บุกถ้ำมนุษย์โบราณ เขาขนาบน้ำ จ.กระบี่
เขาขนาบน้ำ สัญลักษณ์สำคัญที่สุดของจังหวัดกระบี่ ถือเป็น Landmark ซึ่งไม่มีที่ใดเหมือน จดจำง่าย และโดดเด่นเป็นที่ภาคภูมิใจของชาวกระบี่ทุกคนครับ
เขาขนาบน้ำ เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาที นอกจากนั่งเรือชมเขาและป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์แล้วยังสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวถ้ำได้ ภายในมีหินงอกหินย้อย และเป็นสถานที่ที่เคยพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากอีกด้วยแต่ปัจจุบันไม่หลงเหลืออยู่แล้ว สันนิษฐานว่าอาจเป็นโครงกระดูกของกลุ่มคนที่อพยพมาตั้งหลักแหล่งแต่ล้มตายลงเนื่องจากเกิดอุทกภัยอย่างฉับพลัน และสำหรับนักนิยมพายเรือคายัค, เรือแคนู บริเวณนี้เหมาะที่จะพายเรือมาก เพราะมีธรรมชาติเขียวชอุ่มด้วยป่าชายเลน และน้ำก็นิ่ง ไม่มีคลื่นแรงให้หวาดเสียวกัน
จากลานปูดำมองไปเห็นเขาขนาบน้ำได้ชัดแจ๋ว ถ่ายรูปเจ๋ง โดยเฉพาะตอนเช้าๆ ที่คึกคักด้วยชมรมรำมวยไทเก็กกระบี่
ที่ลานปูดำ ทุกเช้าตรู่จะมีคุณป้าคุณน้า มารำมวยไทเก็ก และรำพัดจีน เพื่อออกกำลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์ ใครสนใจเข้าร่วมได้ไม่ว่ากันครับ
ลานปูดำ Landmark แห่งใหม่ของคนกระบี่ เราสามารถลงเรือจากจุดนี้ไปเขาขนาบน้ำที่อยู่เบื้องหน้าได้ ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีเอง
จากท่าเรือบริเวณลานปูดำ มองไปทางเขาขนาบน้ำจะเห็นวัดถ้ำเสือ และเขาพนมเบญจา (ยอดเขาสูงที่สุดในจังหวัดกระบี่) ยืนตระหง่านอาบเมฆหมอกอยู่เบื้องหลัง อย่างชัดเจน
แนวป่าชายเลนแน่นทึบบริเวณลำคลองเขาขนาบน้ำ มีกุ้ง หอย ปู (ปูดำ) ปลานานาชนิดอาศัยอยู่ ให้ผู้คนได้พึ่งพิงจับกิน และนำไปขายเลี้ยงปากท้องครอบครัว นี่ถ้าไม่มีป่าชายเลน จะเกิดอะไรขึ้นหนอ?
กัปตันเรือใจดียิ้มแฉ่ง พร้อมลูกชาย พาเราไปเที่ยวเขาขนาบน้ำในวันนี้
พร้อมแล้ว ก็ไปลุยถ้ำมนุษย์โบราณกันได้เลย!
ระหว่างทางจากท่าจอดเรือเดินไปปากถ้ำ มีซอกหลืบโพงหินปูนให้สำรวจนับไม่ถ้วน
ด่านแรก ต้องไต่บันไดสูงชันขึ้นสู่ปากถ้ำเขาขนาบน้ำครับ จะมีอะไรรอเราอยู่ด้านในบ้างเอ่ย?
เคยมีการขุดพบซากโครงกระดูกมนุษย์โบราณบริเวณปากถ้ำเขาขนาบน้ำ แต่ปัจจุบันนักโบราณคดีได้เคลื่อนย้ายของจริงไปเก็บรักษาไว้แล้ว จึงมีการทำหุ่นจำลองมาวางไว้ให้ชมกัน สังเกตให้ดีบนพื้นทรายบริเวณนี้มีรูของแมลงช้างอยู่นับร้อยๆ รู แมลงพวกนี้จะขุดโพรงลงไปฝังตัวเองอยู่ใต้ทราย รอให้มีเหยื่อตกลงไปในโพรงแล้วจัดการงาบกินเป็นอาหาร!
โถงใหญ่สุดภายในถ้ำเขาขนาบน้ำ เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย และเสาหินปูนขนาดยักษ์มากมาย มองออกไปอีกฝั่งหนึ่งเป็นโพรงช่องทะลุขนาดยักษ์ ที่ปล่อยให้แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาได้เกือบทั่วถึง
จากปากถ้ำด้านหน้า พอปีนบันไดขึ้นมาก็จะพบกับคูหาแรกหน้าตาสวยงามอย่างนี้ล่ะครับ
โถงถ้ำเขาขนาบน้ำในคูหาใหญ่ที่สุดตรงกลาง เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยตื่นตา อลังการมาก
กลางโถงถ้ำในเขาขนาบน้ำ มีเสาหินปูนขนาดยักษ์ สูงหลายสิบเมตรตั้งตระหง่านอยู่
กว่า 3,000-5,000 ปีที่แล้ว เคยมีมนุษย์ถ้ำอาศัยอยู่ในถ้ำเขาขนาบน้ำด้วย! รวมถึงถ้ำผีหัวโต, ถ้ำชาวเล, เขากาโรส, ถ้ำเขาตีบนุ้ย, แหลมไฟไหม้, แหลมชาวเล, เขาเขียนในสระ และถ้ำหน้ามันแดง พวกเขาเหล่านั้นใช้ยางไม้ผสมดินฝุ่นสีแดง เขียนภาพไว้บนผนังถ้ำ เพื่อบันทึกวิถีชีวิตประจำวัน รวมถึงพิธีกรรมต่างๆ มีทั้งรูปคน สัตว์บก สัตว์น้ำ และรูปทรงเรขาคณิต
ภาพมือคนมี 6 นิ้ว นี้จริงๆ แล้วสำรวจพบที่ถ้ำผีหัวโตในคลองบ่อท่อครับ แต่จำลองมาให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันด้วย
วิถีชีวิตของมนุษย์ถ้ำยุคแรกๆ บนแผ่นดินกระบี่ น่าจะมีรูปแบบเป็นอย่างนี้เอง คือดำรงชีพด้วยการเก็บ หา ล่า ไล่ และเริ่มสร้างเครื่องมืออย่างง่ายๆ ขึ้นมาเพื่อเป็นอุปกรณ์ล่าสัตว์ ทำอาหาร
ถัดจากมุมจำลองวิถีชีวิตมนุษย์ถ้ำ ก็มีมุมจำลองค่ายพักทหารญี่ปุ่น ซึ่งเคยใช้ถ้ำแห่งนี้เป็นที่หลบภัยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย
มนุษย์โบราณคงจะอยู่กันกระจัดกระจายเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ดูๆ ไปก็คล้ายกับลิงเอปขนาดใหญ่ ที่เพิ่งพัฒนายืนตั้งตรงและเดินได้ มนุษย์พวกนี้ยังไม่รู้จักก่อไฟ จึงกินอาหารสดกันเหมือนหุ่นจำลองนี้ล่ะครับ
เที่ยวเขาขนาบน้ำเสร็จแล้ว อย่าเพิ่งรีบกลับ ต้องให้คนเรือพาไปชิมอาหารแสนอร่อยที่ร้าน “บ้านมะหญิง” ซึ่งมีลักษณะเป็นร้านอาหาร Seafood บนกระชังปลา รับรองว่าของทุกอย่างสดใหม่ เพราะกระบี่เป็นประมงชายฝั่ง จึงมีของสดให้ชิมไม่เว้นแต่ละวันครับ สังเกตดูขนาดของกุ้ง หอย ปู ปลา บนโต๊ะเอาเองก็แล้วกัน ว่ามันอลังการขนาดไหน?!
เอาภาพมายั่วน้ำลายกันเล่นๆ แบบ Close Up แค่เมนุเดียวพอ คือ กุ้งซอสมะขาม แม่เจ้า!!! กุ้งตัวใหญ่เท่าฝ่ามือเลย!!! แถมน้ำซอสเข้มข้นมะขามเปียก หวานอมเปรี้ยว กินกับข้าวสวยร้อนๆ เจ๋ง!
ระหว่างรอกับข้าวออกจากครัว ใครแรงเหลือจะไปพายเรือคายัคเล่นหน้าแพ ร้านบ้านมะหญิงก็ได้นะ เขามีเรือให้ยืมจ้า
นอกจากจะมีอาหาร Seafood สดอร่อยแล้ว ครัวบ้านมะหญิงยังมีกระชังปลาให้นักท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้านด้วย ถึงกึ๋นจริงๆ นะเนี่ยะ
อิ่มแปล้แล้ว ระหว่างทางกลับท่าเรือ พี่กัปตันใจดียังพาเราลัดเลาะเข้าไปในป่าชายเลนแน่นทึบ บ่งชี้ว่ากระบี่วันนี้ยังมีธรรมชาติสมบูรณ์สมคำร่ำลือจริงๆ
Special Thanks : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่ และผองเพื่อนจากเว็บไซต์เมืองไทยดอทคอม ที่ช่วยสนับสนุนการเดินทาง พร้อมแบ่งปันมิตรภาพดีๆ ให้แก่กันครับ
Traveler’s Guide
When to go : ท่องเที่ยวได้ตลอดปี แต่อากาศปลอดโปร่ง ฟ้าใสที่สุด ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน
How to go : สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาที ค่าเช่าเรือประมาณ 300-500 บาท และมีค่าเข้าชมถ้ำเขาขนาบน้ำอีกคนละ 30 บาท (ราคาชาวต่างชาติเท่าคนไทย)
Contact : สอบถามเพิ่มเติมที่ ททท. สำนักงานกระบี่ โทร. 0-7562-2163, 0-7561-2811-2
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!