ปั่นสองล้อเที่ยวนครพนม ชมเมืองน่ารัก
ปี 2015 เทรนการปั้นจักรยานเที่ยวกำลังมาแรง ใครที่ไม่เคยมีจักรยานก็หาซื้อกันใหญ่ ส่วนคนที่ยังไม่มีก็รีบหาซื้อมาปั่น กลัวอายเพื่อน จะว่าไปแล้วการปั่นจักรยานเป็นการเดินทางแบบ Slow Travel ที่ไม่ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เลย ทำให้นอกจากสุขภาพเราจะดีแล้ว สิ่งแวดล้อมยังสะอาดอีกด้วยนะ เป็น Low Carbon Travel ที่น่าสนับสนุนจริงๆ
วันนี้จังหวัดนครพนมได้กลายเป็น “เมืองแห่งจักรยาน” หรือ The Cycling City อย่างแท้จริงแล้ว เพราะด้วยสภาพของตัวเมืองเลียบลำน้ำโขง บรรยากาศเย็นสบาย มีจุดชมวิว และมีเลนจักรยานให้ปั่นต่อเนื่องยาวหลายกิโลเมตร อีกทั้งคนนครพนมยังนิยมปั่นจักรยานกันในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว จักรยานจึงเป็นพาหนะที่ยังอยู่ในวิถีของคนที่นี่จริงๆ
เส้นทางปั่นจักรยานเที่ยวในนครพนม ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ มีอยู่ 4 เส้นทางด้วยกัน คือ 1.เส้นทางชมเมืองเก่าไชยบุรี 2. เส้นทางบ้านดอนนางหงส์ 3.เส้นทางเมืองโบราณบ้านหนองจันทร์ และ 4. เส้นทางเลียบโขงตัวเมืองนครพนม
เส้นทางเมืองเก่าไชยบุรี เป็นเส้นทางปั่นเลียบลำน้ำโขงยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ผ่านชุมชนน่ารักๆ ที่ยังคงความเงียบสงบ มีร้านกาแฟเล็กๆ ให้นั่งพัก ใครไม่มีจักรยานไปเอง เขาก็มีบริการให้เช่าหลายสิบคันในราคาไม่กี่สิบบาท ปั่นกันเข้าไปให้น่องโป่งได้ทั้งวัน โดยเส้นทางจะผ่านวัดโบราณริมโขง 4 แห่ง ซึ่งรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก ขอบอกว่าวิวริมโขงที่นี่สวยงามโปร่งโล่งสบายมากๆ จ้า
ใกล้ๆ กับเมืองเก่าไชยบุรี บริเวณพระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำคนเกิดวันศุกร์ แถบนี้เป็นถิ่นที่อยู่ของชุมชนชาวไทญ้อซึ่งมีการแต่งกาย ภาษา อาหาร และวัฒนธรรมเด่นเป็นของตนเอง และแน่นอนว่าเขาก็มีเส้นทางปั่นจักรยานเที่ยวที่น่าสนใจมากทีเดียว
พระธาตุท่าอุเทนในฤดูฝน มองจากทุ่งนาเขียวขจี แลสดชื่นเย็นตาเย็นใจจริงๆ
เส้นทางปั่นจักรยานเที่ยวท่าอุเทน เริ่มต้นขึ้นที่พระธาตุท่าอุเทน ซึ่งปัจจุบันบริเวณด้านหลังองค์พระธาตุ ชุมชนได้รวมตัวกันสร้างศูนย์ข้อมูลย่านชุมชนเก่าท่าอุเทนขึ้น ในชื่อ “ภูมิ-มูนมัง ชุมชนท่าอุเทน” โดยเราสามารถเรียนรู้ประวัติของชุมชน รวมถึงรับแผ่นพับแผนที่เส้นทางการปั่นจักรยานเที่ยว ว่าบ้านแต่ละหลังเขามีอะไรให้ชมบ้าง
ในบริเวณชุมชนท่าอุเทน ยังมีเรือนไม้เก่าแบบไทญ้อแท้ๆ ให้ชมหลายหลัง และบางหลังสามารถเข้าไปเยี่ยมชม พูดคุยกับท่าเจ้าของบ้านได้ด้วยล่ะ หรือถ้ามาเป็นหมู่คณะใหญ่ ติดต่อมาก่อน เขาก็จะมีพิธีต้อนรับ มีอาหารไทญ้อให้ชิมด้วย
บอกแล้วว่านครพนมเป็นเมืองจักรยานจริงๆ ที่ท่าอุเทนเลยมีก๊วนจักรยานของเด็กๆ ปั่นเที่ยวเล่นกันไปมา เราปั่นจักรยานผ่าน “ร้านศรีอุเทน” ซึ่งปัจจุบันเป็นร้านเช่าหนังสือการ์ตูน อาคารหลังนี้โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมโคโลเนียล อันเป็นยุคที่ฝรั่งเศสเข้ามายึดลาวและริมโขงแถบนี้เป็นอาณานิคมนั่นเอง
บ้านเก่าบางหลังในท่าอุเทน พร้อมต้อนรับผู้มาเยือน เพื่อเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กัน ในลักษณะของ Living Museum หรือพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ไปมาลาไหว้ อย่าลืมสวัสดีคุณยายด้วยล่ะจ้า
นอกจากชุมชนน่ารักแล้ว บริเวณริมโขงท่าอุเทนยังมีวัดเล็กๆ อันเป็นที่ประดิษฐานพระบางจำลองอีกด้วย
ปั่นจักรยานกางร่มแบบนี้ ถ้าไม่บอกนึกว่าเป็นสาวเชียงใหม่เจ้า แต่เธอนางนี้เป็นสาวไทญ้อท่าอุเทนแท้ๆ เลยนะ
ริมโขงท่าอุเทน เป็นจุดที่มีวิวเปิดโล่งโปร่งสบาย มองเห็นวิวฝั่งลาวได้แบบสุดสายตาพาโนรามา อากาศก็เย็นสบายหายใจได้เต็มปอด การปั่นจัรกยานเที่ยวแถวนี้จึงเป็นความสุขเล็กๆ แบบ Low Carbon Happiness จริงๆ อ่ะจ้า
ห่างจากอำเภอท่าอุเทน 21 กิโลเมตร ถ้าเราปั่นจักรยานไปตามทางหลวงสาย 212 (ท่าอุเทน-บ้านแพง) ตรงช่วง กม.27 ก็จะถึง “แหล่งเรียนรู้ไดโนเสาร์ท่าอุเทน” Amazing Unseen ที่คนทั่วไปยังไม่ค่อยรู้ ว่านครพนมก็มีไดโนเสาร์ด้วยหรือ?
แหล่งเรียนรู้ไดโนเสาร์ท่าอุเทน ตั้งอยู่ที่ตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน อยู่ภายใต้การดูแลของกรมทรัพยากรธรณี ได้รับการค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2544 โดยบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่มาระเบิดหินบริเวณนี้ เป็นจุดที่ค้นพบรอยเท้าของ ไดโนเสาร์ นกกระจอกเทศ แล อีกัวดอน รวมทั้งรอยเท้าจระเข้ขนาดเล็ก อีก 1 ชนิด รวมแล้วกว่า 300 รอย ถือว่ามีรอยเท้าไดโนเสาร์รวมกันอยู่ในจุดเดียวเยอะที่สุดในเมืองไทยล่ะครับ!!!
วันนี้ปั่นจักรยานเที่ยวนครพนมกันมาทั้งวัน ตอนเย็นย่ำเลยขอพักแบบชิลชิล เข้าเมืองมารอชมแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์อัสดงลงริมโขง เหมือนโชคเข้าข้าง วันนี้เกิดอุกาฟ้าเหลือง! ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แถมเรายังโชคดีได้ขึ้นชมวิวจากมุมสูงพิเศษ มองเห็นย่านชุมชนเก่า เคียงคู่กับหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ Landmark สำคัญของนครพนม
คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธแน่นอน ว่านครพนมเป็นเมืองริมโขงที่มีวิวสวยที่สุดแห่งหนึ่ง ดูสิ มองไปเห็นเทือกเขาหินปูนฝั่งแขวงคำม่วนในลาว ทอดยาวเป็นปราการธรรมชาติยิ่งใหญ่อลังการเหลือเกิน แสงสีแต่ละวันจึงช่วยให้วิวมหัศจรรย์นี้งามไม่ซ้ำกันเลยสักวันเดียว หลงรักนครพนมแล้วล่ะ!
พอพระอาทิตย์หายหน้าไป ไม่นานก็เกิดแสงแบบ Twilight หรือโพล้เพล้ คือในขณะที่ท้องฟ้ายังไม่มืดสนิท ถ่ายภาพออกมาจะได้เป็นสีฟ้าคราม ตัดกับแสงไฟถนนและรถยนต์ที่แล่นไปมา ช่วยให้หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์โดดเด่นมาก
เช้าวันใหม่สดใสยิ่งกว่าเก่า แสงแรกของตะวันริมลำน้ำโขงที่หน้าโรงแรม The River นครพนม ช่างน่าอัศจรรย์ งามเกินคำบรรยาย!
สายหมอกขาวลอยคลอเคลียเทือกเขาหินปูนตะปุ่มตะป่ำในฝั่งเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ของลาว วิวน่ะเป็นของลาว แต่เวลาจะชมต้องมาดูจากฝั่งไทยนะจ๊ะ! น่าอิจฉาคนนครพนมจริงๆ ได้เห็นวิวสวยแบบนี้ทุกวันเลย
นครพนมเพิ่งมีการจัดทำเลนจักรยานใหม่เอี่ยมเสร็จเรียบร้อย เป็น Green Lane ที่อาจจะพูดได้ว่าวิวสวยที่สุดในประเทศ! นอกจากจะมองเห็นลำน้ำโขงและเทือกเขาหินปูนฝั่งลาวอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว ยังมีต้นไม้เขียวสดเย็นตา ปั่นกันเพลินๆ สบายใจ ไม่ต้องห่วงว่ารถจะเฉี่ยวชน เพราะเป็นเลนจักรยานโดยเฉพาะที่ปลอดภัยสุดๆ จริงๆ ครับ
เช้าๆ เย็นๆ อากาศแจ่มใส ชวนกันไปปั่นจักรยานเล่นกินลมชมวิวที่นครพนมดีกว่านะจ๊ะ
สุดยอดเส้นทางปั่นจักรยานนครพนมจ้า
ปั่นจักรยานผ่านตัวเมืองเก่าริมโขง ยังมีจุดแวะพักให้ถ่ายภาพเก๋ๆ กันอย่างสนุกสนานด้วย
ปั่นจักรยานอยู่บน Green Lane อย่างปลอดภัย เน้นทำตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดครับ
เฮฮาร่าเริง กับการปั่นจักรยานเที่ยวบนเส้นทางชมตัวเมืองเก่าริมโขง นครพนม The Cycling City
ออกจากตัวเมืองนครพนม วันนี้เราไปเปลี่ยนบรรยากาศ หาที่เที่ยวใหม่ๆ แบบธรรมชาติที่คนไม่ค่อยรู้จักบ้าง ขอบอกว่าฟังชื่อครั้งแรก “อุทยานแห่งชาติภูลังกา” นึกว่าอยู่ภาคเหนือ แต่แท้ที่จริงอยู่ในอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ต่อเนื่องกับอำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ป่าผืนนี้อุดมสมบูรณ์มาก จนเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกใหญ่ 2 แห่ง คือ น้ำตกตาดขาม และน้ำตกตาดโพธิ์ รวมถึงมีเส้นทางเดินป่า 2 วัน 1 คืน ขึ้นสู่เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ ด้วย
น้ำตกตาดโพธิ์ งามอย่างอ่อนโยน น้ำไหลลดหลั่นลงมาเป็นขั้นๆ ผ่านผาหินทราย แวดล้อมด้วยแมกไม้เขียวขจี มีวังน้ำใหญ่ด้านหน้าให้ลงอาบแช่เล่นด้วย
บ้านดอนนางหงส์ อำเภอธาตุพนม เป็นอีกหนึ่งเส้นทางปั่นจักรยานเที่ยว สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนแสนน่ารัก ซึ่งยังผูกพันอยู่กับนาไร่ สวนลิ้นจี่ และวิถี Slow Life ที่ใกล้ชิดพระพุทธศาสนา
หนุ่มน้อยแห่งบ้านดอนนางหงส์ มาในชุดปั่นจักรยานแบบจัดเต็ม! ดูหน่วยก้านแล้วโตขึ้นคงหนีไม่พ้นทีมชาติ!
เส้นทางปั่นจักรยานเที่ยวบ้านดอนนางหงส์ มีไฮไลท์อยู่ที่ พระธาตุมรุกขนคร พระธาตุประจำคนเกิดวันพุธกลางคืน ลักษณะคล้ายพระธาตุพนมย่อส่วน โดยองค์พระธาตุนั้นสูงถึง 50.9 เมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2536
เราสามารถปั่นจักรยานจากพระธาตุมรุกขนคร ไปยัง วัดดอนนางหงส์ อันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุเจดีย์ กว. วัดนี้เก่าแก่มาก สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2300 ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร สมัยพระบรมราชากู่แก้ว
บ้านดอนนางหงส์ มีชื่อเสียงเรื่องงานฝีมือที่กำลังจะสูญหายอย่างหนึ่ง คือการสลักแผ่นทองเหลือง ส่วนมากนิยมสลักเป็นรูปองค์พระธาตุหรือพุทธประวัติต่างๆ เพื่อนำไปถวายวัด หรือประดับบ้านเรือนให้เป็นสิริมงคล แต่งานประณีตศิลป์แขนงนี้ต้องอาศัยทักษะความชำนาญ และความอดทนสูงมาก จึงหาผู้สืบทอดได้ยาก
บ้านดอนนางหงส์ยังลือเลื่องชื่อเสียงในเรื่องของ งานฝีมือใบตอง ประดิษฐ์เป็นพานพุ่มขันหมากเบ็ง หรือพานบายศรี ได้งดงามในระดับจังหวัด นักท่องเที่ยวที่มาเยือนชุมชน หรือมาปั่นจักรยานสามารถแวะเรียนรู้ ทดลองทำได้ กิจกรรมนี้เองจะช่วยสืบทอดมิให้ประณีติศิลป์แห่งบ้านดอนนางหงส์สูญหาย และอยู่เป็นเอกลักษณ์คู่นครพนมตลอดไป
แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดนครพนม ซึ่งเราจะขับรถขึ้นไป หรือปั่นจัรกยานเสือภูเขาทดสอบความฟิตขึ้นไปก็ได้ คือ “ลานดานสาวคอย” ในตำบลนาแก อำเภอนาแก ลักษณะเป็นลานหินทรายราบเรียบ มีต้นไม้แบบเต็งรังและเบญจพรรณขึ้นอยู่ประปราย โดยบริเวณลานดานสาวคอยนี้เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นจังหวัดสกลนครได้ แถมยังมองเห็นองค์พระธาตุพนมอยู่ลิบๆ ด้วย นับเป็น Photo Point ที่สุดยอดไปเลย
เหตุที่ลานหินแห่งนี้ได้ชื่อว่า “ลานดานสาวคอย” เพราะมีตำนานเล่าขานว่า อดีตมีสาวงามนัดพบกับคนรักหนุ่ม ณ ที่แห่งนี้ แต่ชายหนุ่มถูกพ่อของสาวงามฆ่าตายเสียก่อน วิญญาณของสาวงามนั้นจึงมาวนเวีนยอยู่ที่นี่เพื่อรอคนรัก!
ถ้าเดินสำรวจดูดีๆ ใกล้ๆ กับลานดานสาวคอย จะมี หินทรายรูปดอกเห็ด ผุดอยู่ทั่วไป เกิดจากการัดเซาะของลม น้ำฝน และความร้อน แต่หินเหล่านี้ก็มีขนาดไม่ใหญ่โตนัก จึงมักถูกมองข้ามไป
ลานดานสาวคอยตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน ปัจจุบันมี วัดภูพานอุดมธรรม อยู่ มีการสร้างองค์พระธาตุประจำวันเกิดจำลอง กระจายอู่บนลานหิน ให้ผู้มีจิตศรัทธาเดินไปสักการะ เพราะบางคนมีเวลาไม่พอ ไม่สามารถเดินทางไปสักการะพระธาตุประจำวันเกิดองค์จริงได้ครบทุกที่ มาที่นี่ที่เดียวครบเลย
พระพุทธมหามงคลบพิตรจัตุรทิศประทานพร ได้รับการนำมาประดิษฐานไว้เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2528 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการยุติการสู้รบระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับลัทธิคอมมิวนิสต์บนเทือกเขาภูพาน จากนี้ไปจะมีแต่สันตินะจ๊ะ
เราขอจบทริปปั่นจักรยานเที่ยวนครพนม ชมเมืองน่ารัก กันที่องค์พระธาตุพนมในยามเย็น ไปกราบขอพรพระธาตุพนม ประจำคนเกิดวันอาทิตย์และปีวอก มาที่นี่ทีไรแล้วรู้สึกร่มเย็น ใจสงบ แม้ว่าโลกภายนอกจะสับสนวุ่นวายปายใดก็ตามSpecial Thanks : ขอขอบคุณ ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ
คุณสมชาย วิทย์ดำรงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
คุณเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดนครพนม
คุณวสุมน เนตรกิจเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Win Win Smile และโครงการ Self Drive Isan
คุณสิทธิพร ศิริวรเดชกุล (เปี๊ยก เสียงทิพย์) ประธานบริษัท เสียงทิพย์ไฮเทค จำกัด
คุณสมภพ ตั้งศิริ กรรมการผู้จัดการโรงแรม The River นครพนม
ขอขอบคุณ พี่ๆ เพื่อนๆ ชาว ททท. สำนักงานนครพนม ทุกคน ที่ช่วยเป็นกำลังใจให้อย่างเต็มที่
และ บริษัท Nikon Sales (Thailand) สนับสนุนอุปกรณ์ถ่ายภาพระดับมืออาชีพ
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!