Top Thai Wellnees เที่ยวสุขภาพดีทั่วไทย ไปกับเถอะ!
1. อำเภอคลองท่อม Spa Town จ.กระบี่ ชวนกันไปแช่น้ำพุธรรมชาติ ในแหล่ง Big 3 ประกอบด้วย สระมรกต (ตำบลคลองท่อมเหนือ), น้ำตกร้อน (ตำบลคลองท่อมเหนือ) และ น้ำพุร้อนเค็ม (ตำบลห้วยนำ้ขาว) โดยสระมรกตนั้นเป็นแหล่งน้ำพุเย็นใสแจ๋ว อยู่ในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม แหล่งอาศัยเดียวบนโลกนี้ของนกแต้วแล้วท้องดำ ส่วนน้ำตกร้อน (หรือนำ้ตกร้อนสะพานยูง) จริงๆ เป็นน้ำตกที่กำลังอุ่นสบาย อุณหภูมิน้ำอยู่ระหว่าง 35-40 องศาเซลเซียส แวดล้อมด้วยป่าไม้ร่มรื่น อาบแช่แล้วสดชื่นผ่อนคลายดีจริง และสุดท้ายคือ น้ำพุร้อนเค็ม เป็นนำ้พุร้อนธรรมชาติสุดพิเศษ เพราะเป็นน้ำเกลือร้อน ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง รักษาโรคผิวหนัง โรคไขข้อ อัมพฤกษ์อัมพาตได้ด้วย 2. เกาะพะงัน กับฉายา ‘Best Yoka Island in Thailand’ เติบโตจากเกาะที่มีแต่วิถีประมงพื้นบ้านและความน่ารักของผู้คน จนกลายเป็นเกาะชื่อกระฉ่อนโลกเรื่อง Full Moon Party ที่หาดริ้น จนวันนี้พะงันได้เดินมาสู่อีกบทบาทหนึ่งในแง่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กับการมีสถานสอนโยคะ และโยคะบำบัดนับสิบแห่ง จึงมีคนจากทั่วโลกและทั่วไปไทยไปอยู่ไปเรียนกันแบบ Long Stay เลยล่ะ
3. นอนห่มทราย ฟังเสียงคลื่นและสายลม ที่หาดไม้ขาว เกาะภูเก็ต ขอบอกเลยว่าภูเก็ตไม่ได้เป็นเพียงเกาะที่มีแต่หาดทรายให้ฝรั่งไปนอนอาบแดดกันเท่านั้นนะจ๊ะ วันนี้ที่หาดไม้ขาวเขามีกิจกรรมน่ารัก คือ ‘การนอนห่มทราย’ เพื่อรักษาสุขภาพ เป็นทรายธรรมชาติจริงๆ เลยล่ะ ขุดหลุมตื้นๆ ลงไปนอนแช่ตัวราวๆ 10-20 นาที ให้ความอุ่นของทราย และน้ำเกลือในทราย แทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย ถือเป็นธรรมชาติบำบัดที่ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วยจ้า
4. สุดยอดสปาเกลืออีสาน กุญณภัทรสปา อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ไม่น่าเชื่อเลยว่าใต้ผืนดินลึกลงไปของอีสาน จะมีชั้นเกลือและน้ำเกลืออยู่ด้วย บ่งชี้ว่าในครั้งบรรพกาล พื้นที่แถบนี้เคยจมอยู่ใต้ทะเลมาก่อน ปัจจุบันที่อุดรธานีจึงมีการทำนาเหลือสินเธาว์กันมาก เขาเลยเกิดหัวคิด นำเกล็ดเกลือคุณภาพเยี่ยมนั้นมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สปานานาชนิด รวมทั้งมีกิจกรรมอาบน้ำเกลือ, แช่เท้าด้วยนำ้เกลือ, ขัดหน้า ขัดตัว สปาเกลือ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการสวยใสด้วยธรรมชาติล่ะจ้า
5. นวดตอกเส้นล้านนา ภูมิปัญญาจากอดีตสู่ปัจจุบัน จ.เชียงใหม่ ถ้าวัดโพธิ์ที่กรุงเทพฯ คือสุดยอดการนวดแผนไทยแบบภาคกลาง ขอบอกเลยว่า ‘การนวดตอกเส้น’ ของล้านนา ก็เป็นภูมิปัญญากว่า 200 ปี ที่เขาสืบทอดกันไว้ได้ เหมาะสำหรับคนขี้เมื่อย ที่มักจะเมื่อยในบริเวณซึ่งเส้นอาจอยู่ลึก ใช้วิธีนวดมือไม่หาย เขาจึงใช้งาช้างหรือไม้ มาทำเป็นลิ่มเล็กๆ ตอกลงไปเบาๆ ตามจุดตามเส้นที่หมอร่ำเรียนมา สุดยอด!
6. วัดโพธิ์ สุดยอดการนวดไทยภาคกลาง กรุงเทพฯ นอกจากวัดโพธิ์จะเป็นที่ประดิษฐานของพระนอนขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ แล้ว ยังถือเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของสยามอีกด้วย เพราะในยุคต้นรัตนโกสินทร์ ได้มีการรวบรวมตำรานวดเส้นกดจุดต่างๆ มาจารึกไว้บนแผ่นศิลาติดไว้ตามฝาระเบียงคตรอบพระอุโบสถ ให้คนทั่วไปได้ศึกษาอย่างอิสระ สืบทอดมาถึงทุกวันนี้ วัดโพธิ์ยังเป็นโรงเรียนนวด และมีสถาบำบัด ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปนอนนวดผ่อนคลาย หรือแก้อาการเส้นจม ปวดเมื่อยกันด้วย ค่าใช้จ่ายก็ถูกมากอีกด้วยนะ 7. บ่อน้ำพุร้อนเทพพนม อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เที่ยวภาคเหนือครั้งต่อไป ถ้าคุณกำลังเดินทางอยู่บนถนนสายเชียงใหม่-แม่แจ่ม เมื่อเลยออบหลวงมานิดนึง อย่าลืมมองทางซ้าย จะพบ ‘บ่อน้ำพุร้อนเทพหนม’ แหล่งนำ้พุร้อนธรรมชาติ ที่มีอุณหภูมิสูงจนต้มไข่ได้สุก! แนะนำให้จอดรถเข้าไปพักผ่อน เขามีห้องส่วนตัวแยกหญิงชายให้อาบแช่ผ่อนคลาย โดยปรับลดอุณหภูมิน้ำจนเหมาะสม ไม่ร้อนเกินไป หรือจะเดินไปดูตรงบ่อต้นกำเนิดที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ก็จะได้กลิ่นกำมะถันอ่อนๆ นั่นล่ะ เปรียบเสมือนของขวัญจากธรรมชาติ
8. บ่อนำ้พุร้อนแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ชวนกันไปเที่ยวหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติสุดชิลที่สุดของภาคเหนือ กับบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่หลายบ่อ ผุดขึ้นจากใต้พิภพ พร้อมควันกรุ่นอยู่ตลอดเวลา เห็นได้ชัดเจนที่สุดยามเช้าตรู่เมื่อไอร้อนลอยขึ้นมาปะทะกับอากาศเย็นฉ่ำ ที่นี่เขามีบ่อกลางแจ้ง และห้องหับเป็นส่วนตัวแยกหญิงชายอย่างดี พร้อมมีชุดมีผ้าให้ผลัดอาบ ถือเป็นการลงแช่น้ำแร่ร้อนที่ทำให้สุขภาพกายใจดีเยี่ยม ท่ามกลางธรรมชาติพิสุทธิ์ ของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
9. สปามะพร้าว เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เกาะสมุยมิได้เป็นเพียงเกาะที่มีต้นมะพร้าวเยอะที่สุดในเมืองไทย และมีเจ้าจ๋อ (ลิงกัง) ที่เขาฝึกให้ปีนเก็บลูกมะพร้าวได้อย่างช่ำชองเชี่ยวชาญเท่านั้น ทว่ายังเป็นเกาะที่มี Package สุดพิเศษ กับ ‘Spa มะพร้าว’ ทั้งการใช้มะพร้าวขูดและน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น นวดไล้ไปมาตามร่างกาย ซึ่งคุณสมบัติของมะพร้าวนอกจากจะทำให้ผิวพรรณสดใสไม่แห้งกร้านแล้ว ยังช่วยชะลอวัย ขับสารพิษ เหมือนการให้อาหารกับเซลล์ร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม!
10. สุดยอด Fish Spa ภาคใต้ สวนตาสรรค์ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช แน่ใจว่าในช่วง 5-10 ปีผ่านมา เราคงจะคุ้นตากันบ้าง กับสปาปลาที่เปิดบริการกันทั่วไทย โดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ๆ ที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนกันเยอะๆ แต่ส่วนมากที่เห็นจะเป็นฝูงปลาในตู้กระจก ซึ่งหลายคนปฏิเสธไม่ยอมใช้บริการ เพราะไม่แน่ใจในเรื่องความสะอาด มาวันนี้เราจึงขอแนะนำ ‘สวนตาสรรค์’ แห่งอำเภอขนอน จ.นครศรีธรรมราช แหล่งสปาปลาในธรรมชาติที่ Perfect และเรียบง่ายที่สุด ทว่าทำให้เราพักผ่อนกายใจได้เกินร้อย เพราะตั้งอยู่ในลำคลองธรมชาติ ที่มีฝูงปลาขี้ขมแหวกว่ายในน้ำใสแจ๋วสีมรกตเย็นฉ่ำ มาช่วยตอดเท้า ช่วยผลัดเซลล์เก่าของเรา ให้เกิดเซลล์ใหม่ จนหลายคนบอกว่า ทำสปาปลาเสร็จแล้ว เท้าใสกว่าหน้าซะอีก ฮาฮาฮา!
11. ภูโคลน จ.แม่ฮ่องสอน แหล่งโคลนสุขภาพ หรือ Clay Spa ที่พบเพียงไม่กี่แห่งในโลก มีคุณสมบัติพิเศษช่วยดูดสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่องเต่งตึง ที่นี่เขามีบ่อแช่เท้าในน้ำแร่ธรรมชาติ รวมถึงบริการพอกโคลนทั้งตัว พอกหน้า รวมถึงบริการนวดครบสูตร
12. ระนองเมืองน้ำพุร้อน ต้นตำรับ Hot Spring ปักษ์ใต้ ชวนกันไปเที่ยวเมืองฝนแปดแดดสี่ระนอง ที่ ‘บ่อน้ำพุร้อนรักษะวารินทร์’ ชมบ่อพ่อ บ่อแม่ บ่อลูก พร้อมบ่อแช่เท้า สระว่ายน้ำ รวมถึงบริการสปาระดับมาตรฐานที่โด่งดังไปทั่วประเทศ จากนั้นไปต่อกันที่ ‘บ่อน้ำพุร้อนพรรั้ง’ ซึ่งอยู่ใกล้กัน ลักษณะเป็นบ่อน้ำพุร้อนตั้งอยู่ในป่าธรรมชาติ อาบแช่แล้วรู้สึกสดชื่นมากจริงๆ
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!