LA BRACI Modern Casual Fine Dining เปิดแล้ววันนี้!

เปิดแล้ว! La Braci ร้านอาหาร Fine Dining สไตล์ Modern Casual แห่งใหม่ ณ ชั้นลอยตึก One City Centre ใจกลางย่านเพลินจิต นำเสนอความอร่อยผ่านศิลปะอาหารเวสเทิร์น คงความหรูหราในแบบฉบับ Fine Dining ผสานรสชาติและบรรยากาศลงตัว ตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่ด้วยการเดินทางสะดวกสบาย เพียงไม่กี่ก้าวจากสถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต La Braci ซ่อนตัวอยู่ในสวน แวดล้อมด้วยแมกไม้สีเขียวน่ามอง และมีอาคารสูงอยู่ด้านหลัง รับกันอย่างลงตัว ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิตแค่นิดเดียว
La Braci  มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเทคนิคเน้นการใช้ไฟจากฝืนไม้สนทะเลคุณภาพ ตกแต่งร้านผสานความโมเดิร์นและธรรมชาติ ในคอนเซปต์ถ้ำหินและเฟอร์นิเจอร์ไม้สักแท้ หรูหรา ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย รับลูกค้าได้ถึง 50 ที่นั่ง เหมาะสำหรับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อพิเศษของครอบครัว พบปะเพื่อนฝูง หรือดินเนอร์สุดโรแมนติก เชฟและทีมงานสามารถเชื่อมโยงกับแขกได้โดยตรง แขกสามารถมองเห็นกระบวนการสร้างสรรค์เมนูแต่ละจาน พร้อมทั้งสัมผัสกลิ่นหอมอันยั่วใจจากเตารมควัน คุณ Sean Lai เชฟผู้เป็นเจ้าของร้าน La Braci กล่าวว่า “ปรัชญาการทำอาหารของเรา เกิดจากความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อประเพณีและนวัตกรรม เราตั้งใจรังสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารสไตล์ Fine Dining แบบสบายๆ แต่ทันสมัย เชิดชูเสน่ห์ดั้งเดิมของการปรุงอาหารด้วยไฟที่จุดจากไม้ ผสานเทคนิคสมัยใหม่ เป้าหมายของเราคือส่งเสริมให้รสชาติตามธรรมชาติของวัตถุดิบที่เราคัดมาอย่างพิถีพิถัน ได้เปล่งประกายเต็มที่ ภาคภูมิด้วยวิถีแห่งความซับซ้อน ละเอียดอ่อนจากไฟและควัน แต่ละจานจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ความใส่ใจในรายละเอียด เพื่อมอบประสบการณ์น่าจดจำ”เอกลักษณ์อีกประการที่สำคัญของ La Braci คือแนวคิดอาหารจานแชร์ เชฟ Sean เสริมว่า “เราเชื่อว่าอาหารจะอร่อยมากขึ้นเมื่อทานด้วยกัน เราจึงออกแบบเมนูเพื่อส่งเสริมประสบการณ์การมีส่วนร่วม ให้แขกได้ลิ้มลองรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลายด้วยกัน นอกจากจะยกระดับความสุขในการรับประทานแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศอันอบอุ่น เป็นกันเอง สะท้อนความเป็นอยู่แบบไทยที่มักกินข้าวด้วยกัน”La Braci บริหารงานโดย เชฟเจ้าของร้าน คุณ Sean Lai และ คุณวชิรวิทย์ ธนันต์รัตน์ (เชฟแบงค์) กรรมการบริษัทและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ร่วมกับทีมเชฟชาวไทยฝีมือเยี่ยม แขกทุกท่านจะได้เป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศเป็นกันเอง เปลวไฟอันอบอุ่น และรับประทานอาหารด้วยกันอย่างเพลิดเพลิน

คุณ Sean กล่าวสรุปว่า “La Braci จะไม่เป็นแค่ร้านอาหารธรรมดา แต่จะเป็นสถานที่ที่สร้างความรู้สึกพิเศษให้ทุกท่านที่มาเยือน เราต้องการให้สัมผัสได้ถึงความหลงใหลของเราในการสร้างบรรยากาศทเชื่อมโยงทุกคนเข้าด้วยกัน La Braci คือร้านอาหารที่เน้นการใช้ไฟสร้างรสชาติเลิศล้ำ ไม่ได้มีดีแค่รสชาติและกลิ่นหอมของการย่างด้วยไม้ แต่ยังยกระดับคุณภาพเกินความคาดหวัง ในราคาที่เข้าถึงได้”หัวใจสำคัญของ La Braci คืออาหารที่สืบทอดศิลปะการปรุงอาหารด้วยไฟที่จุดด้วยไม้ฟืน คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เรียบง่าย แต่พิถีพิถัน ใช้พลังงานดั้งเดิมของไฟเพื่อดึงความอร่อยแท้จริงจากวัตถุดิบ วิธีนี้ต้องใช้ทักษะอย่างสูง เชฟต้องเชี่ยวชาญ และมีความเข้าใจลึกซึ้งถึงวัตถุดิบที่ใช้ นอกจากนี้เตาไฟของร้านยังเปรียบเสมือนเตาผิง อันเป็นศูนย์กลางของบ้านมานานหลายศตวรรษแล้ว เชฟแบงค์ (คุณวชิรวิทย์ ธนันต์รัตน์) สาธิตวิธีการปรุงหอยนางรม โดยอุปกรณ์ Flambadouเชฟแบงค์และทีมงาน บรรจงจัดเตรียมเมนูทานเล่นต้อนรับแขกผู้มาเยือน
ของทานเล่น Starter Menu วันนี้ ทั้งหน้าตาและสีสัน รังสรรค์มาได้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ
Cocktail เบาๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น แก้วนี้คือ L’una มีส่วนผสมของเบอร์รี่ไซรัป ดอกอัญชัญ และวอดก้า
เครื่องดื่มหลากหลาก พร้อมให้สั่งได้ที่ La BraciStarter Menu วันนี้พิเศษมาก ประกอบด้วยขนมปังบริยอช (Brioche) ก้อนกลม เนื้อนุ่ม หอมนมเนย และแป้ง Pizza Bread แผ่นกลมแบน เนื้อนุ่มหนึบ ทานคู่กับน้ำมันมะกอกระดับ Premium จากเกาะซิลิลี่ ประเทศอิตาลี รวมถึงเนยชั้นยอด แบบดั้งเดิมของฝรั่งเศสแท้
La Braci นำเสนอเมนูแบบ à la carte หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ คือ Oyster Flambée 1 ชิ้น ( ราคา 350 บาท++) เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่เด่นด้วยการใช้ปรุงอาหารแบบดั้งเดิมของยุโรป Flambadou เชฟจะเผาโลหะทรงกรวยจนร้อนจัด เติมไขมันให้หลอมละลาย หยดลงบนลงบนหอยนางรมสด ความร้อนจะช่วยให้หอยนางรมสุกกำลังดี และกลิ่นหอมคล้ายย่างถ่าน เสริมด้วยซอสครีมเบลอบล๊องและน้ำมันต้นหอม เพิ่มลูกเล่นด้วยมะนาวคาเวียร์ รสเปรี้ยวสดชื่นทุกคำ เสิร์ฟมาอย่างงดงามบนเปลือกหอย เป็นประสบการณ์ที่ทั้งอร่อยและตื่นตาตื่นใจในคราวเดียว เมื่อหอยนางรมสดสุกได้ที่ ด้วยวิธีใช้เปลวไฟและน้ำมันหลอมละลายจากเหล็กร้อน (Flambadou) แล้ว ก็นำมาจัดจานเชฟแบงค์ บรรจงจัดแต่งหน้าตา Oyster Flambée ก่อนเสิร์ฟ
Oyster Flambée งดงามด้วยไอเดียจัดแต่งหน้าตา แถมยังน่าตื่นเต้นด้วยวิธีการปรุงแบบยุโรปดั้งเดิม ต่อกันด้วยเมนูเบาๆ กระตุ้นน้ำย่อยได้ยอดเยี่ยม เห็ดย่าง ทานคู่กับครีมซอสรสละมุน เชฟแบงค์ กำลังบรรจงจัดแต่งอาหารเมนูถัดไปให้เราชิม Pasta ที่เราเลือกชิมในวันนี้ คือ Wild Boar Ragu Cappelletti เป็น dumpling หมูป่าเนื้อนุ่ม เสิร์ฟมาในน้ำซอสเข้มข้นรสจัดจ้าน ตัว dumpling ก็พอดีคำ เคี้ยวง่ายWild Boar Ragu Cappelletti ส่วนใครที่ไม่ชอบทานหมูป่า La Braci ก็มีเมนูแชร์สุดครีเอทีฟให้เลือก คือ Charred Baby Squid Potato Dumplings ราคา (450 บาท++) หมึกกระดองย่างไฟเนื้อหวานฉ่ำ เสิร์ฟคู่ dumpling มันฝรั่งเนื้อนุ่มนวล ราดซอสเลมอนแซฟฟรอนและน้ำมันดิลล์หอมละมุน รสออกเปรี้ยวนิดๆ ของเลมอนครีมซอส ทำให้ทุกสัมผัสสดชื่นจานหลักที่ใครหลายคนหลงรัก La Braci เอาใจสายเนื้Wood-Fired Australian Wagyu Angus Beef Flank ราคา  (750 บาท ++) ทีเด็ดอยู่ที่ความหอมของถ่านไม้ช่วยสร้างกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟคู่กับหอมผัดคาราเมลที่ใช้ขั้นตอนการปรุงพิถีพิถัน และบร็อกโคลีนีย่างเกรียมตัดรสเข้มข้นของเนื้อวัว ขาดไม่ได้คือ Rof Emulsion สูตรเฉพาะของทางร้าน ได้แรงบันดาลใจจากซอส Chimichurri ของแอฟริกาตะวันตก เพื่อเติมกลิ่นหอมสดชื่นของสมุนไพร ช่วยปรับสมดุลให้ความเข้มข้นของวากิว และทำให้จานนี้ Perfect สุดๆ

ส่วนคนที่ไม่ทานเนื้อ เขาก็มีตัวเลือกเป็น Wood Fire Giant River Prawn ราคา (800 บาท++) กุ้งแม่น้ำเนื้อแน่นเด้งมันเยิ้ม เพิ่มรสชาติด้วยซัลซ่ามะเขือเทศเปรี้ยวสดชื่น โรย wolffia (ผำ) ที่หาทานยาก มีเทกซ์เจอร์ในทุกคำWood-Fired Australian Wagyu Angus Beef Flank เนื้อวากิวชิ้นใหญ่นุ่มมาก ห้ามพลาดเพิ่มประสบการณ์พิเศษในการทานเนื้อวากิว ด้วยมีดระดับพรีเมี่ยมในกล่องไม้หรู นำมาให้ลูกค้าเลือกได้เองเลยปิดท้ายด้วยเค้กอร่อยๆ อย่าง Tiramitsu มีกลิ่นหอมผสานผสมกลมกลืนของมาซาล่าไวน์, กาแฟ, วานิลลา และแป้งช็อกโกแลต

La Braci One City Centre, OCC – วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์ ถนนเพลินจิต ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

เปิดให้บริการแล้ววันนี้ เพียงไม่กี่ก้าวจากสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต

  สอบถามเพิ่มเติม โทร. (66) 95-868-6565

Instagram : @Labraci_bkk

 Website: https://www.labraci.com/

 Booking : info@labraci.com

BEGAN VEGAN อิ่มกายอิ่มใจ สไตล์รักสุขภาพ

เคยมาเดินเที่ยวชมบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาแถว ท่าเตียน หลายครั้ง ทั้งช่วงกลางวันและชมแสงสียามค่ำคืน ทว่าวันนี้พิเศษกว่าทุกคราว เพราะเราได้มาเยี่ยมร้านเล็กๆ น่ารัก สไตล์อบอุ่นแห่งหนึ่งในซอยท่าเตียน ซ่อนตัวอยู่ในตรอกเล็กๆ เงียบสงบ ฝั่งตรงข้ามวัดโพธิ์

ใช่เลย เรากำลังจะพาไปรู้จัก BEGAN VEGAN” ร้านอาหารแนววีแกน 100% เจ้าเดียวในแถบท่าเตียนขณะนี้
คุณณิชมน ตั้งตรงจิตร (คุณบี) คนรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีความรู้ด้านอาหารสุขภาพ เจ้าของ ร้าน BEGAN VEGAN ที่ต้องการให้อาหารอุดมคุณประโยชน์แบบนี้ แพร่หลายมากขึ้นในหมู่คนไทย ด้วยคอนเซ็ปต์

“The Journey of  Your Health”

ร้าน BEGAN VEGAN ตั้งชื่อมาจากชื่อของ คุณ B ที่ชอบรับประทาน อาหาร VEGAN นั่นเอง
จากห้องแถวเก่าแก่ย่านท่าเตียนที่ renovate จนดู Modern สะอาดตา ถึงวันนี้ร้านเปิดมากว่า 5 ปีแล้ว เริ่มต้นจากการเป็นร้านอาหารสุขภาพของ คุณปรีดา ตั้งตรงจิตร (คุณปู่ของคุณบี) ชื่อร้าน “R D Preeda Healthy Food” จนกระทั่งส่งช่วงต่อมาถึงคุณแม่ กระทั่งเมื่อคุณบีอายุ 16 ปี ได้เห็นคลิปวิดีโอการฆ่าสัตว์ในโรงฆ่าสัตว์ จึงเกิดความสงสาร และตั้งใจแน่วแน่แต่นั้นว่าจะไม่ทานเนื้อสัตว์อีกเลยตลอดชีวิต

ช่วงแรกก็หาอาหารแนวธรรมชาติทานค่อนข้างยาก คุณแม่ของคุณบีเป็นคนแรกที่ปรุงมาให้ทาน โดยเฉพาะเบเกอร์รี่แนววีแกนแท้ๆ ในเมืองไทยหายากมาก คุณบีจึงคิดค้นสูตรทำเอง คุณแม่เลยสนับสนุนให้เปิด ร้าน BEGAN VEGAN เพื่อให้คนทั่วไปได้รับประทานด้วย จากนั้นคุณบีก็ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร และช่วงปี 3 ได้ไปเรียนต่อด้านการบริหารที่ปารีส ฝรั่งเศส นานถึง 7 เดือน โดยในระหว่างนั้นได้เรียนคอร์เสริมด้านการทำเบเกอร์รี่ที่ สถาบัน Le Cordon Bleu ปารีสร้าน BEGAN VEGAN ได้รับการการันตี 5 ดาว จาก Happy Cow Excellent Reviews ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทานอาหารวีแกนรู้จักกันดี
อาหารแบบวีแกนแท้ๆ จะไม่รับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิดเลย รวมถึงงดเว้นนมวัว เนย น้ำผึ้ง ไข่ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ทุกชนิด โดยต่างกับการรับประทานอาหารเจตรงที่ วีแกนทานผัก 5 ชนิด ที่มีกลิ่นฉุนได้ คือ กระเทียม, หัวหอม-ผักชี, กระเทียมโทนจีน, กุยฉ่าย และใบยาสูบ คนที่ทานวีแกนแบบเคร่งครัดมากๆ มาก มาที่ ร้าน BEGAN VEGAN จึงสบายใจได้ แต่ปัจจุบันลูกค้าก็ยังเป็นชาวต่างชาติมากกว่าครึ่ง อยากให้คนไทยได้ลองชิมบ้างนะ เพราะทานไม่ยากเลย ดีต่อใจต่อกายในแบบที่ต้องว้าวแม้จะเป็นร้านไม่ใหญ่โต ทว่าบรรยากาศให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นมิตร และมีเสิร์ฟมากกว่าอาหารหลัก เพราะ BEGAN VEGAN มีเค้กวีแกน รวมถึงคุกกี้วีแกน กาแฟวีแกน และ Smoothy วีแกน ที่หาชิมที่อื่นไม่ได้แน่ร้าน BEGAN VEGAN เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.หนึ่งใน Signature Menu ของ ร้าน BEGAN VEGAN คือ “All Day Breakfast” หรือ เซ็ทอาหารเช้าที่เสิร์ฟได้ทั้งวัน เสน่ห์หลักของจานนี้คือครัวซองวีแกนแท้ๆ ซึ่งทำก็ยาก หาทานก็ยาก เพราะไม่ได้ใส่ไข่นมเนยเลยสักนิดเดียว แต่ยังให้รสสัมผัสและกลิ่นเหมือนครัวซองทั่วไปเปี๊ยบ เคล็ดลับของทางร้านคือใช้ส่วนผสมอย่างดีจาก Sunflower Butter, Canola Oil, Coconut Oil ฯลฯ ไม่มีการใช้น้ำมันถั่วเหลืองเลย ส่วนที่เห็นสีเหลืองๆ เหมือนไข่คน จริงๆ แล้วคือเต้าหู้ กินคู่กับสลัดผักออร์แกนิคสุขภาพ ราดน้ำซ๊อสงาสไตล์ญี่ปุ่นWelcome Drink เสิร์ฟมาในแก้วช๊อตเล็กๆ น่ารัก กระตุ้นกระเพาะเรียกน้ำย่อยได้ยอดเยี่ยม ส่วนผสมมีทั้งขิง มะละกอ แอปเปิลเขียว มะนาว และเปปเปอร์มิ้นต์
Welcome Drink แบบธรรมชาติ ปั่นรวมมาในแก้วช๊อต เย็นชื่นใจ ดื่มได้ดื่มดีจนต้องขอเพิ่มอีกหนึ่งในเมนูยอดฮิตของ ร้าน BEGAN VEGAN ที่ลูกค้าชื่นชอบ คือ “ข้าวสี่สี ผัดเต้าหู้แกงกะหรี่” เป็นจานหลักที่ประกอบด้วยข้าวสุขภาพ 4 สี ทั้งข้าวสีฟ้าอัญชัญ ข้าวสีเหลืองขมิ้น ข้าวสีเขียวใบเตย และข้าวสีน้ำตาลแดงไรซ์เบอร์รี่ กับข้าวที่ทานคู่กันคือเครื่องแกงกะหรี่ผัดเต้าหู้และผักออร์แกนิค ชิมแล้วขอบอกว่ารสชาติละมุน ให้ความรู้สึกถึงการถนอมสุขภาพมากๆ ครับ
หมูกรอบซ๊อสจิ้มแจ่ว หนึ่งในเมนูเด็ดที่ลูกค้าวีแกนหลายคนชื่นชอบ เพราะทั้งแปลกและหน้าตาเหมือนหมูกรอบจริงๆ  ทำจากถั่วเหลืองแท้ ทอดกรอบด้วยวิธีพิเศษของทางร้าน น้ำจิ้มแจ่วปรุงเองรสไม่จัด เข้ากันอย่างดี เนื้อสัมผัสเวลาเคี้ยวเหมือนหมูกรอบ Deep Fried กรุบๆ กรอบนอกนุ่มใน ยิ่งทานตอนร้อนๆ ยิ่งอร่อยล้ำ
ราดหน้าเส้นทอด เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยม เพราะคุณบีพัฒนาสูตรขึ้นมา ต้องทานตอนร้อนๆ เส้นทอดจะกรุบกรอบเคี้ยวง่าย น้ำราดหน้าก็รสชาตินุ่มนวลเหมือนแพรไหม มีผักออร์แกนิคและเต้าหู้ใส่มาให้เยอะแบบไม่หวงเลยจ้าราดหน้าเส้นทอด เมนูเด็ดของ ร้าน BEGAN VEGANไม่ได้หน้าตาดูดีอย่างเดียว แต่ยังอุดมคุณค่าทางอาหารมากๆ ด้วย

ร้าน BEGAN VEGAN ยังมีอาหารอื่นๆ ให้ชิมอีกเพียบ โดยคิดค้นปรับปรุงเมนูเพิ่มอยู่เสมอ ตอนนี้มีเมนู Version 2.0 ที่น่าลิ้มลองไปซะทุกจาน อาทิ วีแกนลาซานญ่า (Vegan Lasangna) ซอสโบโลเนส เสิร์ฟพร้อมผักย่าง, บว์มิกซ์เบอร์รี่ (Mixed Berries Bowl) ที่มีทั้งมัลเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ผสมกัน โรยหน้าด้วยผลไม้ตามฤดูกาล 3 ชนิด กราโนลา เมล็ดเจีย ถั่ว และธัญพืชรวม, โบว์ผักใบเขียวซุปเปอร์ฟู้ด (Superfood Bowl), โบว์ช็อกโกแลตเนยถั่ว (Chocolate Peanut Butter Bowl), ไก่ทอดวีแกน (Fried Vegan Chicken) ทำจากดอกกะหล่ำทอด จิ้มซอสพริก, ซุปเห็ดเข้มข้น (Mushroom Soup), ซุปข้าวโพดสไปซ์ซี่ (Spicy Corn Soup) นอกจากนี้ยังมี BV Burger ที่ได้รับความนิยมมาก และ BV Steak, Submarine Sandwich, Spagetti with Tomatoes Sauce, BEGAN Carbonara, Japanese Hot Curry with VEGAN Meatballs และอื่นๆ อีกมากมาย

ส่วนอาหารไทยแบบวีแกนก็มีเสิร์ฟเช่นกัน อาทิ ต้มข่าไก่, แกงเขียวหวาน, แกงพะแนง, ผัดกะเพรา, ผัดผงกะหรี่, ลาบ ฯลฯ โดยเน้นแนวคิด “กินอาหารให้เป็นยา” ไม่ใช่กินยาเป็นอาหารจ้า
สำหรับคนที่ชอบขนมหวานแบบวีแกนแท้ๆ ร้าน BEGAN VEGAN มีเค้กจากฝีมือคุณบีให้ชิมถึง 6 อย่าง คือ เค้ก Cinnamon Roll, เค้ก Chocolate, เค้ก Marble, Blueberry Cheese Tart, เค้ก Matcha Strawberry และที่หาทานยากมาก อร่อยจนร้องว้าวหลายรอบ คือ Croissant วีแกน นุ่มหนึบ หอมมาก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้นมเนยเลยสักนิด ส่วนเค้ก Marble ก็เป็น Yogurt-based ที่สายวีแกนแท้ๆ ต้องหลงรัก เรียกว่ามีความ Creative และใส่ใจในรายละเอียดมากครับ หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักของ Blueberry Cheese Tart ท้อปปิ้งด้วยดอกไม้กินได้ จากฟาร์มธรรมชาติของศูนย์สุขภาพเชตวัน ศาลายา รสชาตินุ่มนวลหอมหวานกำลังดีเค้ก Matcha Strawberry ชิ้นโต เห็นเลเยอร์หลายชั้นซ้อนกัน ท้อปปิ้งด้วยสตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และดอกไม้กินได้ เนื้อเค้กนุ่มกำลังดี เข้ากับครีมมัทฉะซะเหลือเกิน เห็นหน้าตาแบบนี้ เป็นเค้กวีแกนแท้ๆ เลยนะจะบอกให้
เค้ก Chocolate เป็น Dark Chocolate อย่างดี หวานน้อย เนื้อนุ่มหนึบ ทานคู่กับกาแฟวีแกนได้เข้ากันสุดๆทั้งน่ารัก ทั้งน่ากิน และดีต่อสุขภาพ ก็ต้องเค้กวีแกน 100% แบบนี้ล่ะครับน้ำมัลเบอร์รี่ สมูทตี้ ที่นำลูกหม่อนออร์แกนิคจากจังหวัดสระบุรี มาปั่นกับนมวีแกน เย็นชื่นใจ รสเปรี้ยวอมหวาน อุดมวิตามินมากมาย ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณเป็นอย่างดีโดยส่วนตัวผมชอบกาแฟวีแกน ของร้าน BEGAN VEGAN เป็นพิเศษ ลองสั่งคาปูชิโน่กับลาเต้มาจิบดู รสชาติกลมกล่อมละมุน ไม่เข้มจนเกินไป ยังคงกลิ่นรสกาแฟครบถ้วน และนุ่มลื่นด้วยส่วนผสมของนมสกัดจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ดื่มแล้วรู้สึกกะปรี้กะเปร่าขึ้นมาเลย
เย็นชื่นใจ เข้มกำลังดี ดื่มแล้วมีแรงออกไปเดินเที่ยวย่านท่าเตียนต่อได้สบายใหม่ล่าสุด เครื่องดื่มสุขภาพที่คุณบีคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง “น้ำใบบัวบกผสมนมข้าวโอ๊ต” แบรนด์ณิมน ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่แพ้นมวัว ความเก๋คือด้านหลังขวดมีบทกลอนบรรยายสรรพคุณอันมีประโยชน์ของน้ำใบบัวบกไว้อย่างน่ารัก ถึงแม้จะไม่อกหักช้ำใจก็ดื่มได้จ้า มีสรรพคุณมากมาย ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ลดความดันโลหิตสูง และภาวะหลอดเลือดแข็งตัว มีฤทธิ์ต้านการอักเสบในร่างกายด้วยนะบทกลอนด้านหลังขวดน้ำใบบัวบกผสมนมข้าวโอ๊ต ขนมอร่อยอีกอย่างที่ห้ามพลาดชิม คือ คุกกี้แนววีแกน 100%” บรรจุในกล่องสวยงาม มี 4 รสให้เลือกตามชอบ คือ Flourless Cashew, Flourless Almond Choc-chip Chocolate chip และ Banana Oatmeal Raisin ซึ่งทั้งหมดเป็นคุกกี้ที่ปราศจากมาการีน น้ำตาลขัดสี สารกันเสีย น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันปาล์ม โดยคุณบีและทีมงานลงมือทำด้วยตัวเองเลยนอกจากอาหารวีแกนร้อยเปอร์เซนต์ที่ดีต่อสุขภาพแล้ว ร้าน BEGAN VEGAN ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เป็นของฝากน่ารักๆ ติดมือกลับบ้านด้วย ในภาพนี้คือ “เทียนหอม” ทำจากไขถั่วเหลืองธรรมชาติ 100% (Soy Wax) ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีใดๆ ใส่มาในกะลามะพร้าวครึ่งซีก ได้กลิ่นอายความเป็นไทยสุดๆเทียนหอมธรรมชาติในกะลามะพร้าวเก๋ไก๋ของ ร้าน BEGAN VEGAN ผลิตจากไขถั่วเหลืองบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซนต์ ใช้จุดในบ้านกลิ่นหอมอ่อนๆ ชื่นใจ ให้ความรู้สึกสดชื่นแบบธรรมชาติ
ด้านหน้า ร้าน BEGAN VEGAN มีพืชผักผลไม้ออร์แกนิคที่ปลูกจากฟาร์มของศูนย์สุขภาพเชตวัน อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐม วางจำหน่ายด้วยมะพร้าวน้ำหอมออร์แกนิค จากฟาร์มธรรมชาติของศูนย์สุขภาพเชตวัน อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐม ดื่มแล้วชื่นใจอย่าลืมนะครับ ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ มานั่งทานอาหารสุขภาพในร้านเล็กๆ น่ารัก อัดแน่นด้วยคุณภาพ สร้างสรรค์ และความใส่ใจ ต้องไม่ลืม ร้าน BEGAN VEGAN ท่าเตียน ของคุณบี ณิชมน ตั้งตรงจิตร และทีมงาน

หลังจากอิ่มกายอิ่มใจกันที่ ร้าน BEGAN VEGAN แล้ว ไม่ควรพลาดโอกาสเดินทอดน่องสัมผัสความสวยงามย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา แถวท่าเตียน ท้องสนามหลวง และพระบรมมหาราชวัง ยังมีวัดวาอารามสำคัญให้ชื่นชมอีกหลายแห่ง ทั้งวัดอรุณราชวรารามฯ (วัดแจ้ง) วัดพระแก้ว และวัดโพธิ์ ต้นตำรับการนวดไทยอันมีชื่อเสียงวัดพระแก้ว สถานที่ประดิษฐานองค์พระแก้วมรกตคู่บ้านคู่เมืองสยามพระนอนวัดโพธิ์ พุทธศิลป์งามล้ำทำให้ต้องตะลึงนวดแผนไทยโบราณที่วัดโพธิ์ กับสำนักเชตวัน

ร้าน BEGAN VEGAN 

Address : ซอยท่าเตียน ถนนมหาราช กรุงเทพฯ ฝั่งตรงข้ามวัดโพธิ์ (ปากซอยมีธนาคารกรุงไทยอยู่ข้างหน้า)

เปิดทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น.

โทร. 08-0226-5770 / FB : Began Vegan / Line : @beganvegan / IG : Began.vegan