เที่ยวอุดรได้ตลอดปี ไม่ได้มีแต่ทะเลบัวแดง!
มีเพื่อนๆ หลายคนชอบมาถามว่า ถ้าหมดฤดูท่องเที่ยวทะเลบัวแดงที่หนองหานแล้ว อุดรธานี จะมีที่เที่ยวที่ไหนให้ไปเยือนบ้างรึเปล่านะ??? ตอบง่ายๆ ได้เลยแบบดังๆ ว่า มีชัวร์! เพราะอุดรธานีเป็นเสมือนจังหวัดศูนย์กลางของภาคอีสานตอนบน นอกจากจะมีอารยธรรมบ้านเชียงอันเก่าแก่กว่า 5,000 ปี จนถึงขั้นเป็นมรดกโลกแล้ว ยังมีความน่าสนใจในอีกหลายแง่มุมให้ค้นหา ว่าแล้วก็รีบเก็บกระเป๋า ออกไปทัวร์อุดรธานีกันเลยดีกว่านะพวกเรา! เย้
แหล่งโบราณสถานบ้านเชียง มรดกโลก ดินแดนที่เคยมีผู้คนอาศัยเมื่อกว่า 5,000-1,800 ปีล่วงมาแล้ว เป็นแหล่งชุมชนที่มีอารยธรรม และเทคโนโลยีขั้นสูง สามารถเพาะปลูกพืชผล เลี้ยงสัตว์ ทำเกษตรกรรม หลอมโลหะ ประดิษฐ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะสามารถปั้นเครื่องปั้นดินเผาลายเชือกทาบสีแดง คล้ายรูปขดก้นหอย อันเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเชียงแท้ๆ
แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ได้รับการค้นพบครั้งแรกโดยชาวบ้านในแถบนั้นเมื่อ พ.ศ. 2503 เพราะมีเศษภาชนะดินเผาแตกเกลื่อนกระจายอยู่ทั่วไปตามหัวไร่ปลายนา ต่อมาจึงมีการขุดค้นจริงจังเมื่อปี พ.ศ. 2515 วงการโบราณคดีทั่วโลกจึงตกตะลึง! เพราะพบว่าเป็นแหล่งชุมชนโบราณขนาดใหญ่ เก่าแก่กว่า 5,000 ปี ทุกวันนี้มีการจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างดี พร้อมด้วยหลุมขุดค้นจริงที่วัดโพธิ์ศรีใน เราจะได้เห็นโครงกระดูกมนุษย์โบราณ พร้อมด้วยซากเครื่องปั้นดินเผามากมาย ถ้าใครมาเที่ยวบ้านเชียงตรงกับเดือนกุมภาพันธ์พอดี ก็จะได้ชม “งานมรดกโลกบ้านเชียง” มีขบวนแห่และงานเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่
CONTACT : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง อำเภอหนองหาน อุดรธานี โทร. 0-4220-8340 เปิดเวลา 08.30-16.30 น.
นอกจากบ้านเชียงจะเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญระดับโลกแล้ว ยังเป็นแหล่งผ้าทอย้อมคราม ของพี่น้องชาวไทยพวน ซึ่งอพยพข้ามมาจากฝั่งลาวในอดีตอีกด้วย โดยมีทั้งผ้าฝ้าย และผ้าไหมมัดหมี่ อันประณีตงดงาม หาซื้อได้ง่ายมาก เพราะมีหลายร้านเรียงรายอยู่ด้านหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์บ้านเชียงนั่นเอง
ไม่น่าเชื่อเลยว่า บนเทือกเขาภูพานอันลึกเร้น เนื้อที่กว่า 3,430 ไร่ ในเขตตำบลบ้านผือปัจจุบันนี้ หากย้อนกลับไปเมื่อ 2,000-3,000 ปีก่อน จะเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ พากันมาตั้งชุมชนทางศาสนาพุทธสมัยทวารวดี โดยใช้ภูมิประเทศอันโดดเด่น เป็นลานหิน ป่าละเมาะเตี้ยๆ และกลุ่มหินเทินรูปทรงประหลาดจำนวนมาก เป็นศาสนสถานและที่ประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนา ที่นี่คือ “อุทยทานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” ซึ่งมีหอนางอุษาเป็น Landmark โดดเด่นที่สุด
ตามซอกหลืบหิน ในโพรงถ้ำน้อยใหญ่ และใต้เพิงผาของภูพระบาท ยังปรากฏร่องรอยภาพเขียนสีโบราณอยู่หลายสิบภาพ ทั้งรูปทรงเรขาคณิต และภาพมนุษย์โบราณ รวมถึงมีหินสลักเป็นพระพุทธรูปแบบนูนสูงด้วย ทว่าน่าเสียดาย ส่วนใหญ่ถูกโจรใจบาปแอบมาตัดเศียรพระไปนานแล้ว! กระทั่งเพิ่งเข้ามามีการอนุรักษ์ภายหลัง เมื่อปี พ.ศ. 2524
CONTACT : อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ตำบลเมือนพาน อำเภอบ้านผือ อุดรธานี โทร. 0-4225-0616, 0-4225-1350 เปิด 08.00-16.30 น.
หลังจากเดินเที่ยวภูพระบาทกันจนเหนื่อยล้าแล้ว ก็ได้เวลาไปผ่อนคลายกายใจกันที่ “สปาเกลือ” ของบ้านกุญณภัทร อำเภอบ้านดุง แหล่งเกลือสินเธาว์ธรรมชาติจากใต้พิภพ ซึ่งอุดมคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีการนำเกลือจากแหล่งนี้ไปให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้ว ผลปรากฏว่ามีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่เพียบ! ได้ลงอาบแช่ หรือแค่ขัดตัว พอกหน้า เท่านี้ก็จะมีสุขภาพดี ผิวใส อ่อนเยาว์เลยล่ะ จริงๆ นะไม่ได้โม้!
วิธีการทำนาเกลือสินเธาว์ (เกลือใต้ดิน) ก็คล้ายกับการทำเกลือสมุทร (เกลือทะเล) โดยเกลือสินเธาว์จะสูบน้ำเกลือจากใต้ดิน ขึ้นมาพักไว้ในบ่อตื่นๆ ให้แดดและไอร้อนเผา จนเกิดการตกตะกอนของผลึกเกลือ จนได้เกลือคุณภาพ เป็นเครื่องบ่งชี้ได้จริงๆ เลยว่า ในครั้งอดีตกาลนานโพ้น ภาคอีสานทั้งหมดเคยจมอยู่ใต้ทะเลมาก่อน จึงมีชั้นเกลือสะสมอยู่ใต้ดินอย่างมหาศาล
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าจริงๆ แล้วเกลือมีหลายเกรด หลายระดับคุณภาพ เกลือคุณภาพเยี่ยมที่สุดเรียกว่า “เกสรเกลือ” เป็นผลึกเกลือเล็กๆ ที่จับตัวลอยอยู่เหนือผิวน้ำนี่ละ แต่ถ้าปล่อยเกสรเกลือไว้โดยไม่ไปทำอะไรกับมันเลย ไม่นาน พอมันรวมตัวกันเยอะขึ้น หนักขึ้น ก็จะจมลงไปที่ก้นบ่อ จากนั้นเมื่อน้ำเกลือระเหยไปหมด ก็จะได้เกลือที่นำมาทำอาหาร หรือเกลือที่ใช้ในสปาต่อไป ถ้ามาเที่ยวที่ บ้านกุญณภัทร เขาจะมีกิจกรรมให้เราไปช้อนเกสรเกลือกลับบ้านกันอย่างสนุกสาน ใครขยันมากได้มาก ขอบอกเลยว่า ราคาเกสรเกลือแพงมากจริงๆ!
พอช้อนเกสรเกลือกันสนุกได้ที่แล้ว ก็มาพักผ่อนนั่งแช่เท้าในน้ำเกลืออุ่นๆ เพื่อผ่อนคลาย ให้เลือดวิ่งปรี๊ดไปทั่วตัว เพราะเท้าคนเราจริงๆ แล้วถือเป็นจุดศูนย์รวมประสาทที่สำคัญมาก หรือถ้าใครมีเวลามาก จะแช่ทั้งตัว หรือนวดหน้าก็ได้นะ เขามีบริการพร้อม เสร็จสามารถซื้อผลิตภัณฑ์จากเกลือธรรมชาตินี้กลับไปใช้เองที่บ้านได้อีก แหม ครบวงจรจริงๆ นะครับพี่
CONTACT : สปาบ้านกุญณภัทร ตั้งอยู่ที่ 214 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านดุง อำเภอบ้านดุง อุดรธานี โทร. 08-1975-6494
ในตัวเมืองอุดรธานีวันนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะ “ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน (จ.อุดรธานี)” ซึ่งก่อสร้างขึ้นด้วยทุนกว่า 15 ล้านบาท โดยพี่น้องชาวจีนคณะกรรมการศาลเจ้าปู่-ย่า สมัยที่ 58 และเปิดให้ชมอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2556 เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวจีนพลัดถิ่น ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ตั้งรกรากประกอบธุรกิจการค้าจนรุ่งเรืองเป็นเจ้าสัวอยู่ในเมืองอุดรธานีมาถึงทุกวันนี้
ภายในศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี มีการจัดภูมิทัศน์ และสวนจีน เลียนแบบเมืองจีนแท้ๆ เข้าไปเดินเที่ยวแล้วนึกว่าอยู่ในเมืองจีนจริงๆ ด้วย! กลางสวนมีบ่อปลาคาร์พจักรพรรดิ์ห้าสี ขนาบด้วย อาคารเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และ หอคุณธรรม ที่รวมคติความเชื่อ และวิถีชีวิตของชาวจีนในอุดร สอนลูกสอนหลานต่อเนื่องกันมา ให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตต่อไป ถึงแม้เราจะไม่ใช่ชาวจีน ก็สามารถเข้าไปชมได้ เหมาะมากสำหรับทุกคนในครอบครัว
CONTACT : ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี 889 ถนน 39 ศาลเจ้าเนรมิตร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โทร. 0-42242-444 , 0-4224-2333
ศาลเจ้าปู่ย่า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ศูนย์รวมพลังศรัทธาและพลังสามัคคีของพี่น้องชาวจีนทุกตระกูลแส้ในอุดรธานี โดยภายในศาลนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ควรไปสักการะ 6 อย่าง คือ หนึ่ง “ทีตีแป่บ้อ” เรียกสั้นๆ ว่า “ทีกง” หรือชื่อในภาษาไทย คือ “ศาลเทพยดาฟ้าดิน” สอง “ปึงเถ่ากงม่า” คือ “เจ้าปู่เจ้าย่า” สาม “ศาลเจ้าพ่อหนองบัว” สี่ “ตี่จู๋เอี๊ย” หรือ ชื่อภาษาไทย คือ เจ้าที่เจ้าทางซึ่งก็คือสิ่งศกดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาดูแลสถานที่นั้นๆ ห้า “พระสังกัจจายน์” และ หก คือ “ฉั่งง่วนส่วย” เป็นองค์เทพที่เชี่ยวชาญในการปราชญ์เป็นอย่างยิ่ง เป็นที่นิยมสักการะของนักเรียน นักศึกษา ในการจะไปสมัครสอบครั้งสำคัญ
CONTACT : ศาลเจ้าปู่ย่า ตั้งอยู่ที่ริมสระหนองบัว ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง อุดรธานี โทร. 0-4224-7291
หลังจากสักการะศาลเจ้าปู่ย่า และหาแหนมเนืองแสนอร่อยชิมกันจนอิ่มแปร้แล้ว ก็ได้เวลาตะลุยราตรี สัมผัสวิถีชีวิต Night Life ของเมืองอุดร ทุกวันนี้ดูเหมือนถ้าไม่ได้ไปเดินช้อปปิ้งที่ UD TOWN ถือว่าเชยแย่! เพราะที่นี่เป็นเหมือน Center Point หรือ Siam Square ของคนอุดรเขาล่ะ แต่ไม่เท่านั้น ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เราจะเห็นคนลาว และรถยนต์จากฝั่งลาว ข้ามสะพานมิตรไทย-ลาว ที่หนองคาย เข้ามาเดินเที่ยวช้อปปิ้งกันเป็นพันคน!
คนที่รักธรรมชาติ ต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางผืนป่าเขียวๆ ในโอบล้อมขุนเขา เราแนะนำให้ไปเที่ยวที่ “หมู่บ้านคีรีวงกต” อำเภอนายูง ชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ที่จัดการท่องเที่ยวแบบเรียบง่าย พาเราเข้าไปชื่นชมวิถีชีวิตแบบพอเพียง พึ่งพิงธรรมชาติ จนสามารถปลูกพืชผลพืชไร่ได้หลากหลายชนิด ตั้งแต่พืชผักสวนครัว, ข้าวไร่, อ้อย, ข้าวโพด, ยางพารา หรือแม้แต่สตรอว์เบอร์รี่สีแดงแสนอร่อย ซึ่งจะดกมากโดยเฉพาะในฤดูหนาว
ทีเด็ดของการมาเที่ยวบ้านคีรีวงกต คือการนั่งรถอีแต๋นเที่ยวป่า! ลัดเลาะราวไพรเข้าไปตามลำห้วยชื่อ ห้วยใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จนไปถึงน้ำตกใสสะอาดที่มีน้ำไหลตลอดปี บ่งบอกเป็นนัยๆ ได้ว่า ผืนป่ารอบหมู่บ้านยังดีอยู่ จึงสามารถดูดซับและปล่อยน้ำออกมาให้ชาวบ้านได้ใช้สอย ดูสิ นอกจากจะได้ใช้อาบกินในบ้าน ในนาไร่แล้ว ยังเกื้อหนุนกับการท่องเที่ยวทำรายได้อย่างยั่งยืนแบบนี้ล่ะ น่าชื่นชมเอาตัวอย่างจริงๆ
ระหว่างทางก็จะได้ชื่นชม พร้อมกับเก็บภาพธรรมชาติสวยๆ มองไปไกลๆ ยังเห็นภูเขาทอดตัวอยู่เป็นเพื่อน เคียงคู่พงไพรและไม้ใหญ่ รวมถึงต้นค้อ และต้นยางนายักษ์เป็นจำนวนมาก นี่คือป่าชุมชนที่อุดมสมบูรณ์จริงๆ
สิ้นสุดการขี่รถอีแต๋นเที่ยว ก็คือการข้ามน้ำตกเล็กๆ มานั่งตั้งวงกินข้าวกันกลางป่า ฮาฮาฮา มีความสุขจริงๆ นะพวกเรา
จังหวะข้ามลำธารนี้เอง ที่ใครแอบชอบใครก็ขอจับมือทำทีช่วยข้ามลำธารกันตอนนี้ล่ะ! ฮาฮาฮา ล้อเล่นน่า
คุณลุงโชเฟอร์นักขับอีแต๋น ทำหน้าที่เป็นพ่อครัวปิ้งไก่ให้เรากินด้วย แถมยังมีน้ำสมุนไพรต้มแสนชุ่มคอมาให้ชิมปิดท้ายอีกต่างหาก ใจดีจังนิ
อาหารพื้นบ้าน ง่ายๆ แต่แซ่บเวอร์! มื้อนี้มีทั้งปลาเผา ข้าวหลาม ส้มตำปลาร้า ปีกไก่ย่างถ่านหอมฉุย แจ่วรสเด็ด และต้มยำน้ำข้น ขอบอกว่ากินกันเกลี้ยงทุกสิ่งอย่าง!!!!
CONTACT : หมู่บ้านคีรีวงกต อำเภอนายูง จ.อุดรธานี ไปพัก Homestay หรือนั่งรถอีแต๋นเที่ยวทัวร์ป่า ติดต่อ ผู้ใหญ่นรินทร์ โทร. 08-3147-9004 หรือ www.facebook.com/OonSonkeeree
อาชีพทำไม้กวาดดอกหญ้า คือภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่สรรค์สร้างเป็นงานหัตถกรรมน่าซื้อ น่าใช้ ทุกครัวเรือนไทยเหมาะมาซื้อหากันถึงแหล่ง จะได้อุดหนุนชาวบ้านอย่างแท้จริง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี โทร. 0-4232-5406-7, 08-1486-2775
หรือติดต่อ กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร. 08-9752-7552, 08-5295-0092
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!