พะงัน พระจันทร์หลากสี มีมากกว่าที่คิด!

ไป “พะงัน” กันดีกว่า ปล่อยใจให้สุขสนต์ ไปเล่นลมสู้คลื่น สดชื่นและสมหวัง… ใช่แล้ว ไปเที่ยวทะเลทั้งทีก็ต้องมีความสุขแน่นอน เพราะพะงันเป็นเกาะใหญ่ที่สวยที่สุดเกาะหนึ่งของทะเลสุราษฎร์ธานีเลยล่ะ แต่ก่อนชื่อว่า “เกาะพงัน” ซึ่งมาจากคำว่า “หลังงัน” เป็นภาษาท้องถิ่น หมายถึงสันทรายที่โผล่ขึ้นมายามน้ำลด และต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น “เกาะพะงัน” มาถึงทุกวันนี้

P2

 เดิมทีพะงันเป็นเกาะเงียบๆ มีแต่สวนมะพร้าวกับวิถีประมง ผู้คนอยู่กันแบบพอเพียง แต่ต่อมาชื่อเสียงของ Full Moon Party ก็ทำให้พะงันโด่งดังระดับโลก! มีแบ็กแพ็เกอร์ หรือพวกแบกเป้เที่ยวเข้ามาพะงันเดือนละหลายหมื่นคน ภาพลักษณ์ของพะงันจึงกลายเป็นเกาะแห่งการ Party ไปซะงั้น แต่จะมีใครรู้บ้างว่า ลึกๆ แล้ว พะงันยังมีแง่มุมน่าสนใจอื่นๆ อีกหลายมิติมุมมองให้ค้นหา และทริปนี้ เราจะร่วมเดินทางไปพร้อมกัน เพื่อร่วมงาน “พระจันทร์หลากสี” ที่พะงัน

P3

ทริปนี้เราใช้วิธีบินจากกรุงเทพฯ ไปลงเกาะสมุย แล้วต่อเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะพะงัน อีกแค่ 20 นาทีก็ถึงแล้ว

P4

เมื่อเรือเฟอร์รี่เร่ิมเร่งเครื่องออกเดินทาง เราก็ทิ้งเกาะสมุยไว้เบื้องหลัง วันนี้ฟ้าสวยแดดใสดีจริงๆ เลยนะ

P5

 ถึงแล้ว เกาะพะงัน เกาะในฝันของคนรักทะเล ที่เราจะมาตามหาแง่มุมน่าสนใจอันหลากหลาย

P6

อดใจไม่ไหว ขอไปลงน้ำกันก่อนเลย โดยเฉพาะที่ “ทะเลแหวก” ตรงหาดแม่หาด มีสันทรายเชื่อมไปยังเกาะม้าได้ เขาบอกว่าเป็นจุดำน้ำตื้นดูปะการังที่สวยที่สุดของเกาะพะงันเลยล่ะ บางวันเวลาเรือดำน้ำที่เกาะเต่าหนาแน่นมากๆ เรือบางลำก็จะพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำตื้นดูปลากันที่เกาะม้านี่ล่ะ

P7

ลองไปเดินเล่นบนสันทรายของทะเลแหวก เห็น เกาะม้า อยู่ใกล้ๆ ข้างหน้าแค่นิดเดียว ผืนทรายของที่นี่เป็นสีน้ำตาลทอง เม็ดละเอียดกำลังดี เวลามาเดินอยู่บนทะเลแหวกจริงๆ แล้ว จะให้ความรู้สึกแปลกดี เพราะมีทะเลขนาบตัวเราอยู่สองข้าง บางจังหวะคลื่นจากทะเลสองฝั่งจะซัดเข้ามาชนกัน แล้วแหลกออก สลับไปสลับมาอย่างนี้ สมชื่ทะเลแหวกจริงๆ

P8

อุตส่าห์หนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่มาถึงทะเลสวยๆ อย่างหาดแม่หาดแล้ว ขอตัวนอนเล่นบนเก้าอี้ผ้าใบ ฟังเสียงคลื่นจุมพิตหาดทราย และเหม่อมองทะเลแหวกและเกาะม้าอันแสนบริสุทธิ์สวยงาม

P9

มนต์เสน่ห์ทะเลพะงัน ดูจะเพิ่มพูนขึ้นอีกหลายร้อยเท่าทวีคูณในยามอาทิตย์อัสดง โดยเฉพาะที่ หาดศรีธนู ซึ่งเป็นหาดเงียบสงบใต้ทิวสนและดงมะพร้าว มีถนนให้รถวิ่งชมวิวเลียบหาดได้ แต่ที่เจ๋งสุดคือ มีต้นมะพร้าวโอนเอนลงเรื่ยผิวทะเลเลยล่ะ น่าไปโดดน้ำเล่นชะมัด

P10

ไม่น่าเชื่อเลยว่า ที่พะงันจะมีโรงเรียนสอนเล่น Kite Surf อยู่ด้วย กีฬาทางน้ำนี้เล่นไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความพยายาม โดยการใช้ร่มลากกระดานโต้คลื่น ผู้เล่นจึงต้องมีร่างกายแข็งแรง ในการคุมร่มให้อยู่ เกาะพะงันมีลมดีเล่น Kite Surf ได้ตลอดปี ใครอยากเรียนไปได้เลยที่หาดมาลิบู (มาลิบู รีสอร์ท)

P11

P12

การเล่น Kite Surf จะมันส์ตรงที่เวลานักเล่นโดดลอยตัวขึ้นไปหมุนโชว์ลีลาอยู่กลางอากาศนี่ล่ะ!!

P13

จริงๆ แล้ว เราไม่อยากให้คนรู้จักเกาะพะงันเพียงแง่ของ Full Moon Party และทะเลอันสวยงามเท่านั้น เมื่อวันที่ 9-13 ธันวาคม 2557 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวเกาะสมุย ร่วมกับสมาคมโรงแรมเกาะพะงัน จึงจัดงาน “พระจันทร์หลากสี ที่พะงัน” หรือ Phangan Color Moon Festival 2014 โดย ท่านกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมาเป็นประธาน เพื่อประกาศให้เป็นที่รู้กันว่า พะงันมีของดีอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผยต่อสายตาชาวโลก มากถึง 5 หมวดการท่องเที่ยว (เปรียบได้กับ พระจันทร์ 5 สี) ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ, เชิง Beach Part ระดับโลก, วิถีชีวิตและวัฒนธรรม, อาหารอร่อย และยังมีการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ – เกษตรอินทรีย์ ให้สัมผัสอีกด้วย

P14.1

หลังจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เข้าชมนิทรรศการภาพสุดพิเศษ ซึ่งจัดแสดงกันภายใน เรือรบหลวงพะงัน ที่ชาวพะงันร่วมกันขอจากกองทัพเรือหลังปลดประจำการ มาตั้งแสดงไว้ที่นี่

P14

P15

ภายในท้องเรือรบหลวงพะงัน กลับมีชีวิตขึ้นอีกครั้ง กับงานแสดงนิทรรศการภาพถ่ายพะงันวันวานและวันนี้ มีภาพถ่ายเก่าๆ ย้อนรำลึกถึงวันวานอันน่าหลงใหลของมนต์เสน่ห์วิถีชีวิตและธรรมชาติบนเกาะพะงัน สวรรค์กลางอ่าวไทย

P16

P17

เชื่อหรือไม่ว่า นี่คือภาพถ่ายของต้นกำเนิดงาน Full Moon Party?! ที่ทำให้เกาะพะงันมีชื่อเสียงก้องโลก! ชาวพะงันเรียกการนั่งล้อมวงกินข้าวกันในหมู่เพื่อนฝูง หรือญาติสนิท บนหาดทรายนี้ว่า “การกินห่อ” คือสมัยก่อนไม่มีร้านขายของ เวลาจะกินข้าวกันก็ต้องห่อข้าวห่อปลามานั่งล้อมวงกันเอง ต่อมามีการเล่นกีต้า เลี้ยงสุราอาหารเป็นที่สำราญใจ จนไม่น่าเชื่อว่าจะกลายมาเป็นงาน Full Moon Party ที่หาดริ้นไปได้

P18

ภาพเก่าเล่าเรื่องอดีต ของเกาะพะงันเมื่อกว่า 50 ปีก่อน แม้แต่ชาวต่างชาติยังหลงใหลเสน่ห์อันพิสุทธิ์ของพะงันเลย

P19

ภาพเก่า บอกเล่างานเทศกาลชักพระทางเรือของเกาะพะงัน ซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้ว เพราะเปลี่ยนไปชักพระทางบกกันแทนน่ะสิ น่าเสียดาย เห็นการแต่งกายของสาวพะงันสมัยก่อน ช่างสวยงาม sexy คล้ายสาวๆ ที่หมู่เกาะฮาวายไม่มีผิดเลย

P20.1

ท่านกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เข้าชมนิทรรศการภาพวันวาน วันนี้ ที่เกาะพะงัน และชมภาพยนตร์เก่าสไตล์หนังกลางแปลง บอกเล่าเรื่องราวชีวิตอันแสนสงบสุขของผู้คนบนเกาะพะงันเมื่อหลายสิบปีก่อน

P20

ยามค่ำที่เกาะพะงัน กับงานพระจันทร์หลากสี มีลานกิจกรรม, การออกร้าน และการแสดงทางวัฒนธรรม ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ทั้ง 5 หมวดการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยจัดกันบริเวณลานข้างท่าเรือประจำเกาะนั่นล่ะ

P21

 พะงัน เป็นเกาะที่มะพร้าวคุณภาพดีที่สุดในเมืองไทยก็ว่าได้ ไม่ได้โม้! เพราะลูกมะพร้าวจากเกาะพะงันเป็นมะพร้าวแห่งเดียวในเมืองไทยที่ได้ มาตรฐาน GI (Geographical Indications) หรือมาตรฐานสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิจัยแล้ว พบว่าเป็นมะพร้าวที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก เนื้อหนานุ่ม เป็นมะพร้าวที่มีเนื้อ 2 ชั้น (ต่างจากเกาะอื่นในเมืองไทย ที่มะพร้าวมีเนื้อชั้นเดียว) แถมยังมีน้ำที่หอมอร่อย ไม่หวานจัด อุดมด้วยแร่ธาตุบำรุงสุขภาพ ชาวพะงันจึงรักมะพร้าวและสวนมะพร้าว มากพอๆ กับลูกหลาน ถึงขนาดเรียกมะพร้าวว่าเป็น “มรดกมะพร้าว” ที่มีการรวมกลุ่มวิสาหกิจ ผลิตน้ำมันมะพร้าวกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ได้ราคาดีเยี่ยม

P22

นอกจากน้ำมันมะพร้าวของพะงัน จะใช้ทาตัว และใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง เครื่องประทินผิว ยาสระผา หรือผสมยา ได้แล้ว ยังมีน้ำมันมะพร้าวที่ใช้ผัด ทอด ได้อีกด้วย รับรองเลยว่า Product นี้หายาก และอาจมีแต่ที่เกาะพะงันเท่านั้น เพราะสมัยโบราณคนพะงันก็ใช้น้ำมันมะพร้าวที่สกัดพิเศษ ในการทำอาหารกันทั้งนั้นล่ะ

P23

คนพะงันฉลาดนะ รู้จักใช้กะลามะพร้าว (คนท้องถิ่นเรียก พรกพร้าว) มาทำเป็นที่นวดฝ่าเท้า เหมือนการกดจุด ช่วยผ่อนคลาย ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี นับเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านอันชาญฉลาดที่น่าสืบสานโดยแท้

P24

นอกจากมะพร้าวแล้ว พะงันยังเป็นเกาะที่มี “กะปิ” ชั้นดี ราคากิโลกรัมละ 500 บาท! ฟังดูอาจแพงใช่ไหม แต่ขอบอกเลยว่าขายหมดเกลี้ยง ทำขายไม่ทัน! เนื่องจากพะงันเป็นเกาะที่มีน้ำทะเลสะอาดมาก กุ้งเคยที่ใช้ทำกะปิ จึงว่ายน้ำเข้ามาหากิน ชาวบ้านจะใช้ตาข่ายขึงกับคานไม้ไผ่สองอันเหมือนรูปคีม เดินไปในท้องน้ำตื้นๆ ใกล้ชายหาด เรียกว่า “การรุนเคย” นอกจากนี้ยังมีวิธีการกินกะปิที่พิเศษไม่เหมือนใคร คือนำกะปิสดมาใส่กะลามะพร้าวเล็กๆ แล้วย่างไฟจนสุกหอมฉุย กินกับข้าวสวยร้อนๆ แกล้มผักเหนอะหลากหลายสไตล์ปักษ์ใต้

P25

ในอีกแง่มุมหนึ่ง พะงันยังมีแหล่งปลูกผักปลอดสารพิษ หรือผักอินทรีย์ ด้วย โดยปัจจุบันมีสมาชิกปลูกกว่า 160 ราย ส่งขายให้กับโรงแรมต่างๆ แทบจะไม่พอ! บ่งบอกถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่กำลังมาแรง ในอนาคตอันใกล้นี้ พะงันจะกลายเป็น Organic Island และ Organic Farm ต้นแบบ ที่คนรักสุขภาพ รักทะเล จะไม่กล้าปฏิเสธแน่นอน

P26

ในเมื่อวิถีชีวิตอันเงียบสงบ และธรรมชาติ ยังสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการคงอยู่ของจิตวิญญาณความเป็นเกาะพะงัน ทุกวันนี้ทั่วเกาะจึงยังมีสวนมะพร้าวสวยๆ ให้เห็นอยู่ทั่วไป แม้ว่าหลายสนจะกลายเป็นบังกะโล รีสอร์ท ไปแล้วก็ตาม แต่มะพร้าวก็ยังมีความหมาย ไม่ถูกตัดโค่นไปง่ายๆ มะพร้าวสูงๆ ที่เห็นอายุเฉียดร้อยปีทั้งนั้น!

P27

 ถึงแม้วันนี้ เกาะพะงันจะกลายเป็น Destination ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวแบกเป้ และกลายเป็น Party Island ของคนนับหมื่นๆ ในช่วงคืนพระจันทร์เต็มดวง แต่แท้จริงแล้ว คนพะงันยังรักสงบ รักพ่อหลวง ดำเนินชีวิตแบบเรียบง่ายพอเพียง นี่คือความจริง

P28

หาดริ้น ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่จัดงาน Full Moon Party เท่านั้น แต่แท้จริงแล้วยังมีภาพของวิถีประมงท้องถิ่นให้ชมกันด้วย

P29

หาดริ้นในคืนวันธรรมดา ที่ไม่มีงาน Full Moon Party, Half Moon Party หรือ Black Moon Party บรรยากาศเงียบสงบ ลมทะเลพัดเย็นสบาย โรแมนติกไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย

P30

เมื่อเอ่ยถึงแง่ประวัติศาสตร์ พะงันเป็นเกาะที่มีเรื่องราวสำคัญให้ศึกษาล้นเหลือ โดยเฉพาะเรื่องของการเสด็จประพาสของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 มายังเกาะพะงันมากถึง 16 ครั้ง! และทรงค้างแรมที่นี่มากถึง 14 ครั้ง ในระหว่างเส้นทางเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ และมลายู โดยพะงันถือเป็นจุดจอดเรือเติมน้ำจืดและเสบียงกรังที่สำคัญ พระพุทธเจ้าหลวงเคยจอดเรือที่หาดแห่งนี้ แล้วเสด็จพระราชดำเนิน (เดิน) ตามร่องน้ำเข้าไปสู่น้ำตกธารเสด็จ ที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินแค่ไม่กี่ร้อยเมตร

P31

ศาลาทรงงานของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ซึ่งได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ แทนหลังเก่าที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ศาลาไม้แห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ห่างจากชายทะเล และอยู่ใกล้กับน้ำตกธารเสด็จแค่นิดเดียว

P32

 น้ำตกธารเสด็จ ในช่วงต้นฤดูฝน เร่ิมมีสายน้ำหลากไหลสวยงาม ลดหลั่นลงมาตามลาดหินเป็นชั้นๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าครั้งหนึ่งรัชกาลที่ 5 ท่านจะเคยเสด็จมาที่นี่ด้วยพระองค์เอง

P33

ภาพถ่ายเก่า คราวที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เสด็จมายังน้ำตกธารเสด็จ เมื่อปี พ.ศ. 2431

P34

เกาะพะงัน มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่สุดในภาคใต้องค์หนึ่งอยู่ด้วย นั่นคือ หลวงพ่อเพชร วชิโร แห่งวัดอัมพวัน (ท่านมีชีวิตอยู่ช่วงปี พ.ศ. 2390-2467 สมัยรัชกาลที่ 3) ท่านเป็นพระที่มีวิชาอาคม และปลุกเสกพระเครื่องที่ร่ำลือกันว่ามีพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์มาก ปัจจุบันนักเลงพระซื้อขายเช่ากันอยู่ในราคาหลักล้านบาท!!! ส่วนคนที่ไม่ใช่นักเลงพระ ไปกราบรูปจำลองของท่านที่วัดก็ได้ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต

P35

P36

พระธาตุเขาน้อย และวัดเขาน้อย ตั้งอยู่บนยอดเขาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของวัดอัมพวัน (วัดหลวงพ่อเพชร) สร้างขึ้นโดยหลวงพ่อเพชร ด้านข้างเจดีย์นี้มีสถูปพบรรจุอัฐิของพลวงพ่อเพชรอยู่ด้วย ทุกวันนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว

P37

ตะลุยเที่ยวพะงันกันมาทั้งวันแล้ว ได้พบความสวยงาม ความหลากหลายอย่างคาดไม่ถึง หลายคนอาจเริ่มเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า แนะนำให้ไปสัมผัสพะงันในแง่ของ “การเติมพลังชีวิต” เพื่อสุขภาพดีและอายุที่ยืนยาว ไม่เฉพาะการทำสปาชั้นเลิศเท่านั้น แต่พะงันยังได้ชื่อว่าเป็น Island of Yoka หรือ Yoka Sahool ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยอีกด้วย! คนไทยไม่ค่อยรู้ แต่รับทราบกันแพร่หลายในหมู่ชาวต่างชาติ ที่ชอบเข้ามาอยู่บนเกาะพะงันนานเป็นเดือนๆ เพื่อเรียนและฝึกโยคะอย่างจริงจัง

P38

ถ้าจะให้แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร ลองไปทำโยคะใต้แสงจันทร์ที่เกาะพะงันสิ

เวลาเพียงไม่กี่วัน กับงานพระจันทร์หลากสีที่พะงัน ทำให้เราได้ค้นพบคุณค่าความหมายใหม่อีกมากมาย บนเกาะที่สวยงามที่สุดเกาะหนึ่งของอ่าวไทย นามว่า “พะงัน” เกาะที่เราบอกตัวเองว่า การใช้เวลาอยู่ที่นี่แค่วันสองวันคงจะไม่พอซะแล้ว แต่คงต้องหวนกลับมานอนค้างอยู่นานเป็นสัปดาห์ เพื่อเรียนรู้ถึงตัวตน จิตวิญญาณ และความน่ารักของมนต์เสน่ห์ทะเลพะงัน ให้มากกว่านี้ในอนาคต แล้วเราจะกลับมาใหม่นะ พะงันที่รัก

LOGO TAT

Special Thanks : ขอขอบคุณ กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร. 08-9752-7552, 08-5295-0092 / ททท. ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวเกาะสมุย โทร. 0-7742-0504 / สมาคมโรงแรมเกาะพะงัน โทร. 08-1752-0035, 08-5060-1100

Thailand International Balloon Festival 6-7 ธันวาคม 2014, เชียงใหม่

B1

 กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ กับ งานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ ประเทศไทย ครั้งที่ 8“Thailand International Balloon Festival 2014” งานบอลลูนนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมากมายตั้งแต่ปี 2007 และสร้างความสุขให้กับทุกครอบครัวมาโดยตลอด

 บริษัท เอิร์ท วินด์ แอนด์ ไฟร์ จำกัด ผู้จัดงาน พร้อมด้วยการสนับสนุนของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ ในช่วงฤดูหนาวอันเย็นสบาย ระหว่างวันที่ 6-7 ธันวาคม 2014 ณ สนามกอล์ฟ สโมสรเชียงใหม่ยิมคานา เชียงใหม่ ซึ่งปีนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ มากมายเหมือนเดิม

B2

B4

จะมีโอกาสสักกี่ครั้งในชีวิต ที่เราจะได้สัมผัสพาหนะสุดพิเศษอย่างบอลลูน กันใกล้ชิดขนาดนี้

B5

สีสัน ณ มุมหนึ่งของงานบอลลูนนานาชาติ ครั้งที่ 8

B6

ผู้บริหาร บริษัท เอิร์ท วินด์ แอนด์ ไฟร์ จำกัด และหน่วยงานพันธมิตรผู้สนับสนุนงาน Thailand International Balloon Festival ครั้งที่ 8 ปี 2014 ร่วมกันทำพิธีเปิดงาน Grand Opening อย่างเป็นทางการ ในเย็นวันที่ 6 ธันวาคม 2014 ณ สนมกอล์ฟยิมคานา กลางเมืองเชียงใหม่

B7

B8

บอลลูนบังคับ และเจ้าตุ๊กตาหมีน้อย คือขวัญใจของเด็กๆ ในงานปีนี้

B9

ตั้งแต่ก่อนฟ้าสาง ทั้งลูกเรือและลูกทีม ต่างก็ต้องมาเตรียมตัวกันที่สนามกอล์ฟยิมคานา โดยการเป่าลมเย็นและร้อนเข้าไปในลูกบอลลูน ให้มันพองตัวออก จากนั้นจะใช้เวลา 30-40 นาที เมื่อบอลลูนตั้งขึ้นก็จะไม่สามารถรอได้นาน ต้องลอยขึ้นสู่อากาศทันที ผู้โดยสารจึงต้องมายืนรออยู่ใกล้ๆ ด้วย เพื่อปีนขึ้นบอลลูนได้ทันทีที่นักบินสั่ง

B10

วินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อบอลลูนลูกแรกลอยละลิ่วขึ้นสู่อากาศตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดี ส่วนลูกทีเหลืออีกไม่นานก็จะตามไป โดยปีนี้มีบอลลูนเข้าร่วมบินกว่า 20 ลูก ทำให้บรรยากาศคึกคักกว่าทุกปีเลย

B11

ภาพยิ่งใหญ่ตระการตาของการบินบอลลูนในเมืองไทยแบบนี้ มีแต่ บริษัท เอิร์ท วินด์ แอนด์ ไฟร์ จำกัด เท่านั้น ที่นำโอกาสดีๆ อย่างนี้มาให้คนไทยได้สัมผัสทุกปีที่เชียงใหม่ เพราะเป็นโลเกชั่นที่เหมาะสมสุดๆ โดยเฉพาะสภาพอากาศอันเย็นสบาย เหมาะต่อการบินบอลลูนมากๆ

B12

บอลลูนน้อยใหญ่ถูกกระแสลมพัดพาไปอย่างแช่มช้า อ่อนโยน ปล่อยให้ทั้งนักบินและผู้โดยสารได้ชมวิวยามเช้าของเชียงใหม่กันอย่างจุใจ โดยเฉพาะภาพของสายหมอกขาวบางเบา ที่ปกคลุมอยู่ในยามเช้าเช่นนี้

B13

ในที่สุดแสงทองแรกของตะวันยามเช้าก็สาดส่อง อาบไปทั่วเมืองเชียงใหม่และบอลลูนของเรา ช่างงามราวกับลอยอยู่บนสวรรค์จริงๆ เลยนะเนี่ย

B14

ลอยละลิ่วไปในทะเลสีทองแห่งแสงยามเช้าอันอบอุ่น เราจะไม่มีวันลืมภาพสุดวิเศษนี้ไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน

B15

กล่าวกันว่า บอลลูนเป็นพาหนะชนิดเดียวที่เมื่อขึ้นบินแล้ว จะไม่สามารถบอกได้ว่าจะร่อนลงตรงไหน เพราะต้องปล่อยให้กระแสลมพัดพาไป ทว่านั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะตลอดเวลาที่ลอยอยู่ในอากาศ ทั้งนักบินและลูกเรือ ต่างก็ได้ชมวิวสวยงามของเทือกดอยสุเทพ บ้านเรือน ไร่นา และพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่นน่าอยู่ของเชียงใหม่ เมืองศูนย์กลางล้านนาอันเปี่ยมด้วยเสน่ห์

B16

ชมกันให้เต็มตา กับวิวจากมุมมองของนกแบบสุดสายตาพาโนรามา มีเพียงการบินบอลลูนเท่านั้นที่จะมอบวิวสวยๆ แบบนี้ให้ได้ เพราะไม่มีอะไรกั้นตัวเรากับอากาศภายนอกไว้เลยสักนิดเดียว ทำให้รู้สึกอิสระเสรีสุดๆ จริงๆ

B17

มองจากบนบอลลูน เห็นพระธาตุดอยสุเทพตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนดอยสุเทพ ซึ่งมีสายหมอกขาวในยามเช้าลอยคลอเคลียอยู่อย่างอ่อนโยน

B18

ปีนี้ Go Travel Photo.com โชคดีมาก ได้บินบอลลูนกับคุณลุงโจเซฟ เจ้าของบริษัทผลิตบอลลูน Magic Balloon ของสเปน คุณลุงมีประสบการณ์บินมากว่า 15 ปีแล้ว และบอลลูนที่เข้าร่วมงานปีนี้กว่าครึ่ง ผลิตจากโรงงานของคุณลุง คุณลุงเป็นคนใจดี คุยสนุก และบอกว่า When i am flaming, surely i want fo fly long. หมายความว่า ถ้าเมื่อไหร่แกพ่นไฟใส่บอลลูนให้ลอยละลิ่วไปในอากาศแล้วล่ะก็ แกจะไม่ร่อนลงเร็วหรอก แต่แกจะบินไปนานที่สุดเท่าที่ทำได้ ปีนี้เราเลยได้บินนานชั่วโมงกว่าสมใจอยาก

B19

เคยเข้าใจผิดมาหลายปีว่า บอลลูนเลี้ยวไม่ได้ แต่พอมาเจอลุงโจเซฟ แกเลยแสดงวิธีเลี้ยวบอลลูนให้ชมเป็นขวัญตา! เพราะจริงๆ แล้วกระแสลมในแต่ละระดับความสูงจะมีทิศต่างกัน ถ้านักบินสังเกตรู้ ก็สามารถลอยขึ้นลงไปยังระดับความสูงต่างๆ เพื่อบินไปในทิศทางที่ต้องการได้นั่นเอง สุดยอดจริงๆ ครับคุณลุง เก๋ามากๆ

B20

เชียงใหม่ยังมีมุมสงบงาม และร่มรื่นให้ชมอีกมาก สมเป็นศูนย์กลางแห่งอาณาจักรล้านนาโบราณ โดยเฉพาะเมื่อมองจากบอลลูนอย่างนี้ ก็ได้มุมมองแปลกตาดีครับ

B21

บินมาได้เกือบชั่วโมง บอลลูนบางลูกก็หาที่ปลอดภัยร่อนลงกันแล้วล่ะ ในขณะที่อีกหลายลูกยังคงบินชมวิวกันต่อไปอย่างสบายอารมณ์

B22

สนามหญ้ากว้าง โล่งๆ ที่ไม่มีสายไฟฟ้าอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ เหมาะมากสำหรับการร่อนลง และการเก็บบอลลูน เพราะมีถนนอยู่ใกล้ๆ ด้วย ทีมงานเลยเข้าไปเก็บบอลลูนกลับอย่างง่ายดาย

B23

ความสุขของการบินบอลลูนอย่างหนึ่งคือ เป็นพาหนะที่เงียบ และได้ชมวิวจากมุมมองอันแปลกแตกต่าง โดยบอลลูนจะบินได้ดีที่สุดในตอนเช้าที่อากาศเย็น ทั้งนักบินและผู้โดยสารจึงรู้สึกสดชื่นกับบรรยากาศยามเช้าอันสดใสของเชียงใหม่ต้นฤดูหนาว

B24

หลังจาการบินบอลลูนภาคเช้าจบลง ช่วงกลางวันนักบินก็จะพักผ่อน รอให้แดดร่มลงตกอีกครั้งในช่วงเย็น ทุกคนก็จะมารวมตัวที่สนามกอล์ฟยิมคานาอีกครั้ง เพื่อแสดง Ballon Glow และ Balloon Tethering

B25

Balloon Tethering คือการบินบอลลูนขึ้นสูงในระยะที่กำหนด โดยมีเชือกผูกโยงบอลลูนเอาไว้ให้อยู่กับที่ ไม่ลอยไปไหน เป็นการนำบอลลูนขึ้นพร้อมกับผู้โดยสารที่โชคดี ได้รับคัดเลือกให้ขึ้นบินฟรีนับร้อยคนในปีนี้

B26

นั่งชมบอลลูน Balloon Tethering ไป พร้อมกับชิมอาหารอร่อยๆ ที่มาออกร้านไปด้วย นี่คือความสุขของงาน Thailand International Balloon Festival ณ เมืองเชียงใหม่ น่าอิจฉาที่สุด

B27

เจ้าหนูน้อยดีใจสุดขีด เมื่อได้ขึ้น Balloon Tethering แม้จะลอยสูงจากพื้นไม่มากนัก แต่ก็น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลย ทว่าลอยอยู่ได้ไม่นานก็ต้องลงซะแล้ว เพราะมีคิวคนรอขึ้นอีกเพียบ!

B28

บรรยากาศสีสัน ชีวิตชีวา และความคึกคัก ในยามเย็น ที่สนามกอล์ฟยิมคานา ย่ิงเย็นคนก็ยิ่งเยอะ โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวชาวเชียงใหม่ที่มาร่วมชมงานกันอย่างล้นหลาม ส่วนนักบินและลูกทีมก็เตรียมตัวแสดง Balloon Glow กันอย่างพร้อมใจ

B29

B30

B31

ทุกปี นักบิน (Pilot) จะพานักบินผู้ช่วย (Co-Pilot) และลูกทีม (Crew) มาฝึกฝนทักษะประสบการณ์ด้วย เพื่อให้เติบโตขึ้นไปเป็นนักบินบอลลูนมืออาชีพในอนาคต

B32

Co-Pilot สาวสวย ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นขวัญใจช่างภาพ ของงานบอลลูนปีนี้ไปแล้ว!

B33

ปีนี้มีบอลลูนบังคับมาบินโชว์ในงานหลายสิบลูก ทำให้ผู้เข้าร่วมชมงานได้สัมผัสบอลลูนจริงๆ อย่างใกล้ชิด สร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก

B34

แม้จะเป็น Balloon Tethering ที่ลอยขึ้นจากพื้นสูงแค่นิดเดียว และลอยอยู่แค่ไม่กี่นาที แต่ก็มอบความสุขและรอยยิ้มให้กับพ่อ แม่ ลูก ชาวเชียงใหม่ นี่คือช่วงเวลาอันน่าจดจำจริงๆ และนับเป็นความสำเร็จของงาน Thailand International Balloon Festival ครั้งที่ 8 อย่างงดงาม

B35

Balloon Tethering บางลูกลอยสูงเกินยอดไม้ ทำให้ผู้โดยสารตื่นเต้นกันยกใหญ่!

B36

ประมาณทุ่มตรง หนึ่งในสุดยอดไฮไลท์ของงานบอลลูน นานาชาติ ครั้งที่ 8 ก็เริ่มขึ้น คือการแสดง Balloon Night Glow เป็นการแสดงแสงสีเสียง ประกอบดนตรี และการพ่นไฟให้บอลลูนทุกลูกสว่างเรืองในความมืดขึ้นพร้อมกัน เสียงเพลงอันเร้าใจ แสงไฟเลเซอร์อันวูบวาบน่าตื่นเต้น และโดยเฉพาะการจุดพลุยิ่งใหญ่สุดอลังการ ทำให้ Balloon Night Glow กลายเป็นพระเอกของานปีนี้ไปเลยทีเดียว

B37

B38

หลังจาก Balloon Night Glow จบลง ก็ต่อด้วยคอนเสิร์ตเพลงหวานฟังสบาย เข้ากับบรรยากาศต้นหน้าหนาวของเชียงใหม่เป็นที่สุด มีศิลปินแนวหน้าของไทยที่ระดับอินเตอร์ยอมรับ อย่างตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย, มิ้น มาลีวัลย์ เจมีน่า, แต๋ม ชรัส เฟื่องอารมณ์,ปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว, ก้อย ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์ ฯลฯ มาร่วมขับขานเสียงเพลงหวานซึ้ง โรแมนติก ใครไม่ได้ฟัง ขอบอกคำเดียวว่า Sorry!

B39

B40

Special Thanks : บริษัท เอิร์ท วินด์ แอนด์ ไฟร์ จำกัด ผู้จัดงาน Thailand International Balloon Festival ครั้งที่ 8 สนับสนุนการเดินทาง เข้าร่วมงาน เป็นอย่างดียิ่ง ท่านใดที่อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ โทร. 09-1873-7258, 08-1306-8914

ชวน “เที่ยวรับ-ส่งตะวัน” 19 จังหวัดภาคกลาง

ททท.ภูมิภาคภาคกลาง จัด THEME ส่งท้ายปี  “เที่ยวรับ-ส่งตะวัน” 19 จังหวัดภาคกลาง ชวนเที่ยว/ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ในมุมที่สุดแสนจะโรแมนติก พร้อมรับลมหนาว ในแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ทั้ง 19 จังหวัดภาคกลาง ส่งท้ายปีกัน….

มีที่ไหนบ้างเตรียมหาข้อมูลวางแผนกันเล้ยยย!!!

 

จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น-พระอาทิตย์ตก 19 จังหวัดภาคกลาง

1. กรุงเทพมหานคร  ขึ้น ใบหยก / Sky walk ช่องนนทรี  ตก วัดอรุณราชวราราม / ชายทะเลบางขุนเทียน

2. สมุทรปราการ ขึ้น บางปู  ตก เมืองโบราณ (เขาพระวิหาร)

3.นนทบุรี ขึ้น สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์  ตก ท่าน้ำนนทบุรี / สวนเฉลิมพระเกียรติ

4. ปทุมธานี ขึ้น หออัครศิลปิน ตก พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ / ริมแม่น้ำเจ้าพระยา @ สามโคก

5. ฉะเชิงเทรา ขึ้น อ่างเก็บน้ำคลองสียัด ตก จุดชมโลมา-ท่าข้าม @ บางปะกง / เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน

6. นครปฐม ขึ้น พระปฐมเจดีย์ ตก พุทธมณฑล

7. สมุทรสาคร ขึ้น นาเกลือ @ พระราม 2 ตก ปากน้ำท่าจีน @ เขื่อนริมศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทร

8. สมุทรสงคราม ขึ้น อัมพวา ตก ดอนหอยหลอด

9. ราชบุรี ขึ้น เขากระโจม @ สวนผึ้ง  ตก เขาห้วยคอกหมู @ สวนผึ้ง

10. เพชรบุรี  ขึ้น บางกระบูน / หาดเจ้าสำราญ / หาดชะอำ  ตก พะเนินทุ่ง / สันเขื่อนแก่งกระจาน

11. ประจวบคีรีขันธ์  ขึ้น ทะเลหัวหิน / ศาลเจ้าแม่ทับทิม ปากน้ำปราณบุรี ชายหาดปราณบุรีและเขากะโหลก / อ่าวประจวบ / เขาช่องกระจก / หาดสามร้อยยอด / หาดทับสะแก / หาดบ้านกรูด / หาดฝั่งแดง@บางสะพานน้อย / พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ / เขาหินเหล็กไฟ  ตก เขาหินเหล็กไฟ / อ่าวประจวบ /ศาลเจ้าแม่ทับทิมทอง / พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ / เขาเรดาร์ @ บางสะพานน้อย / ปากน้ำปราณ

12. กาญจนบุรี  ขึ้น สะพานข้ามแม่น้ำแคว  ตก เขาช้างเผือก-ทองผาภูมิ / สะพานมอญ-สังขละบุรี

DSC_2431

13. พระนครศรีอยุธยา  ขึ้น วัดไชยวัฒนาราม ตก ทุ่งมะขามหย่อง / วัดพระศรีสรรญเพชญ / เศียรพระในต้นไม้@วัดมหาธาตุ

14. ชัยนาท  ขึ้น กลางแม่น้ำเจ้าพระยา @ หน้าวัดธรรมามูล  ตก ยอดเขาพลอง

15. อ่างทอง  ขึ้น วัดขุนอินทประมูล  ตก วัดม่วง

16. สุพรรณบุรี  ขึ้น ยอดเขาทำเทียม @ อู่ทอง  ตก เขื่อนกระเสียว / อุทยานมังกรสวรรค์

17. สิงห์บุรี  ขึ้น อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน  ตก วัดพิกุลทอง

18. สระบุรี  ขึ้น วัดป่าสว่างบุญ (เจดีย์ 500)  ตก ศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า / ทุ่งหญ้าฟาร์มโคนมหมวกเหล็กเดนมาร์ก@หมวกเหล็ก

19. ลพบุรี  ขึ้น ทุ่งทานตะวัน  ตก เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

_BAL5351

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.ภูมิภาคกลาง โทร 0-2250-5500    www.เที่ยวภาคกลาง.com