จาก Fukuoka ถึง Tokyo เที่ยวสนุกทุกนาที!
เคยมีคนบอกฉันว่า ถ้าได้เคยลองไปเที่ยวญี่ปุ่นสักครั้งจะติดใจ เพราะแดนอาทิตย์อุทัยนี้ช่างมีเสน่ห์ ทั้งธรรมชาติที่สวยงามหยดย้อย ผู้คนหน้าตาน่ารักคิกขุอาโนเนะ อาหารก็อร่อย แถมยังมีแหล่งช้อปปิ้งได้ไม่เบื่อ ฉันเห็นด้วยกับคำพูดนั้น เพราะฉันก็เป็นคนหนึ่งที่หลงรักญี่ปุ่นจนหมดหัวใจ และนี่คืออีกทริปแห่งความทรงจำ ที่ทำให้ฉันได้รู้จักญี่ปุ่นในมุมใหม่ๆ รับรองว่าต้องสนุกแน่นอนจ้า
ฉันบินเหินฟ้าสู่แดนปลาดิบพร้อมกับสายลมหนาวที่พัดแรงขึ้นทุกทีในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง จากไทยบินไปลงที่เมืองฟูกูโอกะ (Fukuoka) เมืองหลวงของเกาะคิวชู (Kyushu) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของหมู่เกาะญี่ปุ่น แผนการเดินทางของฉันคราวนี้แปลกกว่าทุกครั้ง เพราะฉันไม่ได้บินตรงไปลงโตเกียวเลย แต่เหตุผลที่มาลงฟูกูโอกะก่อน เพราะที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวน่ารักๆ ให้สัมผัสหลายแห่ง บรรยากาศแรกที่เห็นพอรถแล่นออกจากสนามบิน คือธรรมชาติขุนเขาสลับสายหมอก ป่าสน ต้นเมเปิลเปลี่ยนสี และทุ่งนาผืนเล็กๆ ตามหุบเขาน้อยๆ ช่างเป็นดินแดนที่น่ารักเสียนี่กระไร
นั่งรถมาชั่วโมงกว่าจากฟูกูโอกะ เข้าสู่ เมืองเบปปุ (Beppu) ในจังหวัดโออิตะ (Oita Prefecture) รู้สึกหนาวสะท้านจากทั้งลมและฝนที่กระหน่ำไม่หยุด เลยได้โอกาสแวะเข้าไปอาบทรายร้อน เหมือนสปาธรรมชาติที่มีชื่อเสียง เพราะเบปปุคือแหล่งที่มีแร่ธาตุใต้พิภพมากที่สุดของญี่ปุ่น ได้ไปนอนบนทรายสีดำอุ่นๆ ให้เขาเอาทรายกลบตัวเราจนเหลือแค่หัวโผล่ไว้หายใจ ทิ้งไว้ 15 นาที เท่านี้เลือดลมก็จะไหลเวียนดี ได้ผ่อนคลายทั้งกายและใจ ทำให้ฉันพร้อมจะตะลุยเที่ยวญี่ปุ่นแล้วล่ะจ้า
ป่าเปลี่ยนสีที่หมู่บ้านยูฟูอิน
หลังจากอาหารเที่ยงแบบ Japanese Set สุขภาพที่เน้นไปทางปลา ผัก และผลไม้ แล้ว ก็ได้เวลาไปเที่ยวชม “หมู่บ้านยูฟูอิน” (Yufuin Village) หมู่บ้านแบบญี่ปุ่นย้อนยุค ตั้งอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดขุนเขา โดยมีทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake) ทอดตัวนิ่งสงบอยู่ตรงกลาง ยูฟูอินเป็นหมู่บ้านต้นแบบสินค้า OVOP หรือ One Village One Product ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ จึงมีร้านค้าเรียงรายอยู่สองฝากถนนคนเดินนับร้อยๆ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าพื้นเมืองอันมีเอกลักษณ์ หาซื้อที่อื่นได้ยาก อย่างขนม ผ้าทอมือ เหล้าสาเก รวมถึงงานหัตถกรรมนานาชนิด ใครที่รักแมวเป็นชีวิตจิตใจ หมู่บ้านยูฟูอินเขามีร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับแมวโดยเฉพาะด้วย ส่วนใครที่เป็นนักชิม ต้องไม่พลาดขนมโคร็อกเกะ หรือมันชุบเกล็ดขนมปังทอดกรอบๆ กินแก้หนาวได้ดีชะมัด
ขนมอร่อยๆ แพ็กเกจน่ารักๆ คิกขุแบบญี่ปุ่น มีให้เลือกซื้อกันเพียบที่หมู่บ้านยูฟูอิน
ใบเมเปิลเปลี่ยนสีแสนสวย ที่หมู่บ้านยูฟูอิน
ร้านบุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ในย่านชินจูกุ กลางมหานครโตเกียว
กินอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาไปเดินละลายทรัพย์ ซื้อรองเท้ากีฬาของแท้ ราคาไม่แพง ที่ตลาดอาเมโยโกะ
ฉันจัดตารางเที่ยวให้หนึ่งวันเต็มเลย สำหรับ “โตเกียว ดิสนีย์แลนด์” (Tokyo Disneyland) ดินแดนแห่งความสนุกเหมือนได้พาตัวเองย้อนเวลากลับไปสู่วัยเด็กอีกครั้ง ด้วยความกว้างใหญ่ถึง 7 โซน ในธีมต่างๆ ทำให้เราต้องใช้เวลาเที่ยว เวลาต่อคิวเครื่องเล่นกันนานเป็นชั่วโมงๆ
ฉันชอบตรงปราสาทดิสนีย์ที่สุด เพราะให้ความรู้สึกถึงการเนรมิตรภาพในจินตนาการ ออกมาเป็นปราสาทจริงได้ บวกกับโซนอื่นๆ ทั้ง Adventureland, Westernland, Fantasyland, Tomorrowland และ Mickey’s Toontown ได้เห็นตัวการ์ตูนต่างๆ ออกมาโลดแล่นอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง น่าตื่นตาตื่นใจมากเลยจ้า
วันนี้ฉันขอเที่ยวแบบชิลชิล ด้วยการนั่งรถบัสขึ้นไปแทน ฮาฮาฮา ทว่าหิมะที่ตกหนักบนยอดเขา ทำให้วันนี้รถขึ้นไปได้ถึงชั้นที่ 4 เท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้วรถขึ้นได้สุดถึงชั้น 5 จากนั้นต้องเดินต่อไปจนถึงชั้น 8 บนความสูงสามพันกว่าเมตร! วันนี้ที่ชั้น 4 ของฟูจิฟ้าเปิดเป็นสีครามสวยงาม มองเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกล เพลินไปกับทะเลหมอก และปุยเมฆขาวราวฉันยืนอยู่บนสวรรค์ งามสมคำร่ำลือจริงๆ
จากโกเท็มบะ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างเต็มตา
ปิดท้ายวันนี้ด้วยการลงเขา ไปช้อปปิ้งกันอย่างเมามันที่ “โกเท็มบะ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” แหล่งช้อปราคาถูกเหลือเชื่อในพื้นที่กว่า 400,000 ตารางฟุต กับ 165 แบรนด์ดัง เน้นไปทางเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของแท้ แหม รู้ใจสาวๆ ซะเหลือเกิน!
ลงจากเที่ยวภูเขาไฟฟูจิในช่วงเช้า มื้อเที่ยงต้องไปลิ้มลองเนื้อวัวย่างบนหินภูเขาไฟ
เนื้อวัวญี่ปุ่น มีเส้นไขมันเป็นลายหินอ่อนแทรกอยู่ทั่ว ย่างให้สุกกำลังดี จิ้มน้ำจิ้ม ใส่เข้าปากแทบจะละลายได้เลย
บอกแล้วว่าเที่ยวญี่ปุ่นคราวนี้ ได้เห็นมุมมองใหม่มากมาย แต่น่าเสียดาย เพราะได้เวลาบินกลับบ้านแล้ว ได้ยินเสียงประกาศเรียกขึ้นเครื่องครั้งสุดท้าย บ้ายบายโตเกียว See You Again.
Special Thanks : บริษัท Outdoor Innovation Co., Ltd. สนับสนุนเสื้อกันหนาว และเสื้อผ้าสำหรับชีวิตแบบ Outdoor
Tokyo Guide
Season : เที่ยวญี่ปุ่นสวยสุดใน 2 ฤดู คือ เดือนมีนาคม-เมษายน เป็นช่วงดอกซากุระบาน และช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก่อนเข้าฤดูหนาว ถ่ายรูปได้มีสีสันสวยงามจับใจ
How to go : จากเมืองไทยบินตรงไปลงที่สนามบินนาริตะได้เลย ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง เช่น การบินไทย (www.thaiairways.co.th) และ All Nippon Airways หรือ ANA (www.ana.co.jp/asw/wws/th/e/)
Where to stay : ในโตเกียว แนะนำ Keio Plaza Hotel (www.keioplaza.com) ส่วนที่เมืองคาโกชิม่า แนะนำ Shiroyama Kanto Hotel (จองผ่าน www.japanican.com)
What to eat : บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์, เนื้อวัวญี่ปุ่นย่างบนหินภูเขาไฟ, ชุดเซ็ทอาหารญี่ปุ่นสุขภาพ ฯลฯ
Souvenirs : ขนมโมจิไส้สรอว์เบอร์รี่ทั้งลูก จากหมู่บ้านยูฟูอิน, ช็อกโกแลต ROYCE, พวกกุญแจน่ารักๆ จากภูเขาไฟฟูจิ, ตุ๊กตาตัวการ์ตูนจากโตเกียวดิสนี่แลนด์ ฯลฯ
More info : www.yokosojapan.org/th/
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!