ททท. พาเที่ยวตัวปลิว ชิลอีสาน @อุดรธานี

“อีสาน” ชื่อนี้คือดินแดนที่มีเสน่ห์ชวนให้ไปสัมผัส เพราะอีสานไม่ได้มีแต่ความแห้งแล้งอย่างที่บางคนเข้าใจ ทว่าในผืนดินอันกว้างใหญ่นั้น ยังมีความผสมกลมกลืนลงตัวของธรรมชาติ วิถีชีวิต ผู้คน และวัฒนธรรมประเพณี ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน วันนี้เราจึงได้ไปเยือน “อุดรธานี” หนึ่งในจังหวัดอีสานเหนือ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีบ้านเชียงมรดกโลกอายุกว่า 5,000 ปี และประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่ 5 เรียกแถบนี้ว่ามณฑลอุดร เป็นศูนย์กลางต่อสู้กับการล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส จนเป็นเรื่องราวเล่าขานมาจนปัจจุบัน
จะว่าไปแล้ว อุดรธานีน่าเที่ยวในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ใครได้ไปเที่ยวชม “ทะเลบัวแดง หนองหานกุมภวาปี” ก็จะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับผืนพรมสีชมพูกว้างใหญ่นับหมื่นๆ ไร่ของทะเลบัวแดง หรือบัวสายสีชมพูนับแสนๆ ดอกพากันสะพรั่งบานรับลมหนาว และฝูงนกอพยพนับหมื่นๆ ตัว พากันมาสร้างสีสันเติมชีวิตชีวาให้กับทะเลสาบธรรมชาติสุดอลังการนี้

หนองหานกุมภวาปี เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติเนื้อที่ถึง 22,500 ไร่ ได้รับการหล่อเลี้ยงน้ำจืดจากห้วย 6 สาย จึงชุ่มฉ่ำตลอดปี อีกทั้งเป็นต้นกำเนิดลำน้ำปาว เพราะเมื่อไหลลงใต้ผ่านจังหวัดกาฬสินธุ์แล้วก็จะบรรจบกับลำน้ำชี เกิดเป็นระบบนิเวศบึงน้ำจืดมหึมา ที่มีพืชพรรณ หมู่ปลา และนกน้ำ เข้ามาอาศัยหากินนับไม่ถ้วน

ท่าเรือบ้านเดียม ตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี จุดเริ่มต้นการล่องเรือชมทะเลบัวแดงของนักท่องเที่ยว

การล่องเรือควรเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ ไม่เกิน 06.00 น. จะได้เห็นแสงแรกของตะวันเบิกฟ้าเปล่งรัศมีสีทองอาบทะเลบัว ขณะที่อากาศยามเช้าแช่มชื่นแจ่มใส นกนานาชนิดเริ่มออกหากิน ส่งเสียงร้องกันจ๊อกแจ๊ก ทะเลบัวที่หุบมาตลอดคืนจะค่อยๆ แย้มกลีบออกทีละน้อย จนเผยความงามเต็มที่ เรือนักท่องเที่ยวค่อยๆ ทยอยแล่นออกจากท่าบ้านเดียม มองเห็นนกนางแอ่นบ้าน นกยางโทน นกอุ้มบาตร นกกาน้ำเล็ก นกอีโก้ง นกอีลุ้ม นกอีล้ำ เริงร่าออกหากิน เป็ดแดงบางฝูงมีนับร้อยตัว เรือแล่นผ่านกอต้นหญ้าต้นกกที่ขึ้นอยู่เป็นแนว  กิ่งก้านโอนไกวตามลมอ่อนๆ มีเรือหาปลาและเรือเก็บสายบัวของชาวบ้าน ใช้ชีวิตผูกพันอยู่กับสายน้ำมาเนิ่นนาน

สาวน้อยเริงร่าท่ามกลางทะเลบัวแดงยามเช้า ดูแล้วตัดสินไม่ได้เลยว่าคนหรือดอกบัวอะไรจะสวยกว่ากัน? ฮาฮาฮา

ในฤดูหนาว ดอกบัวสายสีชมพูจะมีดอกสาหร่ายข้าวเหนียวสีเหลืองบานขึ้นแทรกแซมเหนือผิวน้ำด้วย ยิ่งมองยิ่งงดงามราวกับงานศิลป์ชิ้นเอกของศิลปินธรรมชาติผู้ยิ่งใหญ่ล่องเรือชมทะเลบัวแดงสุขใจในยามเช้า สูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางทะเลบัวยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน นกยางโผร่อนไปเหนือทะเลบัวแดง ช่วยต่อเติมระบบนิเวศของทะเลสาบน้ำจืดแห่งนี้ให้อุดมสมบูรณ์และสมดุลย์นกอุ้มบาตรสีเหลืองสดใสกับดอกบัวแสนสวย นกชนิดนี้จะมาเยือนทะเลบัวแดงเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้นนกอีโก้ง (Purple Swamphen) เป็นนกรับแขกชนิดหนึ่งของทะเลทะเลบัวแดงหนองหานกุมภวาปี เพราะนอกจากจะพบเห็นได้ง่ายแล้ว ยังมีขนสวยสีน้ำเงินเหลือบม่วงสดใส ตัดกับปากและแผ่นหนังสีแดงตรงหน้าผาก เรามักพบพวกมันหากินอยู่เป็นคู่ๆโดยเดินอยู่บนกอพืชน้ำที่ลอยตุ๊บป่องๆ นั่นเองนกแซงแซวหางปลา (Black Drongo) เป็นนกประจำถิ่นที่พบได้มากในทะเลบัวแดง พวกมันชอบเกาะอยู่ตามพุ่มไม้หรือตอไม้เหนือน้ำ เพื่อโฉบไปจับแมลงมากินเป็นอาหาร แมลงปอตัวน้อยกับบัวสายที่เพิ่งแย้มกลีบออกรับแสงตะวันในยามเช้า ช่างเป็นภาพที่น่ารักน่าชมเหลือเกินธรรมชาติมีความเปลี่ยนแปรอยู่ตลอดเวลา วันนี้เราจึงพบ “บัวสองสี” ที่อาจเป็นการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างบัวสายสีชมพูและบัวสีขาว จนเกิดเป็นบัวสายพันธุ์ใหม่ขึ้นทะเลบัวแดงหนองหานกุมภวาปี เปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2555 โดยจัดงานวิวาห์ล้านบัวขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักอันหวานชื่น นำคู่รักไปจดทะเบียนสมรสกันกลางทะเลบัว ให้บัวสีชมพูนับแสนๆ ดอกเป็นสักขีพยานรัก และทุกปีต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน ททท. ร่วมมือกับหลายหน่วยงาน ก็ยังจัดงานวิวาห์ล้านบัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากล่องเรือชมความยิ่งใหญ่ตระการตาของทะเลบัวแดงมาหลายชั่วโมง นี่ก็สายแล้ว เราจึงเริ่มหิว โชคดีที่วันนี้ตรงท่าเรือมีร้านอาหาร+ที่พักเปิดใหม่ให้บริการนักท่องเที่ยว ชื่อ “MA DER BUA” (มา เดอ บัว) ได้เวลาสั่งส้มตำไหลบัวและยำรากบัวมาชิม นับเป็นเมนูท้องถิ่นที่นำบัวธรรมชาติมาปรุงเป็นอาหารรสเลิศได้อย่างน่าชื่นชม

(สนใจสอบถาม MA DER BUA โทร. 08-1 974-3560)เปลี่ยนบรรยากาศจากการล่องเรือชมทะเลบัว มาเดินชมสวนดอกไม้สวยๆ กันบ้างที่ “สวนสิทธิกร” (หมู่.9 บ้านห้วยสำราญ ตำบลหนองไฮ อำเภอเมืองอุดรธานี โทร. 09-4529-9556, 09-2459-8525)แม้อุดรธานี จะมีสวนดอกไม้ไม่เยอะเหมือนทางภาคเหนือ แต่ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agro-Tourism) อย่าง สวนสิทธิกร ก็ช่วยสร้างสีสันให้วงการท่องเที่ยวอุดรธานีเป็นอย่างมาก สวนแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีประมาณ 23 กิโลเมตริเท่านั้น แม้จะไม่ใหญ่โต แต่ก็สดใสมีชีวิตชีวาด้วยดอกไม้หลากสีนานาพันธุ์ ทั้งดอกคลัสเตอร์, ดอกมัม, ดอกเบญจมาศ, ดอกดาวเรือง, ดอกพุด, ดอกกุหลาบ ฯลฯ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันให้ชมตลอดปี ยิ่งถ้าเป็นฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ด้วยแล้วดอกไม้ยิ่งเยอะจ้า ใช้เป็นโลเกชั่นถ่ายรูปกันได้เพลินๆ ไม่เบื่อเลยแหละ สวนสิทธกร ค่าเข้าชมเพียง 30 บาท  มีพร๊อพเตรียมไว้ให้เราถ่ายภาพคู่อย่างมากมาย ทั้งซุ้มต่างๆ รวมถึงร่ม และกระเช้าดอกไม้เก๋ๆ เที่ยวสวนสิทธิกรเหมาะสุดในช่วงเช้าและบ่ายคล้อยที่แดดร่มลมตก ถ้ามาเที่ยวตอนกลางวันแดดจะร้อนสักหน่อย แต่ก็ถ่ายรูปได้สวยกระจ่างใสดีจ้าจากแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอันเจริญตาเจริญใจของอุดรธานี บัดนี้ได้เวลามากราบพระขอพรกันที่ “วัดป่าศรีคุณาราม” แล้ว วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่บ้านจีต ตำบลบ้านจีต อำเภอกู่แก้ว (เดินทางด้วยรถยนต์จากตัวเมืองอุดรธานี ประมาณ 1 ชั่วโมง) นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาที่สำคัญ เพราะมีพระมหาเจดีย์มงคลประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระจักษุธาตุ ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะรำลึกถึงคุณพระรัตนไตรวัดป่าศรีคุณาราม เดิมชื่อ วัดป่าศรีคุณรัตนาราม ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านจีต เดิมชาวบ้านเรียกว่าบริเวณนี้ว่า “เหล่าปลาฝา” (ตะพาบน้ำ) เพราะมีหินรูปปลาฝาครอบสี่เหลี่ยม เจาะเป็นโพรงสำหรับเก็บสิ่งของมีค่า ทว่าปัจจุบันหินนั้นได้สูญหายไปแล้ว คงเหลือแต่ฐานสี่เหลี่ยมเจาะเป็นโพรง อยู่ภายในวัดป่าศรีคุณารามนั่นเอง ส่วนองค์พระมหาเจดีย์มงคลก็สง่างามน่าศรัทธา สร้างขึ้นโดยมีองค์พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม เป็นแรงบันดาลใจ โดยสร้างให้มีความ Modern หรือร่วมสมัยมากขึ้น ภายในแบ่งเป็น 3 ชั้น เชื่อมถึงกันด้วยบันได เราสามารถเข้าไปสักการะได้ ภายในชั้นล่างขององค์พระเจดีย์ มีพระพุทธรูปหยกขาว และรอยพระพุทธบาทจำลองให้สักการะภายในชั้นสองขององค์พระเจดีย์  มีพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุพระอรหันตสาวก ประดิษฐานให้สักการะอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ ฝีมือวาดงดงามเข้าขั้นเอกอุ
ก่อนกลับบ้านทริปนี้ เราไม่ลืมแวะชิมอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ เพื่อเติมพลังกันสักหน่อย แน่นอนว่าต้องไม่พลาดร้าน “VT แหนมเนือง” เป็นอาหารเวียดนามที่เข้ามาผสมกลมกลืนจนกลายเป็น Signature ของอาหารอุดรธานีไปแล้ว วันนี้เขาเปิดสาขาใหม่ที่บ้านจั่น อำเภอเมืองอุดรธานี มีลักษณะเหมือนศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ทันสมัย สะอาดสะอ้านสุดๆ จนลูกค้าต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียว ปัจจุบันร้าน VT แหนมเนือง มีอยู่มากกว่า 15 สาขาทั่วประเทศ สามารถสั่งให้ส่งทางไปรษณีย์มากินที่บ้านได้สบายมาก นอกจากแหนมเนืองรสเด็ดที่ใช้วัตถุดิบอย่างดี สดใหม่ สะอาดแล้ว เขายังมีเมนูอาหารน่าชิมอื่นๆ อีกเพียบ (สอบถาม  สาขาโพศรี โทร. 0-4221-9555, 0-4221-9556, 0-4221-9557 / สาขามิตรภาพ โทร. 0-4211-1111, 0-4211-1999  )ร้าน VT แหนมเนือง เปิดมานานกว่า 5o ปีแล้ว สืบทอดสูตรมาจากคุณแม่วีและคุณพ่อตวน ชาวเวียดนามผู้อพยพเข้ามาตั้งรกรากในสยาม เริ่มต้นจากการหาบเร่ขายโดยคุณแม่วี ขายดิบขายดีจนสามารถเปิดเป็นร้านเล็กๆ ชื่อร้าน “แดงแหนมเนือง” ที่จังหวัดหนองคาย แล้วค่อยขยายสาขามายังอุดรธานีในปัจจุบัน

คำว่า “แหนมเนือง” จริงๆ แล้วเพี้ยนมาจากภาษาเวียดนามว่า “แนม เหนือง” ซึ่งแปลว่า “หมู + ปิ้ง” นั่นเอง
แหนมซี่โครงหมู ร้าน VT แหนมเนืองกุ้งพันอ้อย ร้าน VT แหนมเนือง ไส้กรอกอีสาน ร้าน VT แหนมเนืองปอเปี๊ยะทอด ร้าน VT แหนมเนืองหมูยอรสเด็ด ร้าน VT แหนมเนือง

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่สนับสนุนการเดินทางทริปนี้เป็นอย่างดี

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานอุดรธานี โทร. 0-4232-5407 

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *