เที่ยวเพลิน “ระนอง” เมืองฝน 8 แดด 4 แห่งอันดามัน
สนับสนุนการเดินทางและอุปกรณ์ถ่ายภาพ
ได้เวลาชวนกันไปเที่ยว “ระนอง” เมืองฝน 8 แดด 4 แห่งชายฝั่งทะเลอันดามัน เมืองที่อาบอิ่มด้วยธรรมชาติอันสวยสดงดงาม มีความเขียวของพงไพร และความชุ่มฉ่ำของสายน้ำแร่ น้ำตก ผสานผสมกลมกลืนกับวิถีผู้คน นี่คือเมือง Slow Town ที่มีบรรยกาศเนิบช้า เปี่ยมสุขอย่างแท้จริง “ระนอง”
พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ตั้งอยู่กลางเมืองระนอง บนเนินเขารัตนรังสรรค์ วังแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่เสด็จประทับแรมของรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2433) รัชกาลที่ 6 (พ.ศ. 2452) และรัชกาลที่ 7 (พ.ศ. 2471) โดยสร้างด้วยไม้สักและไม้ตะเคียนทั้งหลัง ภายในมีห้องบรรทม ห้องทรงงาน และอื่นๆ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แบบ Muti Media ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย เข้าชมได้ทุกวัน
ด้านหน้าพระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) มีอนุสาวรีย์ชาวจีนหาบแร่ดีบุก ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของเศรษฐกิจอันมั่งคั่งของระนองมาจนทุกวันนี้
ระนองเป็นเมืองน้ำแร่อย่างแท้จริง เพราะตั้งอยู่เหนือรอยเลื่อนของเปลือกโลก ใต้พิภพจึงมีน้ำแร่ร้อนระอุ ผุดขึ้นมาหลายจุดด้วยกัน มีชื่อเสียงที่สุดคือ “บ่อน้ำร้อนรักษะวารินทร์” ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง บ่อน้ำร้อนแห่งนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีอุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์บริการแล้วว่าประกอบด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ ไม่มีกำมะถันเจือปน จึงทำให้ไม่มีกลิ่นฉุนของกำมะถัน และมีความบริสุทธิ์สามารถดื่มได้ดี มีประโยชน์ต่อร่างกายในแง่การรักษาสุขภาพ โดยมีอยู่ 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว
น้ำแร่เมืองระนอง เป็นน้ำแร่คุณภาพดีที่สุดในเมืองไทย อุดมด้วยแร่ธาตุนานาชนิด แต่ไม่มีกลิ่นกำมะถันฉุนๆ เลย
บริเวณใกล้บ่อน้ำร้อน มีการจัดภูมิทัศน์เป็นสวนสาธารณะชื่อ “รักษะวาริน” หมายถึง “น้ำที่ใช้รักษาโรคได้” เป็นนามที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้พระราชทานไว้เมื่อคราวเสด็จเยือนระนอง พ.ศ. 2510
ถึงแม้จะไม่ได้ลงแช่น้ำแร่ทั้งตัว แต่แค่แช่เท้าก็ช่วยรักษาโรคบางอย่าง หรือช่วยให้สุขภาพดีได้แล้ว เพราะเท้าของคนเราเป็นจุดศูนย์รวมประสาทมากมาย
ภูเขาหญ้า หรือเขาหัวล้าน หรือเขาผี อยู่ที่ตำบลบ้านหงาว ฝั่งตรงข้ามน้ำตกหงาว ริมทางหลวงหมายเลข 4 (ระนอง-พังงา) ตรง กม. 623 เป็นจุดท่องเที่ยวยอดฮิตทางธรรมชาติของระนองมาช้านาน เสน่ห์ของภูเขาหญ้าคือทัศนียภาพแปลกตา ของเนินเขากลมมนซึ่งมีแต่หญ้าปกคลุม ไม่มีต้นไม้ใหญ่เลย ในฤดูฝนแลเขียวขจีสดชื่น ส่วนยามฤดูแล้ง หญ้าจะกลายเป็นสีทอง สามารถเดิน ปั่นจักรยาน หรือขับรถยนต์ขึ้นไปชมวิวแบบพาโนรามาด้านบนได้
“จวนเจ้าเมืองระนอง” สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2420 ในสมัยของพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอ ซู เจียง) เจ้าเมืองระนองคนแรก เดิมเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้แฝด 3 หลังเชื่อมต่อกันด้วยระเบียง ปัจจุบันสองหลังที่อยู่ด้านริมได้ผุพังไปเหลือเพียงเสาและพื้นหิน ส่วนเรือนหลังกลางได้ปรับปรุงทำเป็นศาลบรรพบุรุษ มีป้ายวิญญาณบรรพบุรุษภาพถ่ายเก่าๆ ของคนในตระกูล ณ ระนอง และสิ่งของเครื่องใช้ของเจ้าเมืองระนองคนแรกไว้ให้ชมกัน
แม้จะผ่านกาลเวลามาเป็นร้อยปี แต่กำแพงอิฐของจวนเจ้าเมืองระนองก็ยังคงแข็งแรง ยืนท้าแดดลมอย่างไม่ครั่นคร้าม
บ่อน้ำร้อนพรรั้ง เป็นบ่อน้ำร้อนชื่อดังอีกแห่งของระนอง ไม่แพ้บ่อน้ำร้อนรักษะวารินทร์ อยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว มีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติและบ่อปูนซีเมนต์ 5 บ่อ โดยน้ำร้อนจะซึมออกมาจากผิวดิน แล้วหลากไหลไปเป็นธารน้ำบริสุทธิ์ กระจายเป็นแอ่ง ถึง 13 ตาน้ำ อุณหภูมิน้ำที่นี่ไม่ร้อนมาก ประมาณ 35-40 องศาเซลเซียส ทว่าในน้ำมีแร่ธาตุที่อุดมคุณประโยชน์หลายอย่าง
หลังจากอาบแช่ตัวที่บ่อน้ำร้อนพรรั้งเสร็จแล้ว ก่อนกลับอย่าลืมแวะที่ร้านค้า ถามหาไข่ดำน้ำ หรือไข่นำ้แร่ ที่ต้มมาจากบ่อน้ำร้อนพรรั้งกันสดๆ แร่ธาตุต่างๆ จึงซึมเข้าไปในไข่ เชื่อว่ากินแล้วช่วยให้แข็งแรงดี
น้ำตกบกกราย อยู่ใน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก หมู่ 8 ตำบลน้ำจืด ห่างจากตัวจังหวัดระนองไปตามทางหลวงหมายเลข 4 (ระนอง-ชุมพร) ประมาณ 54 กิโลเมตร ตรงหลัก กม. 556-557 มีป้ายชี้ทางไปน้ำตกบกกราย ประมาณ 9 กิโลเมตร น้ำตกบกกรายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำไหลตลอดปี ส่วนที่เล่นน้ำได้ง่ายคือบริเวณชั้น 1-4 ส่วนชั้นที่ 5-11 ต้องเดินป่าขึ้นไประยะทางไกล ควรให้เจ้าหน้าที่นำทาง ด้านข้างน้ำตกมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติด้วย
น้ำตกปุญญบาล ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี เป็นน้ำตกที่ไหลแรงตลอดปี อยู่ติดกับถนนเพชรเกษมสายเก่า บริเวณ กม. 598 ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 2 กิโลเมตร มีนักท่องเที่ยวแวะชมปีละเกือบแสนคน ต้นน้ำเกิดจากป่าละอุ่นและป่าราชกรูด บริเวณต้นน้ำของน้ำตกปุญญบาลมีต้นพญาไม้ หรือขุนไม้ ต้นสูงใหญ่ถึง 50 เมตร (อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี โทร. 0-7798-8817, 0-7787-0238)
น้ำตกหงาว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นลาดผาหินสูงนับร้อยเมตร โอบล้อมด้วยป่าดิบเขียวครึ้ม สามารถมองเห็นได้จากริมถนนทางหลวงหมายเลข 4 และที่พิศษสุดคือ เป็นที่เดียวในโลก ซึ่งมีการสำรวจพบ “ปูเจ้าฟ้า” หรือ Panda Crab เป็นปูกระดองสีขาว ขาสีดำ อาศัยอยู่ตามธารน้ำของน้ำตกหงาวนี่ล่ะ (อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว โทร. 0-7784-8181, 0-7659-5045)
บางคนพูดกันเล่นๆ ว่า ระนองเป็นเมืองหลวงของคนพม่าที่เข้ามาทำงานอยู่ในเมืองไทย! จะจริงรึเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าที่แน่ๆ กลางเมืองระนองมี “ตลาดพม่า” ขนาดใหญ่ ขายสินค้าพม่า จีน ปักษ์ใต้ บรรยกาศคึกคักตั้งแต่เช้าตรู่จนเย็นย่ำ มีสินค้านานาชนิดให้เลือกชมเลือกซื้อ ทั้งเสื้อผ้า ของใช้ ขนม ของกิน รวมไปถึงปลาสดตัวใหญ่เบ้อเริ่มจากน่านน้ำพม่า!
วัดบ้านหงาว เป็นวัดดังอันดับต้นๆ ของเมืองระนอง เพราะมีของเด่นดังอยู่ 3 อย่าง คือ พระพุทธรูปดีบุกใหญ่ที่สุดในโลก, โบสถ์แห่งใหม่ที่มีพุทธศิลป์งามล้ำ และวังมัจฉา ที่มีปลาอยู่เพียบ ทั้งปลาดุกยักษ์และปลาบึก นอกจากนี้ วัดบ้านหงาวยังอยู่ใกล้กับภูเขาหญ้า และน้ำตกหงาว แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต
หลังจากไหว้พระที่วัดบ้านหงาวเสร็จแล้ว ใกล้ๆ กันอย่าลืมแวะที่ “ร้านวัชรี” บ้านหงาว แหล่งผลิตและจำหน่ายมะม่วงหิมพานต์ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในจังหวัดระนอง เราสามารถเข้าไปชมขั้นตอนการทำ ตั้งแต่การคั่ว การกระเทาะเปลือก ไปจนถึงการตากแห้ง แถมยังมีร้านจำหน่ายให้ซื้อกลับบ้านกันอย่างจุใจ
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ที่คั่วด้วยไฟจนสุกแล้ว จะนำมาทุบเอาเปลือกออก เพื่อให้เหลือแต่เนื้อในใช้รับประทาน รสชาติหวานมันดี มะม่วงหิมพานต์ที่คนภาคกลางเรียกกันนั้น คนใต้เขายังเรียกต่างไปอีกหลายชื่อ เช่น กาหยู, เล็ดล่อ (หมายถึง เมล็ดล่อ คือเมล็ดโผล่ออกมา) และบางท้องถิ่นก็เรียกว่า กาหยี ฯลฯ
ด้วยดินฟ้าอากาศเอื้ออำนวย มะม่วงหิมพานต์ของระนองจึงเมล็ดใหญ่อวบ หวานมัน น่ากินอย่างนี้เอง
ร้านวัชรี ยังใช้การคั่วเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ด้วยเตาถ่านแบบโบราณ ขอบอกว่าในห้องคั่วนี่ไฟร้อนระอุมากๆ แถมยังมีน้ำมันจากเมล็ดมะม่วงหิมานต์ที่โดนไฟ กระเด็นออกมา แตกดังเปรี๊ยะๆๆ
CONTACT : ร้านวัชรี 55/5 หมู่ 1 ตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง 85000 (ใกล้วัดบ้านหงาว) โทร. 0-7782-3783
สำหรับคอกาแฟตัวจริง ณ วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “พี่ก้อง” หรือคุณสุพจน์ กรประสิทธิ์วัฒน์ ผู้ก่อตั้ง “ก้อง Valley” แห่งอำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง เป็นอาณาจักรเล็กๆ ของคนรักกาแฟ ที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ และในอีกหลายประเทศทั่วโลก กาแฟของพี่ก้องมีจุดเด่นคือ เป็นกาแฟโรบัสต้าที่คั่วเอง โดยใช้การคั่วแบบโบราณ จึงหอมกรุ่น รสชาติเข้มข้น ตามสโลแกนของกาแฟระนอง คือ “เข้มแต่ไม่ขม”
เมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วมืออย่างช้าๆ ประณีต เอาใจใส่ ด้วยกรรมวิธีโบราณ จะมีหน้าตาแบบนี้เอง
มาเที่ยว ก้อง Valley แล้ว ไม่ซื้อกาแฟพี่ก้องไม่ว่า แต่เขาจะชงกาแฟเลี้ยงทุกคน เหมือนกับเลี้ยงเพื่อนที่มาเที่ยวบ้าน เราจึงรู้สึกอบอุ่น พร้อมกับนั่งฟังพี่ก้องเล่าเรื่องกาแฟทั่วโลกจนเพลิน ใครไม่ดื่มกาแฟ ฟังแล้วก็ In ต้องเริ่มดื่มบ้างแล้ว
กาแฟของพี่ก้อง นอกจากจะคั่วบนเตาถ่านแล้ว ยังต้องบดด้วยเครื่องบดมือเท่านั้น อย่างเครื่องบดอันนี้ พี่ก้องได้มาจากประเทศเยอรมนี เป็นเครื่องบดกาแฟสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โอ้โห ยังใช้ได้ดีเหมือนใหม่จริงๆ
กาแฟที่บดแล้ว พร้อมนำไปคั่วมีหน้าตาเป็นผงละเอียดแบบนี้นี่เอง
CONTACT : ก้องกาแฟ (ก้อง Valley) 62/1 หมู่ 8 ตำบลน้ำจืด อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง 85110 (อยู่ก่อนถึงน้ำตกบกกราย) โทร. 08-7268-1285
มาเที่ยวระนอง ถ้าไม่ได้แวะชม “คอคอดกระ” ก็เหมือนจะดูเป็นทริปที่ไม่สมบูรณ์! เพราะคอดคอดกระ หรือกิ่วกระ (Kra Isthmus) คือส่วนแคบที่สุดของแหลมมลายู โดยมีระยะห่างจากชายฝั่งทะเลทางตะวันตก จรดตะวันออกเพียง 44 กิโลเมตร นับเป็นจุดยุทธศาสตร์และเชื่อมโยงประวัติศาสตร์สำคัญของไทยหลายครั้ง จากจุดนี้สามารถมองเห็นลำน้ำกระบุรี ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลองแคบๆ กั้นไทยกับพม่า ที่อยู่ห่างกันแค่นิดเดียว
จากจุดชมวิวคอคอดกระ มองข้ามลำน้ำกระบุรีไปเห็นฝั่งพม่าได้ถนัดตา โดยฝั่งพม่ายังมีมีป่าต้นจากแน่นทึบ ในขณะที่ฝั่งไทยมีบ้านเรือนผู้คนปลูกอยู่หนาแน่น
ซาลาเปาทับหลี แห่งบ้านทับหลี อำเภอกระบุรี เป็นซาลาเปาพื้นบ้านแสนอร่อยที่ทำสืบทอดกันมากว่า 50 ปีแล้ว จุดเด่นคือ ลูกเล็ก พอดีคำ เนื้อแป้งนุ่ม ไส้เยอะ เคี้ยวแล้วสู้ปาก ดั้งเดิมมีแค่ไส้หมูสับ หมูแดง และไส้ถั่วแดง แต่ปัจจุบันมีไส้แปลกใหม่มาให้ชิมกันเพียบ ทั้งไส้หวาน ไส้ช็อกโกแลต ฯลฯ ไส้หมูสับต้องกินกับน้ำจิ้มสูตรดั้งเดิมถึงจะครบเครื่อง
Best Season : เที่ยวได้ตลอดปี แต่อากาศดีที่สุด ฟ้าโปร่ง ปลอดฝน ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน
How to go :
– เครื่องบิน ปัจจุบันมีบินไประนองทุกวัน วันละ 2 เที่ยว โดยสายการบินนกแอร์ จองตั๋วได้ที่ www.nokair.com หรือติดต่อ ท่าอากาศยานระนอง หมู่ 3 ตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง โทร. 0-7786-2229
– รถยนต์ ระนองอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 568 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราวๆ 7-8 ชั่วโมง จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2 หรือ ถนนธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม อำเภอปากท่อ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงสี่แยกปฐมพร จ.ชุมพร เลี้ยวขวาไปจนถึงจังหวัดระนอง ทางช่วงสุดท้ายเป็นถนนบนภูเขาคดเคี้ยว ต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง
Overnight : แนะนำ FARM HOUSE HOTEL อำเภอเมืองระนอง โทร. 0-7783-2707, 08-7278-4224
What to eat : นอกจากน้ำดื่มแร่นองอันขึ้นชื่อลือชาแล้ว ระนองยังมีอาหารอร่อยให้เลือกชิมมากมาย ทั้งอาหารปักษ์ใต้แท้ และอาหารที่ได้รับอิทธิพลจากจีน อาทิ ยอดเหลียงผัดไข่, ต้มกะทิใบเหลียง, ปูนิ่มผัดผงกระหรี่, กุ้งมะขาม, ยาวเย, ข้าวยำ, ขนมจีน, น้ำพริกกุ้งสด, ยำผักกูด, แกงส้มอ้อดิบใส่ไข่ปลาทะเล, ทะเลผัดฉ่า, ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว, หอยตลับผัดฉ่า, แมงกะพรุนผัดน้ำมันงา, ปลากระบอกทอดขมิ้น, สะตอผัดกุ้ง, หมูฮ้อง, โรตี และอีกมากมาย แค่ฟังชื่อก็น้ำลายสอแล้ว!
Souvenirs : มะม่วงหิมพานต์, กะปิคุณภาพดี, ผ้าโสร่งปาเต๊ะ, กาแฟ ก้อง Valley, ไข่มุก, น้ำดื่มแร่นอง ฯลฯ
Special Thanks : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานชุมพร-ระนอง
สนับสนุนการเดินทางทำสารคดีเรื่องนี้เป็นอย่างดี ติดต่อ โทร. 0-7750-1831, 0-7750-2775-6
Special Thanks : บริษัท Nikon Sales (Thailand) Co.,Ltd.
สนับสนุนอุปกรณ์ถ่ายภาพระดับมืออาชีพ โทร. 0-2633-5100 (Office) / 0-2633-5192 (Service) www.nikon.co.th
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!