Happy บุรีรัมย์ เมือง Amazing จิงกาเบล!
“บุรีรัมย์” มหานครแห่งอีสานใต้ที่อาบอิ่มด้วยความรื่นรมย์ของรอยยิ้ม ผู้คน ชีวิต ความทันสมัย และอารยธรรมขอมอันเก่าแก่ วันนี้บุรีรัมย์ได้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการสร้างความผสมกลมกลืนของอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เต็มไปด้วยความคึกคัก น่ารัก น่าเที่ยว จนกลายเป็น 1 ใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แล้ว
ทีแรกเราอาจสงสัยว่า บุรีรัมย์จะมีอะไรให้สัมผัสชื่นชมบ้างนะ? ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ถ้าไม่ได้ไปเห็นกับตา สัมผัสกับตัว ก็คงไม่เชื่อว่า ณ วันนี้บุรีรัมย์คือเมืองที่ร่ำรวยด้วยเสน่ห์และเรื่องราวให้ค้นหาไม่รู้จบ พร้อมแล้วก็รีบคว้ากระเป๋า โดดขึ้นรถ บิดกุญแจสต๊าทเครื่อง บึ่งไปเที่ยว “บุรีรัมย์” กันเลยดีกว่า ฮาฮาฮา…
#Thairentacar #Nokair #บุรีรัมย์ #TTBN #12เมืองต้องห้ามพลาด
#ปีท่องเที่ยววิถีไทย #TheAmazingJourneyBloggingContest
#TTBN08 #Buriram
1. เพ ลาเพลิน บูติค รีสอร์ท แอนด์ แอทเวนเจอร์ แคมป์ (PLAY LA PLOEN Boutique Resort & Adventure Camp) อ.คูเมือง บุรีรัมย์
เป็นอุทยานเพื่อพักผ่อนเรียนรู้ และทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกันได้ทั้งครอบครัว มาเที่ยวที่นี่แล้วรู้สึกสดชื่น เพราะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ดอกไม้พรรณไม้นานาชนิด ผลิดอกพราว ภายในเพ ลาเพลิน นอกจากจะมีที่พักสุดหรูแล้ว ยังมีสวนน้ำ กิจกรรมผจญภัยเป็นฐานๆ ทั้งปีนผาจำลอง, โรยตัว ฯลฯ แถมยังมีอุทยานพรรณไม้ในโรงเรือนขนาดยักษ์ ถ้าขี้เกียจเดิน เขาก็มีรถพ่วงไว้บริการพาชม นับว่าเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งในภาคอีสานตอนล่างเลยก็ว่าได้! ขอแอบกระซิบว่า บริเวณเขากว้างใหญ่จริงๆ เที่ยววันเดียวไม่ทั่วแน่นอน! เลยต้อง Check In เข้าไปนอนในโรงแรมสุดฮิปของเขาซะหน่อยแล้ว
CONTACT : โทร. 087-7994936, 087-7981039, 087-7976425 www.playlaploen.com
2. ถนนคนเดินเซราะกราว Walking Street อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
ใครรู้บ้างว่าเซราะกราวในภาษาเขมรแปลว่าอะไร? ใช่แล้ว แปลว่า “บ้านนอก” ฮาฮาฮา แต่ในความจริง ถนนคนเดินเส้นนี้ Inter เอามากๆ จนเรางงเลยทีเดียวเชียว
ถนนคนเดินเซราะกราวเป็นถนนคนเดินเย็นวันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. ที่ถนนรมบุรีย์ หน้าจวนผู้ว่าจังหวัดบุรีรัมย์ รับรองว่าถูกใจขาช็อปทั้งหลาย รวมถึงคนที่ชอบสรรหาของกินอร่อยๆ เขามีการนำผ้าทอเด่นๆ จากชุมชนต่างๆ ทั่วบุรีรัมย์มาวางขายกันอย่างละลานตา! แถมยังมีเสื้อยืด, สินค้าเก๋ไก๋, ของกินพื้นบ้าน, พืชผักปลอดสารพิษ ฯลฯ เดินช๊อปไปเพลินๆ พอเหนื่อยก็หาที่นั่งพัก มีร้านนวด และเวทีแสดงหมอลำขับกล่อม จุดเด่นอีกอย่างคือถนนคนเดินเซราะกราวคนไม่เบียดเสียด จึงเดินเล่นเกี่ยวก้อยกันสบายใจ บรรยากาศ Chill & Chic มากๆ เลย
3. ชวนกันไปชิม ลูกชิ้นนางฟ้าหน้าสถานีรถไฟ อ.เมือง บุรีรัมย์
เขาว่าถ้าเราได้กินอาหารตา อาหารใจ และอาหารปาก ไปด้วยพร้อมกัน ก็คงจะเป็นความสุขล้นเหลือ! ฮาฮาฮา ได้เชื่ออย่างสนิทใจในประโยคที่ว่านี้ ก็เมื่อได้มายืนกินลูกชิ้นเสียบไม้ ที่หน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ (อยู่ตรงข้ามวงเวียนหอนาฬิกา) นี่เอง จุดนี้มีรถเข็นขายลูกชิ้นทอดเรียงรายกันอยู่เกือบ 10 ร้าน แต่ละร้านก็มีสูตรน้ำจิ้มแตกต่างกันไป แต่โดยมากจะมีรสเผ็ดและหวานนำ ทุกร้านจะมีลูกชิ้นกับไส้กรอกทำเองให้เลือกหลายสิบแบบ! เขาจะเอามาทอดในกระทะใบใหญ่น้ำมันร้อนฉ่า! แต่ถ้าจะให้ได้อารมณ์สุดๆ ก็ต้องยืนกินที่หน้าร้านเลย เขามีหม้อน้ำจิ้ม พร้อมผักแกล้ม เป็นพวกกะหล่ำปลีกับแตงกวาให้ฟรีด้วย ราคาก็ไม่แพง แค่ไม้ละ 5 บาท เราเลยกินกันเพลิน เพราะเผลอใจไปกับยิ้มหวานของน้องนางฟ้าร้านขายลูกชิ้น! ฮาฮาฮา
ลืมบอกไปว่า มีขายทุกวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นเลยอ่ะจ้า
4. สนามฟุตบอล i-Mobile Stadium (สนาม Thunder Castel Stadium) อ.เมือง บุรีรัมย์
ตื่นตะลึง! กับสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่าแห่งแรกของเมืองไทย! ที่สนามฟุตบอล i-Mobile Stadium หรือที่ชาวบุรีรัมย์เรียกกันในอีกหลายชื่อ เช่น สนาม Thunder Castle Stadium และ Buriram Stadium จัดเป็นสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นสนามและผ่านมาตรฐานฟีฟ่า , เอเอฟซี และเอเอฟเอฟ โดยเป็นสนามฟุตบอลในระดับฟีฟ่าแห่งเดียวที่ใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดในโลกคือ 256 วัน!
ต้องร้องว้าว! เวลาเข้าไปอยู่ในสนาม i-Mobile จริงๆ เพราะเราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของความเป็น Inter คล้ายกับว่าอยู่ในอังกฤษเลย! ในวันที่ไม่มีการแข่งขัน เขาก็มีเปิดให้เข้าชมสนามได้เป็นรอบๆ ฟรีนะคร้าบ และด้านหน้าสนามยังมีร้านขายของที่ระลึกเพื่อแฟนบอลทีมปราสาทสายฟ้าบุรีรัมย์ ขอบอกว่าเสื้อยืดเขาสวยน่าใส่ เท่ห์ไม่หยอกเลย
5. สนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (Chang International Circuit) อ.เมือง บุรีรัมย์
ขึ้นชื่อว่าสนามแข่งรถ รับรองว่าต้องมันสะใจสุดๆ อยู่แล้ว! ยิ่งถ้าเป็นสนามแข่งรถระดับโลกด้วยล่ะก็ ความมันคงพุ่งทะลุปรอทแน่นอน! สนามแข่งรถช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นสนามแข่งรถมารฐานโลก ที่สามารถแข่งรถสูตร 1 หรือ Formula 1 และแข่งรถ Super GT ได้สบายๆ จุดเด่นคือเป็นสนามแข่งรถเพียงสนามเดียวในโลก ที่ผู้ชมบนอัฐจรรย์สามารถมองเห็นได้ทุกโค้ง! ทำให้ไม่พลาดวินาทีแห่งความมัน ขณะกำลังเชียร์ กำลังลุ้นรถแข่งในดวงใจ
ด้านข้างสนามแข่งรถยนต์ ยังมีสนามแข่งรถมอเตอร์ไซค์แบบ Drag Bike ระยะทาง 200 เมตร ให้ Bike Boy Bike Girl ปรับแต่งรถของตัวเองมากันเต็มที่ เพื่อประลองความเร็วกันบนลู่วิ่งอย่างมีกติกา รู้แพ้รู้ชนะ
CONTACT : โทร. 089-585-0515 , 044-604-200 http://bric.co.th เวลาเปิด จันทร์ – ศุกร์ 09.00 – 17.00 น.
6. หมู่บ้านหนองตาไก้ แหล่งเรียนภูมิปัญญาผ้าไหมเลอค่า อ.นางรอง บุรีรัมย์
แม้จะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ในตำบลหนองกง อำเภอนางรอง แต่ด้วยภูมิปัญญาที่สั่งสมมานานจากบรรพบุรุษ บวกกับความขยันขันแข็งของคนบ้านตาไก้ ช่วยกันสืบสานงานศิลป์บนผืนผ้าให้คงอยู่ คนหมู่บ้านนี้ใจดี น่ารัก ยิ้มง่าย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว เราสามารถนั่งรถอีแต๋นชมวิถีชีวิตอันเรียบง่ายพอเพียง แวะดูฐานการผลิตผ้าไหมได้ครบวงจร เริ่มตั้งแต่การปลูกต้นหม่อน เลี้ยงตัวไหม สาวไหม ปั่นเส้นไหม ย้อมสี และทอเป็นผืนด้วยกี่กระตุกแบบโบราณ แต่ไม่ใช่ดูอย่างเดียวนะจ๊ะ เรายังลองทำได้ด้วย นี่คือประสบการณ์ตรงที่หาได้ยาก ตอบสนองปีท่องเที่ยววิถีไทย ฮาฮาฮา แต่ถ้าจะไปเที่ยวก็ควรโทรบอกให้ชาวบ้านเตรียมตัวนิดนึงนะ เพราะถ้าเป็นหน้าฝน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะออกไปทำนา อาจจะไม่ได้เห็นครบทุกขั้นตอนการผลิตผ้าไหมจ้า
CONTACT : ประธานกลุ่มทอผ้าไหม บ้านหนองตาไก้ โทร. 08-5280-8396, 08-5490-5230
7. บ้านโคกเมือง สัมผัสวิถีชุมชนแสนน่ารัก อ.ประโคนชัย บุรีรัมย์
จากภาพของสนามฟุตบอล และสนามแข่งรถอันทันสมัยระดับโลกในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ลองพาตัวและหัวใจออกไปเปลี่ยนบรรยากาศกันที่อำเภอประโคนชัย สัมผัสชุมชนน่ารักแสนอบอุ่น ที่มีรากฐานประวัติสืบย้อนไปได้ถึงสมัยขอม เพราะพวกเขาเป็นชาวขะแมร์ที่อพยพเข้ามาอยู่บนผืนดินสยาม ณ “บ้านโคกเมือง” ผู้ยังคงสืบทอดภูมิปัญญาหลายอย่างมิให้สูญหาย โดยเฉพาะทักษะการทอเสื่อกก และการทอผ้าไหมคุณภาพเยี่ยม
บ้านโคกเมืองเป็นชุมชนน่ารักที่เปิดเป็นโฮมสเตย์เล็กๆ แบบอบอุ่น เป็นกันเอง ให้เราเข้าไปพักผ่อนนอนเล่น ได้พูดคุยตั้งวงสนทนากับชาวบ้าน ได้ชิมอาหารพื้นถิ่นอร่อยๆ และได้ออกไปปั่นจักรยานเที่ยวชมนาไร่ สวนเกษตรแบบพอเพียง สวนสมุนไพร จนกระทั่งบ้านโคกเมืองได้รับรางวัลเกี่ยวกับโฮมสเตย์ยอดเยี่ยมมาแล้วอย่างโชกโชนทีเดียว
CONTACT : ผู้นำท่องเที่ยวชุมชนบ้านโคกเมือง คุณน้อย โทร. 08-8193-8840
8. บ้านเจริญสุข แหล่งผลิตผ้าภูอัคนี สีสันมหัศจรรย์จากดินภูเขาไฟ! อ.เฉลิมพระเกียรติ บุรีรัมย์
เชื่อหรือไม่ว่าในครั้งอดีตกาลนานโพ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน บุรีรัมย์เคยเป็นดินแดนแห่งภูเขาไฟ! ปรากฏชัดในหลักฐานทางธรณีวิทยา คือภูเขาไฟที่ดับแล้ว 6 ลูกกระจายอยู่ทั่วจังหวัด! แต่ใครจะไปเชื่อว่า ชาวบ้านเจริญสุข แห่งอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งตั้งหมู่บ้านอยู่ใกล้กับภูเขาไฟพระอังคาร จะคิดค้นสรรค์สร้างหัตถศิลป์บนผืนผ้าอันประณีตขึ้นได้ โดยการนำดินโคลนภูเขาไฟ มาหมักสร้างสีสันอันวิเศษให้เกิดผืนผ้าที่ไม่เหมือนใคร ได้อย่างไม่น่าเชื่อ!
ก็เพราะหมู่บ้านเจริญสุข ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีดินภูเขาไฟ อันอุดมด้วยแร่ธาตุที่ปะทุขึ้นมาพร้อมลาวาในอดีต เมื่อทอผ้าไหมหรือผ้าฝ้ายเสร็จแล้ว ก็นำลงไปย้อมในดินโคลนภูเขาไฟ ทิ้งไว้ตามเวลาที่ต้องการ ในที่สุด ก็จะได้ผืนผ้าแพรพรรณอันวิเศษ เป็นเอกลักษณ์ สร้างชื่อเสียงจนกลายเป็นหมู่บ้าน OTOP Village Champion ไปแล้วล่ะจ้า
CONTACT : กลุ่มทอผ้าฝ้ายผ้าไหม (ผ้าภูอัคนี) หมู่บ้านเจริญสุข โทร. 08-9526-6071
9. ปราสาทพนมรุ้ง มหาปราสาทบนภูเขาไฟโบราณ อ.เฉลิมพระเกียรติ บุรีรัมย์
ปราสาทพนมรุ้ง คือมหาศิลานครอันสวยสดและวิจิรพิสดาร ได้รับการเนรมิตขึ้นบนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงจากพื้นดินเบื้องล่างถึง 200 เมตร จึงแลเห็นได้จากระยะไกลหลายกิโลเมตร โดยสร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะ อันเป็นเทพสูงสุด 1 ใน 3 ตามความเชื่อขอมโบราณ พนมรุ้งได้รับการสร้างให้มีผังเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพื่อแทนเขาพระสุเมรุนั่นเอง
ทว่าความมหัศจรรย์ของพนมรุ้ง มิได้อยู่ที่ตัวโครงสร้างสถาปัตย์อันใหญ่โตและประณีตในทุกรายละเอียดเพียงอย่างเดียว ทว่ายังอยู่ที่ความมหัศจรรย์ในปริศนาการคำนวณทางคณิตศาสตร์อันลึกล้ำด้วย! เพราะนายช่างขอม ได้ศึกษาธรรมชาติ จนสามารถออกแบบให้ทุกปี จะมี 2 ช่วงเวลา ที่พระอาทิตย์จะขึ้นและตก ได้ตรง 15 ช่องประตูของพนมรุ้งอย่างน่าอัศจรรย์! คือ จะแลเห็นพระอาทิตย์ขึ้นตรงทั้ง 15 ช่องประตูได้ ในช่วงเดือนกันยายน ส่วนพระอาทิตย์ตก ตรง 15 ช่องประตู อยู่ในช่วงเดือนเมษายน ผู้คนจะหลั่งไหลไปชมปรากฏการณ์อันน่าฉงนนี้นับหมื่นๆ คน!
นอกจากนี้ ในด้านทิศตะวันออกของปราสาทประธาน ยังมี “ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์” ที่เคยหายสาบสูญไปจากสยาม แต่ได้รับการคืนมาติดตั้งไว้ในที่เดิมของมันอย่างสมบูรณ์ เป็นสมบัติของชาติที่ควรหวงแหน
10. ปราสาทเมืองต่ำ ปราสาทหินทรายกลางทะเลจำลอง อ.ประโคนชัย บุรีรัมย์
ห่างจากปราสาทพนมรุ้งเพียง 8 กิโลเมตร บนพื้นที่ราบต่ำใกล้บาราย (หรือสระน้ำขนาดใหญ่) คือที่ตั้งของ “ปราสาทเมืองต่ำ” ปราสาทหินทรายอันแสนพิเศษ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะมีสระน้ำล้อมรอบ สี่มุมประดับด้วยนาค 5 เศียร ซึ่งเป็นนาคหัวโล้น ไม่ใช่นาคทรงเครื่องแบบที่พบในปราสาทพนมรุ้ง
แม้จะไม่ใช่ปราสาทขนาดใหญ่โตนัก แต่ด้วยรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมขอมอันประณีต มีปราสาทอิฐ 5 องค์ ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน ทำหน้าที่เป็นกลุ่มปรางค์ประธาน ถือว่าหาได้ยากยิ่ง คนที่ชอบเรื่องประวัติศาสตร์และโบราณคดี มาเที่ยวที่นี่คงจะรู้สึกเหมือนได้เดินย้อนอดีตไปในทุกย่างก้าว แถมยังมีมุมถ่ายภาพสวยๆ ให้เลือกกันเพียบ
11. ภูเขาไฟกระโดง จุดชมวิวพาโนรามา อ.เมือง บุรีรัมย์
แมกไม้เขียวครึ้มที่งอกงามขึ้นปกคลุม “ภูเขาไฟกระโดง” บ้านน้ำซับ ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ แท้จริงคือสิ่งซ่อนเร้นพรางตา ของภูเขาไฟโบราณ 1 ใน 6 ลูก ที่ดับสนิทแล้วของบุรีรัมย์ โดยทุกวันนี้เรารู้จักมันในชื่ออย่างเป็นทางการว่า “วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง”
ป่ากว้างขวาง 6 พันกว่าไร่ ในวนอุทยาทภูเขาไฟกระโดง คือแหล่งอาศัยพักพิงของสัตว์ป่าขนาดเล็ก และนกนานาชนิด จากเชิงเขาด้านหน้า ถ้าใครฟิตพอ ก็สามารถเดินขึ้นบันไดสูงลิบไปไหว้พระบนยอดเขาได้ แต่ถ้าไม่ไหว เราไม่ว่ากัน เพราะเขามีทางรถยนต์ขึ้นถึงยอดเขาได้เช่นกัน เพื่อนำเราไปสักการะรอยพระพุทธบาทจำลอง หรือจะลองไปเดินเล่นรอบปากปล่องภูเขาไฟโบราณ! เดินข้ามสะพานแขวนลาวา! ตื่นตากับต้นโยนีปีศาจ! (พรรณไม้ประหลาดแห่งเขากระโดง) แต่ถ้ารู้สึกว่าอากาศบนนี้ร้อนเกินไป ก็ลองไปซื้อน้ำเย็นๆ มาซดให้ชื่นใจ พร้อมกับชมวิวจากมุมสูง มองเห็นได้แบบพาโนรามา น่าประทับใจจริงๆ
12. ภูพระอังคาร ร่องรอยภูเขาไฟล้านปี! อ.เฉลิมพระเกียรติ บุรีรัมย์
1 ใน 6 ภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วในปัจจุบันของบุรีรัมย์ แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ “ภูพระอังคาร” ปรากฏอยู่ด้วยแน่นอน เพราะภูสูง 331 เมตร ซึ่งมีแมกไม้ป่าละเมาะขึ้นปกคลุมลูกนี้ แท้จริงคือภูเขาไฟรูปโคน (หรือรูปฝาชีคว่ำ) ที่มีอายุเก่าแก่นับล้านปี! จากการสำรวจพบว่าในปากปล่องมีเนื้อที่ถึง 4 หมื่นตารางเมตร! และเคยเป็นทะเลสาบมาก่อนด้วย! ทว่าน้ำนั้นได้ระเหยไปหมดสิ้นนานแล้ว นับเป็นความมัหศจรรย์ทางธรณีวิทยาที่น่าศึกษา น่าไปยลด้วยตาตนเองเป็นอย่างยิ่ง
การชมภูเขาไฟภูพระอังคารให้ได้เห็นเต็มตา เราต้องขับรถขึ้นไปที่ “วัดเขาอังคาร” แล้วมองไปยังภูพระอังคาร จึงเหมาะที่จะขึ้นไปเที่ยวในตอนเช้าหรือเย็น เพราะแดดจะไม่ร้อนจัด วัดเขาอังคารเป็นวัดโบราณมาก คาดว่าสร้างขึ้นสมัยเดียวกับปราสาทพนมรุ้ง มีร่องรอยของซากโบราณสถานสมัยทวาราวดี และเสมาหินแกะสลักจำนวนมากกระจายอยู่ ทุกวันนี้วัดเขาอังคารมีศิลปะผสมผสานระหว่างใหม่เก่า อันเกิดจากการบูรณะทับซ้อนกันหลายยุคเลยล่ะ
13. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อาณาจักรสรรพสัตว์ในผืนป่ามรดกโลก อ.โนนดินแดง บุรีรัมย์
หลายคนคงไม่เคยรู้เลยว่า บุรีรัมย์ไม่ได้มีแต่สนามแข่งรถระดับโลก และไม่ได้มีแต่สนามฟุตบอลระดับมาตรฐานฟีฟ่า แต่ยังมีป่าใหญ่ผืนสุดท้าย อันเป็นส่วนเสี้ยวหนึ่งของผืนป่ามรดกโลก “ดงพญาเย็น-เขาใหญ่” ขององค์การ UNESCO เราเรียกที่นั่นว่า “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่” บ้านของพืชพรรณและสัตว์ป่าหายากนานาชนิด
ทว่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (Wild Life Sanctuary) มิได้ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ท่องเที่ยวเป็นหลักเหมือนกับ อุทยานแห่งชาติ (National Park) การเข้าไปท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ จึงต้องติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้ง ป่าผืนนี้มีโขลงช้าป่าอันแสนน่ารัก มีนกยูงไทยที่ใกล้สูญพันธุ์ เป็นแหล่งดูผีเสื้ออันยอดเยี่ยม แถมยังมีนกในวงศ์ไก่ป่าและไก่ฟ้าสวยงามหลายชนิด โดยเฉพาะไก่ฟ้าพญาลอ ที่ดุ่มเดิมหากินอยู่อย่างเสรีในราวไพรอันแสนพิสุทธิ์ เป็นภาพที่น่าจดจำมิรู้ลืม
CONTACT : หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ โทร. 08-7868-2500
14. ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ และศาลเจ้าปึงเถ่ากงม่า อ.เมือง บุรีรัมย์
ศาลหลักเมือง คือศูนย์รวมใจรวมศรัทธาของชาวบุรีรัมย์มาช้านาน ตัวอาคารเดิมมีขนาดเล็ก จึงมีการบูรณะสร้างใหม่ให้มีขนาดใหญ่โตอลังการขึ้น โดยเลียนแบบสถาปัตยกรรมของปราสาทหินพนมรุ้ง ทว่าภายในนั้นน่าแปลก เพราะมีเสาหลักเมืองอยู่ถึง 2 ต้น! โดยเสาต้นหนึ่งสูงกว่า ตั้งตรง เป็นทรง 8 เหลี่ยม โผล่พ้นจากพื้น 1.99 เมตร และยังมีเสาต้นเล็กที่เอียงอยู่ โผล่พ้นดินขึ้นมาเพียง 1.15 เมตร จุดที่ตั้งศาลหลักเมืองนี้เคยเป็นจุดที่รัชกาลที่ 1 ทรงเคยเสด็จมาพักทัพ เพราะบริเวณนี้มีทำเลเหมาะสม มีสระน้ำ มีต้นแปะขนาดใหญ่ จึงโปรดเกล้าให้ตั้งชื่อเมืองนี้ว่า “เมืองแปะ” ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น “เมืองบุรีรัมย์” ในภายหลัง
ในบริเวณเดียวกับศาลหลักเมือง ยังเป็นที่ตั้งของ “ศาลเจ้าปึงเถ่ากงม่า” เป็นศาลเจ้าจีน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2551 ภายในเป็นที่ประดิษฐานรูปเจ้าพ่อหลักเมืองและเทพเจ้าจีน คือ ปึงเถ่ากง-ปึงเถ่าม่า เทพเจ้ากวนอู และเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย หรือเทพเจ้าแห่งทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งคนจีนเคารพนับถือกันอย่างมากนั่นเอง
15. วัดกลางพระอารามหลวง อ.เมือง บุรีรัมย์
ฝั่งตรงข้ามศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ คือที่ตั้งของพระอารามหลวงแห่งแรกของเมืองบุรีรัมย์ “วัดกลางพระอารามหลวง” เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ เปี่ยมด้วยมนต์ขลังของสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้านข้างโบสถ์ เรียกว่า “สระสิงโต” เป็นจุดที่เจ้าพระยาจักรี (หรือสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในเวลาต่อมา) ทรงหยุดพักทัพ ระหว่างไปทำศึกกับเจ้าเมืองจำปาศักดิ์ โดยน้ำในสระนี้ได้รับการนำไปประกอบพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และเมื่อคราวที่มีการจัดพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 5 ธันวาคม 2530 ก็มีการอัญเชิญน้ำในสระนี้ไปทูลเกล้าถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วย
16. ตลาด Night เก่า Night ใหม่ แหล่งของกินหลากหลาย จุใจสุดๆ! อ.เมือง บุรีรัมย์
แหม… ตะลุยเที่ยวกันมาซะทั่วจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว ขอย้อนกลับเข้ามานอนพักผ่อนให้สบายตัว ในเมืองบุรีรัมย์ก่อนกลับบ้านสักคืน มื้อเย็นคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการออกไปตระเวนกินให้สะใจ กับหลากหลายร้อยเมนูอร่อย ที่ “ตลาด Night เก่า” และ “ตลาด Night ใหม่” ทั้งของคาว ของหวาน ของทานเล่น ทานจริง เพียบ แค่เตรียมตังค์กับเตรียมพุงไปก็พอ ฮาฮาฮา อย่างที่ตลาด Night เก่า มี เต้าส่วนเจ้ตุ่ม ที่อร่อยจัด! จนคนเข้าคิวรอซื้อกันเลย!!! ตักขายแทบไม่ทัน ส่วนที่ตลาด Night ใหม่ มี ผัดไทยทอมดี้! เฮ้ย ชื่อแปลกดี แถมรสชาติก็ไม่ธรรมดา ต้องไปลองชิมกันเองนะจ๊ะ
17. ขาหมูนางรอง ต้นตำรับความอร่อยที่ห้ามพลาด! อ.นางรอง บุรีรัมย์
ทริปเที่ยวบุรีรัมย์ของเรา คงจะจบลงอย่างสมบูรณ์แบบไม่ได้ ถ้าไม่ได้ไปลิ้มลองขาหมูแสนอร่อยแห่งอำเภอนางรองสักครั้ง ที่อร่อยๆ เลยมีอยู่ 2 ร้าน คือ ร้านจิ้งนำ และ ร้านลักษณา แนะนำว่าไม่ต้องไปสนหรอกว่าใครขายมาก่อน แต่ควรจะสนใจเรื่องรสชาติและรูปแบบมากกว่า คือของร้านลักษณาจะเป็นขาหมูตุ๋นเครื่องยาจีน น้ำขาหมูค่อนข้างใส น้ำรสออกหวานนำ ส่วนเนื้อขาหมูเหนียวนุ่ม กินคู่กับน้ำจิ้มรสเปรี้ยวกำลังดี และผักกาดดองเปรี้ยวกลมกล่อม
ส่วนของร้านจิ้งนำ (อยู่คนละฝั่งถนน ตั้งประจันหน้ากันเลย) เป็นขาหมูหมั่นโถว รสชาติจะออกหวานนวล เนื้อขาหมูนุ่มตุ๋นมาอย่างดี คากิก็ถึงเครื่อง หนังลื่นไม่ต้องเคี้ยว น้ำราดขาหมูเข้มข้นด้วยเครื่องยาจีน กินแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่เลี่ยนจ้า
CONTACT : ขาหมูร้านจิ้งนำ โทร. 0-4462-2149 / ขาหมู ร้านลักษณา โทร. 0-4463-1158, 0-4463-1774
ขอขอบคุณ ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ของโครงการ “The Amazing Journey Blogging Contest” 2015
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
และ 1672 เบอร์เดียว เที่ยวทั่วไทย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ
โทร. 0-4451-4447-8 อีเมล tatsurin@tat.or.th
คู่มือนักเดินทาง
– รถยนต์ : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ถึงสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 24 (โชคชัย-เดชอุดม) ผ่านอำเภอหนองกี่ อำเภอนางรอง เลี้ยวซ้ายเข้าสู่จังหวัดบุรีรัมย์ ตามทางหลวงหมายเลข 218 ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 410 กิโลเมตร
– รถไฟ : มีรถไฟสายกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ-สุรินทร์ และนครราชสีมา-อุบลราชธานี ทั้งขบวนรถด่วน รถเร็ว รถธรรมดา และรถดีเซลราง ผ่านสถานีบุรีรัมย์ทุกขบวน สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1690, 0-2220-4334, 0-2220-4444
– เครื่องบิน : มีเที่ยวบินตรง จากสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ ทุกวัน จองตั๋วติดต่อ Nok Air www.nokair.com โดยสนามบินบุรีรัมย์อยู่ที่อำเภอสตึก ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ขึ้นไปทางทิศเหนือ ประมาณ 40 กิโลเมตร ต้องนั่งรถต่อเข้าเมือง มีทั้งรถบัส, รถแท็กซี่, รถยนต์เช่าขับเที่ยวเอง
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!