทั้งโซน Outdoor รับลมธรรมชาติ และโซน Indoor ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ ให้นั่งชิลได้นานๆตาก 58ลองชิมครัวซองเนยสด กับครัวซองส้ม ที่เนื้อนุ่มกำลังดี หอมมาก ทานคู่กับช็อกโกแลตร้อนหรือเย็น ส่วนคนที่รักสุขภาพอาจสั่งน้ำแครอทหรือน้ำผักเย็นๆ มาด้วย เข้ากั้นเข้ากัน
ตาก 59เมนูหลักอย่างหนึ่งที่ถือเป็น Signature ของร้านนี้ คือ ข้าวกล้องปลาแซลมอนทอดกระเทียม ราดน้ำยำแบบไทยๆ เป็นเมนู East Meet West ที่อร่อยได้เรื่องเลยล่ะ ฮาฮาฮาตาก 60แต่ถ้าใครอยากอุดหนุนอาหารพื้นบ้านของตาก ก็ต้องไม่พลาดชิมเมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวหมูแดงร้านแม่บางหัวเดียด (โทร. 08-6928-5876) และ ร้านป้ามะลิ (โทร. 08-6737-8157) ตรงถนนเส้นเลียบแม่น้ำปิง ในอำเภอเมืองตาก โดยทั้งสองร้านนี้เป็นร้านเก่าร้านดัง ลักษณะเป็นก๋วยเตี๋ยวโบราณ ที่ใส่เครื่องเยอะ โดยเฉพาะหมูสับ กากหมู ถั่วงอก ถั่วฝักยาว และหมูแดง ส่วนเส้นก็มีครบทุกแบบให้ชิม ถ้าใครสั่งต้มยำจะได้ชิมความเข้มข้นของน้ำที่ซดคล่องคอ นั่งชิมไปมองสายน้ำปิงไหลเอื่อยๆ แหม มีความสุขเกินร้อยจริงๆ ครับ มาเที่ยวตากทริปนี้LOGO TATSpecial Thanks : ขอขอบคุณ คุณธมลวรรณ เรืองขจร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตาก สนับสนุนการเดินทางไปจัดทำสารคดีเรื่องนี้อย่างดียิ่ง สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานตาก โทร. 0-5551-4341 -3

ไหว้พระ ๙ วัด ร่วมอนุรักษ์มรดกไทย รับสงกรานต์กับ ททท.

_IND6659

เมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้นำทีมสื่อมวลชน ร่วมแต่งกายแบบไทย “ไหว้พระ ๙ วัด” ซึ่งเป็นพระอารามหลวงในเขตรอบเกาะรัตนโกสินทร์ อันสวยงามทรงคุณค่า ถือเป็นวันอนุรักษ์มรดกไทย ในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และขอเชิญชวนชาวไทยร่วมแต่งกายแบบไทย เที่ยวสงกรานต์และไหว้พระขอพรรับวันปีใหม่ไทยเพื่อความเป็นสิริมงคล

โดยผู้ที่สนใจ สามารถเดินทางไหว้พระ ๙ วัด ตามเส้นทางนี้ได้ด้วยตัวเอง ร่วมกิจกรรมไหว้พระขอพร ๙ พระอารามหลวงรอบเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ กทม. ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๕ เมษายน ๒๕๕๘ แนะนำว่าให้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะและเรือจะสะดวกที่สุด และไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถอีกด้วย ที่สำคัญอย่าลืมพกร่ม หมวก และน้ำติดตัวไปด้วย

1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) คติ “เพื่อให้จิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย”

วัดพระแก้ว 1วัดพระแก้ว 2 วัดพระแก้ว 3

_IND6666 _IND6829

Wat 4

 2. วัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) คติ “เพื่อให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข”

วัดโพธิ์ 1 วัดโพธิ์ 2 IslBG

_IND6708

3. วัดสุทัศน์เทพวราราม คติ “เพื่อให้มีวิสันทัศน์กว้างไกล”

วัดสุทัศน์ 1

Wat 1

วัดสุทัศน์ 2วัดสุทัศน์ 3วัดสุทัศน์ 4

 4. วัดสระเกศ (วัดภูเขาทอง) คติ “เพื่อเสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล”

ภูเขาทอง 1

ภูเขาทอง 2

5. วัดบวรนิเวศวิหาร คติ “เพื่อให้พบแต่สิ่งดีงาม”

วัดบวร 1

 

วัดบวร 2วัดบวร 3วัดบวร 4วัดบวร 5วัดบวร 6วัดบวร 7

 6. วัดชนะสงคราม คติ “เพื่อให้มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง” 

วัดชนะสงคราม 1

 

วัดชนะสงคราม 2วัดชนะสงคราม 3_IND6740 _IND6747_IND6731 _IND6733_IND6756_IND6858_IND6885

 7. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร คติ “เพื่อให้เดินทางปลอดภัย มีมิตรไมตรีที่ดี”

วัดกัลยาณมิตร 1

วัดกัลยาณมิตร 2

Wat 2

วัดกัลยาณมิตร 3

8. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) คติ “เพื่อให้ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน”

วัดอรุณ 1 วัดอรุณ 2

 9. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร (วัดระฆัง) คติ “เพื่อให้มีชื่อเสียงโด่งดัง ผู้คนนิยมชมชอบ”

วัดระฆัง 1

วัดระฆัง 2วัดระฆัง 3วัดระฆัง 4

Wat 3

วัดระฆัง 5วัดระฆัง 6

 

More info : ททท. กองตลาดภาคกลาง โทร. 0-2250-5500 ต่อ 1333, 1335, 1336, 1337, 1342

หรือดูรายละเอียด มหาสงกรานต์ภาคกลาง 19 จังหวัด ได้ที่ www.เที่ยวภาคกลาง.com

The Bloom อาณาจักรกล้วยไม้บาน 365 วัน! จ.ราชบุรี

B2 B3

 The Blooms Orchid Park แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดราชบุรี สวรรค์ของคนรักกล้วยไม้และธรรมชาติ ในบรรยากาศสวนสวยร่มรื่น เนื้อที่กว่า 100 ไร่! ในเขตอำเภอบางแพ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุง ที่เที่ยวง่าย ได้ความสืดชื่น ส่วนคนที่ชอบถ่ายภาพ ขอบอกว่าอยู่ที่นี่ได้เป็นวันๆ ไม่เบื่อ เพราะเขามีมุมถ่ายภาพเซลฟี่สวยๆ นับไม่ถ้วน!

B4

 ความพิเศษสุดของสวนกล้วยไม้ The Blooms ก็คือ จะมีกล้วยไม้นับร้อยสายพันธุ์ หมุนเวียนเบ่งบานให้ชมตลอด 365 วัน! เรียกง่ายๆ ว่าเป็นดินแดนดอกไม้บานตลอดปีนั่นเอง ไปเที่ยวเมื่อไหร่ไม่ผิดหวังแน่นอน

B5

ฟ้ามุ่ย เป็นกล้วยไม้ในสกุล Vanda ที่สวยงามและหายาก อีกทัง้ยังเป็นพืชอนุรักษ์ตามอนุสัญญา CITES บัญชีที่ 1 อีกด้วย ลักษณะเป็นกล้วยไม้อิงอาศัย คือเกาะติดอยู่กับต้นไม้ใหญ่ ตามธรรมชาติออกดอกช่วงเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม เมืองไทยพบมากทางภาคเหนือ แต่ทุกวันนี้สามารถเพาะพันธุ์ปลูกเลี้ยงกันได้แล้ว

B6

B7

 บอกไม่ถูกเลยนะ ว่าระหว่างคนกับดอกไม้ อะไรจะงามกว่ากัน? ฮาฮาฮา สรุปงามทั้งคู่

B8

เดินเที่ยวชมสวนไป เซลฟี่ไป สุขใจจะจริงๆ เลยนะสาวๆ

B9

 สวนกล้วยไม้ของ The Blooms เป็นการจัดสวนและ Landscape อย่างพิถีพิถัน ให้ดูเหมือนป่าธรรมชาติ โดยนำกล้วยไม้สายพันธุ์ต่างๆ นับร้อยพันธุ์ ทั้งลูกผสมและธรรมชาติ ไปเกาะเกี่ยวไว้กับต้นไม้ใหญ่ เวลาเดินเข้าไปชมจึงรู้สึกว่าเราถูกโอบล้อมด้วยอ้อมกอดของป่าดงพงไพรเขียวขจีร่มรื่นจริงๆ กล้วยไม้เด่นๆ ของเขา มีทั้งสกุลหวาย, สกุลช้าง อย่างช้างแดง ช้างกระ, ไอยเรศ, เอื้องต่างๆ และยังมีเพชรหึง (ว่านหางช้าง) กล้วยไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกให้ชมกันด้วยล่ะ

B11

 หวายแดง กล้วยไม้สกุล Renanthera ที่สวยงามและหายากของไทย ตามธรรมชาติพบมากทางภาคเหนือ อีสาน และตะวันออก ในป่าดิบชื้นที่ไม่สูงจากระดับน้ำทะเลมากนัก ที่เห็นในรูปเป็นพันธุ์ลูกผสม (Hybrid)

B12

 กล้วยไม้พวกหวาย หรือสกุล Dendrobium มักจะมีลักษณะกลีบเรียวยาวปลายแหลม สีสันสดใส และบานทนนาน เป็นเอกลักษณ์

B13B14B15

B16B17B18B19 B20B21B22B23B24B25B26 B27B28 B29

B30

B31B32B33

B34B35B36

B37

 เหลืองพิศมร เป็นกล้วยไม้ดินสกุล Spathohlottis สีสันสดใส ที่ออกดอกในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม

B38B39

 เอื้องเข็มแดง และเอื้องเข็มแสดพันธุ์ลูกผสม

B40

 เอื้องเข็มแสด กล้วยไม้สกุล Ascocentrum ที่มีช่อตั้งขนาดใหญ่สวยงาม แถมยังบานทนนานเป็นสัปดาห์ จึงนิยมเพาะเลี้ยงไว้ดูกันเล่น หรือเป็นกล้วยไม้ตัดดอกขายราคาเยี่ยม

B41B42

 หวายแดงลูกผสม

B43B44

B45

 ช้างกระ กล้วยไม้ในสกุล Rhynchostylis ช่อใหญ่ อวบอ้วน ดอกบานอยู่ได้นาน เป็นที่นิยมปลูกเลี้ยงของคนรักกล้วยไม้ทั่วไป

B46

Travel Guide

Address : บริษัท เดอะบลูมส์ ออร์คิดปาร์ค จำกัด (The Blooms Orchid Park) เลขที่ 65 หมู่ 7 ตำบลวัดแก้ว อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี 70160

How to go : การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนเพชรเกษม ผ่านจังหวัดนครปฐม ตรงผ่านสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี ข้ามสี่แยกบางแพ ตรงมาทางราชบุรีประมาณ 4 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายที่คลองชลประทาน หลัก กม.84+380 ม. ตรงมาประมาณ 4 กิโลเมตร The Blooms Orchid Park อยู่ทางขวา  ส่วนการเดินทางมาจากอำเภอดำเนินสะดวก ใช้ถนนสายดำเนินสะดวก-บางแพ ผ่านวัดหลวงพ่อสด มาถึงแยกหัวโพ เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 3 กิโลเมตร จนถึงคลองชลประทาน จากนั้นเลี้ยวขวา วิ่งเลียบคลองชลประทานไป 2 กิโลเมตร จนถึงทางเข้า The Blooms Orchid Park มีลานจอดรถด้านหน้าสะดวก กว้างขวาง

Office Hour : เปิด จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-17.30 น.

Entrance Fee : ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40 บาท

Contact : โทร. 08-7111-4436, 08-6111-0084 / www.thebloomsorchidpark.com

สดชื่นสดใสวันดอกไม้บาน แก่นมะกรูด จ.อุทัยธานี

ชาธร 2

 ใครว่าภาคกลางไม่หนาว! ขอเถึยง โดยเฉพาะต้นปีนี้อากาศหนาวจัดไม่ใช่เล่น ใครแวะไปแถบอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี คงมีโอกาสได้ชมสีสันพรรณไม้เมืองหนาวเบ่งบานละลานตา ที่ตำบลแก่นมะกรูด โดยเฉพาะดอกลิลลี่และดอกทิวลิป ซึ่งสั่งตรงเข้ามาจากเนเธอร์แลนด์ ให้ได้ชมกันเฉพาะฤดูหนาวนี้ ประมาณปลายเดือนธันวาคม ถึงปลายเดือนมกราคม เท่านั้น

ชาธร 3

 

 

 

 

 

 

 

ชาธร 4 ชาธร 5

ดอกลิลลี่ที่แปลงดอกไม้เมืองหนาวแก่นมะกรูด มีทั้งสีส้ม สีเหลือง และสีขาว เวลาไปอยู่ใกล้ๆ จะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ชื่นใจ แต่ของสวยแบบนี้ ดูแต่ตามืออย่าต้องเป็นดีที่สุด เก็บความงามไว้ให้คนอื่นได้ชื่นชมด้วย

ชาธร 6 ชาธร 7

ชาธร 9

 อากาศที่เย็นฉ่ำตลอดปีของแก่นมะกรูด ทำให้เกษตรชาวปกากะญอของที่นี่ สามารถปลูกสตรอว์เบอร์รี่ได้ โดยมีการนำพันธุ์มาจากจังหวัดเชียงใหม่ แต่ด้วยวิธีการปลูกและดูแลแบบธรรมชาติ ไม่ฉีดยาฆ่าแมลง ประกอบกับดินภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ ทำให้สตรอว์เบอร์รี่แก่นมะกรูดมีรสชาติหวานชื่นใจ แม้จะเพิ่งปลูกมาแค่ไม่ถึง 3 ปี แต่ผลผลิตดีเยี่ยม ได้รับความนิยมอย่างสูง จนปลูกขายไม่ทันความต้องการลูกค้าในปัจจุบัน!!!

ชาธร 10

ชาธร 11

 แปลงสตรอว์เบอร์รี่อยู่ที่ หมู่ 1 บ้านใต้ ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ปัจจุบันแปลงนี้มีเนื้อที่ 2 ไร่ และแน่นนอนว่ากำลังขยายเพิ่มเติมกับความต้องการของนักท่องเที่ยว ที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด!

ชาธร 12

 สาวๆ ถ่ายรูปสวยๆ กับแปลงสตรอว์เบอร์รี่แก่นมะกรูด ท่ามกลางอากาศเย็นฉ่ำในช่วงฤดูหนาว เดินทางก็ง่าย เพราะอยู่ไม่ไกลจากแปลงดอกไม้เมืองหนาว

ชาธร 13

 เยอเอ๊เนอ เป็นภาษาปกากะญอ (กะเหรี่ยง) แปลว่า I Love You หรือฉันรักเธอ ใครอยากบอกรักกัน แต่ไม่กล้า ลองซื้อเสื้อตัวนี้ไปเป็นตัวแทนความรู้สึกดีๆ ก็ได้นะ

ชาธร 14

 จูงมือกันไปเซลฟี่ ท่ามกลางแปลงดอกไม้เบ่งบานละลานตา ฮาฮาฮา

ชาธร 15ชาธร 16ชาธร 17

ชาธร 18

 สาวสวยย่อมต้องคู่กับดอกไม้งาม เป็นเรื่องธรรมดา

ชาธร 19ชาธร 20ชาธร 22

ชาธร 23

 นอกจากแก่นมะกรูดจะโดดเด่นด้วยดอกลิลลี่แล้ว จริงๆ ยังมีดอกทิวลิป ที่แต่ละปีจะสั่งตรงเข้ามาจากเนเธอร์แลนด์นับพันๆ หัว และมีดอกไม้เมืองหนาวอีกหลายสิบชนิดเบ่งบานพร้อมๆ กัน ได้ไปสัมผัสแล้วสดชื่นมากๆ เหมือนการช๊าตพลังชีวิตในช่วงปีใหม่เลย

ชาธร 4.1

ชาธร 24

ชาธร 25ชาธร 26

 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ททท. สำนักงานอุทัยธานี-นครสวรรค์ โทร. 0-5651-4651-2

หรือที่ “ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 73” แปลงเรียนรู้เกษตรพอเพียงบนที่สูง ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี

สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านไร่ 0-5653-9117 , คุณวิโรจน์  08-3036-0943

เที่ยวเมืองปากน้ำสุขใจ ในสายลมหนาว

B2

เมื่อสายลมหนาวโบกโบยมาทีไร ชวนให้นึกถึงการท่องเที่ยวขึ้นดอยดูทะเลหมอกทางภาคเหนือ แต่นั่นคงต้องใช้เวลาและงบประมาณไม่น้อยในการเดินทาง ทริปนี้เลยอยากพาพวกเราไปเที่ยวง่ายๆ ใกล้ๆ กรุง รับลมหนาว รับรองว่าเป็นการเที่ยวแบบประหยัด และใช้เวลาแค่วันเดียวก็ Happy แล้ว เส้นทางนี้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ชวนกันขับรถสบายๆ ไปพร้อมกันได้ทั้งครอบครัว แบ่งปันความสุขให้เต็มอิ่ม กับ เมืองปากน้ำสมุทรปราการ เมืองที่สายน้ำจืดของเจ้าพระยา มาบรรจบพบกับน้ำเค็มของอ่าวไทย หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน สร้างสรรค์ที่เที่ยวมากมายไว้ให้เราสัมผัส

B3

 เริ่มต้นกันที่ “สถานตากอากาศบางปู” ชายทะเลใกล้กรุงอันแสนคลาสสิก เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเขตทหารที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าสัมผัสได้ตลอดปี แต่สวยสุดต้องฤดูหนาว เพราะอากาศเย็นสบาย แถมมีนกนางนวลอพยพนับหมื่นตัว

B4

 พระอาทิตย์อัสดงที่ชายทะเลบางปู ในช่วงฤดูหนาวจะเห็นพระอาทิตย์เป็นดวงกลมโตสีแดงแบบนี้ล่ะ น่ามหัศจรรย์จริงๆ เลย!

B5 B6

ฝูงนกนางนวลเริงร่าท้าลมหนาว พากันมารวมฝูงรับแสงสุดท้ายของวัน พวกมันคือนกนางนวลที่น่ารักน่าชังจริงๆ

B7 B8 B9B10

 รัศมีแสงสุดท้ายของอาทิตย์ยามอัสดง อาบทาผืนฟ้าที่บางปูงามราวสรวงสวรรค์! ไม่ได้ไปเห็นกับตาคงไม่เชื่อ ว่าจริงๆ แล้วอยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่นิดเดียวนะเนี่ย

 B11

 เสน่ห์ของบางปูเป็นเช่นนี้มาหลายสิบปีไม่เคยเปลี่ยน เพราะเมื่อสายลมหนาวมาเยือน ทั้งฝูงนกนางนวลและผู้คน ต่างก็มารวมกัน ณ สถานที่นี้ “บางปู”

B12

 มาบางปูไม่ได้มีแค่นกนางนวลให้ชมอย่างเดียว แต่ยังมีร้านอาหารทะเลชายน้ำ ชื่อ “ศาลาสุขใจ” ลองไปชิมอาหารทะเลสดอร่อย ในราคาจ่ายสบาย แถมยังมีจุดเปิดโล่งให้ชมทะเลอย่างเต็มอิ่มด้วย

B13

 ฝูงนกนางนวลหางดำ ลอยน้ำรอรับอาหารจากนักท่องเที่ยว

B14

 อิริยาบทอันแสนน่ารักของนกนางนวลหางดำที่บางปู

B15

 จะว่าไปแล้ว นกนางนวลที่บางปูอาจเป็นนกที่ถ่ายรูปได้ง่ายที่สุดในโลก! ฮาฮาฮา เพราะมันคุ้นคน บินโฉบไปโฉบมาแบบใกล้ๆ เลย ถ่ายรูปง่าย ใช้เลนส์และกล้องธรรมดาก็ได้รูปสวยๆ แบบนี้มาอวดกันแล้วล่ะ

B16

 นกนางนวลหางดำ (Black-tailed Gull) เป็นฝูงนกอพยพที่มีจำนวนมากที่สุดของบางปู ทุกปีมันจะอพยพหนีหนาวจากตอนเหนือของโลก มาหากินและผสมพันธุ์กันในเมืองไทย ช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม

B17B18

 บางปูมีบริการรถตุ๊กๆ พานักท่องเที่ยวเข้าไปใน สะพานสุขตา ยื่นยาวออกไปในทะเล เป็นจุดที่ยืมชมและให้อาหารนกนางนวลได้อย่างใกล้ชิดสุดๆ

B19

B20

 จากบางปู ขับรถต่อไปที่ “ป้อมพระจุลจอมเกล้า” สถานที่ท่องเที่ยวริมทะเลเมืองปากน้ำ ซึ่งไทยเคยใช้เป็นหน้าด่านป้องกันเรือรบข้าศึกที่จะเข้ามาโจมตีพระนคร

B21

 เรือรบหลวงแม่กลอง หลังปลดประจำการแล้ว ก็ได้รับการนำขึ้นมาตั้งเป็นอนุสรณ์และพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ขึ้นไปชมได้อย่างใกล้ชิด แถมใกล้ๆ กันนั้น ยังมี ร้านอาหารท้ายเรือหลวงแม่กลอง ให้ไปชิมกันได้ทุกวัน

B22

 ป้อมปืนเสือหมอบ เป็นปืนใหญ่โบราณสมัยรัชกาลที่ 5 มีลักษณะพิเศษคือเวลายิง ปืนจะยกตัวขึ้นเหมือนคนยืน แต่พอยิงเสร็จปืนก็จะลดระดับลงมาแอบอยู่ในหลุมใต้ดิน! ปืนนี้เคยใช้ยิงต่อสู้กับเรือรบฝรั่งเศส ที่เข้าปิดปากน้ำเจ้าพระยา ในช่วงวิกฤตการณ์ รศ.112 เพื่อบีบบังคับให้ไทยยกดินแดนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำโขงให้ จนในที่สุดไทยก็ต้องยอม เพราะช่วงเวลานั้นฝรั่งเศสถือเป็นมหาอำนาจนักล่าอาณานิคมที่มีอำนาจมาก!

B23.1

 ภายในป้อมพระจุลจอมเกล้า ใกล้กับเรือรบหลวงแม่กลอง มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน เป็นสะพานไม้ยกระดับอย่างดี พร้อมรากวันตก และมีป้ายสื่อความหมายให้ความรู้เรื่องพืชพรรณต่างๆ เหมาะจะพาครอบครัว โดยเฉพาะเด็กๆ ไปสัมผัสธรรมชาติกันบ้าง

B23

 พิพิธภัณธ์ราชนาวี ที่สมุทรปราการ เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการประวัติความเป็นมาของราชนาวีไทย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทั้งส่วนจัดแสดงกลางแจ้งและในร่ม ไฮไลท์อยู่ที่โมเดลแสดงขบวนเรือพระราชพิธี เสด็จพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งโมเดลเรือแต่ละลำนั้น สร้างย่อส่วนมาได้สมจริง และมีรายละเอียดสวยงามมากๆ นิทรรศการที่น่าสนใจ เช่น เรือรบหลวงพระร่วง ในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งชาวไทยช่วยกันเรี่ยรายบริจาคเงินซื้อ จำนวน 3,514,604 บาท 1 สตางค์ ในปี พ.ศ. 2463 เป็นต้น

B24B25

 ไม่บอกไม่รู้! นี่คือห้องสะพานเดินเรือของ “เรือดำน้ำมัจฉานุ” 1 ใน 4 เรือดำน้ำของไทย ในช่วงปี พ.ศ. 2481-2494

B26

 ดูกันชัดๆ นี่ล่ะ เครื่องบินน้ำของจริง ที่ราชนาวีไทยเคยใช้ในกิจการงานป้องกันประเทศมาแล้ว

B27

 พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ Landmark สำคัญของสมุทรปราการ มหัศจรรย์แหล่งท่องเที่ยวของเอเชียอาคเนย์ เป็นประติมากรรมลอยตัวรูปช้างเอราวัณสามเศียรขนาดยักษ์ สูงถึง 43.60 เมตร! สร้างด้วยแผ่นทองแดงนำมาตีต่อกัน ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นประติมากรรมช้างทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก! สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจของ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ (ผู้สร้างเมืองโบราณ) เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้พุทธศาสนา ผ่านทางประณีตศิลป์ วิจิตรศิลป์ และสถาปัตกยกรรมไม่เหมือนใคร ได้ไปเห็นกับตาแล้วต้องอึ้งทึ่งในความใหญ่โตมโหฬารงดงามสุดๆ

B28

 “พระสมุทรเจดีย์” ศูนย์รวมศรัทธาคนปากน้ำ และยังเป็นตราสัญลักษณ์ของจังหวัดสมุทรปราการด้วย พระสุทรเจดีย์เริ่มสร้างสมัยรัชกาลที่ 2 เสร็จสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์จุดสังเกตของคนเรือพ่อค้าวาณิชย์ที่ล่องสำเภามาค้าขายกับสยาม เมื่อมองจากอ่าวไทยเข้ามาเห็นพระสมุทรเจดีย์ (ซึ่งในอดีตอยู่บนเกาะกลางน้ำ แต่ปัจจุบันมีดินเลนงอกเข้าไปเชื่อม จนกลายเป็นแผ่นดินเดียวกัน) ก็จะรู้ว่ามาถึงสยามแล้ว

B29

 “หลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่ใน” อันศักดิ์สิทธิ์ และขึ้นชื่อที่สุดในจังหวัดสมุทรปราการ ท่านเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีทองอร่าม งดงามและเก่าแก่มาก หลวงพ่อโตองค์นี้เป็น 1 ใน 3 พระพุทธรูปที่ชาวอยุธยาล่องหนีพม่าลงมาตามน้ำ เมื่อ 200 กว่าปีก่อน โดยแต่ละองค์ได้ไปหยุดอยู่ ณ ที่ต่างๆ กันคือ หลวงพ่อบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม, หลวงพ่อโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา และหลวงพ่อโต จังหวัดสมุทรปราการ ได้กราบแล้วเป็นมงคลแก่ชีวิตอย่างยิ่ง

B30.1

 กราบหลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่ในเสร็จแล้ว เดินไปใกล้ๆ ก็ถึง “ตลาดโบราณ 100 ปี บางพลีใหญ่ใน” ตลาดเก่าแก่ริมน้ำ มีทางเดินเชื่อมต่อถึงกันขนานไปกับริมลำคลอง อิ่มเอมกับบรรยากาศน่ารักๆ โหยหาอดีต รอยยิ้มของผู้คน ของกินอร่อย และมีสินค้าย้อนยุคที่ชวนให้นึกถึงตอนเราเป็นเด็ก

IslBG

 “เมืองโบราณ” ของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ จำลองแบบสถานที่สำคัญของไทย 4 ภาค ด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรบรรจงภายในเนื้อที่กว่า 800 ไร่ เราจะได้ชมพระที่นั่งสรรเพชญมหาปราสาท ซึ่งจำลองมาจากกรุงศรีอยุธยาก่อนถูกพม่าเผา ชมปราสาทเขาพระวิหารจำลอง และอีกมากมาย ถ่ายรูปกันมันส์ แต่ที่นี่เขาห้ามเอาขาตั้งกล้องเข้าไปนะจ๊ะ

B31

 “ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ” ฟาร์มจระเข้ใหญ่ที่สุดในโลก! เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2493 จนมีจระเข้เลี้ยงอยู่กว่า 100,000 ตัว! ชมการแสดงสุดระทึก น่าตื่นเต้น ระหว่างคนกับจระเข้ แถมยังมีสวนสัตว์นานาชนิดให้ชม ได้ความรู้ไปพร้อมๆ กัน

B32

B33

 ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ไม่ได้มีแต่จระเข้ให้ชมอย่างเดียว แต่ยังมี ละครลิงสนุกๆ ให้ฮากันเต็มที่จนท้องแข็ง ทั้งแสนรู้ ทั้งน่ารัก

B34

 เที่ยวกันมาเต็มอิ่มแล้ว ก่อนกลับบ้านแวะซื้อของฝากเจ๋งๆ กันสักนิด ปลาสลิดบางบ่อ เป็นปลาสลิดตากแห้งที่มีคุณภาพและขึ้นชื่อว่าอร่อย เพราะเนื้อแน่น รสไม่เค็มจัด มีขายทั้งแบบตากแห้งและที่ทอดเสร็จแล้วบรรจุเป็นกล่องๆ นำมากินกับข้าวต้มข้าวสวยร้อนๆ ได้เข้ากันดีจิรงๆ หาซื้อได้ทั่วไปตามริมถนนสุขุมวิท รวมถึงอำเภอบางบ่อ และตลาดปากน้ำสมุทรปราการ

 

 

B35

แส้ปัดยุงไม้บงจาก เป็นหัตถกรรมโบราณที่กำลังจะสูญหายไปจากเมืองสมุทรปราการ เพราะเหลือผู้ผลิตอยู่แค่ไม่กี่ราย ลักษณะเป็นแส้ไม้ปัดยุงปัดแมลงเหมือนแส้ ทำจากก้านต้นจาก (บงจาก) นำมาตีให้แบนแล้วใช้แปรงลวดสางจนเป็นเส้นฝอยละเอียด หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องจักสานที่ตลาดปากน้ำสมุทรปราการ หรือโทรติดต่อกลุ่มผู้ผลิต โทร. 08-6615-3857, 08-6773-0695 เหตุที่มีแส้ไม้ปัดยุงขายในสมุทรปราการมานานโขก็เพราะ สมัยกรุงศรีอยุธยา พ่อค้าที่ล่องเรือผ่านปากน้ำเข้ามาต้องผ่านป่าชายเลนแน่นทึบ มีบันทึกว่ายุงที่นี่ตัวใหญ่ กัดเจ็บ สามารถกัดทะลุเสื้อผ้าได้! จึงมีการคิดทำแส้ไม้ปัดยุงบงจากขึ้น และใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน

B36

 เที่ยวเมืองปากน้ำ ก็ต้องไม่พลาดชิม Seafood อร่อย ที่ ศาลาสุขใจ สถานตากอากาศบางปู เมนูแนะนำ เช่น กุ้งเผา, กุ้งอบวุ้นเส้น, หมึกไข่นึ่งมะนาว, หอยหลอดผัดฉ่า, ปลากะพงทอดราดน้ำปลา ฯลฯ และอื่นๆ อีกมากมาย

B37B38

 สมุทรปราการ Guide

How to go : รถยนต์ ใช้ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) และทางหลวงหมายเลข 303 (ถนนสุขสวัสดิ์) ระยะทางประมาณ 29 กิโลเมตร เข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดสมุทรปราการได้เลย จากนั้นถ้าจะไปดูนกนางนวลบางปู (มีเฉพาะฤดูหนาว) จากสามแยกสมุทรปราการ เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ประมาณหลัก กม. 37 กลับรถ ทางเข้าสถานตากอากาศบางปูจะอยู่ริมถนนซ้ายมือ มีที่จอดรถจำนวนมาก

Where to stay : ถึงแม้สมุทรปราการจะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่นิดเดียว แต่ถ้าอยากจะค้างคืนก็ได้ แนะนำ สถานตากอากาศบางปู กรมพลาธิการทหารบก มีที่พักเป็นบังกะโลสำหรับนักท่องเที่ยว โทร. 0-232-39911, 0-323-9530 ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาวควรโทรจองล่วงหน้า เพราะมีจำนวนจำกัด

More info : ททท. สำนักงานสมุทรปราการ โทร. 0-2250-5500 ต่อ 2991-5 / พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ โทร. 0-2371-3135-6 / ป้อมพระจุลฯ โทร. 0-2475-6109 / พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ โทร. 0-2394-1997, 0-2475-3808 / เมืองโบราณ โทร. 0-2323-4094-9 / ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ โทร. 0-2703-4891-95

ชวน “เที่ยวรับ-ส่งตะวัน” 19 จังหวัดภาคกลาง

ททท.ภูมิภาคภาคกลาง จัด THEME ส่งท้ายปี  “เที่ยวรับ-ส่งตะวัน” 19 จังหวัดภาคกลาง ชวนเที่ยว/ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ในมุมที่สุดแสนจะโรแมนติก พร้อมรับลมหนาว ในแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ทั้ง 19 จังหวัดภาคกลาง ส่งท้ายปีกัน….

มีที่ไหนบ้างเตรียมหาข้อมูลวางแผนกันเล้ยยย!!!

 

จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น-พระอาทิตย์ตก 19 จังหวัดภาคกลาง

1. กรุงเทพมหานคร  ขึ้น ใบหยก / Sky walk ช่องนนทรี  ตก วัดอรุณราชวราราม / ชายทะเลบางขุนเทียน

2. สมุทรปราการ ขึ้น บางปู  ตก เมืองโบราณ (เขาพระวิหาร)

3.นนทบุรี ขึ้น สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์  ตก ท่าน้ำนนทบุรี / สวนเฉลิมพระเกียรติ

4. ปทุมธานี ขึ้น หออัครศิลปิน ตก พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ / ริมแม่น้ำเจ้าพระยา @ สามโคก

5. ฉะเชิงเทรา ขึ้น อ่างเก็บน้ำคลองสียัด ตก จุดชมโลมา-ท่าข้าม @ บางปะกง / เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน

6. นครปฐม ขึ้น พระปฐมเจดีย์ ตก พุทธมณฑล

7. สมุทรสาคร ขึ้น นาเกลือ @ พระราม 2 ตก ปากน้ำท่าจีน @ เขื่อนริมศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทร

8. สมุทรสงคราม ขึ้น อัมพวา ตก ดอนหอยหลอด

9. ราชบุรี ขึ้น เขากระโจม @ สวนผึ้ง  ตก เขาห้วยคอกหมู @ สวนผึ้ง

10. เพชรบุรี  ขึ้น บางกระบูน / หาดเจ้าสำราญ / หาดชะอำ  ตก พะเนินทุ่ง / สันเขื่อนแก่งกระจาน

11. ประจวบคีรีขันธ์  ขึ้น ทะเลหัวหิน / ศาลเจ้าแม่ทับทิม ปากน้ำปราณบุรี ชายหาดปราณบุรีและเขากะโหลก / อ่าวประจวบ / เขาช่องกระจก / หาดสามร้อยยอด / หาดทับสะแก / หาดบ้านกรูด / หาดฝั่งแดง@บางสะพานน้อย / พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ / เขาหินเหล็กไฟ  ตก เขาหินเหล็กไฟ / อ่าวประจวบ /ศาลเจ้าแม่ทับทิมทอง / พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ / เขาเรดาร์ @ บางสะพานน้อย / ปากน้ำปราณ

12. กาญจนบุรี  ขึ้น สะพานข้ามแม่น้ำแคว  ตก เขาช้างเผือก-ทองผาภูมิ / สะพานมอญ-สังขละบุรี

DSC_2431

13. พระนครศรีอยุธยา  ขึ้น วัดไชยวัฒนาราม ตก ทุ่งมะขามหย่อง / วัดพระศรีสรรญเพชญ / เศียรพระในต้นไม้@วัดมหาธาตุ

14. ชัยนาท  ขึ้น กลางแม่น้ำเจ้าพระยา @ หน้าวัดธรรมามูล  ตก ยอดเขาพลอง

15. อ่างทอง  ขึ้น วัดขุนอินทประมูล  ตก วัดม่วง

16. สุพรรณบุรี  ขึ้น ยอดเขาทำเทียม @ อู่ทอง  ตก เขื่อนกระเสียว / อุทยานมังกรสวรรค์

17. สิงห์บุรี  ขึ้น อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน  ตก วัดพิกุลทอง

18. สระบุรี  ขึ้น วัดป่าสว่างบุญ (เจดีย์ 500)  ตก ศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า / ทุ่งหญ้าฟาร์มโคนมหมวกเหล็กเดนมาร์ก@หมวกเหล็ก

19. ลพบุรี  ขึ้น ทุ่งทานตะวัน  ตก เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

_BAL5351

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.ภูมิภาคกลาง โทร 0-2250-5500    www.เที่ยวภาคกลาง.com

อึ้ง ทึ่ง เสียว กับที่สุดสวนน้ำระดับโลก Vana Nava Hua Hin

ไปหัวหินครั้งหน้าต้องแวะไปเช็กอิน เล่นน้ำที่นี่ซะหน่อยแล้ว!!  Vana Nava Hua Hin (วานา นาวา หัวหิน) สวนน้ำระดับโลก คอนเซ็ปต์  “Water Jungle” แห่งแรกในเอเซีย ของบ.พราว เรียลเอสเตท บริหารงานโดยคุณพราวพุธ ลิปตพัลลภ ยกเอาเครื่องเล่นสุดมันและหวาดเสียวกระชากอะดรีนาลีนมาให้คนไทยได้สนุก ตื่นเต้น ดับร้อนกัน พร้อมเปิดให้บริการ วันที่ 1 ธันวาคม นี้!

vana 1

วานาและนาวา Mascot ประจำ Vana Nava หัวหิน

บนพื้นที่ 20 ไร่ ใจกลางเมืองหัวหิน ได้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสวนน้ำ สถานที่พักผ่อนระดับโลก ถือเป็นแห่งแรกในหัวหิน ที่รวมเอาสวนน้ำและความบันเทิง สถานที่พักผ่อน รับประทานอาหาร และสังสรรค์กับเพื่อนไว้ในที่เดียวกัน เหมาะกับทุกเพศวัย ไม่ว่าจะมาเป็นครอบครัว มาเฮฮา จัดงานปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง หรือจัดงาน Event แบบ Exclusive

vana 26

จุดจำหน่ายตั๋วพร้อมรับสายข้อมือ RFID

ค่าเข้าเมื่อเทียบกับความอลังการของเครื่องเล่นแต่ละชิ้นและ facilities ต่างๆ ที่ทางสวนน้ำจัดไว้ให้นั้น  ถือว่าคุ้ม ยิ่งมาเป็นครอบครัว สามารถซื้อเป็นตั๋วแพ็กเกจได้ด้วย

photo 2-31

สายรัดข้อมือ RFID เท่ๆ ที่เอาไว้เติมเงินใช้แทนเงินสด

ซื้อตั๋วแล้ว ทุกคนก็จะได้สายรัดข้อมือ RFID คนละ 1 เส้น ใช้แทนเงินสดและกุญแจล็อกเกอร์ โดยสามารถเติมเงินได้ตามความต้องการ ที่จุดบริการที่จัดไว้ให้ภายในสวนน้ำ จะได้เล่นน้ำให้สนุกแบบสบายใจ ไม่ต้องพกกระเป๋าสตางค์ให้ยุ่งยาก

vana 8

Zone คนรัก Adventure, Climbing wall และ Ropes Course

เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็พร้อมลุยกันได้เลย!  Vana Nava จะแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือ โซนแอดเวนเจอร์และโซนวอเตอร์จังเกิ้ล รวมมีเครื่องเล่นทั้งหมดถึง 19 ชนิดด้วยกัน ทุกชนิดปลอดภัยได้มาตรฐานระดับโลก มีการ์ดคอยดูแลอยู่ภายในสวนน้ำทั้งหมดถึง 160 คน และเครื่องเล่นแต่ชนิดก็จะมีการจำกัดความสูงผู้เล่นเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย

vana 4

Surf บอร์ดสุดมันเหนือผิวน้ำ ใน Adventure Zone

Surf Zone ใครอยากลองเล่น surf ที่นี่เขาก็มีทีมงานคอยสอนวิธีเล่น surfboard และ bodyboard ด้วยนะ เช็กเวลาสอนได้จากตารางเวลาที่กำหนด

nava 20

Water Jungle Zone, Boomerango (ซ้าย) และ The Abyss (ขวา)

vana 3

The Abyss (ดิ อะบิส) ถือเป็นไฮไลต์ของ Vana Nava เลย มาแล้วห้ามพลาด กับสไลเดอร์น้ำที่ได้รับการบันทึกว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก!!

ส่วนเครื่องเล่นที่ถือว่ายาวที่สุด คือ Boomerango (บูมเมอแรงโก)

vana slider

Free fall สไลเดอร์เสียวสุดใจ ทิ้งดิ่ง 80 องศา!

เสียวที่สุดต้องตัวนี้ Free Fall สไลเดอร์ที่เรียกเสียงกรี๊ดได้ดังไม่แพ้เครื่องเล่นอื่น กับการทิ้งดิ่งตัวลงมาบนรางในระดับ 80 องศา แทบจะตั้งฉากเลยนะเนี่ย

vana 5

Aqua Loop, Slider ตีลังกา 360 องศา

อีกเครื่องเล่นที่กระชากอะดรีนาลีนกันแบบสุดๆ ไปเลยเห็นจะเป็นเจ้านี่ Aqua Loop Slider ตีลังกา เหวี่ยงหมุน 360 องศา ท้าทายแรงโน้มถ่วงของโลก

vana 13

เครื่องเล่น Innter-Tube, Rattler และ SuperBowl

vana 21

Rattler

สามเครื่องเล่นที่สร้างความเสียว ด้วยการนั่งบนห่วงยางและไหลลงมาตามท่อในระดับความเร็ว 18-50 กม./ ชม.

vana 18

Aqua Course

 

vana 22

RainFortress เครื่องเล่นของเด็กๆ ที่มีถึง 7 สไสเดอร์ และถังน้ำยักษ์

RainFortress เครื่องเล่นสำหรับเด็กที่รับรองผู้ใหญ่ยังอยากแย่งเล่น เพราะมีสไลเดอร์ถึง 7 อัน และถังน้ำยักษ์ที่จะเทน้ำปริมาณมหาศาลถึง 2,000 ลิตรลงมาให้ความฉุ่มช่ำ สนุกสนานทุกๆ 4 นาที

vana 12

Lazy River นั่งบนห่วงยางแล้วปล่อยตัวสบายๆ ชมบรรยากาศรอบสวนน้ำ

ใครไม่ชอบความเสียว อยากผ่อนคลายสบายๆ ก็ต้อง Lazy River สายน้ำแห่งการผ่อนคลายที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เพียงนั่งบนห่วงยาง แล้วปล่อยตัวสบายๆ ล่องลอยชมบรรยากศของสวนน้ำป่าเขตร้อน ลดเลี้ยวลอดใต้สะพาน ผ่านน้ำตก และสไลเดอร์ระดับโลกทั่วสวนน้ำ วานา นาวา

vana 11

บาร์น้ำ Fisherman’s Tavern

เล่นน้ำมาเหนื่อย แวะพักจิบเครื่องเดื่มเย็นๆ ได้ที่  Infinity Pool จิบเครื่องดื่มโปรดปรานจาก Fisherman’s Tavern

vana 14

Fisherman’s cafe’

หรือถ้าหิวก็แวะมาที่ Fisherman’s Cafe’ สั่งอะไรรองท้องก่อนไปมันกันต่อ ที่นี่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ดังนั้นภายในบริเวณสวนน้ำ ภาชนะทุกชิ้นที่นำมาใช้จะเป็นกระดาษเท่านั้น

นอกจาก Fisherman’s Cafe’ แล้ว ที่นี่ยังมี

– ศูนย์อาหาร The Groove ศูนย์อาหารแบบเปิดขนาดใหญ่ ที่มีอาหารให้เลือกทั้งไทย จีน ฝรั่ง และซีฟู้ด ราคาคุ้มค่า วัตถุดิบคุณภาพ

– Tree Top Lounge บริการอาหารว่างและเตรื่องดื่มชั้นเลิศและค็อกเทลมากมาย

– Surf Bar เสิร์ฟเครื่องดื่มเย็นๆ เมนูชิกๆ จังหวะดนตรีมันๆ พร้อมชมลีลาการโต้คลื่นที่ surf zone ได้ด้วย

– ร้านกาแฟอเมซอน จิบกาแฟเคล้าบรรยากาศสวนน้ำท่ามกลางป่าเมืองร้อน

vana 10

สระคลื่นเทียม

vana 24

Coconut Beach

สระคลื่นเทียมและ Coconut Beach บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 1,600 ตรม. แห่งเดียวของประเทศที่ใช้ทรายจริงโอบรอบสระน้ำ ในสระสามารถสร้างคลื่นเทียมได้หลายระดับ ตั้งแต่คลื่นซัดชายหาดเบาๆ ไปจนถึงคลื่นยักษ์ให้ได้สนุกกัน  ใครอยากอาบแดดก็มีเตียงไว้บริการ หรือบีชฮัทไว้พักเหนื่อยและหลบร้อนได้

 

vana 19

คุณพราวพุธ โชว์รูปถ่ายที่สามารถแชร์ใน FB และสั่งพิมพ์กลับบ้านได้ทันที

vana 23

ถ่ายปุ๊บ แชร์ปั๊บ พริ้นต์แป๊บ

ถ้าอยากเก็บภาพบรรยากาศความสนุกสนาน ประทับใจ อยากเห็นว่าใครในก๊วนกรี๊ดหวีดเสียวทำหน้าเหยเกที่สุด ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องพกกล้องให้กลัวเปียกกลัวพัง เพราะที่นี่มีบริการถ่ายภาพและบันทึกภาพโดยช่างภาพมืออาชีพ แถมถ่ายปุ๊บกดโหลดแชร์ลง Facebook ได้ที่เครื่องให้คนอื่นอิจฉาได้ปั๊บ แถมยังสั่งพิมพ์เก็บเป็นที่ระลึกเอากลับบ้านได้ทันที

สวนน้ำ Vana Nava Hua Hin (วานา นาวา หัวหิน) ช่วงปกติเปิดให้บริการระหว่างเวลา 10.00 – 18.00 น. ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และช่วงฤดูท่องเที่ยวเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน จะเปิดให้บริการถึง 22.00 น.

สอบถาม เช็กข้อมูล และติดตามส่วนลด โปรโมชั่น กิจกรรมพิเศษต่างๆ ได้ที่ www.vananavahuahin.com หรือ www.facebook.com/vananavahuahin

 

 

Balloon International Festival 2010 @นครนายก

2

สำหรับโลกยุคปัจจุบันที่ทุกอย่างจะดูทันสมัยไปซะหมด และเทคโนโลยีล้ำยุคได้เข้ามาชี้นำชีวิตของเรา การเดินทางด้วยพาหนะต่างๆจึงรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเหมือนในอดีต แต่เราก็ต้องแลกมาด้วยการใช้พลังงานที่ปลดปล่อยก๊าซเรือกระจกออกมาสร้างภาวะโลกร้อน ถ้ามานั่งคิดดูให้ดี ก็เหลือพาหนะอยู่ไม่กี่แบบที่ยังคงใช้พลังงานธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะพลังงานลม “บอลลลูน” (Balloon) คือหนึ่งในพาหนะชนิดนั้น ที่มนุษย์ตัวเล็กๆอย่างเราคิดค้นขึ้นมา ด้วยความหวังว่าจะบินได้เหมือนนก !

3

สำหรับคนไทย บอลลูนอาจเป็นพาหนะแปลกประหลาดราวกับจานบินแห่งฟากฟ้า ทว่าสำหรับประเทศในแถบยุโรปและอเมริกา เขารู้จักพาหนะชนิดนี้มาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1700 แล้ว กระทั่งล่วงเข้าถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 บอลลูนจึงมีการพัฒนาให้ล้ำยุค สามารถใช้ขนส่งคน ส่ิงของ สอดแนมทางทหาร และใช้เพื่อการพาณิชย์หรือท่องเที่ยวในเวลาต่อมา แต่ถ้าจะถามว่าชาติใดสามารถคิดค้นบอลลูนได้เป็นชาติแรกของโลก คำตอบคือ “จีน” นั่นเอง ส่วนพี่ไทยก็คงจะมีโคมลอยแถวภาคเหนือเท่านั้นล่ะที่พอจะใกล้เคียงบอลลูนบินได้ของยุโรปมากที่สุด

            บอลลูนแบ่งเป็นหลายประเภท อาทิ บอลลูนลมร้อน (Hot Air Balloon) ที่เติมลมร้อนเข้าไปจึงบินได้ แต่บินไม่ค่อยสูงนัก ส่วนที่บินได้สูงจริงๆ และมีการปรับระดับความสูงขึ้นลงได้ อีกทั้งยังบินได้ไกลมากก็คือ บอลลูนก๊าซ (Gas Balloon) ที่ใช้ก๊าซฮีเลียม (ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมเนื่องจากติดไฟง่ายเกินไป) ไฮโดรเจน (ได้รับความนิยมสูง แต่ราคาแพง) โพรเพน (เป็นก๊าซเติมบอลลูนที่ปลอดภัยกว่าสองชนิดแรก) ฯลฯ อัดเข้าไปในลูกบอลลูนเส้นใยสังเคราะห์ ซึ่งเจ้าพวกนี้เองที่มาทำการบินอยู่ในจังหวัดนครนายกของเรา

4

5

6

7

8

การบินบอลลูนในเมืองไทยยังรู้จักกันในหมู่คนจำกัด ไม่แพร่หลาย เพราะผู้ที่จะเป็นเจ้าของและทำการบินได้ต้องมีงบประมาณส่วนตัวสูงลิบ เข้าขั้นสิบล้านบาท ส่วนนักท่องเที่ยวที่อยากได้รับประสบการณ์บินบอลลูนสักครั้งในชีวิต ก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายครั้งละไม่ต่ำกว่า 6,000-8,800 บาท ต่อการบินบอลลูนเพียง 1 ชั่วโมง ด้วยเหตุนี้เองงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติจึงเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้สัมผัสบอลลูนของจริงอย่างใกล้ชนิด

9

ในเช้าตรู่วันที่อากาศดี ฟ้าปลอดโปร่ง ลมไม่แรงจัด นักบินบอลลูนจะทำการตรวจข่าวพยากรณ์อากาศ จากนั้นก็ปล่อยบอลลูนตรวจอากาศลูกเล็กๆ เรียกว่า Spy Ball ขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อดูว่าลมบนแรงแค่ไหนและพัดไปทางทิศใด เมื่อเห็นว่าเหมาะสมแล้ว นักบินพร้อมทีมลูกเรือก็จะช่วยกันกางบอลลูนขึ้น โดยบอลลูนแต่ละลูกจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนของลูกโป่งอัดก๊าซหรือลมร้อน และส่วนตะกร้าผู้โดยสารที่ห้อยอยู่ด้านใต้ การเตรียมการทั้งสองส่วนนี้จะทำพร้อมกันอย่างรวดเร็วตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อแข่งกับอุณหภูมิอากาศที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ เพราะหากปล่อยให้สาย เที่ยง หรือบ่ายแล้ว อากาศเมืองไทยเราจะร้อนเกินไป บอลลูนจะลอยไม่ค่อยขึ้น หรือถ้าลอยขึ้นก็บินไปไหนไม่ได้ไกล เนื่องจากการที่บอลลูนบินได้ก็ด้วยเหตุที่มีความต่างของอุณหภูมิภายนอกและในบอลลูนนั่นเอง พูดง่ายๆคือ บอลลูนเบากว่าอากาศภายนอก มันจึงล่องลอยไปไหนมาไหนได้พร้อมกระแสลม

10

11

เมื่อตะกร้าถูกติดสลิงขึงไว้กับลูกบอลลูนที่พองตัวขึ้นเต็มที่แล้ว กัปตันก็จะเติมก๊าซร้อนเข้าไปจนเต็ม ทำให้บอลลูนสีสดใสค่อยๆลอยขึ้นอย่างช้าๆ ผู้โดยสารที่มาคอยอยู่แล้วจึงต้องรีบขึ้นบอลลูนให้ทัน วันนี้โชคไม่ดี เราไม่สามารถปล่อยตัวบอลลูนจากหน้าเขื่อนขุนด่านปราการชลได้ เนื่องจากเกิดลมหมุนในอากาศ จึงต้องมาปล่อยตัวกันบริเวณสนามกีฬาจังหวัดนครนายก เมื่อลูกโป่งยักษ์ค่อยๆลอยขึ้นเหนือพื้นอย่างเชื่องช้า ทีแรกจะเกิดความรู้สึกหวิวเล็กน้อย แต่เมื่อผ่านไปสักพักเราก็จะชินกับสายลมอ่อนๆ บนท้องฟ้าใส ได้เห็นวิวภูเขา ทุ่งนา บ้านเรือนผู้คน มีฝูงนกออกบินหากินในยามเช้า พร้อมกับแสงอาทิตย์อ่อนๆ สาดส่องมาอาบบอลลลูนและตัวเราจนอบอุ่น ขณะที่บอลลูนถูกพัดพาไปตามกระแสลม ดูวิวไปเพลินๆ และถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ก็ลองมาสำรวจในตะกร้าผู้โดยสารกันบ้าง ตะกร้าของบอลลูนสานขึ้นจากหวายเส้นใหญ่เป็นทรงสี่เหลี่ยม สูงประมาณ 150 เซนติเมตร ถ้าเป็นตะกร้าเล็กจะจุคนได้ไม่เกิน 4 คน แต่ถ้าเป็นตะกร้าใหญ่ก็ไม่เกิน 6 คน

12

13

14

15

16

17

การบินระยะทางใกล้ๆ จะใช้ก๊าซ 2 ถัง ส่วนการบินไกลๆ อย่างการบินข้ามเทือกเขาแอลป์ในยุโรป ก็ต้องใช้ถังก๊าซไม่น้อยกว่า 4 ถัง และมีการสำรวจจุดลงไว้ล่วงหน้า บนบอลลูนของเรายังมีเครื่องวัดความสูง และความเร็วลมอยู่ด้วย บวกกับประสบการณ์ของกัปตัน จึงไม่ต้องกังวล เพราะเขาคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ทำให้เราสนุกกับการล่องลอยไปพร้อมกระแสลมครั้งนี้ สิ่งที่รู้สึกได้ก็คือ “ความอิสระเสรี” มีเพียงตัวเรากับความสูงและความเวิ้งว้างของอากาศรอบๆตัว ไม่มีกระจกกั้นเหมือนนั่งเครื่องบิน ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เบื้องบน ผิวหนังได้สัมผัสความเย็นของอากาศ อีกทั้งได้ชมวิวรอบตัวแบบ 360 องศา สุดสายตาพาโนรามา สุดยอดจริงๆเลย

18

ก่อนจะลงจอดบนพื้น กัปตันบอลลูนชาวอเมริกาที่ไปอาศัยอยู่ในอิตาลีมกว่าสิบปี และปัจจุบันเป็นครูสอนบินบอลลูนด้วยบอกว่า ในโลกปัจจุบันนี้มีพาหนะอยู่เพียง 2 อย่างที่ยังอาศัยพลังธรรมชาติเพื่อการเดินทางอย่างแท้จริง คือ เรือใบและบอลลูน โดยทั้งสองอย่างนี้พึ่งพลังงานลมด้วยกันทั้งคู่ ถ้าเราสามารถนำพลังงานสะอาดชนิดนี้มาทดแทนน้ำมันได้ก็คงดี

19

20

ประมาณ 1 ชั่วโมงที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า ไปพร้อมกับบอลลูนอีกเกือบยี่สิบลูก และเพื่อนๆที่ขึ้นบินบอลลูนพร้อมกัน มันช่างรวดเร็วเหมือนฝัน ทำไมนะ เวลาแห่งความสุขจึงหมดไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ แต่มันก็เป็นสุดยอดประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ลืมไม่ลงจริงๆ

21

1841

 

Traveller’s Guide

Best season : ปัจจุบันบินได้ตลอดปีในช่วงเากาศเหมาะสม แต่ดีที่สุดคือฤดูหนาว-ต้นฤดูร้อน ประมาณปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนมีนาคม โดยเทศกาลงานบอลลูนนานาชาติ จะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไปตามจังหวัดต่างๆ ที่มี location เหมาะสม โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่

More info : บริษัท เอิร์ท วินด์ แอนด์ ไฟร์ จำกัด โทร. 0-5329-2224 เว็บไซต์ www.thailandadventuresports.com