นั่งรถไฟหวานเย็น ไปเล่นน้ำทะเล

ไม่ได้ไปทะเลนานแล้ว คิดถึงโมเมนต์ตอนโดนคลื่นกระแทกตัว ฟังเสียงสายลมทักทายยอดสน ใบมะพร้าวโอนเอน และการเดินเล่นเท้าเปล่าบนหาดทรายเนื้อนุ่ม ได้เวลาหนีกรุง ไปให้ทะเลเห่กล่อมแล้วล่ะทริปนี้ไปคนเดียวแบบประหยัด ตื่นแต่ตีห้ารีบไปขึ้นรถไฟสายชานเมืองเที่ยวเช้าตรู่ ไปลงสถานีรถไฟหัวลำโพง แล้วซื้อตั๋วรถไฟพัดลมชั้น 3 กรุงเทพฯ-สวนสน ลงที่หัวหิน กะจะเช่ามอเตอร์ไซด์ขับเที่ยว 2 วัน 1 คืน คงสนุกดีเนอะ รถไฟธรรมดาชานเมือง ให้ความรู้สึกถึงการใช้ชีวิตและการเดินทางที่แท้จริง แม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็ไม่ง้อเดินทางสายสั้นไม่เกิน 40 นาที จากสถานีรถไฟใกล้บ้าน เข้าเมืองไปลงที่หัวลำโพงถึงสนานีรถไฟหัวลำโพงแล้ว วันนี้ดูเหงาๆ นึกถึงภาพเก่าๆ สมัยหัวลำโพงยังคึกคักในอดีต
ปัจจุบันสถานีรถไฟหัวลำโพงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟโบราณ และมีบริการรถไฟเฉพาะสายชานเมืองเท่านั้น ที่เหลือย้ายไปที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์หมดเรียบร้อยรถไฟหัวจักรไอน้ำโบราณสมัยรัชกาลที่ 5 จัดแสดงไว้ที่หัวลำโพง ที่นี่กรุงเทพฯ วันนี้ขอโบกมือลาไปเล่นน้ำทะเลสักสองวันนะ
รถไฟธรรมดาขบวนกรุงเทพฯ-สวนสน มีทุกวัน ออกจากหัวลำโพง 09.20 น. ถึงหัวหินเกือบ 14.00 น. ค่าโดยสาร 47 บาทเอง มาถึงเช้ามาก ยังไม่มีใครมาเลย แต่รถไฟมาจอดรอแล้ว เลยขึ้นไปเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ รถไฟชั้น 3 เป็นรถไฟธรรมดา พัดลม เบาะปรับเอนไม่ได้ หน้าต่างก็เปิดได้บ้างไม่ได้บ้าง นี่คือโบกี้ที่ต้องนั่งไปถึง 5 ชั่วโมง นี่มันรถไฟหวานเย็นที่แท้ทรู ฮาาาาาาา อาหารเช้าวันนี้ ประหยัดแต่อร่อย มีพ่อค้าเดินมาขายถึงบนรถไฟเลยตรวจตั๋วกันหน่อย ค่ารถไฟเที่ยวไปวันนี้แค่ 47 บาท ถึงหัวหินแล้ว สถานีรถไฟใหม่ใหญ่โตโอ่อ่ามาก สร้างยกระดับสูงจากพื้นถนนด้านล่างราวตึกสามชั้น และนำสีแดงเหลือง บวกกับเส้นสายของสถาปัตยกรรมสถานีรถไฟหัวหินเก่ามาเล่นได้อย่างสวยงามไม่ต้องรีบลง เพราะที่สถานีหัวหินรถไฟจอดนานพอสมควร สถานีรถไฟใหม่ของหัวหินสถานีรถไฟเก่าหัวหิน ทุกวันนี้ใช้เป็น Landmark สำหรับถ่ายรูปอย่างเดียวจ้า
ยามค่ำคืนสถานีรถไฟเก่าหัวหินมีการประดับประดาไฟระย้าไว้อย่างงดงามหลังจากเช่ามอเตอร์ไซค์ที่ตัวเมืองหัวหิน ก็ขับมาเรื่อยๆ เปื่อยๆ ไม่เกิน 40 นาที ก็ถึง “สวนสนประดิพันธ์” แวะนั่งเบิ่งวิวทะเลสีครามเบื้องหน้า รับลมทะเลชื่นใจสุดๆ ไปเลย อาหารเที่ยงที่เลทมาบ่ายกว่า เพราะต้องรีบบึ่งมอเตอร์ไซด์ไปให้ถึงจุดกางเต็นท์ก่อนค่ำ แวะกินปูผัดกะเพราะแถวหาดปราณบุรี เติมพลังก่อน รีบกิน 15 นาที แล้วแว้นรถไปต่อระหว่างทางผ่าน “เขากะโหลก” วนอุทยานท้าวโกษาใช้ถนนเส้นเลียบทะเลจากปราณบุรี ขับมอเตอร์ไซด์มาถึง หาดสามร้อยยอด โชคดีเย็นนี้มี “ตลาดลงเล” ในยามเย็น เห็นร้านค้าและผู้คนคึกคัก มีชีวิตชีวามาก ตลาดลงเล หาดสามร้อยยอด มีเฉพาะเย็นวันเสาร์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00-23.00 น. ของกินอร่อยๆ เพียบ ที่ตลาดลงเลความน่ารักของตลาดลงเล
จากตลาดลงเลแว้นมอเตอร์ไซด์ไปอีกเกือบ 15 กิโลเมตร เพื่อไปกางเต็นท์นอนที่หาดสามพระยา ระหว่างทางแวะดูวิวเทือกเขาหินปูนอาบแสงสีทองยามใกล้อัสดง บรรยากาศเงียบสงบ รกร้างว่างเปล่าเหมือนโลกนี้มีเราคนเดียวระหว่างทางไปหาดสามพระยา แสงอาทิตย์อ่อนแรงเต็มที จอดรถชื่นชมธรรมชาติเทือกเขาหินปูนทอดยาวตระหง่าน กับดวงอาทิตย์ดวงกลมโตสีทอง แทบไม่มีรถยนต์สักคัน
ถึงทางเข้า หาดสามพระยา ก่อนค่ำพอดีกางเต็นท์นอนที่หาดสามพระยา อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ค่าเช่าเต็นท์หลังละ 225 บาท/คืน รวมค่าเช่าแผ่นรองนอนและหมอนอีกนิดหน่อย อยู่ใกล้ทะเลแค่เอื้อม มีความสุขมาก ภายในเต็นท์โปร่งโล่งสบายอยู่ใต้ป่าสนทะเลก่อนแสงอาทิตย์จะหมด รีบไปโดดน้ำทะเลเล่นฉ่ำใจให้หายคิดถึงเปลือหอยน้อยใหญ่ถูกคลื่นทะเลซัดเข้ามานอนรวมกัน แต่งแต้มผืนทราย เหมือนของขวัญจากธรรมชาติ ริ้วทรายที่ถูกคลื่นสลักเสลาบนชายหาดยามน้ำลด เหมือนศิลปะในธรรมชาติเลยนะค่ำแล้วเงียบสงบ มีแต่เสียงคลื่นกับใบสนร้องเพลง ไฟฟ้าปิดสี่ทุ่ม คืนนี้ได้นอนดูดาวเต็มฟ้าแน่แสงแรกของวัน ที่หาดสามพระยาฟองคลื่นขาวและดวงตะวันยามเช้า กระซิบรักกับหาดทรายและก้อนหินยามเช้าโรแมนติกแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว คิดถึงเธอจังตะวันสีทองยามเช้าอาบป่าสนทะเล ที่หาดสามพระยาGood Morning หาดสามพระยาความสงบยามเช้า ช่วยช๊าตแบตเตอร์รี่ชีวิตเราให้เต็มเปี่ยมมีศาลาชมวิวริมทะเลด้วย Perfect!ประมาณ 8 โมงเช้า รีบบึ่งมอเตอร์ไซด์จากหาดสามพระยากลับมาที่หาดสามร้อยยอด จุดที่แวะเที่ยวตลาดลงเลเมื่อวานเย็น แต่เช้านี้มีอีกความน่ารักรออยู่ คือตลาดเล็กๆ “เช้านี้ที่ลงเล” ให้หาของกินอร่อย เช้านี้ที่ลงเล หาดสามร้อยยอด มีเฉพาะเช้าวันเสาร์ 7.00-10.00 น. จ้า
บรรยากาศสุดชิว ฮิปสเตอร์มากๆมีอาหารเช้าแบบง่ายๆ และกาแฟอร่อยแค่แก้วละ 50 บาท พร้อมด้วยซุ้ม DIY ศิลปะซื้อของกินเสร็จแล้วก็มานั่งละเลียดกินเคล้าวิวทะเลอาหารเช้าวันนี้เน้นประหยัดและอิ่มนานไว้ก่อน เพราะต้องขี่มอเตอร์ไซด์อีกไกลเช้านี้ที่ลงเล หาดสามร้อยยอดจากหาดสามร้อยยอดใช้ถนนเลียบทะเลไปต่อจนถึงเขากะโหลก แวะสัมผัสวิถีประมงพื้นบ้าน เป็นจุดจอดเรือหลบลมได้ดีวิถีประมงเขากะโหลกตลาดประมงพื้นบ้านเขากะโหลกปูทะเลปูม้าสดๆ คือ Seafood ขึ้นชื่อของแถบปราณบุรีกุ้งหอยปูปลายังมีอุดมสมบูรณ์ที่นี่ ปลาทะเลสดมาก ดูสิตาใสแหน๋วเลยเดินทางต่อไปจนถึงถนนชมวิวเลียบหาดปราณบุรี มุ่งหน้าปากน้ำปราณฯ จ้าตาลสามต้น Landmark ห้ามพลาดของหาดปราณบุรีถึงแล้วปากน้ำปราณบุรี มีศาลเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ และเรือตรวจการชายฝั่งที่ปลดประจำการแล้ว นำขึ้นมาไว้บนบกปากน้ำปราณบุรีปากน้ำปราณบุรีรีบเดินทางต่อไปที่ “วนอุทยานปราณบุรี” เส้นทางปั่นจักรยานและแค้มปิ้งในป่าสนแสนร่มรื่น
เส้นทางปั่นจักรยานในป่าสนของวนอุทยานปราณบุรี ปลอดภัย กันไว้เฉพาะจักรยานและคนเดิน รถยนต์เข้าไม่ได้นะป่าสนธรรมชาติผืนใหญ่ของวนอุทยานปราณบุรีใครไม่ใช่สายปั่นจักรยาน แต่เป็นสายชิว จะแค่มานั่งจิบกาแฟที่วนอุทยานปราณบุรีก็ได้
ก่อนถึงตัวเมืองหัวหิน จุดหมายสุดท้ายคือ “อ่างเก็บน้ำเขาเต่า” โปร่งโล่งสบาย เหมาะนั่งชมวิว และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนแถบนี้ อ่างเก็บน้ำเขาเต่า
เข้าถึงตัวเมืองหัวหินก็เย็นย่ำพอดี รีบมาหามื้อเย็นกินที่ “ตลาดสะพานปลาหัวหิน” ชมแสงอาทิตย์สีทอง นั่งรับลมทะเล ฟังเสียงคลื่น และจิบเครื่องดื่มเย็นๆความโรแมนติกของตลาดสะพานปลาหัวหินได้เวลากลับบ้านแล้ว ตั๋วรถไฟเต็ม เลยนั่งรถบัสเล็กแทน แม้จะช้าหน่อย แต่ก็ยังเร็วกว่ารถไฟหวานเย็น ฮาๆๆๆไม่น่าเชื่อว่าเวลาแค่ 2 วัน 1 คืน จะวิเศษ และมีภาพควาทรงจำดีๆ ในหัวใจมากมายขนาดนี้คิดถึงทะเลเมื่อไหร่ ก็คิดถึงเธอ

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *