สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แถลงความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยไตรมาส 1 ปี 2561
27 มีนาคม 2561 ณ ห้องประชุมอโนมา 1 ชั้น 3 โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำโดย นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) แถลงข่าวดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย ไตรมาส 1/2561 เท่ากับ 101 ซึ่งอยู่ในระดับปกติ ทั้งนี้รายได้จากภาคการท่องเที่ยวอันเนื่องจากเศรษฐกิจโลก นำโดย สหรัฐอเมริกาและกลุ่มยุโรปที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผลให้การส่งออกของเอเชียปรับขยายตัวดี ทำให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากการส่งออกสินค้าและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ส่วนในไตรมาสที่ 2/2561 สทท. คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ เท่ากับ100 เป็นการคาดการณ์ในระดับปกติอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ประกอบการมีการปรับเพิ่มเป้าหมายผลประกอบการในไตรมาสหน้า และบางส่วนวางแผนที่จะปรับเพิ่มราคาสินค้าไปพร้อมๆ กับเพิ่มการจ้างงานและการลงทุน โดยในปี 2561 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 38.63 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.16 จากปี 2560 และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.14 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 17.37
ในไตรมาสที่ 1/2561 สทท.คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9.84 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.07 จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนในไตรมาส 2/2561 หากไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 9.10 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.93 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่มอาเซียน 2.66 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.37 นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก (รวมจีน) 3.74 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.48 นักท่องเที่ยวจากยุโรปจะอยู่ที่ 1.25 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.62 จากปี 2560 ส่วนแนวโน้มการท่องเที่ยวในประเทศ ไตรมาสที่ 1/2561 มีนักท่องเที่ยวไทยวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ร้อยละ 25 ต่ำกว่าระยะเดียวกันในปีก่อน ขณะที่ไตรมาส 2/2561 เพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 33 ซึ่งเพิ่มสูงกว่าปีก่อน สทท. มองว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติยังสามารถขยายตัวได้ดี ด้วยปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ การเดินทางที่สะดวกรวดเร็วและง่ายขึ้น รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น พร้อมกับแผนการตลาดเชิงรุกจากหน่วยงานภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เห็นควรให้ภาครัฐวางระบบพัฒนาการคมนาคมขนส่งให้มีมาตรฐานและเชื่อมต่อระบบการเดินทางต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสถานที่ท่องเที่ยว และสถานประกอบการในพื้นที่ท่องเที่ยว ให้เป็นไปตามมาตรฐานสอดคล้องกับความสามารถในการรองรับของพื้นที่ และออกแบบการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้นโยบายที่มีความสัมพันธ์กับการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องและเข้าถึงทุกพื้นที่ ในส่วนของผู้ประกอบการควรพัฒนาคุณภาพสินค้า และการให้บริการให้อยู่ในมาตรฐานสากล มีการทำงานร่วมกันในพื้นที่ระหว่างภาคส่วนต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น และส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าและบริการได้อย่างมีคุณภาพ นายศิเวก สัจเดว ผู้ก่อตั้งบริษัทไมนด์ทรี กล่าวถึงผลการวิเคราะห์ทัศนคติของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยในไตรมาสที่ 1 ว่า ข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์โดยนำเอาปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) มาใช้ในการแบ่งทัศนคติออกเป็น 4 ระดับ คือ Positive (สีเขียว) , Negative (สีแดง), Ambivalent (สีเหลือง) และ Neutral (สีเทา) โดยในการประมวลผลดัชนีความพึงพอใจสินค้าและบริการด้านท่องเที่ยวนั้นทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกับบริษัท ไมนด์ทรี ได้ทำการพัฒนาโมเดลและระบบปัญญาประดิษฐ์ให้สอดคล้องกับดัชนี World Economic Forum Travel & Tourism Competitiveness Index จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า ไตรมาส 1 ปี 2561 นักท่องเที่ยวมีทัศนคติต่อเมืองเชียงใหม่เป็นบวกมากที่สุด ร้อยละ 56 และมีทัศนคติเป็นบวกเพิ่มขึ้นสูงสุดจากทุกเมืองหลักเมื่อเทียบจากไตรมาส 4 ปี 2560 ส่วนพัทยาและภูเก็ตเป็นสองเมืองที่นักท่องเที่ยวมีทัศนคติเป็นบวกน้อยสุด ร้อยละ 46 และ ร้อยละ 50 ตามลำดับ ทั้งนี้จังหวัดกระบี่เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวมีทัศนคติเป็นลบเพิ่มขึ้นสูงเมื่อเทียบจากไตรมาส 4 ปี 2560 ในการวิเคราะห์ความเห็นนักท่องเที่ยวต่อโครงสร้างพื้นฐาน สนามบิน และการเชื่อมต่อทางอากาศ ได้ข้อสรุปว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีทัศนคติเป็นบวกต่อสายการบิน Qatar Airways ที่ได้ประกาศเปิดเที่ยวบินใหม่ เชื่อมต่อสู่สนามบินอู่ตะเภา บินตรงจากเมืองโดฮา (Doha) เพื่อเป็นศูนย์กลาง (Hub) ในการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวพัทยา ส่วนทัศนคติของนักท่องเที่ยวต่ออาหารและร้านอาหารของประเทศไทยในไตรมาส 1 ปี 2561 พบว่ากระแสของ “ข้าวซอย”เป็นที่น่าสนใจมาก เนื่องจากทำให้ทัศนคติของนักท่องเที่ยวเป็นบวกต่ออาหารไทย โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่เกิดจาก ผู้กำกับชื่อดัง (Phil Rosenthal) ได้เปิดตัวรายการสารคดีอาหาร (Somebody Feed Phil) ผ่าน Netflix ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชม โดยออกอากาศตอนแรกในเดือนมกราคม 2561 รายการถ่ายทำที่กรุงเทพฯและเชียงใหม่ เน้นเรื่อง อาหารการกิน ว่าจะกินอะไร ? โดยนำเสนออาหารขึ้นชื่อทางภาคเหนือ ได้แก่ “ข้าวซอย” เกิดเป็นกระแสให้คนอเมริกันมีการเข้าไปค้นหาข้อมูลสูตรการทำข้าวซอยจาก Google เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
โทร 02 250 5500 ต่อ 1646-1648 อีเมลล์ info@thailandtourismcouncil.org
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!