ปีนผาหามุมมองใหม่ แหลมตุ๊กตา
การติดเกาะไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเสมอไป! เพราะถ้าเราได้ติดเกาะกับเพื่อนรู้ใจ ที่ชอบลุย ชอบผจญภัยในแนวเดียวกัน การติดเกาะก็คงสนุก มีสีสัน และได้รสชาติของชีวิตสุดๆ
เกิดมาไม่เคยติดเกาะสักที แต่คราวนี้ทาง อพท. หรือ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ในโครงการ Castaway @Low Carbon Island 2016 เขาชวนมาติดเกาะหมาก จังหวัดตราด ทำกิจกรรมผจญภัย ทั้งพายเรือคายัค ดำน้ำดูปะการัง เดินป่าขึ้นเขา แถมยังมีภารกิจพิเศษให้ไปปีนผาหามุมมองใหม่ซะอีก ผมเลยต้องสืบเสาะดูว่า บนเกาะหมากแห่งนี้ยังมีซอกมุมไหนนะ ที่เป็น Unseen จริงๆ อยู่บ้าง!?
แหลมตุ๊กตา เป็นแหลมหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะหมาก จะว่าไปแล้วเป็นจุดที่อยู่ค่อนข้างโดดเดี่ยว ห่างไกลจากศูนย์กลางความเจริญของเกาะพอสมควร แหลมตุ๊กตาจึงเป็นบริเวณที่เงียบสงบ มีเพียงบังกะโลเล็กๆ ไม่กี่หลังตั้งเรียงรายอยู่ใต้ทิวมะพร้าวสูงลิ่ว
ตรงส่วนด้านตะวันตกสุดของแหลมตุ๊กตา มีลักษณะเป็นหน้าผาหินขนาดใหญ่ ที่ดูๆ ไปก็สามารถปีนป่ายสำรวจหามุมมองใหม่ได้ คนซุกซนอย่างพวกเรา เลยชวนกันไปดูซิว่าจะมีอะไรซุ่มซ่อนอยู่บ้าง นอกจากวิวสวยๆ ที่สามารถมองออกไปเห็นเกาะระยั้งใน ระยั้งนอก ได้แล้ว
จากบังกะโลที่พัก เราชวนกันเดินเลียบชายหาดเงียบสงบ เวิ้งว้าง ไปจนถึงแนวหน้าผาหิน หมอนกสาวนักเดินทางขาลุย เพื่อนร่วมทีมของเรา เป็นผู้นำการสำรวจในเช้าวันนี้ หน้าผาหินแหลมตุ๊กตาแม้จะลาดชัน แต่ก็มีซอกหลืบและแง่งหิน ให้ยึดจับสำหรับปีนป่ายได้ไม่ยาก เพียงแต่รองเท้าที่ใช้ต้องเป็นแบบหุ้มข้อ พื้นดอกยางใหญ่ และแต่งตัวให้ทะมัดทะแมง เหมาะสำหรับการปีนป่ายโดยไม่มีอะไรเกะกะ
เห็นลีลาการปีนหน้าผาหินของหมอนกแล้วช่วยให้รู้สึกมั่นใจ ปีนตามไปได้อย่างไม่รู้สึกกลัวล่ะ จากด้านหน้าที่ติดทะเล เราค่อยๆ วางมือเท้าอย่างระวัง วกไปทางด้านขวา ผ่านดงต้นเตยทะเล เลาะไปจนเข้าสู่บริเวณที่เป็นร่องหลืบ ขนาบด้วยหน้าผาใหญ่สูงชันสองด้าน โดยมีร่องลึกคั่นกลาง ถ้าจะข้ามไปก็ต้องโดด หรือใครขายาวหน่อยก็อาจจะก้าวพ้น!
พอปีนไต่มาสุดร่องหลืบผา เราก็ต้องตะลึง! เมื่อได้เห็นแท่งหินรูปหอคอยแหลมขนาดมหึมาตั้งตระหง่านอยู่ในทะเลตรงหน้า! มันคือประติมากรรมธรรมชาติ ที่ต้องใช้เวลานานไม่รู้เท่าไหร่ สลักเสลาด้วยคลื่นลม และแดดร้อนแรง จนผาหินสึกกร่อน ผุพัง เปลี่ยนรูปลักษณ์จนน่าอัศจรรย์ได้ขนาดนี้!
เราค่อยๆ ปีนไต่ผาหินสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ได้มุมถ่ายภาพที่กว้างและอลังการยิ่งขึ้น โดยใช้หอคอยหินยักษ์เป็นพระเอกแล้วใช้น้ำทะเลใสกับฟ้าสีครามเข้มในวันนี้ช่วยแต่งเติมองค์ประกอบให้ภาพดูมีเสน่ห์ ยามนี้เสียงน้ำทะเลที่สาดซัดเข้ามากระทบโขดหินดังซ่าๆ แล้วแตกเป็นฟองขาว ช่างมีพลัง! ทำให้มนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างเราต้องยอมสยบ เพราะธรรมชาติมีพลังยิ่งใหญ่เสมอ และมีเรื่องราวให้ค้นหาไม่จบสิ้นจริงๆ
การปีนไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ ตรงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนตอนแรก! เพราะผาหินไม่ได้มั่นคงดังที่คิด หินที่เราจับหรือวางเท้าพร้อมจะแตกหรือร่วงหล่นออกมาได้ตลอดเวลา!!! เราจึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เนื่องจากวันนี้เป็นการปีนสำรวจด้วยมือเปล่า ไม่มีอุปกรณ์พิเศษใดๆ ช่วยเลย! โดยเฉพาะก้อนหินที่จะใช้วางมือวางเท้านั้น เริ่มจะมีพื้นที่แคบลงทุกทีๆ!
และแล้ว เมื่อเหงื่อพอซึมหลัง เราก็ปีนไต่ขึ้นมาจนถึงส่วนบนสุดของแหลมหินกลางทะเล ณ แหลมตุ๊กตา มองกลับไปทางด้านทิศตะวันออก เห็นแนวชายฝั่งเขียวครึ้มทอดยาวออกไป แต่ถ้ามองไปทิศอื่น ก็จะเห็นทะเล เกาะแก่ง และความงามของท้องทะเลสีคราม รวมถึงความเงียบสงบ ปราศจากสิ่งรบกวนของอารยธรรมยุคใหม่ ช่างเป็นมุมที่ให้ความรู้สึก โดดเดี่ยว เวิ้งว้าง แปลกแยก โบราณ และงดงามอย่างลึกลับ!
แต่ทันใดนั้น! เมื่อเราปีนต่อขึ้นไปอีกนิดเดียว บนส่วนยอดสุดของผาหินก็พบกับช่องทะลุ หรือโพรงถ้ำเล็กๆ ที่มองลอดผ่านได้สองด้าน มองออกไปเห็นเกาะระยั้งในตั้งอยู่ใกล้แค่เอื้อม นี่ถ้ามีเวลาพอ ได้กลับมาช่วงเย็นย่ำอัสดง ก็อาจจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกลงในช่องนี้ก็เป็นได้
หลังจากผ่านการปีนป่ายที่ค่อนข้างหวาดเสียวกันมาแล้ว ก็ได้เวลาพักผ่อน นั่งชมวิวสวยๆ แล้วแอบอิจฉาตัวเอง ที่ได้มาอยู่ในมุม Unseen แบบนี้ จะมีสักกี่คนนะที่ได้มาพบประติมากรรมธรรมชาติอันยิ่งใหญ่เหมือนเราตอนนี้?
ค่อยๆ ปีนกลับลงมาจากผาหินสูง เพื่อเดินสำรวจตรงโขดหินของแหลมตุ๊กตา เราพบว่าที่นี่คืออาณาจักรใหญ่ของหอยนางรมธรรมชาติ นับหมื่นๆ ตัว เกาะฝังตัวติดอยู่กับโขดหินในระดับน้ำขึ้นน้ำลงท่วมถึง คนเกาะหมากเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเวลาเขามาแงะหอยนางรมกิน ก็จะมีเหล็กแหลมหัวงอๆ อันหนึ่งเรียกว่า “สับปะนก” ใช้ทุบเปลือกหอย แล้วแงะเนื้อมันออกมากินสดๆ พร้อมกับยอดกฐินอ่อน บีบมะนาวลงไปนิด เขาว่าหวานอร่อย เนื้อหอยละลายในปาก ฮาฮาฮา
ในบริเวณเดียวกัน เรายังพบหอยนมสาว และหอยตาวัว เป็นจำนวนมาก เกาะอยู่กับโขดหิน ตัวใหญ่บ้างเล็กบ้าง แลน่ารักดี บ่งบอกว่าธรรมชาติของแหลมตุ๊กตายังอุดมสมบูรณ์ไม่ใช่น้อย
เพลิดเพลินกับการปีนป่ายผจญภัยผาหินอยู่เกือบชั่วโมง แดดก็เริ่มร้อนจัด คงได้เวลากลับที่พักก่อนเนอะ หมอนกเลยนำเราปีนข้ามร่องน้ำ กลับเข้าไปยังแผ่นดินใหญ่ของเกาะหมากอีกครั้ง แต่อย่างที่บอกไว้แต่แรก คือต้องปีนอย่างช้าๆ ระมัดระวังมาก เพราะตอนนี้ดูเหมือนพื้นรองเท้าเราจะลื่นด้วยแหละ
หมอนก สาวนักผจญภัยที่แม้หนุ่มๆ หลายคนยังต้องอาย
ลาก่อนแหลมตุ๊กตา ความงามของเธอช่างมีเสน่ห์ตรึงใจเหลือเกิน ขอให้คนที่มาเยือนแหล่งธรรมชาติแสนบริสุทธิ์นี้ ช่วยกันปกปักรักษาสภาพดั้งเดิมไว้
“เราจะไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า เราจะไม่เก็บอะไรไปนอกจากความทรงจำดีๆ และภาพถ่ายสวยๆ”
บ้ายบาย…ขอขอบคุณ : อพท. หรือ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) และพี่น้องชาวเกาะหมากที่น่ารักทุกท่าน ที่ร่วมมือ ร่วแรงร่วมใจสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ นี้ขึ้น สอบถามโทร. 0-2357-3580-402Special Thanks : บริษัท Nikon Sales (Thailand) Co., Ltd. สนับสนุนกล้องถ่ายภาพระดับมืออาชีพ D4 และกล้องถ่ายภาพใต้น้ำ AW130 เพื่อการเก็บภาพสวยๆ เหล่านี้มาฝากเพื่อนๆ ทุกคน สนใจสอบถาม โทร. 0-2633-5100
#LowcarbonAtkohmak #CastawayAtkohmak #ติดเกาะโลว์คาร์บอน
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!