10 ที่เที่ยวฟรุ้งฟริ้ง รับลมหนาว 2

1. ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ความงามของดอก Maxican Sunflowers นับล้านๆ ดอก จะบานขึ้นพร้อมกันเพื่อรับสายลมหนาวแรก ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เปลี่ยนเทือกดอยแม่อูคอให้กลายเป็นสวรรค์แห่งผืนพรมสีเหลืองสดใส ตระการตา ตัดกับสีของฟ้าหน้าหนาว เห็นแล้วนึกอยากจะวิ่งจีบกันแบบหนังอินเดียบ้างไรบ้าง อิอิ

_KBI3286

_KBI3382

_KBI3407

_KRA6964

_KRA7051

_KRA7125

_KRA7263

_KRA7271

_KRA7274

2. ผาชู้ ผาหัวสิงห์ ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน หนึ่งในจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดของดินแดนล้านนาตะวันออก น่าน ใครขยันตื่นเช้าจะได้รับรางวัลเป็นภาพสวยๆ ของทัศนียภาพทะเลหมอกตระการตา อาบแสงแรกสีทองของตะวันยามเช้า บวกกับตำนานรักผาชู้ ระหว่างเจ้าเอื้องผึ้ง กับเจ้าจันทน์ผา ที่มั่นคงในรักแท้ แม้ไม่สมหวัง แต่ก็พากันโดดลงไปจากหน้าผานี้ กลายเป็นตำนานเล่าขานมาจวบจนปัจจุบัน

ผาชู้ดอยเสมอดาว 1

ชมอาทิตย์ขึ้นที่ดอยเสมอดาวผาวิ่งชู้ รับวันใหม่อย่างสดใส

ผาชู้ดอยเสมอดาว 3ผาหัวสิงห์ใกล้ดอยเสมอดาวและผาวิ่งชู้

3. ดอยภูคา จังหวัดน่าน เทือกดอยตระหง่านสูงเสียบเมฆ กว่า 1,980 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บ่มเพาะความหนาวและความพิสุทธิ์ของธรรมชาติไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ยิ่งใหญ่ด้วยทะเลหมอกขาวราวปุยนุ่น เคียงคู่ผืนป่าโบราณ ที่อุดมด้วยพืชพรรณาหายากนานาชนิด ทั้งเมเปิลภูคา, ชมพูภูคา, เต่าร้างยักษ์ภูคา, กระโถนฤาษี ฯลฯ แถมฟ้าบนดอยยังกระจ่างใส เหมาะจะดูดาว และยามเช้ายังเหมาะสำหรับกิจกรรมดูนก โดยเฉพาะนกอพยพฤดูหนาวแสนน่ารักจากซีกโลกเหนือของโลก

ดอยภูคา 1

ดอยภูคา 4

จุดกางเต็นท์ลานดูดาวยามเช้าตรู่ จมอยู่ในม่านหมอกขาว

เมเปิลแดงภูคาต้องแดดยามเช้า ประกาศความสวยงามในราวไพร

 

คู่ Sweet พากันตื่นมาดูนกแต่เช้าตรู่

4. ทะเลหมอกหยุนไหล บ้านสันติชล อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในฤดูหนาวนี้ จากบ้านสันติชลต้องนั่งรถของชาวบ้านขึ้นสู่ยอดเขาจุดชมทะเลหมอก ตั้งแต่ก่อนย่ำรุ่งผู้คนก็คลาคล่ำ พากันมาเก็บเกี่ยวความเย็นฉ่ำของอากาศ และสายหมอกดอกไม้ รอจนตะวันเริ่มฉานฉาย สาดแสงสีทองอาบทะเลหมอกที่ลอยเป็นแพแน่นอยู่เบื้องล่าง ถ้าลมไม่แรง ทะเลหมอกนี้จะอยู่ไปจนถึง 10 โมงเช้าเลยล่ะ หนาวๆ อย่างนี้ เรามากอดกันดีกว่านะ!

_KBI4212

_KBI4295

_KBI4310

_KBI4327

_KBI4395

_KRA8409

5. ทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก ป่าสนผืนใหญ่ที่กระจายสลับอยู่ในทุ่งหญ้ากว้างบนเนินเขา ยามฤดูฝนจะเขียวสด แต่ยามฤดูหนาว-ฤดูร้อน จะกลายเป็นทุ่งหญ้าสีทองที่มีเสน่ห์แปลกตาไปอีกแบบ จากทุ่งแสลงหลวงเราสามารถนั่งรถกระบะเข้าสู่ทุ่งนางพญา เพื่อกางเต็นท์แค้มปิ้งท่ามกลางธรรมชาติ นอนฟังเสียงใบสนลู่ลมดังเกรียวกราว และตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกกับฟ้าหลากสี ไม่เคยซ้ำกันเลยสักวันเดียว

_ONG0220

sunrise ทุ่งแสลงหลวง 6

sunrise ทุ่งแสลงหลวง 14

ต้นช้างน้าวที่ทุ่งแสลงหลวง

6. สวนสนบ่อแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ ความงามอันน่าตื่นตาราวกับว่าไม่ใช่เมืองไทย! นี่คือป่าสนสามใบ เนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ที่ปลูกไว้ทดลองทำเยื่อกระดาษ แต่ท้ายที่สุดได้กลายเป็นจุดแวะท่องเที่ยว บนเส้นทางฮอด-แม่สะเรียง ช่วง กม.36 ใครผ่านไปผ่านมาก็นิยมจอดรถแวะถ่ายรูปคู่กับทิวสนแสนสวย ลำต้นตรงชะลูด อากาศสดชื่นเย็นสบาย บรรยากาศโรแมนติกน่าบอกรักกันเป็นที่สุด

_KBI3138

_KBI3144

_KRA6641

_KRA6649

_KRA6718

7. ดูดอกไม้เมืองหนาว บ้านแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าห่างจากกรุงเทพฯ ไปไม่ไกลในเขตป่าตะวันตก จะมีผืนป่าสมบูรณ์ เทือกเขาสลับซับซ้อน และอากาศสดชื่นเย็นสบายเป็นที่สุด โดยเฉพาะในฤดูหนาว อุณหภูมิจะลดต่ำลงถึงขนาดปลูกดอกไม้เมืองหนาวให้ผลิดอกอวดกันได้อย่างไม่อายใคร ต้องไปที่ “ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 73 อุทัยธานี” ซึ่งเป็นการพัฒนาชุมชนบนพื้นที่สูงให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น เฉพาะฤดูหนาวจะมีแปลงดอกไม้นานาพันธุ์ให้ชม ทั้งดอกลิลลี่ทุกสี และดอกทิวลิปแดงจี๊ดจ๊าดจริง

_ONG9180

_ONG9170

_ONG9204

_ONG8580

_ONG6967

8. สวนสตรอว์เบอร์รี่ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ขับรถขึ้นไปรับลมหนาวบนยอดดอยสูง ชมดงดอกนางพญาเสือโคร่งอีกแห่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก เสร็จแล้วได้เวลาพากันไปชิมสตรอว์เบอร์รี่สดๆ อร่อยๆ เนื้อฉ่ำๆ ลูกสีแดงเต่งตึง ปลูกกันเนื้อที่กว้างใหญ่ตามลาดไหล่เขาโดยชาวบ้านที่นี่ ซึ่งเปลี่ยนอาชีพจากการบุกรุกป่า หันมาปลูกสตรอว์เบอร์รี่ขายได้กำไรงาม ชวนกันไปเดินเล่น ถ่ายภาพ และซื้อสตรอว์เบอร์รี่หวานฉ่ำ อุดหนุนกระจายรายได้ให้ชาวบ้านด้วยนะจ๊ะ

ลาดไหล่เขาถูกเนรมิตเป็นสวนสตรอว์เบอร์รี่ที่ขุนสถาน

สตรอว์เบอร์รี่ ขุนสถาน

สาวน้อยชาวม้ง ผู้ดูแลสวนสตรอว์เบอร์รี่อยู่ทุกเช้าค่ำ

9. บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง หนาวๆ อย่างนี้คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ลงแช่ในบ่อออนเซ็นธรรมชาติแบบญี่ปุ่น เพื่อคลายหนาว แต่ขอโทษ ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่น แค่ที่ลำปางก็มีให้แช่แล้วล่ะ ฮาฮาฮา ก็ที่บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนไงล่ะ ที่นี่เขามีบ่อน้ำแร่ร้อนน้อยใหญ่ 9 บ่อ กระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 3 ไร่ เป็นบ่อกลางแจ้งเดือดปุดๆ อุณหภูมิประมาณ 75 องศาเซลเซียส ส่งควันฉุย แต่ที่เจ๋งคือ เขามีการต่อท่อเข้ามาในห้องแยกหญิงชายอย่างดี ให้เราอาบแช่ผ่อนคลายเหนื่อยล้า หรือรักษาโรคภัยไข้เจ็บบางอย่างได้ด้วย อาบแช่แล้วที่แน่ๆ คือ ผิวพรรณผุดผ่อง จริงไม่จริงต้องไปพิสูจน์กันแล้วล่ะ

บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน 1

บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน 4

บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน 6

บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน 7

10. น้ำพุร้อนเทพพนม อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ บ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติอันแสนอัศจรรย์ ที่มีน้ำพุร้อนผุดขึ้นจากใต้พิภพ อุณหภูมิสูงถึง 99 องศาเซลเซียส กลิ่นกำมะถันค่อนข้างแรง แต่ในขณะเดียวกันก็มีห้วยธารน้ำเย็นไหลเข้ามาปะปน แล้วหลากไหลไปตามพื้นดิน เกิดเป็นภูมิทัศน์ธรรมชาติแปลกตาน่าชม เราสามารถลงแช่ในบ่อห้องแยกหญิงชายได้ อุณหภูมิน้ำมีการปรับไว้กำลังดี แต่ก็ไม่ควรแช่นานเกิน 10 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้ความดันเลือดสูงเกินไป แช่แล้วตัวเบาสบาย โล่ง รู้สึกสดชื่นมากๆ ถึงแม้อากาศภายนอกจะหนาวแค่ไหนก็ตาม เจ๋งอ๋ะ!

_DSC3848

_DSC3844

_DSC3862

_DSC3837

10 ที่เที่ยวฟรุ้งฟริ้ง ♥♥ รับลมหนาว 1

http://www.gotravelphoto.com/2014/11/11/10-ที่เที่ยวฟรุ้งฟริ้ง-รั/

 

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *